บทที่ 1127 การใช้ชีวิตในเมืองหลวงไม่ใช่เรื่องง่าย

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 1127 การใช้ชีวิตในเมืองหลวงไม่ใช่เรื่องง่าย

บทที่ 1127 การใช้ชีวิตในเมืองหลวงไม่ใช่เรื่องง่าย

ฉีเสี่ยวฟางเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ “เป็นยังไงล่ะ? ก็สาวบ้านนอกท่าทางเปิ่น ๆ ไม่ใช่หรือไง?”

สิ้นประโยค ทุกคนเพิ่งนึกได้ว่าตอนนั้นเพื่อนเป็นยังไงจึงหัวเราะครืน

“พูดไป พวกเธอก็คงไม่ชอบฉันหรอก คิดแล้วก็เขินถึงสิ่งที่ตัวเองเคยทำเมื่อก่อน!”

คราวนี้เธอจริงจัง

“มันเกิดมาตั้งนานแล้ว อย่าไปจำเลย” ซูเสี่ยวเถียนรีบบอก

เรื่องบางเรื่องก็ให้มันแล้ว ๆ กันไป ไม่ต้องจำหรอก

อย่าว่าแต่เรื่องฉีเสี่ยวฟางเลย แม้แต่เรื่องอิ่นหรูอวิ๋นเธอก็ยังโล่งใจ

โอ๊ะ! ใช่ ตั้งแต่สอบใหม่อีกฝ่ายสอบได้ที่เรียนทางใต้ แล้วก็แยกตัวจากครอบครัวไปเรียนหนังสือที่นั่น

หลังจากนั้นก็ไม่มีข่าวคราวอีก แต่เธอคิดว่าเจ้าตัวได้รับบทเรียนและประพฤติตัวดีแล้ว

ส่วนวันหยุดนี้เธอตั้งใจจะไปลี่เฉิง แต่ด้วยภาระอันล่าช้าบางอย่างจึงไปไม่ได้

ซูฉางจิ่วเดินทางมาเมืองหลวง

ไม่ได้มาเยี่ยมญาติเป็นการส่วนตัว

แต่มาในฐานะคนทำงาน การได้รับเกียรติให้มาและคนที่เดินทางมาก็เป็นคนพรสวรรค์ชั้นยอดจากทุกแขนงอาชีพของมณฑลด้วย

ซึ่งมีน้อยมาก มีแค่คนเดียวเอง

และทางผู้นำที่พาทีมมีภารกิจสำคัญให้มาเยี่ยมเยียนตระกูลซู

สำหรับผู้นำไม่ค่อยคุ้มเท่าไร

แต่พวกเขาได้รู้อะไรมานิด ๆ หน่อย ๆ ว่าตระกูลซูมีผู้สนับสนุนรายใหญ่อยู่ด้วย

หลังจากตรวจสอบและรู้ว่าเป็นคนใหญ่คนโตจากมณฑลเราด้วย จึงหวังว่าจะได้สร้างสัมพันธ์กับพวกเขาผ่านตระกูลซู

เพราะหมู่บ้านหนานหลิ่งอาศัยความสะดวกสบายนี้จนกลายเป็นหมู่บ้านชั้นนำของมณฑลไปแล้ว แค่ในช่วงเวลาอันสั้นก็เจริญก้าวหน้าแล้ว

แล้วหมู่บ้านหนานหลิ่งก็ได้รับการสนับสนุนอีกครั้ง ทำให้กิจการของเราขยายตัว

พวกผู้นำคิดว่าคงจะดีถ้าที่อื่น ๆ พัฒนาได้ด้วยเหมือนหนานหลิ่ง

ไม่ต้องเหมือนก็ได้ ขอแค่มีการพัฒนาก็ยังดีกว่าอยู่เฉย ๆ

แถมยังได้จัดคิวเพื่อพบกับซูเสี่ยวเถียนด้วย เด็กสาวผู้มากความสามารถจากตระกูลซู

ผู้นำพวกนี้เป็นมนุษย์กันทั้งนั้น

แต่ไม่รู้ว่าไปฟังมายังไงนะ แต่สรุปความได้ว่าตระกูลซูมีทุกวันนี้ได้เพราะเด็กคนนี้

สูตรของหลู่เซียงเซียงก็มาจากเธอ

พวกเขาเห็นแนวโน้มในการพัฒนาของมัน จึงมีความคิดจะร่วมมือด้วย

หากร่วมมือกับธุรกิจใหญ่แห่งนี้ได้ กิจการหนานหลิ่งเทียบไม่ได้แน่นอน

เป็นผลให้ซูเสี่ยวเถียนทำได้แค่อยู่รอต้อนรับพวกเขาเท่านั้น

จูหลานฮวาที่ตั้งใจจะกลับบ้านเป็นอันต้องพับแผนไปเพราะสามีเดินทางมา

ลูกสาวก็อยู่ในเมืองหลวง ความรักต่อลูกชายลูกสะใภ้ก็ไม่มีแล้ว

เธอกลับบ้านปีละสองครั้งเพื่อสามีเท่านั้น

หลังจากพบกันก็วางแผนซื้อบ้านในเมืองหลวง

ธุรกิจของจูหลานฮวาไปได้สวย ผ่านไปหนึ่งปีเธอก็มีรายได้มหาศาล เงินจากที่ซูฉางจิ่วขายดอกไม้ก็มากพอจะซื้อบ้านในเมืองหลวงแล้ว

เซี่ยเยี่ยนอี้ดีใจมากที่ได้ข่าวว่าพ่อแม่จะย้ายมา เลยยุ่งกับการหาบ้านให้พวกเขา

ตอนนี้ราคาบ้านในเมืองหลวงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ราคาต่างจากสมัยที่ตระกูลซูมาอยู่แรก ๆ

สองสามีภรรยาไม่สามารถซื้อเรือนสี่ประสานได้ด้วยเงินน้อยนิดที่มี

จึงซื้อเป็นเรือนที่มีลานบ้านเล็ก ๆ ใกล้โรงเรียนแทน

สำหรับพวกเขาขอแค่อาศัยได้ก็พอแล้ว ไม่มีแผนให้ลูกหลานเข้าเมืองมาเยี่ยม

ขนาดเรือนเล็ก ๆ มีอยู่ห้าห้องยังเสียค่าใช้จ่ายครึ่งหนึ่งของเราเลย

ซูฉางจิ่วคร่ำครวญ “แพงจัง มาอาศัยอยู่ที่นี่ลำบากจริง ๆ สินะ!”

จูหลานฮวามอง “ก็ถือเป็นรางวัลไม่ได้หรือไง? เอาจริงเอาจังอะไรขนาดนั้น!”

ซูฉางจิ่วหัวเราะเบา “มันไม่ได้มาจากความสามารถฉันไง ถ้าไม่ได้ตระกูลซูช่วยเหลือกิจการในหมู่บ้านคงไม่เป็นอย่างวันนี้หรอก”

“วันก่อนเสี่ยวซื่อเพิ่งจะมา เขาบอกว่าจะปรึกษาเรื่องขายของอะไรนี่แหละ มีปัญหาหรือ?”

จูหลานฮวาห่วงมาก กลัวว่าโรงงานและสามีจะได้รับผลกระทบ

ทำงานเพื่อสาธารณะไม่ใช่งานหรอก ถ้าทำดีก็ดี ทำไม่ดีก็ทุกข์

“ไม่มีปัญหาหรอก แค่เสี่ยวซื่อจะให้บริษัทต่างประเทศมาร่วมมืออะไรนี่แหละ แล้วเอาหลู่เซียงเซียงของเราส่งออกขาย” ซูฉางจิ่วเอนตัวว่า

ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ในใจก็ทอดถอนใจว่าเด็กบ้านนี้เก่งจริง ๆ

ทีแรกว่าเสี่ยวเถียนเก่งนะ แต่เสี่ยวซื่อไม่น้อยหน้าเลย

ส่วนเสี่ยวปาเสี่ยวจิ่วยังเรียนไม่จบ แต่มีบ้านเป็นของตัวเองแล้ว

จะไม่ให้อิจฉาได้ยังไง?

“เข้าใจแล้ว แล้วเมื่อไรจะลาออกมาช่วยฉันทำงาน? หมาล่าทั่งขายดีมากเลย ปีหน้าต้องจ้างคนเพิ่มแล้ว ไม่อย่างนั้นไม่ไหว”

ซูฉางจิ่วอยากจะย้ายมาเมืองหลวงแล้ว

ต้องอยู่บ้านลำพัง เตาไฟเย็น ๆ ลำบากเหลือเกิน

แต่โรงงานเพิ่งจะเริ่มต้นเนี่ยสิ แถมค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ อีก เลยไม่อยากทิ้งเอาไว้

“รออีกหน่อยนะ อดทนเอาไว้ก่อน ไว้ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วจะตามมา!”

ซูฉางจิ่วมองแววตาร้อนเป็นไฟของภรรยา

ถึงจะอายุยังไม่เยอะมาก แต่เราได้กลับมาพบกันทุก ๆ หกเดือนเท่านั้น

“ถ้าฉันกลับไปอาจจะไม่ห่วงกว่านี้ก็ได้!” จูหลานฮวาถอนหายใจ

แต่ก็นั่นละ ลูกชายลูกสะใภ้หาแต่ปัญหามาให้ ไม่ทำอะไรสักอย่าง

ขนาดตัดขาดกันแล้วก็ยังทำตัวเหมือนเดิม

ซูฉางจิ่วรำคาญไม่ต่างกัน

เพราะแบบนี้จึงตัดสินใจซื้อบ้านในเมืองหลวงยังไงละ

“ช่างเถอะ อย่าไปพูดถึงเลย รีบ ๆ ไปกัน พวกเสี่ยวเฉ่าร้อนใจแย่แล้ว วันนี้วันส่งท้ายปีเก่านะ มาฉลองกันเถอะ”

เขารู้สึกแย่ทุกครั้งที่นึกถึง

โชคดีอยู่ในเมืองหลวงได้สิบวัน และใช้ชีวิตอย่างสงบสุข

วันรุ่งขึ้นเป็นวันที่ยี่สิบสี่ เดือนสิบสองตามปฏิทินจีน ผู้นำเดินทางไปหาตระกูลซู

——————————————