ตอนที่ 2,460 : “นายท่าน”

“เจ้าต้องการยอดสมบัติสวรรค์เพียงแค่ชิ้นเดียวจริงๆ?”

หลังได้ยินวาจาเบื้องนอก หานเฉวี่ยไน่ที่หลบอยู่หลังประตูพระราชวังก็กล่าวถามออกไปอีกครั้งเสียงเข้ม

“เพียงชิ้นเดียวจริงๆ”

เซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์อันเป็นผู้บ่มเพาะร่างวิญญาณควบแน่นที่อยู่ด้านนอกพลันตอบกลับมาเสียงดังฟังชัด

และเป็นอีกกครั้งที่เสียงของมันเสมือนดังมาจากทุกทิศทางยากจะเสาะหาต้นตอ

“พี่ใหญ่หลิงเทียน…”

ตอนนี้เองหานเฉวี่ยไน่พลันหันไปมองต้วนหลิงเทียน

ในสายตาของนาง

หากสามารถสละยอดสมบัติสวรรค์เพียงแค่ชิ้นเดียวแล้วไล่ตัวปัญหานี้ไปได้ ก็นับว่าคุ้มค่านัก!

“เฉวี่ยไน่ อย่าบอกข้านะว่าเจ้าเชื่อคำพูดของมัน?”

ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวไปมาเมื่อเห็นหานเฉวี่ยไน่หันมามองจ้อง

“พี่ใหญ่หลิงเทียน แต่ตอนนี้พวกเราไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนี่นา…เว้นแต่พวกเราจะละทิ้งโอกาสเข้าสู่มรดกต้าหลัวจินเซียนจริงๆ อันที่จริงสำหรับข้ากับจางยี่ก็มิใช่เรื่องใหญ่อันใด แต่สำหรับท่านมันน่าเสียดายนัก ท่านอาจหมดโอกาสได้รับมรดกต้าหลัวจินเซียนไปเลยก็ได้…”

หานเฉวี่ยไน่กล่าวออกด้วยรอยยิ้มเหยเก

ด้วยความที่ไม่อาจใช้การสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าภายในแดนลับต่างสวรรค์แห่งนี้ได้ หานเฉวี่ยไน่เองก็ไม่อาจเชื่อคำพูดของอีกฝ่ายได้ ว่าจะไม่หลอกลวง

อย่างไรก็ตามนางมองว่า

ตอนนี้พวกนางไม่มีหนทางเลือกอื่นใดแล้วจริงๆ นอกจากมอบยอดสมบัติสวรรค์ออกไปตามคำเรียกร้องของเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ที่บ่มเพาะร่างวิญญาณควบแน่นผู้นี้

“ช่างเถอะ…ในเมื่อเจ้าคิดว่าคำพูดของมันน่าเชื่อถือ เช่นนั้นข้าจะมอบยอดสมับติสวรรค์ให้มันสักชิ้นก็ไม่เป็นอะไร ข้าเองก็อยากจะเห็นเหมือนกัน ว่าหากข้าเลือกจะมอบยอดสมบัติสวรรค์ให้ แล้วตัวมันจะกล้าออกมารับด้วยตัวเองหรือไม่”

ต้วนหลิงเทียนหันไปมองตอบหานเฉวี่ยไน่พลางส่ายหัวไป มุมปากปรากฏรอยยิ้มลี้ลับหนึ่งบางๆ

สุดท้ายเขาก็หยิบยอดสมบัติสวรรค์ที่ไม่ใช้ออกมาชิ้นหนึ่งแล้วโยนออกไปนอกพระราชวัง

วูบ!

ยอดสมบัติสวรรค์ชิ้นนี้เป็น ดาบเซียนอมตะ!

และดาบเซียนอมตะเล่มนี้ก็เป็นเขาได้มาหลังจากสังหารเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ด้วยการทดลองใช้ หมื่นศาสตราสยบ เป็นครั้งแรก

ต้วนหลิงเทียนโยนดาบเซียนอมตะออกไปด้วยเรี่ยวแรงที่ไม่ได้มากมายอะไร ยังจงใจให้ดาบมันตกลงเบื้องหน้าประตูพระราชวังใต้ดินไม่ไกล เป็นสนามหญ้าโล่งๆไร้สิ่งใดปิดกั้นสายตา

แต่ต้นจนจบต้วนหลิงเทียนโยนดาบออกไปราวทิ้งขยะ

“เฮอะ!”

และแทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่ดาบเซียนอมตะร่วงไปปักอยู่บนสนามหญ้า เซียนอมตะเสเพล 4ทัณฑ์ที่บ่มเพาะร่างวิญญาณควบแน่นก็แค่นเสียงสบถเยียบเย็นออกมา โดยที่ร่างยังซ่อนตัวอยู่ในที่ลับมิดชิด

“คิดว่าข้าจะโดนหลอกง่ายๆด้วยเรื่องแค่นี้หรือ?”

“อย่าได้คิดเชียวว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้าคิดอะไรอยู่…เจ้าเลือกโยนยอดสมบัติสวรรค์ออกมาไว้ตรงนั้น เพียงแค่อยากลองเสี่ยงดูว่าตัวข้าจะออกไปหยิบมาใช่หรือไม่?”

“น่าเสียดาย…ที่ชะตาลิขิตให้เจ้าต้องผิดหวังเสียแล้ว! ข้าสามารถควบคุมหุ่นเชิดนี่ให้ไปเก็บดาบเซียนอมตะได้มิยากเย็น”

และแทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่เสียงของเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ดังจบคำ ร่างหนึ่งก็พุ่งออกมาจากป่าทึบด้วยความเร็วสูง

พริบตาร่างมันก็บรรลุใกล้ถึงจุดที่ดาบเซียนอมตะปักอยู่

“ต้วนหลิงเทียนข้าจะขอเตือนไว้ก่อน หากเจ้ากล้าทำลายหุ่นเชิดของข้าล่ะก็…ต่อให้หลังจากนี้เจ้าจะมอบยอดสมบัติสวรรค์ทั้งหมดที่มีให้ข้า ตัวข้าก็ไม่มีวันปล่อยเจ้าไป!!”

ขณะเดียวกัน เซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ดังกล่าวก็ไม่ลืมที่จะกล่าวข่มขู่ต้วนหลิงเทียน

“ข้าไม่สนใจทำลายหุ่นเชิดเจ้าหรอก”

ในขณะที่เสียงของเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์คล้ายจะก้องมาจากทุกทิศทางดังขึ้น ต้วนหลิงเทียนที่ซ่อนตัวอยู่ในพระราชวังใต้ดินก็กล่าวตอบออกไปเสียงเรียบ

และในขณะที่หุนเชิดกำลังจะเอื้อมมือไปคว้าดาบเซียนอมตะ

และทางด้านเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ที่กำลังซ่อนตัวอยู่บังเกิดความโล่งอก

เสียงของต้วนหลิงเทียนพลันดังขึ้นอีกครั้ง

“แต่ข้าไม่สนใจ…ก็ไม่ใช่ว่าคนอื่นจะไม่สนใจเหมือนข้าด้วย”

และแทบจะพร้อมกันกับที่เสียงต้วนหลิงเทียนดังจบคำ

ปงงงง!!

มวลพลังอันยิ่งใหญ่สุดไพศาลพลันถล่มลงมาจากฟากฟ้าทิศทางหนึ่ง และในชั่วพริบตามวลพลังดังกล่าวก็ถล่มทำลายหุ่นเชิดที่พึ่งหยิบดาบเซียนอมตะขึ้นมาจนพินาศสิ้น ร่างมันแหลกสลายหายไปจนไม่เหลือแม้แต่ร่องรอยใดๆให้สืบสาว!

สิ่งเดียวที่คงเหลืออยู่ก็คือดาบเซียนอมตะที่ปลิวกระเด็นออกมาจากหุ่นเชิดโดยไร้รอยขีดข่วน!

ฟุ่บบ!!

ประหนึ่งสายลมหอบหนึ่งกรรโชกพัดผ่าน ปรากฏร่างชายชราที่เหินดิ่งลงมาจากฟากฟ้าคว้าดาบเซียนอมตะเอาไว้

“ฮ่าๆๆๆ…ข้าช่างโชคดียิ่ง! มาถึงก็ได้ดาบเซียนอมตะแบบนี้!!”

ชายชราที่พึ่งปรากฏตัวลงมาจากฟากฟ้าระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างถูกอกถูกใจ “ดูเหมือนเข้ามาแดนลับต่างสวรรค์ครั้งนี้ข้าจักมิได้มาเสียเที่ยวแล้ว!!”

“ต้วนหลิงเทียน!”

และพอเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ที่บ่มเพาะร่างวิญญาณควบแน่นอันซ่อนตัวอยู่ในความมืดเห็นเรื่องราวดังกล่าว สีหน้ามันก็อดไม่ได้ที่จะมืดลง เมื่อพบว่าต้วนหลิงเทียนที่ซ่อนตัวในพระราชวังไม่คิดลงมือทำร้ายชายชราดังกล่าว

“มันชิงดาบเซียนอมตะของเจ้าไปแล้ว…ไฉนเจ้าไม่ฆ่ามันเล่า!?”

ขณะที่กล่าวถามออกมา น้ำเสียงของเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ที่ซ่อนตัวก็เผยให้เห็นถึงความกังวลไม่น้อย

“ฮึ่ม!”

เสียงเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ดังกล่าวดังไม่จบคำดี ต้วนหลิงเทียนก็พ่นลมสบถออกมาอย่างค่อนแคะ ค่อยกล่าวาด้วยน้ำเสียงเยียบเย็นออกมาต่อว่า “เจ้าเห็นข้าเป็นเด็ก 3 ขวบรึไง ถ้าข้าออกไปลงมือ…ไม่ใช่ว่าเจ้าจะถือโอกาสใช้อำนาจจิตเล่นงานข้าหรอกรึ?”

“เจ้า!!”

เซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด พอได้ยินคำของต้วนหลิงเทียนมันก็โมโหจนแทบกระอักเลือด

ถึงแม้สิ่งที่ต้วนหลิงเทียนพูดจะเป็นอะไรที่มันคิดอยู่ก็ตาม

อย่างไรก็ตามพอถูกต้วนหลิงเทียนมองออกได้ง่ายๆแบบนี้ มันก็อดไม่ได้ที่จะหดหู่ใจ

“แย่แล้ว!!”

และเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ที่พึ่งจะหดหู่ใจได้ไม่ทันไร มันก็สัมผัสได้ถึงสำนึกเทวะหนึ่งที่แผ่ปกคลุมไปทั่วบริเวณ!

พริบตาพื้นที่ขนาดใหญ่รวมถึงตัวมันก็ตกอยู่ในขอบเขตสำนึกเทวะดังกล่าว! ถูกพบตัวแล้ว!!

“เซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์!”

สำนึกเทวะที่แผ่ออกมาจากร่างชราที่พึ่งปรากฏตัว ทำให้เซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ตระหนักได้ทันทีว่าอีกฝ่ายมีพลังฝึกปรือทัดเทียมกับมัน

“ตาแก่! เจ้าฆ่าข้าไม่ได้!!”

เซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ที่ซ่อนตัวอยู่ ย่อมสัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าฟันที่แผ่ออกมาพร้อมสำนึกเทวะดังกล่าวได้ชัดเจน จึงรีบร้อนตะโกนออกไป

“หากเจ้าฆ่าข้า ต้วนหลิงเทียนที่ซ่อนอยู่ในพระราชวังใต้ดินต้องโผล่ออกมาฆ่าเจ้าแล้วชิงดาบเซียนอมตะกลับไปแน่!!”

“ดังนั้นข้าแนะนำให้เจ้าจากไปเสียเถอะ ในเมื่อดาบเซียนอมตะเจ้าก็ได้ไปแล้ว ต่อไปเป็นเรื่องระหว่างข้ากับต้วนหลิงเทียนเท่านั้น! ข้าจะดักรอมันต่อ!!”

ตอนนี้เซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ที่ซ่อนตัวอยู่บังเกิดความหวาดหวั่นไม่น้อย ด้วยกลัวว่าผู้มาใหม่จะคิดลงมือฆ่ามัน!

แม้พลังฝึกปรือของชายชราผู้มาใหม่จะทัดเทียมกับมัน หากแต่ตอนนี้อีกฝ่ายมีดาบเซียนอมตะอยู่ในมือ มันย่อมรู้ตัวดีว่าไม่ใช่คู่มืออีกฝ่าย

“ต้วนหลิงเทียนรึ? หรือจะเป็นครึ่งก้าวเซียนอมตะที่เข่นฆ่าเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ไปถึง 2 คนจนโด่งดัง?”

ได้ยินคำของเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ที่ซ่อนตัวอยู่ในที่มืด ชายชราก็เอ่ยถามออกมาเสียงเข้ม

“เป็นมัน!”

เซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ที่ซ่อนตัวอยู่รีบตอบกลับไปเร็วรี่

“ฮ่าๆๆๆ!!!”

และแทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่เสียงตอบของมันดังจบคำ ชายชราอันเป็นเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์เช่นกันก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น

“เจ้าหัวเราะอะไร?”

เซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ที่ซ่อนตัวอยู่และกำลังกัวลใจไม่น้อย เพราะได้ยินเสียงหัวเราะดังกล่าวมันมก็อดไม่ได้ที่จะงุนงงด้วยสงสัยว่าไฉนอยู่ดีๆเฒ่าชราถึงได้หัวเราะออกมาในสถานการณ์แบบนี้ได้

“ข้าหัวเราะให้ความไร้เดียงสาของเจ้าอย่างไรเล่า!!”

หลังจากเสียงหัวเราะของชายชราหยุดลง อีกฝ่ายก็กล่าวออกมาเสียงห้วนด้วยวาจาถากถาง “หากต้วนหลิงเทียนอยู่ที่นี่จริง…อาศัยเจ้าที่เป็นแค่เซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ เจ้าจะกล้าตอแยขวางต้วนหลิงเทียนได้อย่างไร นี่เจ้าฝันละเมออยู่หรือไร?”

“ข้าย่อมขวางต้วนหลิงเทียนได้แน่นอน”

เมื่อเห็นว่าชายชรากำลังตั้งแง่สงสัยมัน เซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ที่ซ่อนอยู่ก็ไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันที “ไม่ว่าต้วนหลิงเทียนจะแข็งแกร่งเพียงใด แต่มันก็เป็นแค่ครึ่งก้าวเซียนอมตะเท่านั้น พลังวิญญาณย่อมอ่อนแอยิ่ง…ส่วนข้าถึงจะเป็นเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์เหมือนเจ้าแต่ข้าได้บ่มเพาะร่างควบแน่นวิญญาณ!”

“เว้นเสียแต่ต้วนหลิงเทียนจะลงมือฆ่าข้าได้ก่อนที่ข้าจะลงมือใช้อำนาจจิตใส่มัน…หาไม่แล้วต่อให้มันลงมือฆ่าข้าได้สำเร็จจริง แต่สุดท้ายมันก็ต้องตกตายเพราะอำนาจจิตของข้าอยู่ดี!!”

วาจาท้ายประโยคน้ำเสียงของเซียนอมตะเสเพล 4ทัณฑ์ที่ซ่อนตัวอยู่ก็เปี่ยมล้นไปด้วยความมั่นใจถึงขีดสุด!

“งั้นเหรอ!?”

และแทบจะทันทีที่เซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ดังจบคำ พลันมีเสียงหนึ่งดังขึ้นเข้าหู และทำให้มันรู้สึกผิดท่าขึ้นมาทันที หน้ายังเปลี่ยนสีกลับกลายไปในชั่วพริบตา!

จางนั้นมันจึงค่อยตระหนักได้ว่า…

ในขณะที่มันกำลังต่อปากต่อคำกับเฒ่าชราผู้มาใหม่ ไม่ทราบตั้งแต่ตอนไหนที่ปรากฏสำนึกเทวะขุมหนึ่งแผ่ออกมาจากบริเวณทางเข้าออกพระราชวังใต้ดิน และตอนนี้สำนึกเทวะที่ว่าก็เพ่งเล็งมาที่ร่างของมันเรียบร้อยแล้ว

‘มารดามันจบสิ้นกัน!!’

และแทบจะเป็นวินาทีเดียวกันกับที่ความคิดดังกล่าวผุดขึ้นในหัว

ฟั่ฟฟฟ!!

กระบี่ที่พุ่งมาดั่งประกายแสง ก่อเกิดเป็นเส้นแสงสายหนึ่งพุ่งทะลวงความว่างเปล่าทะลุต้นไม้นับสิบๆต้นก่อนที่ทะลวงเจาะเข้าที่หว่างคิ้วของมันที่ซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ต้นหนึ่งในชั่วพริบตา พรากชีวิตของมันไปอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจ

ในขณะที่ตกตายแววตาของเซียนอมตะเสเพล 4ทัณฑ์ก็ฉายแววเลื่อนลอยด้วยความสำนึกเสียใจนัก

หากไม่ใช่เพราะมันมัวแต่ไปให้ความสนใจกับชายชราเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ผู้มาใหม่ ไหนเลยมันจะเปิดช่องว่างให้ผู้อื่นลงมือแบบนี้…

ฟุ่บ!

และในขณะที่สำนึกสติสุดท้ายของเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ที่ถูกกระบี่เจาะทะลวงหว่างคิ้วกำลังจะดับสูญไป ภาพสุดท้ายที่มันได้เห็นก็คือร่างในชุดสีม่วงที่ปรากฏตัวขึ้นมาด้านนอกพระราชวังตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ กำลังมองข้ามระยะมายังร่างที่กำลังค่อยๆสลายหายไปในสวรรค์และโลกของมัน

เจ้าของร่างในชุดสีม่วงที่พึ่งใช้กระบี่บินพิฆาตดับชีพมันแต่ไกล ย่อมไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นต้วนหลิงเทียนที่เคยซ่อนตัวอยู่ในพระราชวังใต้ดินก่อนหน้า…

“เอ่อ…”

ขณะเดียวกันจางยี่กับหานเฉวี่ยไน่ที่ยังคงหลบอยนู่ในพระราชวังใต้ดินก็อดไม่ได้ที่จะอึ้งกิมกี่ ไร้คำใดจะกล่าว…

ที่แท้มันเกิดอะไรขึ้น ไฉนเรื่องราวพลันบังเกิดความเปลี่ยนแปลงไปอย่างที่พวกมันไม่ทันได้ตั้งตัวใดๆ

กว่าที่พวกมันจะตอบสนองเรื่องราว ทุกสิ่งทุกอย่างก็จบลงแล้ว

“นายท่าน”

และตอนนี้จางยี่ก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ

นั่นเพราะเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ในร่างผู้ชราที่พึ่งมาใหม่และเบี่ยงเบนความสนใจของเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ที่หลบซ่อนตัวในเงามืด จนเปิดโอกาสให้ต้วนหลิงเทียนฉวยจังหวะลงมือเข่นฆ่าสังหารลงได้นั้น กลับประสานมือโค้งคารวะต้วนหลิงเทียนด้วยความเคารพนอบน้อม

ยิ่งไปกว่านั้นวาจาแรกที่ชายชรากล่าวก็คือเรียกหาต้วนหลิงเทียนว่า นายท่าน!!

สำหรับหานเฉวี่ยไน่ที่อยู่ข้างๆจางยี่นั้นไม่ได้แปลกใจอะไรเลย

เพียงเพราะทันทีที่นางได้เห็นหน้าตาชายชราผู้มาใหม่ นางก็จดจำได้ทันทีว่าอีกฝ่ายเป็นใคร

ชายชราคนนี้เป็นข้ารับใช้พี่ใหญ่หลิงเทียนของนาง เซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ เฉินอี้หรู!!

‘ไฉนมันมาที่นี่ได้เล่า?’

หานเฉวี่ยไน่เต็มไปด้วยความสับสนนัก

ถึงแม้จะเดินออกมาจากพระราชวังมาถึงตัวต้วนหลิงเทียนที่ยืนอยู่ด้านนอกแล้วนางก็ยังขบคิดไม่ออก

“พี่ใหญ่หลิงเทียน…ที่แท้มันเกิดอะไรขึ้นหรือ?”

หานเฉวี่ยไน่หันไปมองถามต้วนหลิงเทียนด้วยความสงสัย

“ค่อยคุยกันระหว่างเดินทางเถอะ”

เมืองไปยังเข็มทิศที่ชี้ตรงแด่วในมือ ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะบังเกิดความร้อนใจขึ้นมาประการหนึ่ง

“พวกเรามัวมาเสียเวลาติดอยู่ที่นี่มากเกินไปแล้ว…รีบไปกันก่อน! ไปตามหามรดกสถานของต้าหลัวจินเซียนกันต่อ!!”