บทที่ 1149 ความร่วมมือ
ซูเสี่ยวซื่อแต่งตัวต่างไปจากสมัยเป็นนักศึกษาเสียอีก เขาดูเหมือนบุคคลที่ประสบความสำเร็จเลย
ต้องบอกว่าตัวเขาเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากจริง ๆ นะ
แม้จะเก่งเรื่องบริหาร ไม่เก่งเรื่องการสร้างสัมพันธ์ แต่ก็ไม่ทำให้คนอื่นคิดว่าสนใจแต่เงินทองเท่านั้น
กลับกันแล้วความเป็นนักธุรกิจของเขาทำให้ผู้อื่นรู้สึกไปในทางบวก และรู้สึกถึงความเที่ยงตรง
หลังเรียนจบซูเสี่ยวซื่อก็อุทิศตนอย่างเต็มที่ไปกับการทำธุรกิจ และการพัฒนาให้รวดเร็วยิ่งขึ้น
ห้างร้านหรงฟาในตอนนี้จึงมีหกสาขาแล้ว
เหตุผลที่ทำได้ไวนั้นเป็นเพราะหรงฟาเรานำเข้าสินค้าที่ร้านอื่น ๆ ไม่มี
ในยุคที่คนหน้ามืดตามัวคิดว่าดวงจันทร์ต่างประเทศดีกว่าของประเทศตัวเอง*[1] ทุก ๆ อย่างจึงดีกว่าทั้งสิ้น หลายคนเลยหันมาสนใจสินค้านำเข้ากัน
ซูเสี่ยวซื่อจึงคว้าโอกาสนี้ไว้ ทำให้มีสินค้านำเข้ามาขายกันเพียบ ซึ่งช่วยกระตุ้นพลังการซื้อของลูกค้าเป็นอย่างดี
สิ่งนี้ทำให้ร้านค้าต่าง ๆ ที่คิดทำตามซูเสี่ยวซื่อ จึงถูกหรงฟาทิ้งไว้ข้างหลัง
ด้วยพลังของลูกค้า เขาเลยทำเงินได้มหาศาลและเปิดสาขาเพิ่มได้
แผนล่าสุดคือการเปิดหรงฟาที่เมืองจิน และตั้งใจว่าอนาคตจะเปิดสาขาทั่วประเทศด้วย
นอกจากนี้ยังมีรูปแบบเมืองอาหารของมหาวิทยาลัยที่คัดลอกไว้ และเตรียมเปิดมันในเมืองจินเช่นกัน
ซึ่งรูปแบบธุรกิจนี้ดึงดูดลูกค้าได้จริง ๆ นะ เมืองอาหารของมหาวิทยาลัยกำลังเฟื่องฟูมาก จึงทำให้ฐานะของซูเสี่ยวซื่อเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย
และในขณะเดียวกัน ฝั่งคริสติน่าผู้จับมือร่วมทำงานยังหาเงินได้ด้วย ในบรรดาสาขาย่อยของ Fessenger แม้ที่เธอดูแลอยู่จะไม่ได้ดีที่สุด แต่ถือได้ว่าดี
หญิงสาวรู้สึกว่าเป็นเพราะให้ความร่วมมือกับซูเสี่ยวซื่อ
กำลังการซื้อของคนจีนสูงมากจริง ๆ
ยามเห็นชายหนุ่ม แววตาเจ้าตัวจึงเต็มไปด้วยความสุข
ที่จริงสิ่งที่เด็กสาวคิดมันก็ไม่ผิดหรอก แต่ไม่ได้ถูกทั้งหมดเช่นกัน
สำหรับคริสติน่า ซูเสี่ยวซื่อถือว่ามีอิทธิพลพอสมควร
แม้ชายชาวจีนผู้นี้จะไม่เข้าใจภาษาเยอรมัน แต่เวลาพูดเขาตลกมากทีเดียว
แถมยังใส่ใจเรื่องธุรกิจ พอได้ติดต่อกันมากขึ้นยิ่งรู้สึกว่าเราจะสามารถบรรลุความร่วมมือที่มากกว่านี้ได้
“ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบคุณที่ประเทศจีนครับ คุณคริสติน่า”
ซูเสี่ยวซื่อไม่รอให้คริสติน่าพูดก่อน แต่เป็นฝ่ายเอ่ยแทน
หญิงสาวประหลาดใจ ถึงกับปิดปากด้วยซ้ำ
จำได้ว่าครั้งล่าสุดที่มาจีน เขายังพูดเยอรมันไม่ได้เลย เพิ่งจะผ่านไปไม่เท่าไรเขาพูดคล่องขนาดนี้แล้วหรือ?
ซูเสี่ยวเถียนมองพี่ชายด้วยความชื่นชม
ปกติเขาสนใจแต่เรื่องหาเงินเท่านั้นเอง
แต่ขอแค่ยังหาเงินได้ เขาย่อมเอาชนะความลำบากทั้งหมดได้เช่นกัน อีกทั้งยังเรียนรู้ภาษาต่างประเทศที่ไม่เข้าใจอีกด้วย
ซูเสี่ยวเถียนขยิบตาให้พี่ชาย
ถ้าใช้ความสามารถนี้ไล่จีบคริสติน่าได้ คุณย่าคงมีความสุขแน่นอน
ช่วงนี้ท่านก็พูดถึงพี่สี่อยู่ว่า เขาอายุเยอะเกินกว่าจะหาภรรยาแล้ว
เพราะแบบนี้เจ้าตัวเลยไม่กล้ากลับบ้าน กลัวโดนบังคับให้แต่งงาน
“คุณซูเรียนภาษาเยอรมันตั้งแต่เมื่อไรคะ?” คริสติน่าถามตรง ๆ
“เพื่อได้คุยกับคริสติน่าคนสวยแล้ว ผมใช้เวลาเรียนอยู่หลายเดือนเลยครับ คุณคิดว่าผมพูดได้ดีหรือเปล่า?”
คุณออกัสได้ยินคำพูดของชายหนุ่มพลันขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว
ทำไมรู้สึกเหมือนคนคนนี้มีเจตนาแอบแฝงเลยล่ะ?
“คุณออกัสคะ คนนี้คือพี่สี่ของฉันเองค่ะ เขาทำงานอุตสาหกรรมค้าปลีก คงได้ติดต่อกับบริษัทคุณมาบ้างนะคะ”
ซูเสี่ยวเถียนเห็นความไม่พอใจจึงเอ่ยแนะนำแทน
ใบหน้าเย็นชาจึงจางลงหลายส่วน
ด้วยนิสัยของตระกูลซูควรค่าแก่การไว้วางใจ
แถมวันนี้เราก็มาเยี่ยมพวกเขาด้วย ต้องให้เจ้าบ้านเข้ามาร่วมด้วยอยู่แล้ว
ส่วนเรื่องความร่วมมือโครงการอะไรน่ะ ออกัสยังไม่ได้รับอิทธิพลอะไรมากนัก
เพราะรับผิดชอบองค์รวมทั้งหมดของบริษัท จึงไม่สามารถเข้าใจทุกเรื่องได้โดยละเอียด
ส่วนเรื่องค้าปลีกน้องสาวเพิ่งรับหน้าที่ช่วงสองปีนี้เอง
เขาจำได้ว่าน้องเคยบอกเอาไว้ มันมีโครงการร่วมมือด้านการค้าปลีกกับจีนหลายโครงการเลย คงเป็นหนุ่มคนนี้ใช่ไหมนะ?
ถ้าอย่างนั้นก็ไม่แปลกว่าทำไมดูสนิทกันดี
“พี่คะ คุณซูกับฉันกำลังหารือเรื่องความร่วมมือระยะยาวค่ะ ถ้าสามารถบรรลุความต้องการนี้ได้ เราจะวิน-วินทั้งคู่เลยนะคะ”
คริสติน่าอธิบายเรื่องงานให้ฟังเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากเขา
ออกัสพยักหน้า ก่อนทักทายซูเสี่ยวซื่อ
หลังจากซูเสี่ยวซื่อทราบว่าชายตรงหน้าคือเจ้าของบริษัท Fessenger ก็ต้อนรับด้วยความจริงใจ
หลังจากนั้นระหว่างมื้ออาหารมีซูเสี่ยวซื่อและคริสติน่าคุยเป็นหลัก
ออกัสฟังด้วยความตั้งใจ
ซูเสี่ยวเถียนไม่ได้ขัดบทสนทนาเท่าไร
รวม ๆ แล้วความสำคัญทางธุรกิจในมื้อนี้สูงมาก
ช่วงท้ายของมื้ออาหาร ความตั้งใจของการร่วมมือระยะยาวเป็นอันได้รับการตัดสิน
ออกัสไม่ได้คัดค้าน ส่วนคริสติน่าก็รู้ว่าพี่ชายต้องเห็นด้วย
[1] ดวงจันทร์ต่างประเทศดีกว่าของประเทศตัวเอง หมายถึง การบูชาชาวต่างชาติ อะไรที่เป็นของต่างชาติล้วนดี