ตอนที่ 2,485 : เป็นไปได้อย่างไร?!
คนของเผ่ามังกรยังคงประทับใจเรื่องราวการลงมือของต้วนหลิงเทียนเมื่อไม่กี่ปีก่อนไม่หาย…
เพราะตอนนั้นพวกมันได้รู้ว่า
พลังฝีมือของต้วนหลิงเทียน น่ากลัวจะทัดเทียมกับเซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์!
ดังนั้นถึงต้วนหลิงเทียนจะปรากฏตัวออกมาอีกครั้ง แต่เวลาก็พึ่งผ่านไปได้ไม่กี่ปี พวกมันจึงยังคิดว่าต้วนหลิงเทียนอย่างไรก็คงมีพลังฝีมือแค่เทียบได้กับเซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์อยู่ และไม่คิดว่าจะเทียบชั้นกับตี้ฮ่วนได้
อย่างน้อยๆคนส่วนใหญ่ในเผ่ามังกรก็คิดกันไปทำนองนี้
แน่นอนว่ามีคนของเผ่ามังกรจำนวนเล็กน้อย ที่คิดหนักและไม่กล้าดูเบา
“เมื่อไม่กี่ปีก่อนพลังฝีมือของต้วนหลิงเทียน ถูกสงสัยว่าเพียงทัดเทียมกับเซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์เท่านั้น…แต่มันกลับหายตัวไปอย่างไร้ข่าวคราว ข้ามั่นใจเต็มสิบส่วนว่ามันไม่พ้นปิดด่านบ่มเพาะอยู่แน่! หรือพลังฝีมือของมันจะก้าวหน้าขึ้นแล้ว?”
“นั่นสิ เพราะวันนี้มันไม่เพียงแต่มาหาความถึงเผ่ามังกรเรา กระทั่งยังข่มขู่ว่าหากไม่ส่งตัวคนกระทำความผิดมันจะย่ำเหยียบเผ่ามังกรของพวกเรา…นี่ไม่น่าจะเป็นมันรนหาที่ตาย แต่มีความมั่นใจในตัวเอง!”
“ข้าก็กังวลเรื่องนั้น ตัวตนที่เป็นถึงผู้นำ 7 ทวาราเที่ยงแท้ จะสิ้นคิดถึงขั้นมาหาที่ตายได้อย่างไร…”
…
คนของเผ่ามังกรเหล่านี้ต่างพากันคิดหนัก ยังพิจารณาทุกแง่มุมอย่างถี่ถ้วน
น่าเสียดายที่พวกมันมีน้อยเกินไป เสียงทัดทานก็ไม่อาจนับเป็นอะไร พริบตาก็ถูกคลื่นความเห็นดูแคลนทับกลบ เพราะคนส่วนใหญ่ต่างเชื่อมั่นในพลังฝีมือของอาวุโสสูงสุดกันจนไม่ลืมหูลืมตา พวกมันจึงจนปัญญาที่จะก่อคลื่นลมอะไรได้
“ต้วนหลิงเทียน !!”
ร่างอาวุโสสูงสุดแห่งเผ่ามพันธุ์มังกร ตี้ฮ่วน ที่เปลี่ยนไปดั่งสายลมกรรโชกสายหนึ่ง พริบตาก็พัดมาถึงเหนือฟ้า มองไปยังร่างชายหนุ่มชุดม่วงไกลๆลูกตาพลันหดหยีลงกล่าวเรียกหาออกมาเสียงหนักปานคำราม ในน้ำเสียงยังเจือความตื่นเต้นไม่น้อย
ถึงแม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่ตี้ฮ่วนได้พบหน้าต้วนหลิงเทียน
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้มันได้เห็นภาพเหมือนต้วนหลิงเทียนมากกว่าหนึ่งครั้ง จึงจดจำรูปร่างหน้าตาต้วนหลิงเทียนได้ขึ้นใจ
ถึงขั้นต่อให้ต้วนหลิงเทียนจะเปลี่ยนรูปโฉมไปแค่ไหน ขอเพียงรูปร่างยังเหมือนเดิม มันก็มั่นใจว่าสามารถจดจำอีกฝ่ายได้ในพริบตา!
นับประสาอะไรกับต้วนหลิงเทียนเบื้องหน้า ที่ไม่คิดปกปิดรูปโฉมอะไรเลย!
ครู่ต่อมา ร่างตี้ฮ่วนก็วูบไปหยุดลงกลางฟ้าประจัญหน้ากับต้วนหลิงเทียน มองจ้องออกไปด้วยสายตาไม่แยแส
หากทว่าลึกลงไปในแววตากลับเผยประกายเพลิงแห่งความแค้นที่ค่อยๆก่อตัวลุกโชนขึ้นมาทุกขณะ ราวกับไม่นานคงได้เป็นไฟลามทุ่ง!
“ตี้ฮ่วน?”
ขณะเดียวกันกับที่ตี้ฮ่วนปรากฏตัว ต้วนหลิงเทียนก็มองพินิจอีกฝ่าย
ทั้งสีหน้าเฉยเมยยังเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นเยียบเย็นราวฉาบไว้ด้วยม่านน้ำแข็ง
อันที่จริงเรื่องผู้อยู่เบื้องหลังการตายของกู่ลี่ เยว่อู๋หยิ่ง รวมถึงอาจารย์ของหานเฉวี่ยไน่เป็นใคร ต้วนหลิงเทียนพอจะเดาได้แต่แรกแล้วว่าไม่พ้นอาวุโสสูงสุดแห่งเผ่าพันธุ์มังกร ตี้ฮ่วน ผู้เป็นบิดาของตี้เฉินแน่นอน…
แต่พอเห็นว่าคนแรกที่ปรากฏตัวขึ้นมากลับเป็นตี้ฮ่วนจริงๆ ในใจยังอดไม่ได้ที่จะบังเกิดโทสะขึ้นมา!
เรียกว่าทันทีที่ตี้ฮ่วนปรากฏตัวขึ้นมาประจัญหน้ากับต้วนหลิงเทียน บรรยากาศก็คล้ายตลบไปด้วยกลิ่นดินปืน!
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
…
ทันใดนั้นเสียงอากาศแตกระเบิดทั้งแหวกฝ่าสายลมพลันดังขึ้นติดๆหลายสำเนียง เหนือน่านฟ้าปรากฏร่างนับสิบๆ กระทั่งยังเพิ่มเป็นร้อยๆขึ้นในเวลาอันสั้น ทั้งหมดเป็นสมาชิกเผ่ามังกร!
พวกมันล้วนขึ้นมาเพื่อดูชมเรื่องราวสนุกสนาน
“คารวะอาวุโสตี้ฮ่วน!”
“คารวะอาวุโสตี้ฮ่วน!”
…
หลังจากที่มาถึง สิ่งแรกที่คนเผ่ามังกรเหล่านี้กระทำก็คือการประสานมือคารวะทักทายตี้ฮ่วนที่กำลังเผชิญหน้ากับต้วนหลิงเทียนอยู่ หลังคารวะแล้วพวกมันก็ลอยร่างรอดูชมเรื่องราวอยู่รอบๆ
“เจ้านี่น่ะเหรอต้วนหลิงเทียน? ผู้นำ 7 ทวาราเที่ยงแท้?”
“เป็นมันนี่ล่ะ! ข้าเคยเห็นภาพเหมือนของมันมาแล้ว!”
“ไอ้หนูนี่น่ะเหรอ…ที่กล้าขู่ว่าจะย่ำเหยียบเผ่ามังกรของพวกเรา”
“ในเมื่อตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดตี้ฮ่วนก็มาแล้ว…ข้าล่ะอยากจะเห็นจริงๆว่า ในเมื่อคนที่อยู่เบื้องหลังการตายของคน 7 ทวาราเที่ยงแท้ ปรากฏตัวต่อหน้าแบบนี้แล้วมันจะมีปัญญาทำอะไรได้!”
“หึ! ข้าเดาว่ามันคงไม่คิดไม่ฝันมาก่อนใช่หรือไม่ ว่าผู้ที่บงการเรื่องราวทั้งหมดจักเป็นอาวุโสสูงสุดเผ่าพันธุ์มังกรของพวกเราอย่างอาวุโสตี้ฮ่วน?”
…
เหล่าคนของเผ่ามังกรส่วนใหญ่ ต่างมองไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาทำราวกับมองคนตาย
ต้วนหลิงเทียนเองก็ตระหนักได้ถึงสายตาดังกล่าวดี
แต่เขาไม่สนใจ
สายตาที่ใช้มองตี้ฮ่วนของเขาเริ่มกลายเป็นเฉยเมยไร้อารมณ์ ไม่ยินดียินร้ายใดๆ กล่าวถามออกไปด้วยน้ำเสียงไร้แยแส “เมื่อครู่เจ้าบอกว่า…จะประหารข้าให้โลกรู้งั้นเหรอ?”
กระทั่งขณะกล่าวถามเรื่องนี้ออกไปเสียงของต้วนหลิงเทียนก็ยังคงสงบ หากแต่เริ่มเผยเจตนาฆ่าฟันออกมาบ้างแล้ว
“แล้วเจ้าจะทำไม?”
ได้ยินคำถามของต้วนหลิงเทียน ตี้ฮ่วนเพียงยิ้มแสยะกล่าวเย้ยออกไป ทำราวกับใต้ฟ้าข้าไม่กลัวใคร!
“ว่าแต่คนของข้าไปมีความแค้นอะไรกับเจ้าหรือเผ่ามังกรของเจ้ากัน? ทำไมเจ้าต้องถึงฆ่าคนของข้าด้วย?”
สองตาต้วนหลิงเทียนหดเล็กเผยประกายเย็นชาวูบหนึ่ง กล่าวถามออกไปเสียงเย็น
“พวกมันไม่ได้มีความแค้นอะไรกับข้าหรือเผ่ามังกรของข้าหรอก…แต่ผู้ใดใช้ให้พวกมันเป็นคน 7 ทวาราเที่ยงแท้ของเจ้า ต้วนหลิงเทียนเล่า? ในเมื่อเจ้ากล้ายัดเยียดความอัปยศอดสูให้ลูกชายข้า จนสุดท้ายทำให้ลูกชายข้าเกิดมารในใจจนตกตายเพราะหายนะทัณฑ์สวรรค์…ข้าที่คิดฆ่าเจ้าล้างแค้นแต่เจ้าดันสะเออะหดหัวไม่ยอมโผล่ ข้าก็ได้แต่ฆ่าพวกมันระบายโทสะ!”
“กล่าวไปที่พวกมันตาย…ล้วนเป็นเพราะต้วนหลิงเทียนเจ้าทั้งสิ้น!”
หลังกล่าวเย้ยออกมาไม่กี่คำ ตี้ฮ่วนก็เริ่มหัวเราะอย่างสะใจ
“อ้อ…แล้วรู้หรือไม่ว่าไฉนข้าต้องฉีกหน้าลูกชายของเจ้า?”
ได้ยินคำพูดของตี้ฮ่วน พลังในร่างต้วนหลิงเทียนก็ปะทุออกก่อเกิดเป็นวังวนพลังดูดรั้งในชั่วพริบตา ทั้งดูดกลืนพลังวิญญาณฟ้าดินโดยรอบในอาณาบริเวณกว้างขวาง ให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของพลังในร่างทันที
พริบตาทั่วร่างเขาพลันปรากฏพลังลุกโชนขึ้นมาดั่งเพลิงไฟ กระทั่งกลิ่นอายพลังยังดุร้ายราวพร้อมเข่นฆ่าสังหารผู้คน!
เป็นต้วนหลิงเทียนใช้ออกด้วยปฐมเวทย์กลืนกิน!
“ข้าไม่สนใจจะรู้!”
ตี้ฮ่วนกล่าวตอบเสียงเย็น
“เจ้าไม่สนใจจะรู้ แต่ข้าจะบอกให้เจ้าฟัง”
ทันใดนั้นสองตาต้วนหลิงเทียนก็ทอประกายดุร้ายขึ้นมาวูบหนึ่ง ไอพลังยิ่งมายิ่งลุกโชนรุนแรง “เป็นเพราะลูกชายสวะของเจ้ามันถือดีคิดว่าแน่กว่าข้าต้วนหลิงเทียน กล้าใช้พลังต่ำเตี้ยเรี่ยดินของมันบีบคั้นให้ข้าต้วนหลิงเทียนต้องคุกเข่าขอขมา…”
“เช่นนั้นข้าต้วนหลิงเทียนก็เพียงให้มันกินยาขมของตัวเองเท่านั้น!”
กล่าวถึงท้ายประโยคน้ำเสียงต้วนหลิงเทียนยังเยียบเย็นลงถึงขีดสุด
วันนั้นตี้เฉินมันคิดทำอะไรกับเขา ตัวเขาก็แค่ให้มันโดนเอง! และไม่คิดรู้สึกผิดหรือเสียใจใดๆทั้งสิ้น!!
อย่างไรก็ตามเนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ตี้ฮ่วนมีโทสะและเอามาลงกับคน 7 ทวาราเที่ยงแท้ เรื่องนี้นับว่าล้ำเส้นเขา กระทั่งทำให้เขามีโมโหขึ้นมาจริงๆ…
“แล้วจะอย่างไร?”
ตี้ฮ่วนยังคแสยะยิ้มกล่าวเย้ยหยันออกมา ในแววตายังเผยอำมหิตออกชัด “วันนี้เป็นเจ้าต้วนหลิงเทียนไม่เพียงมาหาข้าถึงหน้าประตู ยังกล้าข่มขู่เผ่ามังกรของข้า…เช่นนั้นข้าไม่เพียแต่จะฆ่าเจ้าเพื่อปกป้องเกียรติของเผ่ามังกร ยังได้โอกาสล้างแค้นให้ลูกชายข้าด้วย!”
กล่าวจบคำ มวลพลังมหาศาลของตี้ฮ่วนก็ระเบิดปะทุออกมาทั่วร่าง ความว่างเปล่ารอบกายของมันเริ่มปริแตก บังเกิดเป็นรอยแยกอันน่ากลัว กระทั่งรอยแยกดังกล่าวดูแล้วคงใช้เวลาไม่น้อยกกว่าจะสมานตัว!
“ท่านผู้อาวุโสสูงสุดคิดลงมือแล้ว!”
“อาวุโสตี้ฮ่วนกำลังจะฆ่าไอ้เด็กนั่น!!”
“ทันทีที่อาวุโสสูงสุดลงมือ…ต้วนหลิงเทียนนั่นมันได้ตายแน่!”
…
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ในที่เกิดเหตุเจียนถึงจุดแตกหัก คนของเผ่ามังกรก็พากันหยุดหายใจรอชมเรื่องราวเบื้องหน้าอย่างใจจดจ่อ
และคนของเผ่ามังกรส่วนใหญ่พากันคิดไปว่าทันทีที่ตี้ฮ่วนลงมือ ก็ถึงเวลาที่ต้วนหลิงเทียนต้องตาย!
“ต้วนหลิงเทียน ตายเสีย!!”
และตี้ฮ่วนก็เป็นฝ่ายเปิดฉากลงมือก่อน กระทั่งยังลงมือออกด้วยเจตนาฆ่าฟัน!
ในฐานะเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ พลังของตี้ฮ่วนย่อมไม่อ่อนด้อย เช่นนั้นความเร็วจึงไม่ใช่ชั่ว!
เสี้ยวพริบตาร่างมันก็อันตรธานหายไปจากสายตาคนของเผ่ามังกรส่วนใหญ่ และมีเพียงเซียนอมตะเสเพลของเผ่ามังกรไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังพอเห็นเงาร่างตี้ฮ่วนอย่างเลือนราง
อย่างไรก็ตามแม้ความเร็วตี้ฮ่วนจะฉับไวสุดที่จะมองเห็นได้ชัดในสายตาคนอื่น แต่สำหรับต้วนหลิงเทียนแล้ว มันเชื่องช้าราวกับเต่าคลาน!
“มดสวะ!”
เมื่อเห็นว่าตี้ฮ่วนเปิดฉากลงมือ มุมปากต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะแสยะเย้ยหยัน สบถคำดูแคลนออกไปด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น
ทันใดนั้นต้วนหลิงเทียนพลันยกมือขวาขึ้นก่อนจะปรากฏกระบี่เล่มหนึ่งเข้ามือ
ไม่ใช่กระบี่ใดอื่น เป็นกระบี่เซียนอมตะที่เขาใช้ในแดนลับต่างสวรรค์!
‘กายกระบี่รวมหนึ่ง’
สิ้นความคิด โดยมีกระบี่เซียนอมตะในมือเป็นจุดศูนย์กลาง พลันบังเกิดรังสีกระบี่นับพันปะทุออกมาส่องแสงสว่างจ้า!
วู้ม! วู้ม! วู้ม! วู้ม!
…
กระทั่งรูขุมขนทั่วร่างยังคล้ายยิงพุ่งรังสีกระบี่ออกมา สุดท้ายร่างคนก็คล้ายอันตรธานหายไปเป็นลำแสงหลอมกลืนไปกกับรังสีกระบี่รอบกาย ก่อนที่จะควบรวมเป็นกระบี่เล่มหนึ่งอย่างอัศจรรย์!
หนึ่งกระบี่แลดูสามัญลอยล่องกลางหาวแผ่กลิ่นอายลี้ลับผิดกับรูปลักษณ์พิกล
ครู่ต่อมา
ท่ามกลาสายตาทุกคน กระบี่แลดูสามัญที่แปรสภาพมาจากร่างต้วนหลิงเทียน ก็พุ่งทะยานสวนเข้าหาตี้ฮ่วนด้วยความเร็วธรรมดา
ฟั่ฟ!
เสียงหอนกรีดอากาศของกระบี่ดังขึ้น
ทุกคนในที่นี้ล้วนเห็นวิถีกระบี่ที่พุ่งไปชัดเจน
กระทั่งเผ่ามังกรที่พลังฝึกปรืออ่อนด้อยยังแลเห็นความเคลื่อนไหวของกระบี่ต้วนหลิงเทียนได้ชัด
กระบี่ที่ทะยานออกไป…ช่างให้ความรู้สึกไร้เรื่องราวนัก
ราวกับมันเป็นแค่กระบี่ธรรมดาๆ
“เหอะ!”
ทันใดนั้นเองเซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์ในเผ่ามังกรคนหนึ่งอดไม่ได้ที่จะสบถออกมาด้วยความดูแคลน “ข้าหลงคิดว่ากระบวนท่ากายกระบี่รวมหนึ่งอันใดของต้วนหลิงเทียนจะร้ายกาจทรงพลัง…มิคิดว่าสุดท้ายจักเป็นแค่กระบี่ร้ายๆเล่มเดียว!”
“อาศัยกระบี่อ่อนด้อยนี่ มันคิดหรือว่าจะทำอะไรอาวุโสตี้ฮ่วนได้?”
“หืม? ไฉนข้ารู้สึกแปลกๆ…อะ”
ทว่ากลับมีเซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์คนหนึ่งที่รู้สึกว่าเรื่องราวมีอะไรไม่ชอบมาพากล แต่มันก็ไม่ทันได้พูดจบคำ
เพราะเสียงดันชะงักค้างอยู่ในลำคอ!
ตอนนี้มันกำลังแตกตื่นถึงขีดสุด ยังชมดูเรื่องราววเบื้องหน้าด้วยความเหลือเชื่อ!
“สวรรค์!!”
“ไฉน…เป็นเช่นนี้ไปได้!?”
…