WSSTH ตอนที่ 2,487 : ประมุขเผ่ามังกรลงมือ!
“เซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์…ท่านประมุขของพวกเราเป็นถึงเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ในตำนาน!?”
“นะ…นี่มัน เป็นเรื่องจริงเช่นนั้นหรือ!? เซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์!!”
“เซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์…นั่นคือตัวตนที่อยู่ ณ จุดสูงสุดของระนาบโลกียะ และแทบไม่เคยปรากฏให้เห็นแม้จะผ่านพ้นไปหลายยุคสมัย! ทว่าในยุคสมัยนี้…เผ่ามังกรของพวกเรากลับมีเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์จริงๆ?!”
“เหลือเชื่อ! ช่างน่าเหลือเชื่อนัก!!”
…
เรียกว่าหลังได้ยินคำพูดของประมุขเผ่ามังกรของพวกมันเป็นการยอมรับกลายๆ ทั้งหลายก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง!
ก่อนหน้าแม้จะรู้ว่าประมุขของพวกมันคือตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่ามังกร
แต่พวกมันคิดว่าท่านประมุขเป็นแค่ เซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์เท่านั้น!
ไม่คิดไม่ฝันเลย…
ว่าประมุขของมันไม่ใช่แค่เซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ แต่เป็นถึงเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ ที่แข็งแกร่งกว่า! และเป็นดั่งตัวตนสูงสุดของระนาบโลกียะ!!
“ไม่คิดเลย…ไม่คิดเลยจริงๆ!”
“ข้าเองก็คิดไม่ถึงจริงๆว่าท่านประมุขของพวกเราจะเป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์!!”
“ข้า…มิได้ฝันไปใช่หรือไม่? ในห้วงกลียุคที่เผ่าปีศาจรุกรานขึ้นมาอีกครั้ง แต่ท่านประมุขของพวกเราที่แท้กลับเป็นถึงเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์! เช่นนั้นหากท่านประมุขลงมือมิใช่เผ่าปีศาจจะเร่งหลบหนีกลับแดนเนรเทศหางจุกตูดรึไร?”
“มิผิด! ต่อให้เผ่าปีศาจจากแดนเนรเทศจักร้ายกาจเพียงใด พวกมันก็ใช่ว่าจะมีตัวตนขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์!”
…
จังหวะนี้สมาชิกเผ่ามังกรทั้งหลายอดไม่ได้ที่จะบังเกิดความคาดหวังตั้งหน้าตั้งตารอคอย…รอคอยให้ประมุขของพวกมันออกโรงสยบเผ่าปีศาจและขับไล่พวกปีศาจกลับแดนเนรเทศ!
และถึงตอนนั้น เผ่ามังกรของพวกมันจะถูกทั้งแดนดินเห็นเป็นผู้กอบกู้ดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า!
พอนึกถึงฉากมากเกียรติยศดังกล่าว เผ่ามังกรทั้งหลายอดไม่ได้ที่จะบังเกิดความตื่นเต้นขึ้นมาอักโข!
ไม่ว่าจะอย่างไรความฝันเรื่องวีรบุรุษผู้กล้าก็ล้วนมีอยู่ในใจทุกคน กระทั่งสมาชิกเผ่ามังกรอย่างพวกมันก็ไม่เว้น!
และพอนึกถึงฉากที่ประมุขเผ่าของมันกลายเป็นวีรบุรุษกู้แผ่นดิน พวกมันในฐานะสมาชิกของเผ่าผู้กอบกู้ ย่อมรู้สึกถึงเกียรติยศและความรุ่งโรจน์!
หากจะกล่าวว่าจังหวะนี้ในเผ่ามังกรยังมีผู้ใดที่ไม่ตกใจเรื่องที่ได้รับทราบว่าประมุขเผ่ามังกรเป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์อีก…ก็เห็นทีจะมีแต่ผู้อาวุโสสูงสุดทั้ง 2 เท่านั้น
ในฐานะอาวุโสสูงสุดของเผ่าพันธุ์มังกร และเป็นถึงเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ พวกมันย่อมเป็นดั่งเสาหลัก ไม่ต่างอะไรจากกระดูกสันหลังของเผ่ามังกร
ตัวตนเช่นนี้แน่นอนว่าย่อมมีการติดต่อกับประมุขเผ่าบ่อยครั้ง เป็นธรรมดาจะรู้เรื่องพลังฝึกปรือของประมุข
กล่าวได้ว่า
ทั้ง 2 กระทั่งตี้ฮ่วนที่พึ่งถูกต้วนหลิงเทียนฆ่าทิ้ง ล้วนรู้แต่แรกว่าประมุขเผ่ามังกรของพวกมันเป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์!
“อะไร? เรื่องมองออกว่าเจ้าเป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ มันแปลกมากรึ?”
เมื่อเห็นทีท่าประหลาดใจของประมุขเผ่ามังกรีท่ถูกเขามองด่านพลังฝึกปรือออก ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะยักคิ้วกล่าวถามออกไปด้วยน้ำเสียงเฉยเมย
“แปลกมากหรือ?”
ประมุขเผ่ามังกรหยีตาลง ก่อนที่ลูกตาจะเผยประกายเยียบเย็นเรืองขึ้นวูบหนึ่ง “ครึ่งก้าวเซียนอมตะ ไม่เพียงฆ่าอาวุโสสูงสุดของเผ่ามังกรข้าได้…ยังสามารถมองเห็นพลังฝึกปรือของข้าได้!”
“ยังไม่แปลกรึไร?”
หลังกล่าวถามจบคำสองตาประมุขเผ่ามังกรที่มองสบตาต้วนหลิงเทียนก็เผยประกายแหลมคม ราวกับจะเจาะทะลวงได้ทุกสิ่ง
สังเกตเห็นแววตาที่เปลี่ยนไปของประมุขเผ่ามังกร ต้วนหลิงเทียนยังคงเฉยเมยแลดูไม่ยี่หระ
ทว่าต้วนหลิงเทียนยังคงสงบไม่ยี่หระ ไม่ใช่ว่าคนอื่นๆของเผ่ามังกรจะยังสงบใจกันอยู่ได้!
“ใช่แล้ว…ต้วนหลิงเทียนนั่นอย่างไรมันก็เป็นแค่ครึ่งก้าวเซียนอมตะ…ไฉนมันถึงมองพลังฝึกปรือของท่านประมุขเผ่าออกได้?”
“อย่างที่รู้กันว่าพลังวิญญาณของครึ่งก้าวเซียนอมตะย่อมไม่อาจเทียบเซียนอมตะเสเพลได้ กระทั่งให้เป็นเซียนอมตะเสเพลยังมิอาจใช้สำนึกเทวะตรวจสอบพลังฝึกปรือท่านประมุขได้ด้วยซ้ำ…แล้วต้วนหลิงเทียนนั่น มันทำได้อย่างไร!?”
“ต้วนหลิงเทียนผู้นี้แปลกประหลาดยิ่ง! ไม่สิ หรือผู้สืบทอดนามหมอกพิรุณของ 7 ทวาราเที่ยงแท้มันแปลกประหลาดเช่นนี้ทุกคน?”
…
เหล่าคนของเผ่ามังกรไม่เว้นอาวุโสสูงสุดทั้ง 2 อดไม่ได้ที่จะงุนงง ว่าที่แท้ต้วนหลิงเทียนมีสามารถอันใดกันแน่…ถึงได้มองพลังฝึกปรือของประมุขพวกมันออก!
ขณะเดียวกันพวกมันเริ่มรู้สึกขึ้นมาอย่างคลุมเครือ
ต้วนหลิงเทียน ผู้สืบทอดนามหมอกพิรุณคนนี้ เห็นทีจะเป็นสัตว์ประหลาดอันร้ายกาจไม่ต่างจากฟงชิงหยาง!
“ฟังที่ประมุขเผ่ามังกรว่ามาแล้ว ก็คงน่าแปลกจริงๆนั่นล่ะ…”
ได้ยินคำถามของประมุขเผ่ามังกร ต้วนหลิงเทียนเพียงพยักหน้ารับ ค่อยพูดต่อว่า “ถ้างั้นตอนนี้ประมุขเผ่ามังกรคิดทำอย่างไรต่อเล่า คิดหาที่ตายโดยการล้างแค้นให้ตี้ฮ่วนงั้นรึ?”
“หรือจะให้ข้าไปช่วยป่าวประกาศทั่วแดนดิน ว่าต่อจากนี้ไปเผ่ามังกรจะไม่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับข้า และ 7 ทวาราเที่ยงแท้ของข้า?”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวถามออกไปอย่างไม่รีบไม่ร้อน
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ยินคำพูดของต้วนหลิงเทียนสีหน้าผู้คนของเผ่ามังกรก็เปลี่ยนไปทันที
หาที่ตายโดยการล้างแค้น?
ต้วนหลิงเทียนผู้นี้กลับกล้าพูดออกมาจริงๆ ว่าหากประมุขเผ่ามังกรของพวกมันคิดลงมือล้างแค้นให้อาวุโสสูงสุดตี้ฮ่วน ก็คือการหาที่ตาย!
“เสียสติ! ต้วนหลิงเทียนผู้นี้เสียสติไปแล้ว!!”
“ท่านประมุขของพวกเราคือตัวตนสูงสุดของระนาบโลกียะ…แล้วต้วนหลิงเทียนนั่นมันไปเอาความมั่นใจมาแต่ที่ใด ถึงได้หาญกล้ากล่าววาจาสามหาวเช่นนั้น!”
“หรือมันคิดจริงๆว่าการฆ่าอาวุโสสูงสุดตี้ฮ่วนได้ จะทำให้มันอยู่ยงคงกระพันในโลกหล้า!?”
…
เรียกว่าทันทีที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวจบครึ่งประโยค เผ่ามังกรส่วนใหญ่ก็คิดว่าต้วนหลิงเทียนหยิ่งจนเลอะเลือนไปแล้ว!
ถึงต้วนหลิงเทียนจะฆ่าตี้ฮ่วน อาวุโสสูงสุดของพวกมันได้อย่างง่ายดายในกระบวนท่าเดียว แต่พวกมันก็ไม่ใช่ชนชั้นโง่งม ยังพอประมาณได้ว่าพลังของต้วนหลิงเทียนเมื่อครู่สมควรเทียบได้กับเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์เท่านั้น
ทว่าเรื่องที่จะให้เหนือกว่าท่านประมุขของพวกมัน เกรงว่าคงเป็นไปไม่ได้เลย!
เพราะประมุขเผ่ามังกรของพวกมันจะอย่างไรก็คือ เซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์!
และเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์นั่นตามสามัญสำนึกแล้วก็คือตัวตนที่ทรงพลังที่สุดในระนาบโลกียะ ปกติย่อมไม่มีผู้ใดเข่นฆ่าสังหารตัวตนระดับนี้ลงได้!
สีหน้าประมุขเผ่ามังกรก็เริ่มมืดลงตั้งแต่ได้ยินวาจาครึ่งประโยคแรกของต้วนหลิงเทียนแล้ว
และพอต้วนหลิงเทียนพูดจบ
วูบ! วูบ! วูบ! วูบ!
…
ประมุขเผ่ามังกร อาวุโสสูงสุดทั้ง 2 รวมถึงคนของเผ่ามังกรทั้งหมด สีหน้าถึงกลับเปลี่ยนไปเป็นมืดดำ!
ต้วนหลิงเทียนผู้นี้เป็นใคร?
ไม่เพียงแต่จะกล้ากล่าวบอกทำนองว่าหากประมุขคิดลงมือก็ไม่ต่างจากหาที่ตาย…
ยังกล้าพูดทำนองประมุขเผ่ามังกรของพวกมันสุดท้ายไม่พ้นยินยอมออกแถลงการณ์…ว่าจะไม่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับต้วนหลิงเทียนและ 7 ทวาราเที่ยงแท้อีกต่อไป!
หรือต้วนหลิงเทียนคิดว่าอาศัยพลังครึ่งก้าวเซียนอมตะจะมีปัญญาสู้เซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ได้จริงๆ?
“ต้วนหลิงเทียน!!”
ถึงแม้ประมุขเผ่ามังกรจะมีชีวิตอยู่มานานนับหมื่นๆปี แต่จังหวะนี้มันก็ไม่อาจระงับโทสะในใจได้อีกต่อไป “วันนี้ข้าจะฆ่าเจ้าล้างแค้นให้ตี้ฮ่วน…”
“และข้าอยากจะเห็นนักว่าครึ่งก้าวเซียนอมตะเช่นเจ้า จักฆ่าเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์เช่นข้าได้อย่างไร!”
ซู่มมมม!!
แทบจะพร้อมกันกับที่ประมุขเผ่ามังกรกล่าวจบคำ มวลพลังอันยิ่งใหญ่สุดไพศาลเปี่ยมล้นไปด้วยพลังอำนาจอันน่าเกรงขามก็ปะทุออกมาจากทั่วร่างของมัน พาลให้ความว่างเปล่าโดยรอบสะท้านสะเทือนจนปริแตก ก่อเกิดรอยแยกมิติยิบย่อยมากมาย
รอยแตกดังกล่าว มองไปดั่งมังกรทมิฬกลางหาวก็ไม่ปาน พวกมันผุดขึ้นทั้งแนวตั้งแนวขวาง สอดประสานกันราวใยแมงมุมอันเขื่อง แลดูน่ากลัวชวนให้ขนลุกนัก!
“นะ…นี่น่ะหรือพลังของเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์!?”
จังหวะนี้สมาชิกเผ่ามังกรทั้งหลาย พากันบังเกิดความตกตะลึงกับพลังอำนาจที่แผ่ออกมาทั่วร่างประมุขเผ่า!
กระทั่งอาวุโสสูงสุดทั้ง 2 ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
ถึงแม้พวกมันจะล่วงรู้มานานว่าประมุขของพวกมันข้ามผ่านหายนะรอบที่ 9 จนกลายเป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์แล้ว แต่พวกมันก็ไม่เคยเห็นประมุขลงมือมาก่อน!
ดังนั้นพวกมันเองก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงกับพลังอันน่ากลัวของเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์!
และวันนี้เมื่อได้มาเห็นพลังอันมหาศาลกับตา พวกมันก็ตระหนักได้ทันทีว่าพลังของพวกมันยังห่างชั้นกับเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ขนาดไหน!
โดยเฉพาะสมาชิกเผ่ามังกรที่พลังฝึกปรืออ่อนด้อย ไม่เพียงแต่จะตกตะลึงทั้งหวาดกลัวเท่านั้น เพียงแค่กลิ่นอายพลังที่กำจายออกมาจากร่างประมุข พวกมันก็บังเกิดความรู้สึกกดดันจนหายใจแทบไม่ออก พลังในร่างคล้ายติดขัดจนเลือดลมตีกลับแทบกระอักโลหิต จำต้องเร่งรุดเหินร่างล่าถอยออกไปจ้าละหวั่น!
พวกมันได้แต่ล่าถอยออกไปห่างๆด้วยไม่อาจทนทานพลังกดดันในบรรยากาศได้ไหว เพียงเฝ้ามองประมุขที่เตรียมลงมือเข่นฆ่าสังหารต้วนหลิงเทียนอยู่ไกลๆ!
“ดูเหมือนว่าประมุขเผ่ามังกร สนใจประมือกับข้ามากสินะ…”
เห็นพลังทั่วร่างของประมุขเผ่ามังกรปะทุลุกโชนขึ้นมาพร้อมรบ สองตาต้วนหลิงเทียนก็หดหยีลง
กระบี่เซียนอมตะที่เก็บกลับไปแต่แรก บัดนี้ได้ผุดโผล่จากความว่างเปล่ากระชับเข้ามืออีกครั้ง และเมื่อพลังในร่างของเขาถ่ายทอดลงสู่ตัวกระบี่ ทั่วกระบี่พลันเปล่งแสงสว่างสาดสองออกมาอย่างเจิดจ้า!
วู้ม! วู้ม! วู้ม!
…
และในขณะที่แสงกระบี่เปล่งประกายเจิดจ้าออกมา กลิ่นอายคมกล้าหาใดเปรียบก็เริ่มแผ่ซ่านออกมาอย่างรุนแรง!
พลังอำนาจช่างน่ากลัวสมกับที่เป็น ยอดสมบัติสวรรค์!
และแทบจะทันทีที่กระบี่เซียนอมตะผุดจากความว่างออกมากระชับถือไว้ในมือต้วนหลิงเทียน ประมุขเผ่ามังกรก็อดไม่ได้ที่จะบังเกิดอาการตื่นเต้นขึ้นมาทันที!
สองตามันถึงกับเบิกกว้างกลมโต ยังลุกวาวขึ้นมาด้วยประกายแห่งความโลภ คล้ายรอช่วงชิงยอดสมบัติสวรรค์ในมือต้วนหลิงเทียนมาเป็นของตัวเองไม่ไหวแล้ว!
“อะไร? ประมุขเผ่ามังกรสนใจกระบี่เซียนอมตะของข้างั้นเหรอ?”
พอเห็นความโลภที่ฉายชัดออกในแววตาของประมุขเผ่ามังกร ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะคลี่ยิ้มออกมาบางๆ “หากต้องการกระบี่เซียนอมตะของข้าก็ง่ายนิดเดียว…แค่ฆ่าข้าเท่านั้น”
“ฮึ่ม!”
ประมุขเผ่ามังกรแค่นสบถออกมาเสียงเย็น “ไม่ต้องให้เจ้าเตือนข้าก็จะฆ่าเจ้าชิงยอดสมบัติสวรรค์นั่นมาครองอยู่ดี ยังได้ล้างแค้นให้ตี้ฮ่วนไปพร้อมกัน!”
“งั้นข้าจะรอดู!”
ทันใดนั้นสองตาต้วนหลิงเทียนพลันหดเล็กลง รอยยิ้มบนใบหน้ามลายหายไปทันที
ปงงง!!
และทันทีที่กล่าวจบคำ ร่างของประมุขเผ่ามังกรก็ระเบิดพลังออกมาอย่างร้ายกาจ!
ความว่างเปล่ารอบกายของมันคล้ายจะพังทลายลงในเสี้ยวพริบตา
ขณะเดียวกันรอยแยกมิติราวห่าอสรพิษก็อุบัติขึ้นมากลางความว่างอย่างน่ากลัว!