ตอนที่ 1154 บอกไม่หมด

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1554 บอกไม่หมด

ไป๋ชิงเหยียนมองเย่อิงน่านแล้วกล่าวยิ้มๆ

“หากเราเดาไม่ผิดเจ้าเมืองและฮูหยินของเจ้าต้องการให้น้องชายของเราแต่งงานกับบุตรสาวของพวกเจ้าก่อน พวกเจ้าจึงจะช่วยต้าโจวยึดครองด่านเย่เฉิงใช่หรือไม่”

เย่อิงน่านคลานเข่าอยากไปด้านหน้าอีกเล็กน้อย ทว่า ถูกเซียวรั่วไห่ขวางไว้เสียก่อน…

เย่อิงน่านหันไปถลึงตาใส่เซียวรั่วไห่ จากนั้นกล่าวกับไป๋ชิงเหยียนต่อ

“หากฝ่าบาททรงไม่เชื่อพระทัยพวกเราสองสามีภรรยา ฝ่าบาททรงออกราชโองการกำหนดวันแต่งงานของพระอนุชาของฝ่าบาทกับบุตรสาวของพวกเราก่อนก็ได้เพคะ เมื่อต้าโจวยึดด่านเย่เฉิงได้เมื่อใดค่อยให้พวกเขาจัดงานแต่งก็สิ้นเรื่องเพคะ ฝ่าบาท…พวกเราเพียงแค่อยากมีชีวิตอย่างสงบสุขเท่านั้นเพคะ! พวกเราใช้การแต่งงานแลกความปลอดภัยให้ทหารในเมืองซุ่นหนิง นี่เปรียบเสมือนการแต่งงานเชื่อมไมตรีระหว่างแคว้น คุ้มค่ามากเพคะ!”

ไป๋ชิงเหยียนวางถ้วยชาลงบนโต๊ะอย่างแรง ใบหน้าและน้ำเสียงของหญิงสาวเยือกเย็น

“คนที่กำลังจะสูญสิ้นบ้านเมืองจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดกล้าคิดให้บุตรสาวของตัวเองแต่งงานกับราชวงศ์ต้าโจวของเราอย่างนั้นหรือ ต่อให้เป็นองค์หญิงของซีเหลียงอยากแต่งงานกับน้องชายของเรา เรายังต้องพิจารณาให้ดีเลย บุตรสาวของเจ้าเมืองที่ทิ้งเมืองหนีตายเอาตัวรอด อีกทั้งมีแม่เป็นเพียงเป็นบุตรที่เกิดจากอนุ…คู่ควรอย่างนั้นหรือ!”

“ฝ่าบาททรงไว้ชีวิตด้วยพ่ะย่ะค่ะ ทรงไว้ชีวิตด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

เจ้าเมืองรีบก้มศีรษะคำนับแนบพื้น

เย่อิงน่านเริ่มรู้สึกหวาดกลัวเช่นเดียวกัน ทว่า เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วนางจะยุติลงกลางคันอย่างนั้นหรือ

เย่อิงน่านพยามข่มความหวาดกลัวของตัวเอง จากนั้นก้มศีรษะคำนับแนบพื้นพลางกล่าวขึ้น

“เป็นดั่งที่ฝ่าบาทตรัส พวกเรากำลังจะเอาชีวิตไม่รอดดังนั้นพวกเราจึงต้องการราชโองการของฝ่าบาทมาคุ้มครองชีวิต หม่อมฉันยอมรับว่าหม่อมฉันเป็นคนโลภ นอกจากต้องการรักษาชีวิตของตัวเองแล้ว หม่อมฉันอยากรักษาเกียรติยศของตระกูลให้คงอยู่สืบไปด้วย มีเพียงยกบุตรสาวของหม่อมฉันให้แต่งงานกับพระอนุชาของฝ่าบาทเท่านั้นหม่อมฉันจึงจะวางใจเพคะ”

เซียวรั่วไห่เห็นสายตาของไป๋ชิงเหยียนมองมาจึงพยักหน้าให้เล็กน้อย จากนั้นเอ่ยขึ้น

“หากมอบราชโองการให้พวกเจ้าแล้วพวกเรายึดด่านเย่เฉิงไม่ได้ ทว่า กองทัพต้าโจวบุกเข้าไปในด่านเย่เฉิงแล้ว พวกเจ้าจะให้พระอนุชาของฝ่าบาทแต่งงานกับบุตรีของเจ้าเมืองที่ทอดทิ้งเมืองหนีเอาตัวรอดไปอย่างนั้นหรือ! จงบอกแผนการของพวกเจ้ามาก่อน!”

เย่อิงน่านเงยหน้ามองเซียวรั่วไห่อย่างไม่ค่อยเข้าใจ

เซียวรั่วไห่กล่าวต่อ

“ข้าติดตามขบวนของพวกเจ้ามาหลายวัน ข้าพบกับขบวนของพวกเจ้าตอนออกมาจากด่านเย่เฉิง ตอนนี้ด่านเย่เฉิงมีคนคุ้มกันอย่างแน่นหนา แม่ทัพทั่วไปไม่มีอำนาจควบคุมประตูด่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่สองแคว้นกำลังทำสงครามกันอยู่เช่นนี้ ตอนนี้การจะเปิดประตูเมืองได้ต้องมีป้ายคำสั่งของเย่โส่วกวน ผู้ใดสามารถนำป้ายคำสั่งจากเย่โส่วกวนไปเปิดประตูด่านได้บ้าง”

เย่อิงน่านฟังเข้าใจแล้ว เซียวรั่วไห่หมายความว่าหากต้องการราชโองการจากจักรพรรดินีแห่งต้าโจวนางต้องเปิดไพ่ไม้ตายของตัวเองออกมา

นี่คือเรื่องที่สมควรแล้ว เย่อิงน่านเงยหน้ามองไป๋ชิงเหยียน

“ฝ่าบาท รองแม่ทัพของเย่โส่วกวนคือไม้ตายของหม่อมฉันเพคะ ไม่เพียงรองแม่ทัพเท่านั้น อนุคนโปรดของเย่โส่วกวนก็คือคนของหม่อมฉันเช่นกัน รองแม่ทัพของเย่โส่วกวนเคยสาบานต่อหน้าท่านพ่อของหม่อมฉันก่อนท่านสิ้นใจว่าจะปกป้องหม่อมฉันเพคะ”

“หากหม่อมฉันให้บุตรสาวของหม่อมฉันหนีไปหาลุงของนางที่ด่านเย่เฉิงเพื่อบอกว่าหม่อมฉันและสามีถูกต้าโจวจับตัวได้ จากนั้นสั่งให้อนุของเย่โส่วกวนแอบขโมยป้ายคำสั่งจากเย่โส่วกวนไปให้รองแม่ทัพของเย่โส่วกวน บอกเขาว่ามีเพียงจักรพรรดินีแห่งต้าโจวเห็นว่าประตูด่านของเย่เฉิงเปิดออกเท่านั้นต้าโจวจึงไว้ชีวิตหม่อมฉัน ประตูด่านต้องถูกเปิดออกแน่เพคะ!”

เย่อิงน่านกล่าวด้วยความมั่นใจ

“ฮูหยินเจ้าเมืองกำลังโกหกข้าอยู่หรือไม่ ข้าอยู่ที่ด่านเย่เฉิงมานานไม่เคยได้ยินเรื่องอนุคนโปรดของเย่โส่วกวนเลยสักครั้ง ภรรยาของเย่โส่วกวนคือบุตรสาวที่เกิดจากภรรยาเอกของตระกูลตี๋ เขามีอนุเพียงสองคนเท่านั้น คนหนึ่งคือสาวใช้ซึ่งเป็นสินเดิมของฮูหยินเย่ อีกคนคือสาวใช้ในจวนเย่ ทว่า ไม่ได้เคยได้ยินว่าสองคนนั้นจะเป็นที่โปรดปรานสักเท่าใดนัก!”

เซียวรั่วไห่ยังคงยิ้มน้อยๆ เช่นเดิม

“ตอนนั้นแม่ทัพชราเย่หลงอนุจนมารดาของเย่โส่วกวนตรอมใจตาย ทุกคนสามารถโปรดปรานอนุได้ ทว่า เย่โส่วกวนไม่มีทางทำเช่นนั้นเด็ดขาด!”

เย่อิงน่านตกตะลึง นางไม่คิดมาก่อนเลยว่าเซียวรั่วไห่จะรู้เรื่องของเย่โส่วกวนละเอียดถึงเพียงนี้ เดิมทีนางอยากเหลือทางรอดให้ตัวเองสักทาง ทว่า นึกไม่ถึงเลยว่าจะถูกเปิดโปงเช่นนี้

ไป๋ชิงเหยียนลุกขึ้นยืน เซียวรั่วไห่รีบลุกขึ้นตาม ชายหนุ่มโค้งกายทำความเคารพหญิงสาว

“เราไม่มีอารมณ์มาเสียเวลาฟังคนกล่าววาจาไร้สาระเช่นนี้…”

“น้อมส่งฝ่าบาท…”

เจ้าเมืองตกใจจนร่างแข็งทื่ออยู่กับที่ เย่อิงน่านอยากคลานเข้าไปจับชายชุดของไป๋ชิงเหยียน ทว่า ถูกเว่ยจงใช้พู่ปัดมือออกเสียก่อน ความเจ็บปวดลามไปทั่วข้อมือของนางทันที

“ฝ่าบาท ฝ่าบาทเพคะ!”

เย่อิงน่านกุมข้อมือของตัวเองแน่น มองตามแผ่นหลังของไป๋ชิงเหยียนพลางตะโกนขึ้น

“ฝ่าบาททรงยินดีให้ทหารต้าโจวสละชีพของตัวเองแทนที่จะยอมให้พระอนุชาของฝ่าบาทแต่งงานกับบุตรสาวของหม่อมฉันหรือเพคะ ชีวิตของทหารนับหมื่นหรือแสนกับการแต่งงานกับสตรีของซีเหลียง ฝ่าบาททรงคิดไม่ได้หรือเพคะว่าสิ่งใดคุ้มค่ากว่ากัน”

เย่อิงน่านไม่ได้ยินเสียงตอบจากไป๋ชิงเหยียน หญิงสาวยังคงเดินไปด้านหน้าโดยไม่หยุดฝีเท้าลงแม้แต่น้อย เย่อิงน่านตะโกนออกมาอย่างหวาดกลัวมากกว่าเดิม

“ฝ่าบาททรงทำเช่นนี้ไม่กลัวว่าเมื่อเรื่องนี้รู้ไปถึงหูของทหารต้าโจวแล้วจะทำให้พวกเขาผิดหวังหรือเพคะ ชีวิตของพวกเขาสำคัญน้อยกว่าการแต่งงานของพระอนุชาของฝ่าบาทอย่างนั้นหรือเพคะ”

เซียวรั่วไห่กล่าวขึ้น

“ฮูหยินมีสิ่งใดก็กล่าวกับข้าตามตรงเถิด ข้าจะได้ทูลให้ฝ่าบาททราบตามตรง มิเช่นนั้นชีวิตและเกียรติยศของตระกูลที่ฮูหยินอยากปกป้องฮูหยินคงปกป้องไม่ได้สักอย่าง”

เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนเดินจากไปแล้วเจ้าเมืองจึงรีบหันไปมองฮูหยินของตัวเอง เย่อิงน่านเริ่มหวั่นวิตกเช่นเดียวกัน ขณะที่นางกำลังวางแผนในใจก็ได้ยินเซียวรั่วไห่กล่าวขึ้น

“ผู้ใดก็ได้ไปพาบุตรชายและบุตรสาวของเจ้าเมืองและฮูหยินมาที!”

เมื่อเย่อิงน่านได้ยินว่าบุตรชายจะถูกพาตัวมาจึงได้สติ ร่างกายของนางแข็งทื่อทันที

“พวกเจ้าจะทำสิ่งใด!”

เซียวรั่วไห่นั่งลงบนเก้าอี้อีกครั้ง จากนั้นกล่าวขึ้น

“ฮูหยินเจ้าเมืองไม่ต้องเป็นห่วง ข้าแค่เชิญคุณชายและคุณหนูของเจ้ามานั่งเล่นเท่านั้น ขอเพียงฮูหยินยอมสารภาพออกมาตามตรงว่าผู้ใดสามารถขโมยป้ายคำสั่งของเย่โส่วกวนไปให้รองแม่ทัพได้ ผู้ใดในด่านเย่เฉิงคือคนของเจ้าบ้าง เจ้าจงบอกมาตามตรงจะใช้งานพวกเขาได้อย่างไร มิเช่นนั้นข้าคงไม่รับประกันความปลอดภัยของลูกๆ ของเจ้า”

ร่างของเย่อิงน่านแข็งทื่อ นางตะโกนเสียงดังลั่น

“พวกเจ้ากล้าอย่างนั้นหรือ! อย่างมากก็แค่ตายไปด้วยกัน ข้าจะไปบอกทหารต้าโจวของพวกเจ้าว่าจักรพรรดินีของพวกเขาไม่ยอมให้น้องชายของนางแต่งงานกับบุตรสาวของข้า นางยินดีให้ทหารสละชีพของตัวเองมากกว่า ข้าจะดูสิว่าทหารต้าโจวของพวกเจ้ายังจะยินดีติดตามรับใช้จักรพรรดินีที่ไม่เห็นค่าของพวกเขาอีกหรือไม่!”

เซียวรั่วไห่พยักหน้าราวกับเชื่อในคำกล่าวของฮูหยินเจ้าเมืองเต็มที่

“ข้าเชื่อว่าฮูหยินเจ้าเมืองพร้อมตายไปด้วยกันกับพวกเราจริง ทว่า เจ้ามั่นใจได้อย่างไรว่าวันนี้เจ้าจะสามารถเดินออกไปจากจวนนี้ได้ แค่ด่านเย่เฉิงเท่านั้น พวกเราบุกโจมตีซึ่งๆ หน้าก็สิ้นเรื่องแล้ว”