ตอนที่ 2,492 : จะบีบก็ตาย!
ได้ยินคำพูดของต้วนหลิงเทียน สีหน้าประมุขเผ่ามังกรเริ่มเปลี่ยนเป็นเขียวสลับขาว!
หากมันได้ยินคำพูดดังกล่าวของต้วนหลิงเทียนก่อนที่สตรีนางนี้จะปรากฏตัว มันคงไม่มีวันเชื่อในสิ่งที่ต้วนหลิงเทียนพูดแน่นอน
ทว่าพอตระหนักได้แล้วว่าสตรีข้างกายต้วนหลิงเทียนสมควรเป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์เช่นเดียวกับมัน ต่อให้มันไม่อยากจะเชื่อคำพูดต้วนหลิงเทียนแค่ไหน แต่มันก็ตระหนักได้ว่าคำพูดของต้วนหลิงเทียนเป็นความจริง!
“แม่นางท่านนี้ เราท่านมิเคยมีเรื่องบาดหมางอันใด…เราเพียงหวังว่าท่านจักไม่เข้ามายุ่งเรื่องราวส่วนตัวระหว่างเรากับต้วนหลิงเทียนเท่านั้น…”
ประมุขเผ่ามังกรหันไปกล่าวคำกับเค่อเอ๋อด้วยน้ำเสียงถ้อยทีถ้อยอาศัย ฟังดูเรียบๆร้อยๆผิดหูผิดตาผู้คนนัก
อย่างไรก็ตามเค่อเอ๋อยังคงไม่สนใจประมุขเผ่ามังกรเหมือนเดิม
เห็นแบบนี้สีหน้าประมุขเผ่ามังกรก็ยิ่งมืดลง ทว่ามันก็ไม่อาจทำอะไรได้…
เพราะมันย่อมรู้ดีแก่ใจ
ต่อหน้าสตรีนางนี้ที่สิบในสิบสมควรเป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ดุจเดียวกับมัน แถมอีกฝ่ายยังสมควรมียอดสมบัติสรรค์ประเภทส่วมใส่ที่ทำให้ความเร็วของนางทัดเทียมได้กับตัวตนขอบเขตจินเซียนบนระนาบเทวโลก! ย่อมไม่ใช่ตัวตนที่มันจะต้านทานได้เลย!!
“นี่มัน…”
“ฟังจากน้ำเสียงของท่านประมุข…หรือสตรีนางนี้จะเป็นภัยคุกคามท่านได้จริงๆ?”
“ดูเหมือนท่านประมุขจะหวั่นเกรงสตรีข้างกายต้วนหลิงเทียนไม่น้อย…เช่นนั้นสิบในสิบนางสมควรเป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์เช่นเดียวกัน! หาไม่แล้วเป็นไปไม่ได้เลยที่ท่านประมุขจะกลัวนาง!!”
…
คนของเผ่ามังกรอดกกระซิบกระซาบกันอีกครั้งไม่ได้ หลังจากได้ยินคำที่ประมุขของพวกมันพูดกับสตรีข้างกายต้วนหลิงเทียน
ตอนแรกพวกมันก็สงสัยคำพูดทำนองคิดทดสอบความซื่อสัตย์ท่านประมุขเผ่าจากต้วนหลิงเทียนอยู่บ้าง
แต่พอมาเห็นท่าทีของประมุขในตอนนี้แล้ว พวกมันก็พอจะตระหนักได้รางๆ
ว่าสิ่งที่ต้วนหลิงเทียนพูดสมควรเป็นความจริง!
“หากต้วนหลิงเทียนผนึกกำลังกับนางและฆ่าท่านประมุขได้จริง และหลังจากนั้นทั้งคู่คิดลงมือกับเผ่ามังกรของพวกเราสืบต่อ…เช่นนั้นเผ่ามังกรของพวกเราไม่พ้นถูกทำลายย่อยยับเป็นแน่!”
“แต่ฟังแล้วต้วนหลิงเทียนกับนางไม่คิดทำอะไรเผ่ามังกรของพวกเรา…นับว่าพวกเราโชคดีนัก! โชคดีที่ท่านประมุขไม่ได้กลับคำพูดหลังได้รับยอดสมบัติสวรรค์จากต้วนหลิงเทียน เรื่องจัดการกับคนของ 7 ทวาราเที่ยงแท้!”
“จริง…พูดแล้วข้ายังหวาดเสียวไม่หาย”
…
สมาชิกเผ่ามังกรอดไม่ได้ที่จะกระซิบกระซาบกันอย่างแตกตื่น
บางคนยังรู้สึกโล่งอกไม่น้อย
ถึงไม่รู้ว่าต้วนหลิงเทียนกับสตรีผู้มาใหม่ มีพลังมากพอสังหารประมุขของพวกมันได้จริงหรือไม่…
แต่อย่างน้อยๆก่อนหน้า ประมุขของพวกมันก็ไม่ได้ผิดคำพูดกับต้วนหลิงเทียน และหว่านเมล็ดพันธุ์มหันตภัยอะไรไว้ให้พวกมัน หาไม่แล้วหากเกิดเรื่องร้ายขึ้นจริง ถึงตอนนั้นพวกมันคิดร่ำไห้ก็ไร้น้ำตา!
กระทั่งผู้อาวุโสสูงสุดทั้ง 2 จังหวะนี้ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขอบคุณที่ประมุขเผ่าไม่ผิดคำพูด…
“ประมุขเผ่ามังกร…เจ้ารู้หรือไม่ว่านางเป็นใคร?”
ได้ยินคำถามที่ประมุขเผ่ามังกรกล่าวถามเค่อเอ๋อ ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะลอบยิ้มในใจ กระทั่งยังอดไม่ได้ที่จะหยีตากล่าวถามออกไปด้วยน้ำเสียงขบขัน
และเมื่อได้ยินคำถามของต้วนหลิงเทียน ประมุขเผ่ามังกรก็ตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง…
สตรีที่ลอยอยู่ข้างกายต้วนหลิงเทียนและทำให้มันบังเกิดความหวาดหวั่นนั้น ดูเหมือนจะเอาแต่มองจ้องต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาอ่อนโยนดั่งสายน้ำราวกับกำลังมองคนรักของนางมาสักพักแล้ว!
ทันใดนั้นสีหน้าประมุขเผ่ามังกรก็เปลี่ยนไปทันที ในใจยังบังเกิดสังหรณ์อัปมงคลขึ้นมา!
“อ่า…นางเป็นภรรยาของข้าเอง”
ในขณะที่สายตาคนของเผ่ามังกรกำลังจับจ้องมองไปยังร่างต้วนหลิงเทียนสลับกับเค่อเอ๋ออย่างสนใจ ต้วนหลิงเทียนก็กล่าวออกมาอีกครั้ง บอกความสัมพันธ์ของเขากกับเค่อเอ๋อให้ทุกคนรับทราบ
เปรี๊ยง!!
และทันทีที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวจบคำ คนของเผ่ามังกรทั้งหลายก็รู้สึกเสมือนต้องอัสนีบาตยามแล้งที่ฟาดผ่าลงมาอย่างไร้ซึ่งการตั้งเค้าใดๆมาก่อน
เพราะต้วนหลิงเทียนพึ่งบอกว่า…
สตรีข้างกายที่น่ากลัวจะเป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์และมีรูปโฉมงดงามไร้ที่ตินางนี้…เป็นภรรยางั้นเหรอ?
และในขณะที่คนของเผ่ามังกรกำลังอื้ออึง ไม่ทันได้ฟื้นสติ
ฟุ่บ!
เค่อเอ๋อแต่เดิมที่ลอยล่องอยู่ข้างกายต้วนหลิงเทียน พริบตาร่างบางก็อันตรธานหายไปจากจุดเดิม ปรากฏตัวอีกครั้งก็ไปผุดโผล่ยังความว่างเปล่าระหว่างต้วนหลิงเทียนกับประมุขเผ่ามังกร
เรียกว่านางลอยร่างอยู่ตรงกลางระหว่างทั้งคู่
และตอนนี้สายตาของนางก็กำลังมองจ้องไปยังประมุขเผ่ามังกรอย่างไร้แยแส
ยิ่งไปกว่านั้นมือขวาของนางยังยกขึ้นเล็กน้อย มือเรียวขาวกระจ่างปานหยกของนางค่อยๆโผล่พ้นออกมาจากชายแขนเสื้ออย่างไม่รีบไม่ร้อน…
ในขณะที่มือขาวกระจ่างดั่งหยกชวนให้ผู้คนบังเกิดความหลงใหลอยากสัมผัสของนางปรากฏออกมาสะกดสายตาทุกคนนั้น…
ฮูววว! ฮูววว! ครืนน!! ครืนน!!
…
เสียงสายลมแรงพลันแว่วดังขึ้นรอบกายเค่อเอ๋อ อีกทั้งความว่างเปล่าเองก็เริ่มสะท้านสะเทือนขึ้นมา
ยิ่งมาความว่างเปล่ายิ่งสั่นสะท้านแรงขึ้นเรื่อยๆ! สุดท้ายก็เริ่มบังเกิดรอยแตกท่ามกลางความว่างเปล่าจำนวนนับไม่ถ้วน! มองไปแผ่นฟ้าที่เคยสีครามเสมือนถูกสาดละเลงไปด้วยหมึกดำ!!
ทว่าเค่อเอ๋อยังลอยร่างท่ามกกลางรอยแยกมิติอย่างไม่สะทกสะท้านใดๆ
“ไม่ดี!!”
ทันใดนั้นประมุขเผ่ามังกรที่พึ่งคืนสติก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง สีหน้าของมันเปลี่ยนไปใหญ่หลวง!
ใบหน้าที่เคยแลดูสง่างามน่าเกรงขาม บัดนี้เริ่มแดงขึ้นมา สองตายังกลอกมองไปมาอย่างตื่นตระหนก!!
อย่างไรก็ตามร่างของมันมยังคงลอยล่องแน่นิ่งปานรูปปั้น
และไม่ใช่ว่ามันไม่อยากขยับตัว…
แต่เป็นเพราะมันพบว่าร่างกายของมันตอนนี้ไม่อาจขยับเขยื้อนแม้องคุลีเดียว!
ประหนึ่งถูกตะกั่วลากถ่วง!
และตอนนี้ประมุขเผ่ามังกรตระหนักได้ชัดเจน ว่ารอบกายของมันปรากฏพลังไร้สภาพอันแข็งแกร่งผนึกกักเอาไว้! ทำให้มันไม่อาจเคลื่อนไหวใดๆได้เลย!!
ทำได้แค่เฝ้ามองมือขาวกระจ่างเนียนดั่งหยกมันแพะไกลๆนั่น ค่อยๆบีบกำลงอย่างไม่รีบไม่ร้อน
ตอนนี้สตรีอันมีรูปโฉมงดงามไร้คู่เปรียบปานเทพธิดาในสายตามัน ไม่ได้ต่างใดจากยมทูตแม้แต่น้อย พาลให้มันบังเกิดความหวาดกลัวจับใจ!!
แม้มันจะอยู่ในสภาพร่างที่แท้จริงอันเป็นมังกรตัวเขื่องยาวนับหมื่นหมี่ซึ่งนับทรงพลัทั้งมีเรี่ยวแรงมหาศาล แต่มันก็ไม่อาจดิ้นรนให้หลุดพ้นพลังไร้สภาพของสตรีตรงหน้าได้เลย!
“เจ้า…เจ้าคือเซียนอมตะ! เซียนอมตะจากระนาบเทวโลก!!”
ทันใดนั้นคล้ายตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง ลูกตาของประมุขเผ่ามังกรหดเล็กลงทันใด ยังอ้าปากตะโกนร่ำร้องออกมาเสียงหลงสิ้นลายประมุขเผ่าพันธุ์มังกร ไม่ได้หลงเหลือความสง่างามน่าเกรงขามแม้แต่น้อย!
กระทั่งร่างกายใหญ่โตยาวนับหมื่นหมี่ ยังสั่นระริกไปราวไส้เดือนถูกน้ำร้อนลวก
“เซียนอมตะ!?”
ได้ยินเสียงตะโกนร่ำร้องด้วยความหวาดผวามากล้นไปด้วยความกกลัวของประมุขเผ่ามังกร เหล่าสมาชิกในเผ่ามังกรก็อดไม่ได้ที่จะหน้าซีดเสียขวัญ!
ยามมองไปยังร่างเค่อเอ๋ออีกครั้ง แววตาของพวกมันเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อทั้งประหลาดใจถึงที่สุด!
หากไม่ได้มาเห็นกับตาตัวเอง ให้ตายพวกมันก็ไม่มีวันเชื่อได้ลงคอ…
ว่าประมุขเผ่ามังกรของพวกมัน ที่แม้จะอยู่ในร่างที่แท้จริงกลับไม่มีพลังอำนาจจะต้านทานสตรีเบื้องหน้าแม้แต่น้อย!
“เซียนอมตะ? ท่านประมุขบอกว่านางเป็นเซียนอมตะ?”
“เซียนอมตะมิได้มีแต่ในระนาบเทวโลกหรือไร? แล้วไฉนถึงมาปรากฏตัวที่นี่ได้?!”
…
หลังได้ยินคำร่ำร้องเสียงหลงของประมุขเผ่ามังกร สมาชิกเผ่าโดยรอบก็อดไม่ได้ที่จะสับสนงุนงง
ด้านเค่อเอ๋อที่ยกมือขาวกระจ่างขึ้นมานั้น ตอนนี้ก็ได้กำมือลงแล้ว
ครืน! ครืน! ครืน! ครืน! ครืน!
…
ทันใดนั้นเองความว่างเปล่ารอบร่างกายมหึมายาวนับหมื่นหมี่ของประมุขเผ่ามังกร พลันบังเกิดเสียงสะเทือนเลือนลั่น ยังผลให้แผ่นฟ้าเริ่มสะเทือนสะท้านตามๆไป ถิ่นที่อยู่อาศัยของเผ่าพันธุ์มังกรยังเริ่มสั่นไหวราวธรณีกำลังจะทรุด!
และทันใดนั้นเองท่ามกลางสายตาของผู้คนทั้งหมด รอบร่างใหญ่โตของประมุขเผ่าพันธุ์มังกร พลันอุบัติฝ่ามือมหึมาราวจะปิดแผ่นฟ้าขึ้นมา…
เป็นฝ่ามือที่ให้ความรู้สึกบอบบางนัก!
หากแต่เมื่อมองให้ดีจะพบว่า
รูปร่างฝ่ามือมหึมานั่น กลับเหมือนกันกับฝ่ามือของเค่อเอ๋อทุกระเบียบนิ้ว ที่แตกต่างกันก็คงมีแต่ขนาดเท่านั้น!
ฝ่ามือดังกล่าวอยู่ๆก็อุบัติขึ้นท่ามกลางความว่างเปล่า กลับปิดล้อมร่างประมุขเผ่ามังกรตัวเขื่องที่มีลำตัวยาวกว่าหมื่นหมี่ได้มิดชิด!
บอกได้ว่าทันทีที่ฝ่ามือดังกล่าวอุบัติขึ้น แผ่นฟ้าก็เสมือนกับจะถูกบดบัง พาลให้สมาชิกเผ่ามังกรพากันตะลึงอึ้งค้างกันไปอยู่นานกว่าจะคืนสติ!
“นี่มัน…”
กระทั่งต้วนหลิงเทียนยังอดไม่ได้ที่จะตกใจกับฉากเรื่องราวเบื้องหน้า “เค่อเอ๋อทำได้ยังไงกัน?”
“อีกทั้ง…ดูเหมือนว่าสิ่งที่ควบรมก่อเกิดฝ่ามือมหึมานั่น…จะเป็นรอยแยกมิติ!?”
ในเวลาเดียวกัน ต้วนหลิงเทียนที่มีสายตาแหลมคมพลันพบว่า…
ฝ่ามือมหึมาที่อุบัติขึ้นเบื้องหน้าร่างประมุขเผ่ามังกรตัวเขื่องยาวหนับหมื่นหมี่นั้น คล้ายจะควบรวมสร้างขึ้นจากรอยแยกมิติ! เป็นการลงมืออันทรงพลังเหนือความเข้าใจของเขาอย่างสิ้นเชิง!!
เรียกว่าทันทีที่พวกมันผนึกควบรวมก่อเกิดฝ่ามือ แผ่นฟ้าครึ่งหนึ่งราวกับจะถูกสะกดให้แน่นิ่ง!
“ไม่—!!!”
หลังจากที่ฝ่ามือกำลังจนสลายหายไปแล้ว ต้วนหลิงเทียนค่อยได้ยินเสียงร่ำร้องโหยหวนของประมุขเผ่ามังกร
แต่ก่อนหน้าเขาได้เห็นชัดถนัดตา
ฝ่ามือที่คล้ายจะควบสร้างขึ้นมาจากรอยแยกมิตินั่น ได้บีบกำร่างมหึมายาวนับหมื่นหมี่ของประมุขเผ่ามังกรเอาไว้หมดจด จนเมื่อฝ่ามือบีบกุมจนกลายเป็นกำปั้น ประมุขเผ่ามังกรก็ถูกบดขยี้จนตกตาย!!
กลิ่นอายของประมุขเผ่าพันธุ์มังกรยังอันตราธานหายไปทันที!
เรียกว่าประมุขเผ่ามังกรตกตายอย่างที่ไม่อาจตกตายมากกว่านี้ได้อีกแล้ว!
กล่าวได้ว่าต่อหน้าฝ่ามืออันแลดูขาวกระจ่างและบอบบางนั่น ร่างมังกรเทพยดายาวกว่าหมื่นหมี่ของประมุขเผ่ามังกร ไม่ต่างอะไรจากไส้เดือนตัวน้อยที่ถูกบีบจนตายคามือ!!
และตอนนี้ไม่ใช่แค่ต้วนหลิงเทียน
กระทั่งคนของเผ่ามังกรยังได้ยินเสียงร่ำร้องด้วยความไม่ยินยอมก่อนตายของประมุขเผ่ามังกร หลังจากที่อีกฝ่ายถูกบีบจนตายคาฝ่ามือมหึมานั่นแล้วเท่านั้น
สาเหตุที่เกิดเรื่องแบบนี้
เพราะความเร็วของแสงมันเหนือกว่าเสียงมาก
เงียบ…
ฉากเรื่องราวกลับกลายเป็นเงียบงันราวคนตาย ไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคำอยู่นาน…
กระทั่งต้วนหลิงเทียนเองยังอดอึ้งไปไม่ได้
ถึงแม้เขาจะรู้ดีว่าเค่อเอ๋อมีพลังมากพอจะฆ่าประมุขเผ่ามังกรได้ง่ายๆ แต่เขาก็คาดไม่ถึงจริงๆ…
ว่าเค่อเอ๋อจะลงมือด้วยวิธีดังกล่าว เลือกที่จะสร้างฝ่ามืออันน่ากลัวบีบร่างมหึมายาวนับหมื่นหมี่ของประมุขเผ่ามังกรเอาดื้อๆ!!
“นิ…นี่มัน จักไม่ร้ายกาจเกินไปหน่อยหรือ!?”
อาวุโสสูงสุดทั้ง 2 ของเผ่ามังกรอดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าด้วยความหนาวเหน็บหลังดึงสติกลับคืนมาได้ พวกมันยังหันมามองหน้าสบตากัน กอนที่จะแลเห็นถึงความหวาดผวาพรั่นพรึงในสายตาของอีกฝ่าย
จังหวะนี้พวกมันกระทั่งลืมเลือนความเศร้าโศกเสียใจเพราะการล้มหายตายจากของประมุขเผ่าด้วยซ้ำ!