ตอนที่ 1184 ไม่นานเกินรอ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1184 ไม่นานเกินรอ

“ทราบแล้วเจ้าค่ะพี่หญิงใหญ่” ไป๋จิ่นเจาเงยหน้ามองไป๋ชิงเหยียนพลางเอ่ยตอบเป็นคนแรก

“ไปเถิด” ไป๋ชิงเหยียนยืดกายตรง ขยับเสื้อคลุมขนจิ้งจอกของตัวเองเล็กน้อย จากนั้นกล่าวยิ้มๆ

“พี่หญิงใหญ่พักผ่อนให้มากนะเจ้าคะ” ไป๋จิ่นหวาจูงมือไป๋จิ่นเซ่อพลางหันไปกำชับไป๋ชิงเหยียน

“ได้ยินว่าด่านเย่เฉิงมีดอกเหมยสีแดงอยู่ พรุ่งนี้เมื่อพี่หญิงใหญ่ตื่นขึ้นมาพวกเราจะไปเก็บมาให้พี่หญิงใหญ่เจ้าค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “ได้…”

มองส่งน้องสาวทั้งสามคนเดินทางไป เว่ยจงจึงเดินเข้าไปหาไป๋ชิงเหยียนยิ้มๆ

“ฝ่าบาทควรพักผ่อนได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้ารับคำ “เว่ยกงกงลำบากแล้ว เจ้าก็ควรพักผ่อนบ้าง”

เว่ยจงตะลึงไปชั่วครู่ จากนั้นรับคำยิ้มๆ

“ฝ่าบาทไม่ต้องเป็นห่วงพ่ะย่ะค่ะ บ่าวไม่เหนื่อย ยังสามารถรับใช้ฝ่าบาทเข้าบรรทมได้พ่ะย่ะค่ะ”

“ไปพักผ่อนเถิด พักผ่อนให้มากจะได้คอยคุ้มครองข้าได้…”

ไป๋ชิงเหยียนหันกลับไปมองเว่ยจงพลางลูบท้องของตัวเองเบาๆ

“ข้าต้องฝากความปลอดภัยของข้าและลูกในท้องระหว่างเดินทางกลับเมืองหลวงไว้กับเว่ยกงกง”

เว่ยจงนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ เขาเห็นไป๋ชิงเหยียนเตรียมหมุนตัวเดินเข้าไปในห้องจึงรีบเดินไปแหวกม่านให้หญิงสาว

“บ่าวรับใช้ปูเตียงให้ฝ่าบาทเรียบร้อยแล้ว บ่าวให้คนนำน้ำร้อนเข้าไปให้ฝ่าบาทแล้ว ฝ่าบาทโปรดรอสักครู่นะพ่ะย่ะค่ะบ่าวจะไปเรียกคนมาปรนนิบัติฝ่าบาท”

“ไม่ต้องหรอก ข้าทำเองได้”

ไป๋ชิงเหยียนเดินเข้าไปในห้อง ปลดเสื้อคลุมขนจิ้งจอกวางพาดไว้บนฉากกั้น หญิงสาวล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น ยังคงสวมถุงมืออยู่ที่มือ หญิงสาวนั่งลงบนเตียงพลางลูบลูกเสือหยกสองตัวที่เซียวหรงเหยี่ยนแกะสลักให้ลูกในท้องของนางอย่างแผ่วเบา ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มอบอุ่น

ความปรารถนาสูงสุดของไป๋ชิงเหยียนในชาตินี้คือการที่ครอบครัวอยู่กันอย่างมีความสุขและปลอดภัย ระบอบการปกครองใหม่ถูกนำไปใช้อย่างราบรื่น เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

หน้าต่างตรงหน้าของไป๋ชิงเหยียนถูกเปิดออกอย่างแรง ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้าขึ้นจึงเห็นเซียวหรงเหยี่ยนปีนเข้ามาด้านใน

ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางเซียวหรงเหยี่ยนที่เดินเข้ามาด้านในและหันไปปิดหน้าต่างให้สนิทอีกครั้ง จากนั้นเอ่ยชายหนุ่ม

“เหตุใดท่านจึงมาที่นี่ได้ ท่านปรึกษาเรื่องแผนการรบอยู่กับพวกอาอวี๋ไม่ใช่หรือ”

ร่างกายของเซียวหรงเหยี่ยนมีไอหนาวชายหนุ่มจึงไม่ได้เดินเข้าไปใกล้ไป๋ชิงเหยียน เขาปลดเสื้อคลุมตัวหนาออก จากนั้นวางพาดไว้บนฉากกั้น เขายื่นมือไปอังไฟในเตาผิงพลางเอ่ยขึ้น

“เจ้าวางแผนเรื่องทุกอย่างไว้หมดแล้ว ยังต้องปรึกษาอันใดอีก แค่ทำให้ผู้อื่นเห็นเท่านั้น”

ไป๋ชิงเหยียนเห็นเซียวหรงเหยี่ยนกำลังผิงไฟหน้าเตาผิงจึงหันไปรินน้ำชาร้อนให้ชายหนุ่ม เมื่อเห็นเซียวหรงเหยี่ยนเดินเข้ามาใกล้ นางจึงดันถ้วยชาไปวางไว้ด้านข้าง

เซียวหรงเหยี่ยนไม่ได้นั่งลงงบนเตียง ชายหนุ่มถูมือสองข้างไปมา จากนั้นคุกเข่าข้างหนึ่งลงตรงหน้าไป๋ชิงเหยียน สองมือสัมผัสหน้าท้องของหญิงสาว

“ต้องให้ลูกคุ้นเคยกับน้ำเสียงของข้า มิเช่นนั้นเขาอาจไม่รู้จริงๆ ว่าข้าคือพ่อของเขา”

เมื่อสัมผัสได้ว่าลูกกำลังดิ้นเซียวหรงเหยี่ยนจึงเงยหน้ามองไป๋ชิงเหยียนด้วยความดีใจ

“ดิ้นแล้ว!”

“ท่านหมอหงบอกว่าเดือนนี้ลูกจะดิ้นบ่อยกว่าเดิมเป็นเรื่องปกติ ทว่า ลูกเป็นเด็กดีมาก ยามข้ายุ่งเวลากลางวันเขาจะนอนหลับอย่างว่าง่าย!” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว

เซียวหรงเหยี่ยนเอาหูแนบหน้าท้องของไป๋ชิงเหยียนเพื่อฟังความเคลื่อนไหวของลูกในท้องอย่างตั้งใจ

ชายหนุ่มใช้สองมือโอบเอวของไป๋ชิงเหยียนเอาไว้หลวมๆ เขารู้สึกดีใจมากที่ชีวิตนี้ได้พบกับไป๋ชิงเหยียน รู้สึกขอบคุณสวรรค์ที่มอบลูกของเขาและไป๋ชิงเหยียนให้แก่พวกเขา มีเพียงไป๋ชิงเหยียนและลูกในท้องเท่านั้นที่สามารถดับไอสังหารที่มีอยู่ในตัวของเขา ทำให้ใจของเขาค่อยๆ อ่อนโยนมากขึ้นได้

“ข้าจะออกเดินทางพรุ่งนี้เช้า…”

เซียวหรงเหยี่ยนเงยหน้ามองไป๋ชิงเหยียน

“อาเป่า คืนนี้ให้ข้าได้นอนกอดเจ้าและลูกได้หรือไม่”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า

เซียวหรงเหยี่ยนอุ้มไป๋ชิงเหยียนวางลงบนเตียง ชายหนุ่มเดินอ้อมฉากกั้นออกไปรินน้ำร้อนจากกาน้ำใส่กะละมัง เมื่อทดสอบอุณหภูมิน้ำเรียบร้อยจึงยกกลับเข้ามาด้านใน เขาวางกะละมังลงบนที่วางเท้า จากนั้นช่วยถอดถุงเท้าให้ไป๋ชิงเหยียน

“ข้าทำเอง!” ไป๋ชิงเหยียนรีบกล่าว

“ท้องเจ้าใหญ่ขึ้นมากแล้ว ไม่สะดวก ข้าทำเองดีกว่า”

นับตั้งแต่ที่ไป๋ชิงเหยียนตั้งครรภ์เซียวหรงเหยี่ยนแทบไม่มีเวลาอยู่กับหญิงสาวเลย ดังนั้นเวลาที่อยู่ด้วยเซียวหรงเหยี่ยนอยากทำทุกอย่างที่เขาพอจะทำให้นางได้ ทว่า ถึงแม้จะทำเช่นนี้เขาก็ยังรู้สึกว่ามันไม่เพียงพออยู่ดี

เซียวหรงเหยี่ยนจับข้อเท้าที่ขาวนวลราวกับหยกของไป๋ชิงเหยียนอย่างแผ่วเบา เขารู้สึกว่าเท้าของหญิงสาวค่อนข้างเย็น เขาใช้น้ำอุ่นพรมรดบนเท้าของไป๋ชิงเหยียนก่อนเล็กน้อย จากนั้นจับเท้าของหญิงสาวแช่ลงในกะละมังน้ำอุ่น

“ร้อนไปหรือไม่”

ไป๋ชิงเหยียนส่ายหน้า หญิงสาวมองเซียวหรงเหยี่ยนที่กำลังนั่งคุกเข่าล้างเท้าให้นางอยู่ตรงหน้า นางรู้สึกว่าชายหนุ่มตรงหน้ามีความเป็นคนธรรมดาเข้าถึงง่ายมากกว่าเดิม ไม่ใช่อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนผู้สูงศักดิ์ที่มีความมั่นใจและควบคุมทุกอย่างอยู่ในกำมือคนนั้น สิ่งที่นางต้องการคือคนรัก คือสามีที่พร้อมจะร่วมทุกข์ร่วมสุขไปกับนางตลอดชีวิตเท่านั้น

เมื่อดูแลไป๋ชิงเหยียนเรียบร้อย เซียวหรงเหยี่ยนจึงเอนกายลงนอนพร้อมกับไป๋ชิงเหยียน ชายหนุ่มให้นางนอนหนุนบนท่อนแขนในอ้อมกอดของเขา เขาลูบหน้าท้องของหญิงสาวเบาๆ พลางกล่าวเสียงกระซิบ

“แม้เมืองของซีเหลียงจะถูกตีแตกเกือบหมดแล้ว ทว่า เจ้าจงระวังตัวให้มากระหว่างเดินทางกลับเมืองหลวง รีบเดินทางกลับไปโดยเร็วท่านแม่จะได้ไม่เป็นห่วงเจ้า”

ไป๋ชิงเหยียนนอนซบอยู่ในอ้อมกอดของเซียวหรงเหยี่ยน ความอ่อนเพลียถาโถมเข้ามาทันที หญิงสาวหลับตาพลางตอบรับอย่าสะลึมสะลือ

“ข้ารู้แล้ว…”

“ข้าให้คนนำจดหมายรายละเอียดเรื่องการรวมสองแคว้นเป็นหนึ่งไปให้เย่วสือที่รออยู่นอกด่านแล้ว ข้าจะให้เยว่สือส่งแผนการโจมตีเมืองอวิ๋นจิงที่พวกเราปรึกษากับเรียบร้อยไปให้อาลี่ที่เมืองหลวงของต้าเยี่ยน หากพวกเราสองแคว้นร่วมมือกันพวกเราคงยึดเมืองอวิ๋นจิงได้ภายในกลางเดือนสาม”

เซียวหรงเหยี่ยนลูบหน้าท้องของไป๋ชิงเหยียนพลางกล่าวเสียงเบา

“อืม”

พวกนางปรึกษาเรื่องนี้กันไว้นานแล้ว แม้ไม่ได้ลงรายละเอียดลึก ทว่า ไป๋ชิงเหยียน ตระกูลไป๋และเซียวหรงเหยี่ยนต่างเตรียมพร้อมสำหรับเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา

แคว้นเทียนเฟิ่งถูกขับไล่กลับไปยังดินแดนหลังภูเขาหิมะของพวกเขาแล้ว อีกไม่นานเกินรอพวกนางต้องรวบรวมใต้หล้าเป็นหนึ่งได้อย่างแน่นอน

เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวเสียงเบา

“เมื่อลูกของพวกเราโตขึ้น เขาต้องได้เห็นใต้หล้าที่สงบสุขแน่นอน”

สิ้นเสียงของเซียวหรงเหยี่ยน ชายหนุ่มได้ยินเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของไป๋ชิงเหยียน เขารู้ดีว่าไป๋ชิงเหยียนเหนื่อยมาหลายวัน หญิงสาวไปออกรบทั้งๆ ที่ตั้งครรภ์อยู่ ถึงแม้ลูกในท้องจะเป็นเด็กดีมากเพียงใดไป๋ชิงเหยียนก็คงเหนื่อยอยู่ดี

เซียวหรงเหยี่ยนตะแคงกายใช้แขนข้างหนึ่งยันศีรษะเอาไว้ จากนั้นจับปรอยผมของไป๋ชิงเหยียนทัดไปด้านหลังใบหู ชายหนุ่มก้มหน้าจุมพิตใบหูของหญิงสาวเบาๆ จากนั้นนอนหลับตาไปพร้อมกับหญิงสาวคนรักในอ้อมกอด

วันต่อมาไป๋ชิงเหยียนตื่นขึ้นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง หญิงสาวสัมผัสได้ถึงความว่างเปล่าข้างกายจึงเอื้อมมือไปสัมผัสจึงพบว่าที่ตรงนั้นเย็นชืดนานแล้ว เซียวหรงเหยี่ยนคงจากไปนานแล้ว

ไป๋ชิงเหยียนเลิกผ้าห่มหยัดกายลุกขึ้นจากเตียง เสียงเว่ยจงดังมาจากด้านนอก

“ฝ่าบาท ยังเช้าอยู่ สามารถบรรทมต่อได้อีกสักครู่พ่ะย่ะค่ะ”

“ไม่แล้ว…” ไป๋ชิงเหยียนบีบลำคอที่ปวดเมื่อยเล็กน้อยเบาๆ

“ให้ตามคนเข้าไปปรนนิบัติฝ่าบาทตื่นบรรทมเลยหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ” เว่ยจงถามต่อ

“ได้…”

ไป๋ชิงเหยียนแหวกมุ้งออก หญิงสาวเห็นผ้าเช็ดหน้าสี่เหลี่ยมผืนหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะวางตะเกียงข้างเตียง หญิงสาวลุกขึ้นสวมรองเท้า จากนั้นหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาดูท่ามกลางแสงไฟ

ผ้าเช็ดหน้าปักลายดอกเหมยสีแดง เซียวหรงเหยี่ยนเขียนข้อความลงในผ้าเช็ดหน้าด้วยลายมือของเขาเอง

“มีสาวงามข้างกาย ไม่มีทางลืมเลือน ไม่ได้พบกันเพียงหนึ่งวัน คะนึงหาแทบขาดใจ”