ตอนที่ 1204 สมควรตาย

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1204 สมควรตาย

ชาวบ้านซีเหลียงบางคนที่ไม่อยากอยู่รอความตายในเมืองกับต้าโจวรีบเดินไปเข้าแถวทางฝั่งขวาทันที

ตอนนี้เมืองเจียงจือถูกล้อมไว้หมดแล้ว เสบียงอาหารมีอยู่อย่างจำกัด ตอนนี้ทหารต้าโจวยังยินดีแบ่งเสบียงอาหารให้ชาวบ้าน ทว่า ผู้ใดจะรู้ว่าต้าโจวกำลังจงใจขุนพวกเขาให้อ้วนอยู่หรือไม่…

พวกเขาเคยพบเหตุการณ์เช่นนี้ระหว่างอพยพมายังเมืองเจียงจือแล้ว…

แม้ทุกครั้งพวกเขาจะหลับฝันไปว่าตัวเองถึงฆาตแล้ว ทว่า เมื่อตื่นกลับมาแล้วพบว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาจึงรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากแล้ว

บัดนี้เมืองเจียงจือถูกล้อมไว้หมดแล้ว พวกเขาควรรีบหนีออกจากเมืองก่อนที่ตัวเองจะกลายเป็นเสบียงอาหารของทหารต้าโจว

ชาวบ้านบางส่วนได้ยินว่าหลิ่วผิงเกาให้ทหารพาพวกเขาขึ้นไปดูบนกำแพงเมืองจึงตัดสินใจเชื่อคำของหลิ่วผิงเกาและยอมตามหวังจินขึ้นไปบนกำแพงเมือง

ชาวบ้านบางคนทะเลาะกับเมียและลูกของตัวเองจนสุดท้ายตัดสินใจทิ้งลูกและเมียไว้ในเมือง ส่วนตัวเองออกไปเข้าแถวเพื่อออกจากเมืองก่อน หากเขาออกไปได้ค่อยให้เมียและลูกตามออกมาก็ยังไม่สาย

ไม่นานประตูเมืองจึงถูกเปิดออก ชาวบ้านยืนเกาะกลุ่มกันเดินออกไปทางค่ายทหารของซีเหลียงช้าๆ จากนั้นตะโกนเสียงดังลั่นด้วยภาษาซีเหลียง “พวกเราคือชาวบ้านของซีเหลียง พวกเราหนีออกมาจากเมืองเพราะต้องการทางรอด ท่านแม่ทัพได้โปรดอนุญาตให้พวกเราจากไปด้วยเถิด”

ชาวบ้านซีเหลียงที่เพิ่งกลายเป็นชาวบ้านต้าโจวได้ไม่นานยืนอยู่บนกำแพงอย่างเป็นกังวล พวกเขามองดูชาวบ้านซีเหลียงที่เดินจากไปไกลเรื่อยๆ ในใจได้แต่ภาวนาให้พวกเขาจากไปอย่างราบรื่น เช่นนี้พวกเขาจะได้ออกไปจากเมืองบ้าง

ทว่า ชาวบ้านเหล่านั้นยังไม่ทันเข้าใกล้ ทหารซีเหลียงก็ขี่ม้าออกมา จากนั้นเล็งธนูไปทางพวกเขาบังคับให้พวกเขากลับไป

ชาวบ้านซีเหลียงเหล่านั้นคุกเข่าขอร้องทหารซีเหลียงเสียงสะอื้น

“พวกเราไม่อยากตายอยู่กับต้าโจวในเมือง! เดิมทีพวกข้าคือชาวบ้านซีเหลียง พวกข้ายอมกลายเป็นชาวบ้านต้าโจวเพราะต้องการอาหารประทังชีวิต ทว่า พวกข้าเกิดและเติบโตที่แคว้นซีเหลียงตั้งแต่เกิด!”

“ใช่แล้ว พวกเรายอมกลายเป็นชาวบ้านต้าโจวเพราะต้องการมีชีวิตรอด ท่านแม่ทัพได้โปรดปล่อยพวกเราไปเถิดขอรับ”

แม่ทัพซีเหลียงที่อยู่บนหลังม้ารู้ดีว่าจะปล่อยชาวบ้านเหล่านี้ไปไม่ได้เด็ดขาด มิเช่นนั้นหากมีทหารส่งสารของต้าโจวแฝงตัวอยู่ในกลุ่มชาวบ้านเหล่านี้จริงๆ แผนการใหญ่ของซีเหลียงต้องพังไม่เป็นท่าแน่นอน

เขาง้างสายธนูอีกครั้ง “ข้าจะกล่าวเป็นครั้งสุดท้าย รีบไสหัวกลับไปมิเช่นนั้นข้าจะสังหารทิ้งทั้งหมด!”

“ท่านแม่ทัพได้โปรดเห็นแก่ที่พวกเราเป็นคนซีเหลียงเหมือนกัน ปล่อยพวกเราไปเถิด…”

ชาวบ้านซีเหลียงผู้นั้นคลานเข่าไปด้านหน้าหนึ่งก้าวก็ถูกธนูยิงเข้าที่หัวใจจนล้มลงบนกองเลือดทันที

ชาวบ้านซีเหลียงคนที่เหลือกอดกันกลมด้วยความหวาดกลัวทันที

มือของแม่ทัพซีเหลียงที่สังหารชาวบ้านซีเหลียงผู้นั้นสั่นเล็กน้อย เขากำบังเหียนม้าแน่นพลางตะโกนลั่น “ผู้ใดกล้าก้าวเข้ามาอีกก้าวจะมีจุดจบเช่นนี้!”

แม้จะรู้ว่าชาวบ้านส่วนใหญ่คือคนของซีเหลียง ทว่า เขาไม่สามารถปล่อยชาวบ้านเหล่านี้จากไปได้จริงๆ ที่สำคัญเขายิ่งไม่สามารถทำให้จักรพรรดินีแห่งต้าโจวเห็นว่าซีเหลียงให้ความสำคัญกับชาวบ้านเหล่านี้ มิเช่นนั้นจักรพรรดินีแห่งต้าโจวอาจนำชีวิตของชาวบ้านซีเหลียงมาข่มขู่พวกเขาได้

แม่ทัพซีเหลียงคิดว่าไป๋ชิงเหยียนปล่อยคนเหล่านี้ออกมาหยั่งเชิงพวกเขา เขาจะหลุดพิรุธไม่ได้เด็ดขาด

มีเพียงทหารซีเหลียงไม่ใส่ใจชาวบ้านเหล่านี้ ให้ชาวบ้านซีเหลียงเหล่านี้อยู่กินเสบียงอาหารของต้าโจวต่อไป ให้ต้าโจวคอยหวาดระแวงชาวบ้านเหล่านี้ ต้าโจวจะได้สูญเสียแรงและพลังไปกับเรื่องเหล่านี้มากกว่าเดิม

ชาบ้านซีเหลียงเห็นเหตุการณ์จึงรีบวิ่งกลับมาทางเมืองเจียงจือ

“พลธนูเตรียมพร้อม!” หลิ่วผิงเกาตะโกนลั่น

แม่ทัพซีเหลียงได้ยินเสียงของหลิ่วผิงเกาจึงเบิกตาโพลง เขาเกือบเรียกชาวบ้านซีเหลียงเหล่านั้นกลับไป…

“ท่านแม่ทัพ ไม่ได้นะเจ้าคะ! ได้โปรดเถิดเจ้าค่ะ ลูกของข้าไม่สามารถสูญเสียพ่อไปได้เจ้าค่ะ”

“ท่านแม่ทัพได้โปรดปล่อยพวกเขากลับเข้ามาในเมืองเถิดเจ้าค่ะ”

ทหารซีเหลียงไม่อนุญาตให้พวกเขาจากไป อีกทั้งยังสังหารชาวบ้านซีเหลียงด้วยกันเองอีก ต้าโจวบอกไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าไม่อนุญาตให้ชาวบ้านที่ออกไปจากเมืองกลับเข้ามาในเมืองอีก ตอนนี้ต้าโจวสั่งให้พลธนูเตรียมพร้อมแล้ว ชาวบ้านซีเหลียงที่ไร้ทางสู้ทำสิ่งใดไม่ได้นอกเจ้าคุกเข่าอ้อนวอนให้ทหารต้าโจวใจอ่อน

“พวกเราบอกไว้ชัดเจนแล้ว…” หลิ่วผิงเกาแสร้งทำสีหน้าเจ็บปวดออกมา “เมื่อออกไปจากเมืองก็ไม่ใช่ชาวบ้านของต้าโจวอีกต่อไป พวกเขาเป็นคนเลือกทิ้งพวกเราไปเอง เมืองเจียงจือเป็นได้เพียงทางสำรองของพวกเจ้าหรืออย่างไร!”

“ต่อไปพวกเราไม่กล้าอีกแล้วขอรับท่านแม่ทัพ พวกเราจะอยู่เป็นคนของต้าโจวอย่างสงบเสงี่ยมขอรับ!”

“ท่านแม่ทัพ พวกเราจะช่วยกองทัพต้าโจวต่อต้านศัตรูขอรับ ซีเหลียงสังหารพวกเรา ทว่า ต้าโจวมอบเสบียงให้พวกเรากินประทังชีวิต มอบบ้านให้พวกเราอยู่อาศัย พวกเราแยกแยะได้แล้วขอรับว่าผู้ใดคือคนดีผู้ใดคือคนเลว! ท่านแม่ทัพให้โอกาสพวกเขาอีกสักครั้ง ได้โปรดให้พวกเขากลับเข้ามาเถิดขอรับ”

“ได้โปรดเถิดเจ้าค่ะท่านแม่ทัพ”

ชาวบ้านบนกำแพงต่างคุกเข่าอ้อนวอน ชาวบ้านที่อยู่ด้านล่างกำแพงไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นจึงพากันวิจารณ์ไปต่างต่างนานา ไม่รู้ว่าชาวบ้านบนกำแพงกำลังขอร้องให้ทหารต้าโจวปล่อยพวกเขาจากไปหรือเพราะเหตุใดกันแน่

ไม่นานชาวบ้านที่จากไปเหล่านั้นก็วิ่งมาถึงกำแพงเมืองเจียงจือ พวกเขาคุกเข่าอ้อนวอนให้หลิ่วผิงเกาเปิดประตูให้พวกเขากลับเข้าไปในเมือง

แม่ทัพซีเหลียงที่อยู่บนหลังม้านั่งมองภาพเหตุการณ์อยู่จากที่ไกลๆ หากทหารต้าโจวสังหารชาวบ้านซีเหลียงเหล่านี้แสดงว่าชาวบ้านเหล่านี้ล้วนเป็นชาวบ้านบริสุทธิ์ เขาอาจคิดผิดที่ไม่ยอมปล่อยชาวบ้านเหล่านี้จากไป

แต่ไรมาทหารทำสงครามเพื่อปกป้องแคว้นและชาวบ้าน ทว่า ครั้งนี้เขาจำต้องสังหารคนผู้นั้นเพื่อแคว้นซีเหลียง เขาไม่อยากสังหารผิดคน

ไม่นานหลิ่วผิงเกาจึงกัดฟันกรอดพลางกล่าวขึ้น “ช่างเถิด! พวกเจ้าล้วนกลายเป็นชาวบ้านของต้าโจวแล้ว ทหารต้าโจวไม่ควรปฏิเสธไม่รับชาวบ้านของตัวเองเข้ามาในเมือง เปิดประตูเมืองให้พวกเขาเข้ามา!”

สิ้นเสียงของหลิ่วผิงเกา บนกำแพงเมืองเต็มไปด้วยเสียงขอบคุณจากชาวบ้าน

ไม่นานแม่ทัพซีเหลียงจึงเห็นต้าโจวเปิดประตูเมืองรับชาวบ้านเหล่านั้นกลับเข้าไปในเมือง เขาหัวเราะเสียงเย็นออกมา สีหน้าเยือกเย็นลงเช่นเดียวกัน

ทหารต้าโจวส่งคนของตัวเองแฝงตัวมากับกลุ่มชาวบ้านซีเหลียงเพื่อหลอกให้เขาปล่อยชาวบ้านเหล่านั้นจากไปจริงๆ ด้วย

โชคดีที่เขาสังหารทิ้งไปหนึ่งคนแล้ว

หากปล่อยให้พวกเขาจากไปจริงๆ แผนการใหญ่ของซีเหลียงคงพังทลายแน่

คนซีเหลียงเหล่านั้นกล้าร่วมมือกับต้าโจวต่อกรกับซีเหลียง พวกนั้นสมควรตายแล้ว!

คิดได้ดังนี้แม่ทัพซีเหลียงจึงมองไปยังศพที่นอนจมกองเลือดอย่างอาฆาตแวบหนึ่ง จากนั้นขี่ม้าพาทหารจากไปทันที

เขาทิ้งศพของคนผู้นั้นไว้ที่นั่นเพราะต้องการข่มขวัญต้าโจว เขาจะดูสิว่าต้าโจวจะกล้าส่งคนออกมาจากเมืองอีกหรือไม่

หลิ่วผิงเกากำดาบแน่นพลางเดินลงมาจากกำแพง ชาวบ้านเดินตามลงมาด้วย

เมื่อชาวบ้านที่เลือกออกไปจากเมืองได้กลับเข้ามาในเมืองอีกครั้งจึงพากันทรุดกายลงบนพื้น แผ่นหลังชื้นไปด้วยเหงื่อ

เมื่อเห็นหลิ่วผิงเกาเดินเข้ามา ชาวบ้านเหล่านั้นรีบนั่งคุกเข่าอย่างสงบเสงี่ยมด้วยความตกใจ จากนั้นก้มศีรษะคำนับขอบคุณหลิ่วผิงเกา