ตอนที่ 1213 เปิดประตูเมือง

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1213 เปิดประตูเมือง

ตู้ซานเป่าเกลียดแม่ทัพชราชุยซานจงเข้ากระดูกดำ ขณะเดียวกันก็อยากสร้างความดีความชอบด้วย ไป๋ชิงเหยียนสั่งว่าให้จับเป็นแม่ทัพชราชุยซานจงมาให้ได้ไม่ว่าต้องแลกด้วยสิ่งใดก็ตาม ต่อให้ตู้ซานเป่าต้องตายเขาก็จะจับเป็นแม่ทัพชราชุยซานจงมาให้ได้

สิ้นเสียงคำสั่งของแม่ทัพชราชุยซานจง ทหารซีเหลียงพากันถอยทัพหนีทันที

เซียวหรงเหยี่ยนกลัวว่าไป๋ชิงเหยียนจะเป็นกังวล เมื่อเห็นกองทัพซีเหลียงเริ่มถอยทัพหนีเขาจึงสั่งให้เยว่สือนำกองทัพต้าเยี่ยนไปโจมตีค่ายทหารซีเหลียงทางฝั่งตะวันออก ตะวันตกและเหนือทั้งหมด ส่วนเขาพาองครักษ์มุ่งหน้าไปทางกำแพงเมือง

องครักษ์ของเซียวหรงเหยี่ยนควบม้านำหน้าไปถึงหน้าประตูเมือง จากนั้นตะโกนขึ้นเสียงดังลั่น “ท่านอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนนำทัพมาช่วยเหลือต้าโจว ได้โปรดเปิดประตูเมืองเจียงจือด้วย”

ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางเซียวหรงเหยี่ยนที่พาองครักษ์เพียงกลุ่มเดียวมุ่งหน้ามาทางประตูเมือง หญิงสาวกำธนูเซ่อรื้อในมือแน่น หญิงสาวเห็นกีบและท้องของม้าศึกของเซียวหรงเหยี่ยนเต็มไปด้วยดินโคลนก็รู้ทันทีว่าเขาคงเร่งเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้หยุดพักแน่นอน

ไม่รู้เพราะเหตุใดนางจึงรู้สึกจุกแน่นที่หน้าอกเช่นนี้

ตั้งแต่ที่ท่านปู่และท่านพ่อของนางจากไป นางไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีคนมาช่วยเหลือนางเช่นนี้

นางเตือนตัวเองตลอดเวลาว่านางคือพี่หญิงใหญ่ คือหลานสาวคนโตของตระกูลไป๋ แม้หนทางเบื้องหน้าจะลำบากเพียงใดนางก็ต้องปกป้องท่านแม่ อาสะใภ้และน้องๆ ของนางให้ได้ จะไม่มีวันกลายเป็นตัวถ่วงของพวกเขาแน่นอน

นางสามารถเดินทางทั้งวันทั้งคืนไปช่วยน้องสาวที่ต้าเหลียง สามารถเสียสละชีวิตของตัวเองเพื่อน้องชาย ท่านแม่และบรรดาอาสะใภ้ได้! นางสามารถสละชีวิตของตัวเองเพื่อส่วนรวมและความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้!

ในสายตาของนาง ปณิธานและความปลอดภัยของทุกคนในตระกูลไป๋มีความสำคัญมากกว่าตัวนางเอง

นางไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีคนเร่งเดินทางทั้งวันทั้งคืนมาช่วยนางเช่นนี้!

หากคือน้องชายและน้องสาว…นางไม่มีทางปล่อยให้พวกเขาเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่มีทางปล่อยให้พวกเขาละทิ้งเมืองอวิ๋นจิงเพื่อกลับมาช่วยนางจนแผนการใหญ่เสียหาย

ทว่า นางไม่คิดมาก่อนเลยว่าเซียวหรงเหยี่ยนจะมา เพราะในความคิดของนางเซียวหรงเหยี่ยนคือคนประเภทเดียวกันกับนาง เขาคือคนที่เห็นเรื่องของแคว้นสำคัญกว่าความรู้สึกระหว่างบุรุษและสตรี

บัดนี้กองทัพต้าเยี่ยนกำลังมุ่งหน้าไปโจมตีเมืองอวิ๋นจิง แม้สองแคว้นจะไม่ได้กล่าวออกมาอย่างเปิดเผย ทว่า ลึกๆ แล้วพวกเขากำลังแข่งขันกันอยู่ว่าผู้ใดจะไปถึงเมืองอวิ๋นจิงเร็วกว่ากัน

ต้าโจวยึดด่านเย่เฉิงและจับเป็นหลี่เทียนฟู่ได้ หากต้าเยี่ยนต้องการเอาชนะต้าโจวพวกเขาต้องยึดเมืองอวิ๋นจิงและจับเป็นหลี่เทียนเจียวให้ได้ก่อนต้าโจว

ทว่า เซียวหรงเหยี่ยนกลับไม่ได้มุ่งหน้าไปเมืองอวิ๋นจิงแต่ย้อนกลับมาช่วยเหลือนางแทน ที่สำคัญยังมาถึงเร็วถึงเพียงนี้อีกด้วย!

นางรู้ดีว่าเซียวหรงเหยี่ยนต้องทอดทิ้งสิ่งใดไป!

ต้าเยี่ยนต้องสูญเสียเมืองสำคัญเมืองหนึ่งที่ต้าเยี่ยนสามารถนำมาแข่งขันกับต้าโจวได้เมื่อสองแคว้นแข่งขันเรื่องระบอบการปกครอง เมืองหลวงอวิ๋นจิงของซีเหลียงคือเมืองศูนย์กลางของซีเหลียงที่ได้รับการบูรณะใหม่เรียบร้อย

หากได้ครอบครองเมืองอวิ๋นจิงวันหน้าต้าเยี่ยนยังพอมีหวังที่จะแข่งขันกับต้าโจว

หากไม่มีเมืองอวิ๋นจิง…เท่ากับต้าเยี่ยนพ่ายแพ้แล้ว

ตอนนี้เซียวหรงเหยี่ยนเดินทางมาถึงหน้าประตูเมืองแล้ว ชายหนุ่มเงยหน้ามองไป๋ชิงเหยียน เมื่อเห็นหญิงสาวปลอดภัยดีเขาจึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

เร่งเดินทางทั้งวันทั้งคืนโดยไม่พักผ่อน…ในที่สุดเขาก็มาทันเวลา

เซียวหรงเหยี่ยนไม่กล้าคิดว่าหากเขามาช้ากว่านี้อีกเพียงคืนเดียว หากเมืองเจียงจือถูกตีแตก…ผลลัพธ์จะกลายเป็นเช่นไร

เขารู้จักไป๋ชิงเหยียนดี หญิงสาวไม่มีทางปล่อยให้ตัวเองกลายเป็นภาระของแม่ทัพทุกคนของตระกูลไป๋ ยิ่งไม่มีทางปล่อยให้ตัวเองกลายเป็นอุปสรรคในการรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งแน่นอน

ไป๋ชิงเหยียนไม่กลัวตาย ทว่า เขากลัว…

หลายวันมานี้ความคิดนี้ติดอยู่ในสมองของเซียวหรงเหยี่ยน มันบีบรัดจนเขาปวดใจตลอดเวลา

เซียวหรงเหยี่ยนนั่งอยู่บนหลังม้าศึกท่ามกลางซากศพและกองเลือด เขากำบังเหียนม้าในมือพลางมองไปทางไป๋ชิงเหยียนซึ่งสวมชุดเกราะสีเงิน รวบผมสูงบนกำแพงนิ่ง เขาอยากรั้งนางเข้ามากอดแนบอกแน่น ไม่ปล่อยมือจากนางอีกต่อไป

ลำคอของไป๋ชิงเหยียนร้อนผ่าว นางหันไปกล่าวกับหวังจิน “ให้คนเปิดประตูให้อ๋องเก้าเข้ามา”

หวังจินตะโกนสั่ง “เปิดประตูเมือง!”

“ฝ่าบาท…” เว่ยจงอยากรับธนูเซ่อรื้อที่หนักอึ้งมาจากมือของไป๋ชิงเหยียน “บ่าวประคองฝ่าบาทลงไปด้านล่างนะพ่ะย่ะค่ะ”

ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าที่เซียวหรงเหยี่ยนจะปรากฏตัวขึ้นไป๋ชิงเหยียนไม่รู้สึกอ่อนล้าสักนิด ทว่า เมื่อชายหนุ่มปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูเมืองไป๋ชิงเหยียนกลับรู้สึกว่านางใช้แรงไปมหาศาลจนตอนนี้ไร้สิ้นเรี่ยวแรง

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้าพลางจับมือเว่ยจงเดินลงไปด้านล่างกำแพง

ทหารและชาวบ้านในเมืองเจียงจือต่างแหวกทางให้อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนที่ยกทัพมาช่วยเหลือพวกเขาเข้ามาในเมือง

เซียวหรงเหยี่ยนสวมชุดเกราะที่เปื้อนไปด้วยเลือดเข้ามาในเมืองด้วยร่างที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด เลือดสดจากขนของม้าศึกที่ชายหนุ่มนั่งอยู่หยดลงบนพื้น พวกเขาไม่รู้ว่าคือเลือดของมันเองหรือเลือดของศัตรูกันแน่

เมื่อเห็นร่างที่เปื้อนไปด้วยเลือดของทหารต้าเยี่ยน ชาวบ้านต่างพากันถอยหลังหนีด้วยความหวาดกลัว พวกเขาเห็นอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนที่สวมหน้ากากปิดบังใบหน้าและนั่งอยู่บนหลังม้าศึกโยนดาบยาวเปื้อนเลือดให้องครักษ์ที่อยู่ทางด้านหลัง ทุกคนพากันถอยหลังหนีไปอีกทางด้วยความหวาดหวั่น ไม่มีผู้ใดกล้าเงยหน้าสบตากับอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยอำนาจเลยสักคน

เมื่อได้ยินเสียงไป๋ชิงเหยียนเดินลงมาจากกำแพงเมืองชาวบ้านรีบหลีกทางให้หญิงสาวเดินมาหยุดอยู่ข้างกายเซียวหรงเหยี่ยน

“อ๋องเก้า…” ไป๋ชิงเหยียนก้มศีรษะให้เซียวหรงเหยี่ยนเล็กน้อย “ขอบพระคุณอ๋องเก้ามากที่ยกทัพมาช่วยเหลือพวกเราในครั้งนี้”

ลำคอของเซียวหรงเหยี่ยนร้อนผ่าว เขายกมือคารวะไป๋ชิงเหยียนพลางกล่าวขึ้นด้วยเสียงแหบพร่า “ฝ่าบาททรงเป็นอันใดหรือไม่”

ไป๋ชิงเหยียนเม้มปากเล็กน้อย จากนั้นส่งยิ้มอ่อนๆ ให้ชายหนุ่ม “อ๋องเก้าไม่ต้องเป็นห่วง ข้าสบายดี…”

“ฝ่าบาทเสด็จกลับจวนว่าการก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ ให้ทหารเก็บกวาดสถานที่ก่อน” เว่ยจงก้าวเข้าไปกล่าวกับไป๋ชิงเหยียนเสียงเบา จากนั้นหันไปทำความเคารพเซียวหรงเหยี่ยน “ท่านอ๋องต้องควรเปลี่ยนฉลององค์และพักผ่อนเสวยน้ำชาสักนิดพ่ะย่ะค่ะ”

“กลับไปสนทนากันต่อที่จวนเถิด เชิญอ๋องเก้า…” ไป๋ชิงเหยียนผายมือเชิญเซียวหรงเหยี่ยน

เซียวหรงเหยี่ยนพยักหน้าให้หญิงสาวด้วยท่าทีปกติ จากนั้นเดินตามหลังหญิงสาวไปยังที่พัก

เขามองตามแผ่นหลังของไป๋ชิงเหยียน ก้าวเท้าไปด้านหน้าทีละก้าวด้วยความยากลำบาก

บาดแผลเก่าของเขายังไม่หายดี ทว่า เซียวหรงเหยี่ยนเป็นห่วงความปลอดภัยของไป๋ชิงเหยียนจึงเร่งเดินทางมาโดยไม่หยุดพัก ระหว่างทางเขาไข้ขึ้นสูงไม่ลด หลังผ่านสงครามหนักในครั้งนี้ร่างกายจึงแทบทนไม่ไหวแล้ว

ไม่นานทุกคนจึงไปถึงจวนว่าการ เว่ยจงเชิญเซียวหรงเหยี่ยนไปนั่งพักที่ห้องตำราของไป๋ชิงเหยียน บ่าวรับใช้ทยอยนำน้ำชาและของว่างเข้าไปให้ชายหนุ่ม

ชุนจือที่รออยู่ในจวนอย่างเป็นกังวลเห็นไป๋ชิงเหยียนกลับมาจึงรีบถลาเข้าไปต้อนรับ ทว่า กลับตกใจเมื่อเห็นร่างที่โชกไปด้วยเลือดของเซียวหรงเหยี่ยน

เว่ยจงเอ่ยถามเซียวหรงเหยี่ยน “หมอทหารกำลังมา ท่านอ๋องเก้าจะเปลี่ยนฉลององค์ก่อนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

เซียวหรงเหยี่ยนเม้มปากแน่นพลางส่ายหน้า

“เว่ยจงกับชุนจือออกไปก่อน…” ไป๋ชิงเหยียนปลดเสื้อคลุมกันลมออกวางไว้ที่ด้านข้าง “เมื่อหมอทหารมาเจ้าค่อยพาเขาเข้ามา”

“พ่ะย่ะค่ะ” เว่ยจงจากไป เขากำชับบ่าวทุกคนว่าไป๋ชิงเหยียนมีเรื่องสำคัญต้องปรึกษากับอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยน ให้ทุกคนห้ามเข้าไปรบกวนพวกเขา จากนั้นหันไปกล่าวกับชุนจือ “ชุนจือ ฝ่าบาทและท่านอ๋องเก้ามีเรื่องสำคัญต้องปรึกษากัน ไม่จำเป็นต้องให้พวกเราเข้าไปปรนนิบัติ เจ้าไปต้มน้ำร้อนในโรงครัวให้ฝ่าบาทที”