ตอนที่ 2,551 : วังคลื่นสวรรค์ระทมทุกข์

ต้วนหลิงเทียนย่อมไม่ทราบว่าหลังจากที่เขาลงมือเข่นฆ่าผู้คนในวังคลื่นสวรรค์ได้แค่ครึ่งเดือน เรื่องราวการลงมือของเขาก็แพร่ไปทั่วทั้งดาราจักรคลื่นสวรรค์ กระทั่งยังเริ่มแพร่ไปยังดาราจักรรอบๆ อีกด้วย

ที่สำคัญคือมันไม่ได้หยุดในละแวกดาราจักรใกล้เคียงเท่านั้น ยังคงลุกลามไปเรื่อยๆ!

ทั้งหมดเป็นเพราะเรื่องที่เขากระทำมันใหญ่โตเกินไป!

ในประวัติศาสตร์ของระนาบเหยียนหวง แม้จะมีเรื่องที่เซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ตกตายก่อนขึ้นสวรรค์อยู่บ้าง

อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่จะตกตายเพราะถูกอัสนีทัณฑ์เซียนอมตะเสเพล ฟาดผ่า…

มีเพียงเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ไม่กี่คนเท่านั้นที่ถูกคนอื่นฆ่าตาย!

แม้จะเกิดเรื่องทำนองที่ มียอดฝีมือจากระนาบเทวโลกลงมาเข่นฆ่าเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์อยู่บ้าง แต่ตลอดประวัติศาสตร์ของระนาบเหยียนหวง ก็มีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นน้อยครั้ง ถึงขั้นนับได้ด้วยนิ้วมือข้างเดียว

เนื่องเพราะตัวตนที่มาจากระนาบเทวโลกนั้น เอาแค่จะย้อนมายังระนาบโลกียะก็ไม่มีใครอยากกทำแล้ว เพราะจะทำให้แปดเปื้อนกรรมของระนาบโลกียะเรื่องที่จะยอมเสียอนาคตตัวเอง มาฆ่าคนในระนาบโลกียะแสนต้อยต่ำย่อมไม่มีใครคิดจะทำแน่นอน

ดังนั้นในประวัติศาสตร์ของระนาบเหยียนหวง จึงมีเรื่องเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ถูกฆ่าตายบันทึกไว้น้อยครั้ง

ด้วยเหตุนี้พอต้วนหลิงเทียนฆ่าเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ได้ จึงกลายเป็นเรื่องใหญ่โต! และถูกเล่าสู่กันฟังปากต่อปากจนแพร่ไปทั่ว!!

แพร่กระจายไปทั่วจริงๆ!!

นั่นเพราะไม่ว่าใครก็คิดว่าเรื่องนี้มันน่าเหลือเชื่อ และเป็นเรื่องน่าตกใจอย่างมาก!

“ต้วนหลิงเทียน? สามารถใช้ค่ายกลกระบี่พิสดารฉกชิงยอดสมบัติสวรรค์ของผู้อื่นได้?”

ขณะเดียวกัน ก็มีคนของระนาบเหยียนหวงไม่น้อยที่ได้กลับออกมาจากแดนลับต่างสวรรค์แล้ว พอได้ยินข่าวลือดังกล่าวจึงบังเกิดความรู้สึกคุ้นเคยไม่น้อยเพราะวิธีการลงมือเข่นฆ่าเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ดังกล่าวมันช่างคุ้นเสียเหลือเกิน!

และพอคนเหล่านี้สอบถามรายละเอียดชายหนุ่มชุดม่วงที่เข่นฆ่าบรรพบุรุษวังคลื่นสวรรค์ไป จนได้รู้ว่าเป็นบุรุษหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคิ้วคมเข้มดั่งดาบ รวมถึงรายละเอียดต่างๆ…

ทำให้พวกมันเชื่อมโยงกับต้วนหลิงเทียนที่ก่อเรื่องราวสะท้านสะเทือนด้านนอกมรดกสถานต้าหลัวจินเซียนทันที! การเข่นฆ่าเซียนอมตะเสเพล 8ทัณฑ์อันน่าเหลือเชื่อนั่น!!

“ที่แท้เป็นมัน!!”

“ไม่อยากจะเชื่อเลย! นึกไม่ถึงจริงๆ…ว่าจะเป็นเจ้านั่น!!”

“เจ้าตัวร้ายกาจนั่น…มันมาเยือนระนาบเหยียนหวงของพวกเราจริงๆหรือ?”

“พวกเจ้าน่ะ แน่ใจหรือว่าคนที่ฆ่าบรรพบุรุษวังคลื่นสวรรค์เป็นตัวมันเอง ไม่ใช่สตรีข้างกายมัน?”

“ฟังจากต้นเรื่อง ดูเหมือนมันจะลงมือเข่นฆ่าเอง!”

“สวรรค์ช่วย! ตอนแรกข้านึกว่ามีแต่สตรีข้างกายมันคนนั้นเสียอีกที่เข่นฆ่าเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ได้…แต่ตอนนี้ดูเหมือนตัวมันเองก็มีพลังมากพอจะฆ่าเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ ทั้งเห็นว่าเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ของวังคลื่นสวรรค์นั่น ยังตกตายในกระบวนท่าเดียวด้วย?!”

“ข้าก็ได้ยินมาเหมือนกัน มันฆ่าเซียนอมตะเสเพล 9ทัณฑ์ด้วยพลังที่เหนือชั้นกว่าจริงๆ!”

“การช่วงชิงยอดสมบัติสวรรค์ของผู้อื่น เป็นจุดเปลี่ยนจริงๆ…ถึงมันจะเป็นแค่ครึ่งก้าวเซียนอมตะแต่หากพลังฝีมือของมันก้าวหน้าจนทัดเทียมกับเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ได้จริง เช่นนั้นถ้าหากมันสามารถใช้ยอดสมบัติสวรรค์ได้ แต่คู่ต่อสู้ใช้ไม่ได้…จะมีเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์หน้าไหนสู้มันได้อีกเล่า?!”

หลังยืนยันได้ว่าชายหนุ่มชุดม่วงที่สังหารบรรพบุรุษของวังคลื่นสวรรค์ ก็คือคนๆเดียวกันกับต้วนหลิงเทียนที่โด่งดังในแดนลับต่างสวรรค์ ทั้งหมดก็ตกใจกันใหญ่!

ขณะเดียวกันผู้คนมากมายในระนาบเหยียนหวง ก็เริ่มมีความเข้าใจในตัวต้วนหลิงเทียนมากขึ้น

ต้วนหลิงเทียนคนนี้ ที่แท้ไม่ใช่คนของระนาบเหยียนหวง แต่มาจากระนาบเซียน!

นอกจากนั้นต้วนหลิงเทียนคนนี้ไม่ใช่แม้แต่เซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์แต่อย่างใด เป็นแค่ครึ่งก้าวเซียนอมตะเท่านั้น!!

อีกทั้งข้างกายต้วนหลิงเทียนผู้นี้ เห็นว่ายังมีสตรีร้ายกาจนางหนึ่งที่เปิดเผยแล้วภายหลังว่าเป็นภรรยา หากแต่มีพลังน่ากลัวทัดเทียมตัวตนจินเซียนจากระนาบเทวโลก! เพียงสะบัดมือก็ฆ่าเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ 2 คนได้พร้อมๆกัน…!!

ยิ่งข้อมูลของต้วนหลิงเทียนถูกเปิดเผยออกมามากเท่าไหร่ ผู้ฝึกตนในระนาบเหยียนหวงก็บังเกิดอาการสะท้านสะเทือนมากขึ้นเท่านั้น!

“สวรรค์! ตัวตนฝืนฟ้าเช่นมันหลุดออกมาจากนรกขุมใดกันแน่!?”

“เหอๆ…ผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์คนหนึ่งที่มาจากระนาบโลกียะขนาดย่อมๆอันขาดแคลนทรัพยากรอย่างระนาบเซียนกลับเป็นครึ่งก้าวเซียนอมตะที่พลังฝีมือร้ายกาจขนาดนี้…ในประวัติศาสตร์ของระนาบเหยียนหวงเรา ครึ่งก้าวเซียนอมตะที่ร้ายกาจเท่ามันยังไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนเลยมิใช่หรือไร?”

“ให้ตายเถอะ! ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันยังเป็นแค่ครึ่งก้าวเซียนอมตะจริงๆ!”

“เจ้าไม่ได้ยินรึไง ว่าข้างกายมันมีสตรีนางหนึ่ง ที่พลังฝีมือหลุดโลกกว่ามันเสียอีก มารดามันเถอะ!แค่สะบัดมือลบเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์สองคนให้หายไปหน้าตาเฉย นางเป็นเทพมารจากที่ใดกัน!”

“ดูเหมือนที่พลังฝึกปรือมันมีเพียงครึ่งก้าวเซียนอมตะแต่ร้ายกาจขนาดนี้ได้ ไม่พ้นสิบในสิบล้วนเป็นเพราะสตรีข้างกาย!”

“ช้าก่อน! ข้าจำได้ว่า…เซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์บรรพบุรุษของวังคลื่นสวรรค์นั่น มันเป็นผู้บ่มเพาะร่างวิญญาณควบแน่นมิใช่หรือไร? เช่นนั้นต่อให้พลังความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียนจะทรงอานุภาพเหนือเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์แล้วจะอย่างไรเล่า…มิใช่ว่าระดับจิตวิญญาณของต้วนหลิงเทียนก็เป็นแค่ครึ่งก้าวเซียนอมตะรึไง? เจ้านั่นอาศัยแค่เศษพลังวิญญาณก็สมควรฆ่าต้วนหลิงเทียนได้แล้วนี่!”

วาจาทำนองดังกล่าวเริ่มดังขึ้นไปทั่วระนาบเหยียนหวง

ไม่นานเรื่องราวเหล่านี้ก็แพร่มาถึงสำนักเทียนซือ

“ตะ…ต้วนหลิงเทียน ฆะ…ฆ่าเซียนอมตะเสเพล 9ทัณฑ์ของวังคลื่นสวรรค์?”

สหายที่ต้วนหลิงเทียนพบเจอในแดนลับต่างสวรรค์อย่าง ‘จางยี่’ อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงหลังได้ยินข่าวเรื่องราว

“จางยี่…นับเป็นพรจากฟ้าจริงๆที่เจ้าได้รู้จักกับคนผู้นั้น”

และคนที่นำข่าวดังกล่าวมาบอกจากยี่ก็คืออาวุโสฉีจง ผู้พิทักษ์คนหนึ่งของสำนักเทียนซือ สายตาที่มันใช้มองจางยี่ตอนนี้ยังเผยความรู้สึกยากจะกล่าว

ในวันนั้นแม้จะได้เห็นต้วนหลิงเทียนลงมือสังหารอดีตผู้พิทักษ์สำนักเทียนซือ จางฉู่เหอ แต่มันก็คิดว่าพลังฝีมือต้วนหลิงเทียนเพยีงเทียบได้กับเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์เท่านั้น

คิดไม่ถึงจริงๆว่าต้วนหลิงเทียนคนนั้น ยังฆ่าได้กระทั่งเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์

ยิ่งไปกว่านั้นฟังว่าเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ของวังคลื่นสวรรค์ ถึงกับถูกฆ่าตายในกระบวนท่าเดียว!

“เซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ของวังคลื่นสวรรค์ แม้จะมีพลังฝีมือสู้เซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ของสำนักเทียนซือเราไม่ได้…แต่เกรงว่าอย่างดีก็อ่อนด้อยกว่ากันไม่เท่าไรมิใช่หรือ?”

จังหวะนี้ฉีจงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัว

“สำหรับข้า เรื่องนี้เป็นพรจากฟ้าจริงๆ…”

ได้ยินคำของฉีจง จางยี่ย่อมพยักหน้ารับอย่างไม่คิดจะปฏิเสธ เพราะการที่มันได้มีสหายอย่างต้วนหลิงเทียน ก็ไม่ต่างอะไรจากพรจากฟ้าจริงๆ…

มันเชื่อว่า…

ด้วยชื่อเสียงที่เลื่องลือของต้วนหลิงเทียนในตอนนี้ กระทั่งบรรพบุรุษของสำนักเทียนซือมัน ก็ต้องให้ความสนใจทั้งให้ความสำคัญกับมันเป็นพิเศษ!

และทั้งหมดเพราะมันเป็นสหายของต้วนหลิงเทียน เป็นคนที่ต้วนหลิงเทียนออกหน้าพูดให้!

เรื่องนี้ตั้งแต่ที่ต้วนหลิงเทียนจากไปวันนั้น มันก็เห็นได้ชัดจากท่าทีของผู้พิทักษ์ฉีจงแล้ว…

หลังจากนั้นไม่นาน ความจริงก็ยืนยันว่าสิ่งที่จางยี่คิดไว้มันถูกเผง

มันไม่เพียงแต่จะได้รับความสำคัญจากบรรพบุรุษสำนักเทียนซือเท่านั้น ยังถูกจ้าวสำนักเทียนซือรับเป็นศิษย์ปิดสำนัก สอนสั่งวรยุทธ์เซียนอมตะ และเวทย์พลังที่ดีที่สุดเท่าที่สำนักเทียนซือมีด้วยตัวเอง…

แน่นอนว่านี่เป็นเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง…

“อย่างไรก็ตามในข่าวที่ลือกัน…บรรพบุรุษวังคลื่นสวรรค์มิใช่ผู้บ่มเพาะร่างวิญญาณควบแน่นหรือไร…ขอเพียงมันใช้ทักษะวิญญาณหรืออำนาจจิตอันใดใส่ต้วนหลิงเทียนส่งๆ ก็คงทำลายวิญญาณต้วนหลิงเทียนที่มีระดับครึ่งก้าวเซียนอมตะได้ไม่ยากนี่นา?”

ฉีจงบ่นถามออกมาด้วยความงุนงง

“ผู้พิทักษ์ฉี…หรือคนผู้นั้นจะไม่รู้มาก่อนว่าต้วนหลิงเทียนเป็นครึ่งก้าวเซียนอมตะ?”

จางยี่คาดเดา

และการคาดเดาของจางยี่ก็ถูกเผง!

ณ ดาราจักรคลื่นสวรรค์

ภายในส่วนลึกของวังคลื่นสวรรค์ จ้าววังคลื่นสวรรค์อย่างหยางชิงเจียน ก็มีคนมารายงานข่าวเรื่องราวของต้วนหลิงเทียนให้รับทราบ

“ว่าอะไร!?”

“มัน…มันยังเป็นแค่ครึ่งก้าวเซียนอมตะ?”

หลังจากที่ได้รับทราบความจริงว่าต้วนหลิงเทียนที่แท้เป็นแค่ครึ่งก้าวเซียนอมตะ หยางชิงเจียนก็โมโหจนแทบกระอักเลือด ร่างยังโซเซไปคล้ายคนกำลังจะเป็นลม!

หากรู้แต่แรกว่าต้วนหลิงเทียนเป็นเพียงครึ่งก้าวเซียนอมตะ เช่นนั้นบรรพบุรุษของพวกมันอาศัยเพียงเศษพลังวิญญาณลงมือส่งๆ ก็ทำลายวิญญาณเข่นฆ่าต้วนหลิงเทียนได้ง่ายๆ!

ต้องทราบด้วยว่าบรรพบุรุษของพวกมันไม่ใช่เซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ธรรมดา แต่เป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ที่เสียเวลาบ่มเพาะร่างวิญญาณควบแน่น!

หากรู้แต่แรกว่าต้วนหลิงเทียนเป็นครึ่งก้าวเซียนอมตะ บรรพบุรุษของพวกมันคงใช้ทักษะวิญญาณแต่แรก!!

“แต่ตอนนั้นยังจะมีผู้ใดคิด…ว่าต้วนหลิงเทียนเป็นเพียงครึ่งก้าวเซียนอมตะ…”

อาวุโสสูงสุดขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ที่มาส่งข่าวให้จ้าววังฟัง ก็ได้แต่ยิ้มหน้าแหยออกมาอย่างช่วยไม่ได้

และอย่าว่าแต่จ้าววังอย่างหยางชิงเจียน ตอนนี้ไม่ว่าใครในวังคลื่นสวรรค์พอได้รับทราบเรื่องราวดังกล่าวก็บังเกิดความรู้สึกยากบรรยายด้วยกันทั้งสิ้น

เรียกว่าข่าวดังกล่าวได้หอบความเศร้าความเสียใจทั้งความรู้สึกอัดอั้นถึงที่สุดมาสู่วังคลื่นสวรรค์ครั้งใหญ่!

“อะไรนะ!? ต้วนหลิงเทียนคนนั้นเป็นแค่ครึ่งก้าวเซียนอมตะหรือ!? ถล่มมารดามันเถอะ!!”

“ทะ…ท่านบรรพบุรุษเราตายอย่างไร้ความเป็นธรรม! ท่านบรรพบุรุษตายอย่างไร้ความเป็นธรรม!!”

ไม่ว่าระดับสูงหรือต่ำของังคลื่นสวรรค์ บัดนี้ล้วนโศกเศร้าอาลัยทั้งสิ้น

ก่อนหน้านี้พวกมันต่างคิดกันไปว่าต้วนหลิงเทียนเป็นตัวตนขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์แน่ๆ เพราะไม่เพียงแต่พลังของต้วนหลิงเทียนจะร้ายกาจถึงขั้นฆ่าบรรพบุรุษพวกมันได้ง่ายดาย ทักษะที่ใช้ชิงยอดสมบัติสวรรค์นั่นยังลึกล้ำสุดหยั่ง!

ถึงแม้พวกมันจะเคียดแค้นทั้งโมโหอีกฝ่ายมากเท่าไหร่ แต่พวกมันก็ยังพอทำใจยอมรับได้

ผู้ใดใช้ให้ต้วนหลิงเทียนนั่นทรงพลังทั้งร้ายกาจกว่าท่านบรรพบุรุษของพวกมันเล่า?

แต่ตอนนี้พอได้รู้ว่า ที่แท้ต้วนหลิงเทียนยังเป็นแค่ครึ่งก้าวเซียนอมตะเท่านั้น!

รับไม่ได้!!

จะสูงหรือต่ำของวังคลื่นสวรรค์ ล้วนรับไม่ได้ทั้งสิ้น!!

ในขณะที่คนของวังคลื่นสวรรค์ร่ำร้องโอดครวญก่นด่าฟ้าว่าไม่ยุติธรรม และบังเกิดความรู้สึกยากจะยอมรับได้นั้น

ด้านต้วนหลิงเทียนกับถังเซี่ยวเซี่ยวได้เดินทางกลับมายังแดนลับต่างสวรรค์อีกครั้ง ก่อนที่ต้วนหลิงเทียนจะพานางไปยังประตูเข้าออกระนาบเซียน ระนาบที่เป็นดั่งบ้านเกิดของเขาในชีวิตนี้

หลังกลับมาถึงระนาบเซียน ต้วนหลิงเทียนก็เดินทางไปยังภาคกลางและถามไถ่สถานการณ์เรื่องราวความเป็นไปจากกลุ่มพันธมิตรที่ช่วยกันเฝ้าระวังเผ่าพันธุ์ปีศาจ

เขายังอดไม่ได้ที่จะระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อได้รับทราบว่าสุดท้ายเรื่องราวก็เป็นไปดั่งที่เขาคาดไว้ เผ่าปีศาจไม่กล้าเคลื่อนไหวใหญ่โตอะไรในช่วงที่เขาไม่อยู่…

“ตอนนี้…ได้เวลาให้พวกปีศาจทั้งหลายล่าถอยกลับแดนเนรเทศแล้ว…”

ต้วนหลิงเทียนลอยร่างค้างกลางหาวอย่างเงียบงัน มองลงไปยังนครแห่งบาปเบื้องล่างด้วยสายตาเยียบเย็น

จากนั้นสักพักต้วนหลิงเทียนก็ปริปากกล่าววาจาผสานไว้ด้วยพลังเซียนต้นกำเนิด เพื่อประกาศเรื่องราวให้ทั้งมนุษย์และเผ่าปีศาจในนครแห่งบาปได้ยินกันอย่างทั่วถึง

“ข้า ต้วนหลิงเทียน ขอท้ายอดฝีมือที่แข็งแกร่ที่สุดของเผ่าปีศาจให้ไปพบกันที่ทางตอนเหนือห่างจากนครแห่งบาปพันลี้ในอีก 1 เดือนหลังจากนี้!”

“หากเผ่าปีศาจไม่ยอมรับคำท้าแต่โดยดี! ข้าจะเริ่มไล่ล่าสังหารล้างเผ่าพันธุ์ปีศาจทั้งหมดในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าอย่างไร้ซึ่งความปราณีใดๆ!!”