ตอนที่ 2,569 : กงซุนเวิ่นเทียน…พินาศ!

หลังตระหนักได้ว่าต้วนหลิงเทียนไม่ได้กลัวทักษะวิญญาณของมันเลย กงซุนเวิ่นเทียนย่อมรู้ดีว่ามันไม่อาจต่อกรกับต้วนหลิงเทียนได้อีกต่อไป กระทั่งสิบส่วนเต็มไม่พ้นต้วนหลิงเทียนต้องชำระแค้นที่มันจับซูหลี่มาแน่นอน…!

จังหวะนี้มันได้แต่ใช้ซูหลี่เป็นโล่เท่านั้น

อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ในปัจจุบัน ดูเหมือนความคิดดังกล่าวของมันช่างไร้เดียงสานัก!

ต้วนหลิงเทียนไม่สนคำขู่ของมัน กระทั่งยังขู่กลับว่าหากซูหลี่ตกตาย ทุกชีวิตในตระกูลกงซุนของมันไม่พ้นตายตก…เข่นฆ่าล้างตระกูล!!

หากมันไม่รู้ว่าต้วนหลิงเทียนสามารถป้องกันอำนาจจิตได้ละก็…มันย่อมคิดว่านี่เป็นเพียงวาจาเขื่องโขอวดโอ่!

แต่ตอนนี้มันตระหนักได้ชัดเจน…

ต้วนหลิงเทียนมีพลังสามารถกระทำได้จริง!

“ต้วนหลิงเทียน บรรพบุรุษต้นตระกูลกงซุนของข้าก็คือ ‘กงซุนเซียนหยวน’ ท่านเป็นถึงจักรพรรดิสวรรค์ที่มียอดฝีมือใต้อาณัติมากมายดั่งหมู่เมฆ…หากเจ้ากล้าทำลายตระกูลกงซุนของข้าล่ะก็ ท่านบรรพบุรุษของตระกูลกงซุนข้าไม่มีวันอภัยให้เจ้าแน่!!”

กงซุนเซียนหยวนมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาดุดัน หมายใช้บรรพบุรุษต้นตระกูลอย่างกงซุนเซียนหยวนมาข่มขู่ต้วนหลิงเทียนให้รามือ

ตอนนี้มันรู้แล้วว่าไม่อาจใช้ชีวิตซูหลี่มาข่มขู่อะไรต้วนหลิงเทียนได้อีก แถมชีวิตของซูหลี่ยังผูกติดกับทุกชีวิตในตระกูลกงซุนของมันเสียอย่างนั้น!!

มันก็ได้แต่หาวิธีอื่น!

“กงซุนเซียนหยวน?”

อย่างไรก็ตาม ต้วนหลิงเทียนพลันคลี่ยิ้มออกมาอีกครั้งเมื่อได้ยินคำขู่ดังกล่าวของกงซุนเวิ่นเทียน จากนั้นค่อยกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงค่อนแคะหยันหยาม “เท่าที่ข้ารู้มาบรรพบุรุษต้นตระกูลกงซุนของพวกเจ้าอย่างกงซุนเซียนหยวน แม้จะมีพื้นเพมาจากระนาบเหยียนหวงจริง แต่หลังจากขึ้นสู่ระนาบเทวโลกได้สักพัก ก็ส่งสายเลือดตัวเองไปสร้างตระกูลไว้ในระนาบโลกียะอื่นๆจนมีลูกหลานไม่น้อย…”

เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ผู้เฒ่าหั่วในเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติเคยบอกเขา และผู้ที่มีอำนาจก็มักกระทำกันเช่นนี้

“ทุกวันนี้นับประสาอะไรกับสายเลือดที่สืบทอดต่อกันมาของอาวุโสกงซุนเซียนหยวนในระนาบเหยียนหวงจะไม่ได้มีแต่ตระกูลกงซุนเจ้าที่เดียว แต่ยังมีวังเซียนหยวนอยู่…แม้ในระนาบเหยียนหวงจะมีสายเลือดของอาวุโสแค่ตระกูลกงซุนเจ้าที่เดียว แต่อาวุโสก็คงไม่แม้แต่จะแยแสลูกหลานที่ชักศึกเข้าบ้านอย่างโง่เขลาเช่นพวกเจ้าแน่…”

“และถึงอาวุโสจะเกิดใส่ใจขึ้นมาจริงๆ…”

“แต่แล้วยังไง? เพราะสุดท้ายกว่าอาวุโสจะรู้เรื่องราวและส่งคนมาจัดการข้า ข้าก็ฆ่าล้างตระกูลกงซุนเจ้าไปแล้วทั้งโคตร…กล่าวไปหากมีพวกเจ้ากลบฝังไปพร้อมข้าทั้งตระกูล ข้าก็ไม่ถือว่าขาดทุนอะไร”

“ยิ่งไปกว่านั้นเผลอๆไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ข้าอาจจะหนีรอดไปได้จนข้าอาจจะไม่ต้องตายหลังฆ่าล้างตระกูลเจ้าด้วยซ้ำ…เพราะอาวุโสไหนเลยจะไม่เห็นคุณค่าของข้า”

กล่าวถึงประโยคท้าย สายตาต้วนหลิงเทียนก็ฉายชัดถึงความไร้แยแสต่อคำขู่ของกงซุนเวิ่นเทียนโดยสิ้นเชิง

วูบ

เมื่อเห็นต้วนหลิงเทียนไม่ได้แยแสคำขู่ใดๆของมันแม้แต่น้อย สีหน้าของกงซุนเวิ่นเทียนก็เปลี่ยนไปทันใด มืดคล้ำปานจะคั้นได้เป็นน้ำหมึก!

อีกทั้งคนตระกูลกงซุนทั้งหมดที่ลอยอยู่ในห้วงอวกาศ ก็ชักสีหน้าอัปลักษณ์ปั้นยากทั้งสิ้น

ตอนนี้ต่อให้สมาชิกตระกูลกงซุนและผู้ที่ไม่ใช่คนของตระกูลกงซุนที่พลังฝีมืออ่อนด้อยจนไม่ทราบเรื่องราวการลมือใดๆเมื่อครู่ ต่างก็พากันตระหนักได้จากบทสนทนาหมดสิ้นแล้ว…ว่าตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลกงซุน ทั้งยังเป็นยอดฝีมืออันดับ 1 ของระนาบเหยียนหวงอย่างกงซุนเวิ่นเทียนไม่มีปัญญารับมือต้วนหลิงเทียนได้อีกต่อไป!!

หาไม่แล้วไฉนถึงกับต้องยกบรรพบุรุษต้นตระกูลอย่างกงซุนเซียนหยวนออกมาข่มขู่แบบนี้ด้วย?

มีแต่ผู้อ่อนแอเท่านั้น ถึงจะยกอ้างนู่นนี่นั่นมาขู่ผู้อื่นที่แข็งแกร่งกว่า!

หากแข็งแกร่งกว่าอีกฝ่ายจริง อาศัยเพียงพลังของตัวก็จัดการได้แล้วยังต้องยกอ้างคนอื่นมาขู่ทำอะไร!

“เอ่อ…”

“กงซุนเวิ่นเทียน ไฉนต่อหน้าต้วนหลิงเทียนถึงได้แลดูอับจนหนทางได้ขนาดนั้นเล่า…”

“ดูเหมือนว่าต้วนหลิงเทียนจะไม่กลัวทักษะวิญญาณของมันเลยจริงๆ…หาไม่แล้วมันคงไม่แลดูสิ้นหวังถึงขนาดนั้น!”

“หากต้วนหลิงเทียนไม่กลัวทักษะวิญญาณของมัน…เช่นนั้นมันก็ไม่มีปัญญาทำอะไรต้วนหลิงเทียนได้อีกต่อไป และดูจากทีท่าไม่อีนังขังขอบของต้วนหลิงเทียน เห็นชัดว่าไม่สนคำขู่ของกงซุนเวิ่นเทียนแม้แต่น้อย ไม่ว่ากงซุนเวิ่นเทียนจะยกอ้างชีวิตสหายของต้วนหลิงเทียนก็ดี หรือบรรพบุรุษต้นตระกูลก็ดี…ล้วนไร้ประโยชน์ทั้งสิ้น!”

จังหวะนี้ไม่ว่าจะคนในหรือคนนอกตระกูลกงซุน ก็เริ่มสังเกตเห็นเรื่องราวบางอย่าง

ขณะเดียวกันเรื่องนี้ก็อดไม่ได้ที่จะทำให้ใจของทุกคนสั่นสะท้าน…!

ไม่ว่าจะพูดอย่างไรกงซุนเวิ่นเทียนก็ได้ชื่อว่าเป็นยอดฝีมืออันดับ 1 ในระนาบเหยียนหวง! แต่ตอนนี้ต่อหน้าครึ่งก้าวเซียนอมตะที่อายุไม่ถึงร้อยปี กลับสิ้นท่าจนสารรูปดูไม่ได้ขนาดนั้น…!

หากพวกมันไม่ได้มาเห็นกับตาตัวเอง ให้ตายพวกมันก็ไม่มีวันเชื่อเรื่องแบบนี้ได้ลงคอ

“เจ้าบอกว่า หากซูหลี่ตาย…เจ้าจะใช้ทุกชีวิตของตระกูลกงซุนกลบฝังไปพร้อมกับมัน…”

ตอนนี้เองกงซุนเวิ่นเทียนก็ได้สูดอากาศเข้าลึกๆ มองกล่าวกับต้วนหลิงเทียนเสียงหนัก “เช่นนั้นข้าเข้าใจเจ้าถูกหรือไม่…ว่าหากข้าปล่อยซูหลี่ไป เจ้าจะละเว้นชีวิตคนของตระกูลกงซุนข้า?”

ขณะกล่าววาจาดังกล่าวออกมา กระทั่งตัวกงซุนเวิ่นเทียนเองยังรู้สึกว่าตัวเองช่างจิตใจคับแคบนัก…

อย่างไรก็ตามมันไม่อาจไม่ถาม

“เจ้าจะเข้าใจอย่างนั้นก็ได้”

ได้ยินคำถามของกงซุนเวิ่นเทียน ต้วนหลิงเทียนแลดูไม่ได้แปลกใจอะไร เพียงตอบออกมาเสียงเรียบ

“รวมถึงข้าด้วยหรือ?”

กงซุนเวิ่นเทียนถามออกมาอย่างไม่แน่ใจ

ถึแม้ตัวมันเองยังคิดว่าเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้เลยก็ตาม แต่มันก็อดถามออกมาไม่ได้

เพราะมันเองก็อยากรู้ไม่น้อยว่าต้วนหลิงเทียนจะใจดีปล่อยมันไปหรือไม่ หากมันปล่อยซูหลี่ไป

“เจ้า?”

ได้ยินคำถามดังกล่าวของกงซุนเวิ่นเทียน ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะอึ้งไปตาปริบๆครู่หนึ่ง ค่อยระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเป็นบ้าเป็นหลังราวได้ฟังเรื่องชวนหัวที่สุดในใต้หล้า “กงซุนเวิ่นเทียน จะอย่างไรเจ้าก็นับว่าอยู่มานับหมื่นปี…เจ้ายังมีหน้าคิดว่าข้าจะปล่อยเจ้าไปอีกหรือ หากเจ้าเป็นข้าเจ้าจะปล่อยตัวเจ้าไปหรือไม่เล่า?”

ได้ยินคำตอบดังกล่าวของต้วนหลิงเทียน สีหน้ากงซุนเวิ่นเทียนก็เปลี่ยนเป็นสีเทาทันที

ถึงแม้มันจะล่วงรู้จุดจบดังกล่าวมานานแล้ว แต่พอต้องเผชิญหน้าเข้าจริงๆ มันก็รู้สึกยากยอมรับอยู่บ้าง

ตอนนี้ตัวมันไม่ใช่แค่เซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ธรรมดาๆ…

อีกแค่ไม่ถึง 100 ปี หายนะทัณฑ์เซียนอมตะเสเพลรอบที่ 10 ของมันจะปรากฏแล้ว! และมันก็มั่นใจเต็มสิบส่วนว่าสามารถรอดจากหายนะทัณฑ์เซียนอมตะเสเพลรอบที่ 10 ได้แน่นอน…ถึงตอนนั้นมันจะได้ทะยานขึ้นสู่สวรรค์ กลับกลายเป็น จินเซียน!

ทว่าตอนนี้มันได้สูญเสียโอกาสดังกล่าวไปเรียบร้อย…

หลังเดินในเส้นทางฝึกตนมานับหมื่นปี ใช้ชีวิตมานานนับหมื่นปี มันย่อมหวงแหนชีวิตของตัวเองมากกว่าใครๆ! แต่มันไม่คิดไม่ฝันเลย…ว่ามันจะต้องมาประสบกับภัยพิบัติเช่นนี้ก่อนที่มันจะทะยานขึ้นสู่แดนสรวงไม่ถึงร้อยปี…

มันเกลียดนัก!

อย่างไรก็ตามมันได้แต่เกลียดตัวเอง ชิงชังความโลภของตัวเอง!

เพราะหากมันไม่บังเกิดจิตคิดละโมบอยากได้ทักษะพิสดารที่ช่วงชิงยอดสมบัติสวรรค์จากผู้อื่นได้ของต้วนหลิงเทียนมาครอง เรื่องทั้งหมดคงไม่เกิดขึ้น…

“เจ้ากับมัน…จะจัดการตัวเองหรือให้ข้าลงมือ?”

ในขณะที่สีหน้าของกงซุนเวิ่นเทียนเปลี่ยนเป็นสีเทา ต้วนหลิงเทียนก็เหลือบมองกงซุนเวิ่นเทียนทั้งสลับไปเหลือบมองกงซุนหง เซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์อีกคนที่ลอยข้างกงซุนเวิ่นเทียนพลางกล่าวถามออกมาเสียงเรียบ…

และแทบจะพร้อมกันกับที่เสียงต้วนหลิงเทียนดังจบคำ

วูบ! วูบ! วูบ! วูบ!

ไม่เพียงแต่กงซุนเวิ่นเทียนกับกงซุนหงเท่านั้น รวมไปถึงสมาชิกคนอื่นๆในตระกูลกงซุนที่ลอยอยู่ในห้วงอวกาศล้วนพากันหน้าเปลี่ยนสีไปหมดสิ้น…

เพราะก่อนหน้านี้ หลังได้ฟังวาจาสนทนาของทั้งคู่ พวกมันคิดไปว่าต้วนหลิงเทียนเพียงต้องการแค่ชีวิตกงซุนเวิ่นเทียนคนเดียวเท่านั้น จากนั้นก็ไม่คิดจะสนใจเอาเรื่องเอาราวใดๆอีกต่อไป ละเว้นชีวิตคนตระกูลกงซุนคนอื่นๆให้รอดพ้นความตาย…

แต่คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าต้วนหลิงเทียนไม่เพียงแต่ต้องการชีวิตของกงซุนเวิ่นเทียน ยังรวมไปถึงชีวิตของกงซุนหงอีกด้วย!!

ต้องทราบด้วยว่าตระกูลกงซุนของพวกมันมีเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์คำจุนอยู่ 2 คนเท่านั้น…

หากทั้งคู่ตกตายลงไปเช่นนี้ ถึงแม้ตระกูลกงซุนจะไม่ร่วงตกไปอยู่ในฐานะขุมพลังชั้น 2 ของระนาบเหยียนหวง แต่ก็ถือว่าเป็นขุมพลังชั้นแรกที่อ่อนด้อยเท่านั้น กระทั่งอาจจะเป็นขุมพลังชั้นแรกที่อ่อนด้อยที่สุดในระนาบเหยียนหวงก็เป็นได้…

ศักดิ์ศรีจะพอๆกับนิกายถังทันที!

“ต้วนหลิงเทียน เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นจากความคิดของข้าคนเดียว! ไม่เกี่ยวกับศิษย์หลานข้าอย่างกงซุนหง!!”

เมื่อมองไปยังต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง อารมณ์ของกงซุนเวิ่นเทียนคล้ายร้อนรนขึ้นมาไม่น้อย ด้วยกลัวว่าต้วนหลิงเทียนจะยืนกรานฆ่ากงซุนหงให้ตายจริงๆ!

“อ้อ…แต่ข้าได้ยินมาว่า คนที่บุกไปวังเซียนหยวนมีกัน 2 คนนี่นา…”

ต้วนหลิงเทียนมองกล่าวกับกงซุนเวิ่นเทียนด้วยสายตาเฉยเมย

ในขณะที่กงซุนเวิ่นเทียนคิดจะพูดอะไรออกมาอีกครั้ง ต้วนหลิงเทียนพลันกล่าวออกมาก่อนด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ข้าจะให้เวลาพวกเจ้า 3 ลมหายใจ…หลังจากผ่านไป 3 ลมหายใจแล้วถ้าพวกเจ้ายังไม่ฆ่าตัวตาย ข้าจะฆ่าล้างตระกูลกงซุนของพวกเจ้า!”

ต้วนหลิงเทียนพอกล่าวคำขาดออกมา ก็ข่มขู่จะฆ่าล้างตระกูลกงซุนเหมือนดั่งตอนแรกที่มาถึง!!

หากทว่าการกล่าววาจาว่าจะฆ่าล้างตระกูลกงซุนตอนนี้ ช่างให้รสชาติที่แตกต่างจากวาจาที่ประกาศตอนพึ่งมาถึงนัก…

เพราะก่อนหน้ามีแค่ไม่กี่คนที่เชื่อว่าต้วนหลิงเทียนจะมีปัญญาทำแบบนั้นได้จริง

แต่ตอนนี้มีไม่กี่คนที่สงสัยว่าต้วนหลิงเทียนมีปัญญาทำจริงหรือไม่…

วูบ วูบ

สีหน้าท่าทีของกงซุนเวิ่นเทียนกับกงซุนหงเปลี่ยนไปอีกครั้ง สุดท้ายก็เป็นกงซุนเวิ่นเทียนที่เผยอาการเศร้าโศกเสียใจออกมา หลังจากที่มันปล่อยซูหลี่แล้ว ร่างมันก็สั่นระริกไปราวบังเกิดความไม่ยินยอมพร้อมใจถึงขีดสุด

ปงงงง!!

บังเกิดพลังมหาศาลขุมหนึ่งปะทุระเบิดออกมาจากร่างของมัน ก่อนที่จะกลืนกินตัวมันเอง!

หลังจากนั้นไม่นาน กลิ่นอายของกงซุนเวิ่นเทียนก็อันตรธานหายไปอย่างสมบูรณ์…

แต่ต้นจนจบ กงซุนเวิ่นเทียนไม่คิดจะร้องขอให้ต้วนหลิงเทียนรับปากหรือสาบานอะไรแม้แต่น้อย ว่าหลังมันกับกงซุนหงตายแล้ว จะไม่แตะต้องชีวิตคนตระกูลกงซุน…

เหตุผลเป็นเพราะมันรู้ตัวดี ว่ามันไม่มีคุณสมบัตมากพอจะต่อรองอะไรกับต้วนหลิงเทียนทั้งนั้น ขณะเดียวกันตัวมันก็ไม่เหลือหนทางให้เลือกแล้ว…

“ท่านบรรพบุรุษ!!”

ขณะเดียวกับที่กงซุนเวิ่นเทียนฆ่าตัวตายและกลิ่นอายของมันดับสูญไป เหล่าคนตระกูลกงซุนที่ลอยชมเรื่องราวในห้วงอวกาศก็อดไม่ได้ที่จะร่ำร้องออกมาด้วยความเสียใจ!

“ไม่! ข้าไม่อยากตาย! ข้าไม่อยากตาย!!”

พอต้วนหลิงเทียนหันไปมองกงซุนหง กงซุนหงก็บังเกิดความคิดหลบหนีขึ้นมา ร่างมันเริ่มขยับคล้ายจะปะทุพลังหลบหนี!!

“หึ!”

อย่างไรก็ตามในชั่วพริบตาดุจฟ้าแลบที่กงซุนหงคิดจะหนี เสียงสบถเยียบเย็นพลันแค่นดังออกมาจากลำคอต้วนหลิงเทียน!

และในเวลาเดียวกันกับที่เสียงเย็นดังกล่าวดังเข้าหูทุกคนนั้น…

ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ!

เสียงหอนกระบี่ด้วยความฉับไวพลันก้องดังเข้าหูทุกคนอย่างพร้อมเพรียง

และครู่ต่อมาทุกคนก็สัมผัสได้ชัดเจน

กงซุนหงที่คิดหลบหนีนั้น พลังทั่วร่างของมันพึ่งจะปะทุระเบิดแผ่กลิ่นอายออกมาได้ไม่ทันไร อยู่ๆก็ถูกทำลายหายสาบสูญไปในเวลาเดียวกันกับที่บังเกิดเสียงหอนกระบี่ดังขึ้น…

ยังหายไปราวกับมันไม่เคยดำรงอยู่มาก่อน!

จังหวะนี้ทุกคนตระหนักได้ในทันที

กงซุนหงตายแล้ว

เซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ อันเป็นเสาหลักและผู้ที่คอยค้ำจนุตระกูลกงซุนขุมพลังระดับแนวหน้าของระนาบเหยียนหวง ได้ตกตายไปหมดสิ้น…

หากจะกล่าวว่าในอดีตตระกูลกงซุนร้ายกาจปานพยัคฆ์ล่ะก็ บัดนี้ตระกูลกงซุนก็ไม่ต่างอะไรจากพยัคฆ์ไร้เขี้ยวเล็บ!

“ไปกันเถอะ”

หลังฆ่ากงซุนหงแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็เหินไปรับร่างที่อ่อนแอแทบไม่เหลือเรี่ยวแรงทั้งยังสั่นเทาไม่หยุดของซูหลี่มาอย่างเบามือ ค่อยเหินกลับมาหยุดข้างเซียนหยวนจื่อ พลางกล่าวทักอีกฝ่ายเพื่อเดินทางกลับ

“อะ…อ่อ! กลับ!”

เซียนหยวนจื่อที่ยังคงอึ้งกับการตายของเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ทั้ง 2 ของตระกูลกงซุนไม่หาย จนเมื่อต้วนหลิงเทียนที่อยู่ข้างๆส่งเสียงเรียกออกมา มันจึงเออออตอบกลับไปอย่างไม่รู้ตัว

หลังคืนสติแล้ว พอหันมองไปยังต้วนหลิงเทียนที่ลอยอยู่ด้านข้างอีกครั้ง แววตาก็ฉายชัดถึงความเคารพเพิ่มขึ้นไม่น้อย

ยังเป็นความเคารพจากใจ!