ตอนที่ 1263 ไม่กลัวเพราะมีคนคอยหนุนหลัง

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1263 ไม่กลัวเพราะมีคนคอยหนุนหลัง

แม่ทัพชราชุยซานจงไม่อยากให้เป็นเช่นนี้!

ใบหน้าของเขาอาบไปด้วยน้ำตา!

การรบพ่ายแพ้ในสงครามเปรียบเสมือนภูเขาที่พังทลาย จู่ๆ แม่ทัพชราชุยซานจงก็รู้สึกไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาทันที

“ท่านแม่ทัพชราต้านไม่ไหวอีกต่อไปแล้วขอรับ พวกเรากำลังจะพ่ายแพ้ เรารีบถอยทัพไปยังวังหลวงเถิดขอรับ! บางทีพวกเราอาจพอยื้อได้อีกสักระยะ ข้าจะส่งคนออกจากเมืองไปตามทัพเสริมมาช่วยเหลือขอรับ” รองแม่ทัพของแม่ทัพชราชุยซานจงเห็นเจ้านายของตัวเองยืนนิ่งไม่ขยับจึงตะโกนเสียงดังลั่น “ท่านแม่ทัพชรา พวกเราจะลังเลอีกไม่ได้แล้วขอรับ ตอนนี้พวกเราต้องถอยทัพหลักไปยังวังหลวงก่อน ไม่แน่พวกเราอาจต้านทานได้จนกว่าทัพเสริมจะมาถึงขอรับ”

ต้านไม่ไหวแล้ว!

แม่ทัพชราชุยซานจงรู้ดี

ถึงแม้พวกเขาจะถอยทัพไปยังวังหลวงพวกเขาก็เปรียบเสมือนสัตว์ที่พยายามดิ้นรนต่อสู้จนเฮือกสุดท้ายอยู่ดี

ตอนที่เขาเป็นคนนำทัพ เขาออกคำสั่งให้ทัพเสริมจากทุกเมืองมารวมตัวกันที่นี่หมดแล้ว

พวกที่เต็มใจต่อสู้ล้วนมารวมตัวอยู่ที่นี่หมดแล้ว พวกที่ไม่อยากมาก็ทำเมินคำสั่งของเขาไปแล้วเช่นกัน

ที่สำคัญตอนนี้กองทัพต้าเยี่ยนและต้าโจวบุกถึงเมืองอวิ๋นจิงแล้ว หากแม่ทัพคุ้มกันเมืองอื่นๆ ได้รับข่าวนี้พวกเขาคงกำลังคิดว่าจะยอมจำนนต่อต้าเยี่ยนหรือต้าโจวดีกว่ากัน

ผู้ใดจะหาเรื่องใส่ตัว นำทัพทหารที่มีไม่ถึงหนึ่งส่วนสี่ของกองทัพต้าเยี่ยนและต้าโจวมาช่วยเหลือพวกเขากัน!

“รายงาน! กองทัพต้าเยี่ยนกำลังโจมตีประตูทิศตะวันออกขอรับ!”

“รายงาน! กองทัพที่ร่วมมือกันของต้าเยี่ยนและต้าโจวกำลังโจมตีประตูทิศตะวันตกขอรับ!”

“รายงาน! กองทัพใหญ่ของต้าโจวกำลังโจมตีประตูทิศใต้ขอรับ!”

รายงานสถานการณ์รบถูกส่งไปให้แม่ทัพชราชุยซานจงและหลี่เทียนเจียวในวังหลวงไม่ขาดสาย เมื่อทหารซีเหลียงได้ยินว่าพวกเขาถูกล้อมไว้ทั้งสี่ทิศจึงเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาทันที

ทหารซีเหลียงและทหารของทุกแคว้นทำสงครามกันด้วยขวัญกำลังใจ ขวัญและกำลังใจของทหารคือความหวัง!

บางครั้งขวัญกำลังใจของพวกเขาอาจมาจากแม่ทัพใหญ่ที่ไม่เคยพ่ายแพ้ในสงครามมาก่อน!

บางครั้งอาจมาจากความหวังที่ว่าการเสียสละของพวกเขาอาจทำให้แคว้นมีโอกาสรอด!

บางครั้งอาจมาจากความหวังที่จะชนะสงคราม!

ทว่า ตอนนี้ซีเหลียงมีสิ่งใดบ้าง!

แม่ทัพชราชุยซานจงของพวกเขาเป็นแม่ทัพที่เก่งกาจและมีชื่อเสียงก็จริง ทว่า เขาไม่ได้นำทัพออกรบมาหลายปีแล้ว ตอนนี้เขาอายุแปดสิบกว่า พวกเขาจึงมองเห็นความบกพร่องของเขาอย่างชัดเจน

หากกล่าวว่าทำเพื่อปกป้องชาวบ้าน! ทว่า ต้าโจวไม่เคยทำร้ายชาวบ้านซีเหลียงในเมืองที่พวกเขายึดได้สักเมือง ต้าโจวมอบเสบียงอาหาร บ้านเรือนและที่นาให้พวกชาวบ้านทำมาหากิน อีกทั้งใช้ระบอบการปกครองใหม่กับชาวบ้านเหล่านั้น ปฏิบัติต่อพวกเขาเหมือนพวกเขาคือชาวบ้านของต้าโจว ชาวบ้านซีเหลียงที่เห็นความเมตตาของต้าโจวจึงพากันไปเข้าร่วมกับต้าโจว มีเพียงชาวบ้านส่วนน้อยของซีเหลียงเท่านั้นที่หลบหนีไปยังตอนใต้ของซีเหลียงเพราะกลัวจะถูกต้าโจวสังหารหลังจากพวกเขายึดเมืองได้

ความหวังแห่งชัยชนะอย่างนั้นหรือ! ตอนนี้เมืองอวิ๋นจิงถูกล้อมทั้งสี่ทิศ ประตูเมืองบางทิศถูกเปิดออกแล้วด้วยซ้ำ พวกเขาจะมีความหวังที่จะชนะได้อย่างไรกัน แม้จะถอยทัพไปยังวังหลวงก็เป็นเพียงการยื้อเวลาเท่านั้น!

“ถ่ายทอดคำสั่งให้ทหารถอยทัพไปยังวังหลวง เก็บแรงไว้ก่อน!” แม่ทัพชราชุยซานจงออกคำสั่งเสร็จจึงควบม้าไปยังวังหลวงทันที เขาต้องกลับไปวางแผนป้องกันวังหลวงใหม่

ตอนนี้แม่ทัพชราชุยซานจงหวังเพียงว่าไป๋ชิงเหยียนจะเดินทางมาถึงอวิ๋นจิงก่อนที่เสบียงอาหารในวังหลวงของพวกเขาจะหมดลง เช่นนี้พวกเขาจะได้มอบตัวไป๋ชิงอวี๋คืนให้ต้าโจวและยอมตกเป็นรัฐบรรณาการของต้าโจว

คนที่อยู่ในวังหลวงได้ยินเสียงสู้รบจากประตูเมืองเช่นเดียวกัน

ขันทีและนางกำนัลคุกเข่าตัวสั่นเทาอยู่ในตำหนักด้วยความหวาดกลัว เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดที่ดังเข้ามาในตำหนักเป็นพักๆ ทำให้คนขนลุกซู่ พวกเขากลัวกองทัพต้าโจวและต้าเยี่ยนจะบุกมาถึงวังหลวง

หลี่เทียนเจียวนั่งอยู่บนบัลลังก์ในตำหนักใหญ่ หญิงสาวมองไปทางไป๋ชิงอวี๋ที่ฟื้นขึ้นมาแล้ว ทว่า ร่างกายยังคงอ่อนแอมากนิ่ง ชายหนุ่มนั่งพิงเกี้ยวที่ใช้แบกเขาเข้ามาในตำหนักอย่างไม่เดือนร้อน เขาใช้มือกุมหน้าอกแน่น ไม่มีท่าทีเหมือนคนที่ถูกจับมาเป็นเชลยแม้แต่น้อย ใบหน้างดงามครึ่งซีกและใบหน้าเสียโฉมอีกครั้งซีกที่อยู่ภายใต้หน้ากากเรียบเฉยจนหลี่เทียนเจียวรู้สึกไม่ชอบใจขึ้นมา นางรู้สึกเหมือนกำลังโดนดูถูกเหยียดหยาม

“ดูเหมือนว่าแม่ทัพไป๋จะยอมโดนจับตัวเข้ามาในเมืองอวิ๋นจิงและพร้อมตายเพื่อแผนการในครั้งนี้จริงๆ” หลี่เทียนเจียววางมือทั้งสองข้างลงบนโต๊ะตรงหน้า จากนั้นกล่าวขึ้นยิ้มๆ “หรือว่าเจ้าคิดว่ามีคนคอยหนุนหลังอยู่จึงไม่กลัวสิ่งใดเช่นนี้กันแน่”

ไป๋ชิงอวี๋เหลือบมองหลี่เทียนเจียวแวบหนึ่ง จากนั้นกล่าวขึ้นช้าๆ ด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงตรัสอันใดเช่นนี้ ซีเหลียงสมคบคิดกับต้าเยี่ยน ต้าโจวถูกทรยศข้าจึงถูกแม่ทัพชราชุยจับตัวเข้ามาในอวิ๋นจิงเช่นนี้ เหตุใดข้าจะไม่หวาดกลัวกัน”

รอยยิ้มของหลี่เทียนเจียวเยือกเย็นกว่าเดิม “เสียงสู้รบที่ดังมาจากด้านนอกไม่ได้เป็นเพราะต้าโจวกำลังบุกโจมตีเมืองอวิ๋นจิงอยู่หรอกหรือ หากต้าโจวบุกโจมตีเมือง เจ้าคือไพ่ตายใบสุดท้ายของซีเหลียง เจ้ารู้ดีว่าเราไม่มีทางปล่อยให้เจ้าตาย!”

“ซีเหลียงยกย่องข้าเกินไปแล้ว” ไป๋ชิงอวี๋กล่าวอย่างไม่รีบร้อน

“เราจะไม่อ้อมค้อมกับแม่ทัพไป๋อีก ตอนนี้ซีเหลียงกำลังจะพ่ายแพ้แล้ว เราแค่อยากให้ซีเหลียงดำรงอยู่ต่อไป ซีเหลียงยินดีตกเป็นรัฐบรรณาการของต้าโจว” หลี่เทียนเจียวลุกขึ้นยืน นางเดินลงบันไดไปหาไป๋ชิงอวี๋ “เราหวังว่าแม่ทัพไป๋จะเห็นแก่ที่ซีเหลียงช่วยชีวิตเจ้าไว้นำคำของเรากลับไปบอกให้จักรพรรดินีแห่งต้าโจวทราบ ไม่ว่าต้าเยี่ยนหรือต้าโจวบุกเข้ามาในอวิ๋นจิงได้ก่อนกัน ขอเพียงต้าโจวไม่ตั้งค่ายทหารอยู่ในซีเหลียงหลังจากซีเหลียงยอมตกเป็นรัฐบรรณาการของต้าโจว งดเก็บบรรณาการของซีเหลียงเป็นเวลาสิบปี ซีเหลียงยินดีสวามิภักดิ์ต่อต้าโจว!”

ไป๋ชิงอวี๋ก้มหน้าซ่อนแววตาเย็นชาของตัวเองไว้ เขาลูบนิ้วมือเขาหากัน จากนั้นกล่าวขึ้นช้าๆ “ตอนนี้ซีเหลียงกำลังตกอยู่ในภาวะคับขัน ซีเหลียงใกล้จะดับสูญแล้ว ฝ่าบาทคิดว่าซีเหลียงยังมีโอกาสต่อรองกับต้าโจวอยู่อีกหรือพ่ะย่ะค่ะ”

หลี่เทียนเจียวเดินลงมาจากบัลลังก์สูง นางมองไปทางไป๋ชิงอวี๋นิ่งพลางกล่าวยิ้มๆ “กล่าวกันว่าบุญคุณมีค่ามากมายมหาศาล เราแค่ขอให้แม่ทัพไป๋นำคำของเราไปทูลจักรพรรดินีแห่งต้าโจวเท่านั้น แม่ทัพไป๋คงไม่ปฏิเสธเรากระมัง”

“ภาระของฝ่าบาทหนักอึ้งเกินไป ไป๋ชิงอวี๋ไร้ความสามารถ…” ไป๋ชิงอวี๋กล่าวพลางหัวเราะออกมาเบาๆ

หลี่เทียนเจียวหัวเราะออกมาเล็กน้อย นางเดินเอามือไขว้หลังวนรอบกายของไป๋ชิงอวี๋หนึ่งรอบ จากนั้นโน้มตัวลงกล่าวเหนือศีรษะของไป๋ชิงอวี๋ “แม่ทัพไป๋คือน้องชายแท้ๆ ของจักรพรรดินีแห่งต้าโจว ท่านมีความสำคัญต่อนางมากจนทำให้จักรพรรดินีแห่งต้าโจวตกใจจนคลอดลูกก่อนกำหนดทันทีที่รับรู้ข่าวว่าท่านถูกซีเหลียงจับตัวได้ ตอนนี้นางกำลังเดินทางมาที่นี่หลังจากคลอดลูกเสร็จ เห็นได้ชัดว่านางให้ความสำคัญกับเจ้ามาก…”

ใจของไป๋ชิงอวี๋กระตุกวูบ พี่หญิงคลอดก่อนกำหนดอย่างนั้นหรือ!

เป็นเพราะรู้ข่าวเรื่องที่เขาถูกจับตัวหรือนางคิดว่าต้าเยี่ยนทรยศต้าโจวจริงๆ กันแน่ เซียวหรงเหยี่ยนมัวทำสิ่งใดอยู่ เขาไม่ได้ส่งข่าวให้พี่หญิงทราบอย่างนั้นหรือ!

เมื่อเห็นสีหน้าตกตะลึงของไป๋ชิงอวี๋หลี่เทียนเจียวยกยิ้มมุมปากกว้างขึ้น “หากแม่ทัพไป๋รับปาก เราจะส่งแม่ทัพไป๋ออกจากวังหลวงเดี๋ยวนี้”

หลี่เทียนเจียวคิดไม่เหมือนแม่ทัพชราชุยซานจง ในเมื่อตอนนี้ต้าโจวและต้าเยี่ยนบุกโจมตีเมืองอวิ๋นจิงแล้ว ที่สำคัญตอนนี้ประตูทิศตะวันออกและทิศเหนือถูกเปิดออกแล้ว นางจับตัวไป๋ชิงอวี๋ไว้ต่อไปก็ไม่มีประโยชน์อันใดทั้งสิ้น

ไม่สู้ส่งตัวไป๋ชิงอวี๋คืนให้ต้าโจวเพื่อยุติสงครามกับต้าโจวก่อน จากนั้นประกาศต่อใต้หล้าว่าซีเหลียงยอมตกเป็นรัฐบรรณาการของต้าโจว หากต้าเยี่ยนทำสงครามกับซีเหลียงอีกก็เท่ากับว่าพวกเขากำลังทำลายทหารของต้าโจว

นี่ถึงจะคือทางรอดของซีเหลียง!

มิเช่นนั้นการหลบอยู่ในวังหลวงโดยอาศัยเสบียงอาหารที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดคงทนต่อไปได้อีกไม่กี่วันเท่านั้น

ในเมื่อตอนนี้รู้แล้วว่าพ่ายแพ้ดังนั้นหลี่เทียนเจียวจึงไม่อยากให้ทหารซีเหลียงเสียสละชีวิตโดยไม่จำเป็นอีก ขอเพียงตกลงกับต้าโจวได้ว่าซีเหลียงจะงดส่งบรรณาการให้ต้าโจวสิบปี ไม่ให้ต้าโจวตั้งค่ายทหารอยู่ในซีเหลียง หลี่เทียนเจียวมั่นใจว่านางสามารถยืนหยัดขึ้นได้อีกครั้งด้วยกำลังทหารเพียงเท่านี้!