ตอนที่ 1270 คนรุ่นหลังน่าจับตามอง

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1270 คนรุ่นหลังน่าจับตามอง

เมื่อหลี่เทียนเจียวได้ยินคำของแม่ทัพชราชุยซานจงขอบตาของนางร้อนผ่าวขึ้นทันที นางกัดฟันกรอด จากนั้นตะโกนสั่งเสียงดังลั่น

“เปิดประตูตำหนัก บุกออกไป! ต่อให้ตายพวกเราก็ต้องสังหารทหารศัตรูที่มารุกรานแผ่นดินของพวกเราให้ได้มากที่สุด!”

แม่ทัพชราชุยซานจงพยักหน้า ในเมื่อพวกเขาตัดสินใจที่จะตายไปพร้อมแคว้นพวกเขาก็ไม่ควรหดหัวอยู่แต่ในกระดอง รอให้ต้าเยี่ยนและต้าโจวย่ำยีพวกเขาอยู่ฝ่ายเดียว

ประตูตำหนักถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว…

หลี่เทียนเจียว แม่ทัพชราชุยซานจงและแม่ทัพคนอื่นของซีเหลียงบุกออกไปจากตำหนักเป็นกลุ่มแรก

กองทัพไป๋และกองทัพต้าเยี่ยนที่ล้อมอยู่นอกตำหนักกำดาบในมืออย่างเตรียมพร้อม

“อ๋องเก้า คุณชายห้า…” แม่ทัพชราชุยซานจงยกมือคารวะคนทั้งสอง

“ข้าเคยคิดว่าหากข้ารู้แผนการของสองแคว้นจากไทเฮาของต้าเยี่ยนจนจับตัวคุณชายห้าน้องชายแท้ๆ ของจักรพรรดินีแห่งต้าโจวมาเป็นตัวประกันได้ ต่อให้ไม่สามารถยุให้สองแคว้นทำสงครามกันเองได้อย่างน้อยก็คงทำลายพันธมิตรระหว่างสองแคว้นได้ นึกไม่ถึงเลยว่าข้าจะตกม้าตายเช่นนี้ คุณชายห้า…คนรุ่นหลังช่างน่าจับตามองเสียจริง ข้านับถือท่านยังนัก!”

แม่ทัพชราชุยซานจงกล่าวถ้อยคำนี้ออกมาจากใจจริง แค่ไป๋ชิงอวี๋นอนนิ่งให้พวกเขาทรมานอยู่บนเตียงโดยไม่ขยับแม้แต่น้อยก็ทำให้แม่ทัพชราชุยซานจงนับถือมากแล้ว

“ข้ายินดีจะสู้รบกับคนที่ข้าชื่นชม จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงของข้าก็ยินดีเผชิญหน้ากับพวกท่านซึ่งๆ หน้าเช่นเดียวกัน อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนและคุณชายห้าแห่งตระกูลไป๋ได้โปรดอย่าได้ออมมือให้พวกข้าเด็ดขาด!”

แม่ทัพชราชุยซานจงกล่าวจบจึงชูดาบในมือขึ้นสูง เขายังคงปกป้องหลี่เทียนเจียวไว้ทางด้านหลังของตน

“บุก!”

ทหารซีเหลียงพากันชักดาบออกมาจากฝัก จากนั้นตะโกนลั่น “บุก!”

แม้ตอนนี้กองทัพซีเหลียงจะดูฮึกเหิมพร้อมพลีชีพเพื่อแคว้น ทว่า กองทัพไป๋และต้าเยี่ยนรู้ดีว่าพวกเขาแค่ฝืนทำเช่นนี้เท่านั้น ทุกคนโห่ร้องและกรูไปด้านหน้าเช่นเดียวกัน

นี่คือครั้งแรกที่หลี่เทียนเจียวทำสงครามในสนามรบที่เต็มไปด้วยอันตราย ถึงแม้แม่ทัพชราชุยซานจงและทหารคนอื่นๆ จะคอยปกป้องนาง ทว่า นางก็ได้รับบาดเจ็บอยู่ดี ร่างของนากโชกไปด้วยเลือด นางคิดว่านางน่าจะเจ็บปวด ทว่า เมื่อได้รบในสงครามจริงๆ มนุษย์สามารถลืมความเจ็บปวดไปได้จริงๆ

หลี่เทียนเจียวแกว่งดาบในมือไปมา ตอนนี้ผมของนางยุ่งเหยิงไปหมด ใบหน้าและลำตัวเต็มไปด้วยเลือดที่ไม่รู้ว่าเป็นของนางหรือของผู้อื่นกันแน่

ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าใด ตอนนี้กองทัพซีเหลียงถูกไล่ต้อนไปจนถึงหน้าประตูตำหนักใหญ่

“ฝ่าบาทระวังพ่ะย่ะค่ะ!”

แม่ทัพชราชุยซานจงกระชากร่างของหลี่เทียนเจียวเข้ามาหาตน จากนั้นพุ่งดาบของตัวเองไปกำจัดร่างของทหารศัตรูที่หมายเอาชีวิตของหลี่เทียวเจียวทันที ดาบของทหารศัตรูผู้นั้นเฉียดมงกุฎของหลี่เทียนเจียวไปอย่างฉิวเฉียด มงกุฎหยกแตกเป็นสองท่อน จากนั้นหล่นกระจายลงบนพื้น

แม่ทัพชราชุยซานจงเห็นดาบอีกเล่มกำลังพุ่งมายังร่างของหลี่เที่ยนเจียวจึงรีบเอาร่างกายแก่ชราของตัวเองบังร่างของจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงของเขาไว้ทันที

ดาบยาวแทงเข้าที่เสื้อเกราะที่แตกออกจากกันนานแล้วของแม่ทัพชราชุยซานจง แม่ทัพชราชุยซานจงกระอักเลือดออกมา ทหารซีเหลียงที่เหลือจำนวนไม่มากมองไปทางแม่ทัพชราชุยซานจงอย่างเสียขวัญทันที

หลี่เทียนเจียวที่ผมเผ้ารุงรังกอดร่างของแม่ทัพชราชุยซานจงไว้จากทางด้านหลัง นางกัดฟันดึงร่างของแม่ทัพชราชุยซานจงเข้าไปในตำหนักใหญ่ จากนั้นตะโกนเสียงดัง

“ปิดประตูตำหนัก!”

ทหารซีเหลียงจำนวนไม่มากที่ถอยเข้าไปในตำหนักแล้วรีบปิดประตูตำหนักลงทันที พวกเขาใช้ร่างกายบังประตูเอาไว้ ไม่รู้ว่านี่คือการดิ้นรนอย่างไม่มีผลลัพธ์หรือไม่

เยว่สือเตรียมพังประตูเข้าไปก็ได้ยินเสียงเซียวหรงเหยี่ยนเรียกไว้ก่อน “เยว่สือ!”

เยว่สือหันกลับไปมอง

เขาได้ยินเจ้านายของตัวเองตะโกนขึ้น

“จักรพรรดินีแห่งซีเหลียง หากท่านยอมจำนนในตอนนี้แม่ทัพชราชุยซานจงอาจยังพอมีทางรอด”

ภายในตำหนักเงียบกริบ

หลี่เทียนเจียวก้มหน้ามองแม่ทัพชราชุยซานจงที่เผยอปากออกเล็กน้อย “แม่ทัพชรา ท่านเป็นเช่นไรบ้าง”

“ฝ่าบาท ทุกคนล้วนต้องตาย กระหม่อมตายเพื่อซีเหลียง นี่คือผลลัพธ์ที่ดีที่สุดของทหารชราอย่างกระหม่อมแล้ว กระหม่อมดีใจมากพ่ะย่ะค่ะ”

ลมหายใจของแม่ทัพชราชุยซานจงอ่อนลงเรื่อยๆ

“แม่ทัพชรา อีกไม่นานเรา…จะตามท่านไป”

น้ำตาของหลี่เทียนเจียวไหลพราก นางพยายามควบคุมน้ำเสียงของตัวเอง

“พวกเราทำเพื่อซีเหลียงอย่างเต็มที่ที่สุดแล้ว!”

แม่ทัพชราชุยซานจงเกลี้ยกล่อมเสียงเบาหวิว

“ฝ่าบาททรงยอมจำนนเถิดพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมตายไปมิเป็นใด ทว่า ฝ่าบาทยังทรงพระเยาว์ ฝ่าบาทสามารถใช้ชีวิตที่เหลืออย่างสงบสุขเหมือนองค์ชายสามของแคว้นต้าเหลียง ฝ่าบาทจะได้เห็นว่าต้าเยี่ยนหรือต้าโจวกันแน่ที่จะได้ครอบครองใต้หล้าแห่งนี้ ร้อยปีหลังจากนี้ฝ่าบาทจะได้มาบอกกระหม่อมได้ว่าสุดท้ายแล้วใต้หล้าแห่งนี้ตกอยู่ในมือของแคว้นใดกันแน่ ฝ่าบาทจะได้มาบอกกระหม่อมได้ว่าชาวบ้านภายใต้การปกครองของพวกเขามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่าตอนที่แบ่งแยกเป็นแคว้นหรือไม่”

ตอนนี้แม่ทัพชราชุยซานจงอยากให้หลี่เทียนเจียวมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้!

การไม่ยอมจำนนอาจได้รับความนับถือจากคนรุ่นหลัง ทว่า แม่ทัพชราชุยซานจงคิดว่ามันไม่ได้มีค่าถึงเพียงนั้น นับตั้งแต่ครอบครัวของเขาจากเขาไปแม่ทัพชราชุยซานจงถึงได้รู้ว่าการมีชีวิตอยู่คือสิ่งที่สำคัญกว่าสิ่งใดทั้งหมด

แม่ทัพชราชุยซานจงกล่าวจบก็สิ้นใจไปในอ้อมกอดของหลี่เทียนเจียวทันที

ใบหน้าของทหารซีเหลียงที่ใช้ร่างยันประตูอยู่เต็มไปด้วยน้ำตา พวกเขามองไปทางหลี่เทียนเจียวซึ่งเป็นเจ้าชีวิตของพวกเขาอย่างรอคอยการตัดสินใจของหญิงสาว

“ทว่า แม่ทัพชรา เราคือจักรพรรดินีของซีเหลียง เราอยากเห็นซีเหลียงเป็นคนรวบรวมใต้หล้าแห่งนี้ให้เป็นหนึ่งเท่านั้น เราอยากเห็นซีเหลียงเป็นคนมอบชีวิตที่สงบสุขให้ชาวบ้านทั่วหล้า หากแคว้นอื่นเป็นคนทำมันสำเร็จ เราไม่จำเป็นต้องอยู่ดูใต้หล้าเช่นนั้น!”

หลี่เทียนเจียววางร่างของแม่ทัพชราชุยซานจงลงบนพื้น หญิงสาวกระชากผ้าม่านสีเหลืองอ่อนผืนหนึ่งลงมัดผมยาวของตัวเองให้เรียบร้อย จากนั้นล้วงหยิบขวดยาพิษที่นางเตรียมไว้นานแล้วจากอกมากรอกเข้าปาก…

“ฝ่าบาท!”

แม่ทัพซีเหลียงที่ใช้ตัวยันประตูอยู่พุ่งถลาเข้าไปหาหลี่เทียนเจียวอย่างรวดเร็ว เขาอยากปัดขวดยาพิษออกจากมือของหญิงสาว ทว่า ไม่ทันแล้ว…

หลี่เทียนเจียวมองหน้าทหารของซีเหลียงคนอื่นๆ

“พวกเจ้าไม่ต้องตายไปพร้อมเรา! เป็นดังที่แม่ทัพชราชุยกล่าว การได้มีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ใช่เรื่องง่าย ออกไปเถิด!”

“ฝ่าบาท!”

“ฝ่าบาท!”

“พวกกระหม่อมจะไปพร้อมฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ!”

ทหารซีเหลียงเหล่านั้นไม่ยอมจากไป พวกเขาก้มศีรษะคำนับหลี่เทียนเจียวแนบพื้น คำว่ายินดีตายพร้อมฝ่าบาทไม่ใช่เพียงคำกล่าวลอยๆ

หลี่เทียนเจียวมองดูเหล่าทหารที่ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลและพร้อมสู้จนตัวตายเหล่านี้พลางพยักหน้าให้พวกเขา หญิงสาวลุกขึ้นยืน จากนั้นฝืนความเจ็บปวดที่เกิดจากยาพิษเดินไปยังบัลลังก์ล้ำค่าของจักรพรรดิ

เหล่าทหารซีเหลียงคุกเข่าลงบนพื้นมองส่งหลี่เทียนเจียวเดิมกุมท้องไปยังบัลลังก์ทีละก้าว นางถือเทียนเข้าไปใกล้ผ่าม่านราวกับกำลังจะเผาตำหนักแห่งนี้ให้มอดไหม้

เปลวเทียนจากเทียนไขในมือของนางเข้าใกล้ผ้าม่านสีเหลียงลายเมฆมงคลขึ้นเรื่อยๆ เปลวเทียนสะบัดไปมาเล็กน้อย จากนั้นค่อยๆ คืบคลานเข้าไปใกล้ผ้าม่านราวกับกำลังหยั่งเชิง…

วินาทีที่ไฟกำลังจะลุกลามไปยังผ้าม่านจู่ๆ หลี่เทียนเจียวก็เอาเทียนออกห่าง นางโยนเทียนทิ้งไปอีกด้าน จากนั้นจ่มความเจ็บปวดนั่งลงบนบัลลังก์ช้าๆ

เดิมทีหลี่เทียนเจียวอยากเผาตำหนักนี้ให้วอดวาย ให้ต้าเยี่ยนและต้าโจวไม่ได้ครอบครองสิ่งใดทั้งสิ้น ทว่า หากวังหลวงของซีเหลียงถูกเผาไหม้ ซีเหลียงก็คงเหลือเพียงนามที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์จริงๆ