ตอนที่ 2,639 : ต้วนหลิงเทียน จินเซียน!
เมื่อ 3 วันก่อนตอนที่ต้วนหลิงเทียนลงมือตัดแขนตัดขาของโจวเฟย จนทำให้โจวเฟยได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้น…
แทบจะทุกคนล้วนคิดกันไปว่า
ต้วนหลิงเทียนถึงคราวซวยแล้วแน่นอน!
เพราะท้ายที่สุดแล้ว การลงมือดุดันครั้งนี้ของต้วนหลิงเทียนไม่เพียงเพิกเฉยต่อกฏเกณฑ์ที่ผู้ว่าตั้งไว้ด้วยตัวเอง ยังไม่ไว้หน้าโจวทง ผู้พิทักษ์อันดับ 1 ของจวนผู้ว่าด้วยการทำร้ายบุญชายบุญธรรมอีกฝ่าย!
อย่างไรก็ตามทุกคนไม่คิดไม่ฝันเลยว่าหลังจากผ่านไป 3 วัน เรื่องราวกลับได้บทสรุปเช่นนี้!
ผู้ว่าการประจำมณฑลของพวกมัน ไม่เพียงไม่ลงโทษต้วนหลิงเทียนสถานหนักตามที่คาด แต่ยังบอกว่าต้วนหลิงเทียนเป็นผู้บริสุทธิ์! และผู้ที่ผิดในคราวนี้กลับเป็นอาวุโสฝ่ายในอย่างเจิ้งชิว!!
ทั้งหมดเป็นเพราะเจิ้งชิวลืมบอกกฏในหลุมมังกรซ่อนให้ต้วนหลิงเทียนรับทราบ ต้วนหลิงเทียนที่ไม่รู้จึงทำร้ายผู้คนอย่างอุกอาจ!
ด้วยเหตุนี้ความผิดของต้วนหลิงเทียนจึงอะลุ่มอล่วยให้ได้!
“เอ่อ…ผู้อาวุโสเจิ้งชิวลืมบอกกฏในหลุมมังกรซ่อนให้ต้วนหลิงเทียนฟัง ดังนั้นต้วนหลิงเทียนจึงทำร้ายโจวเฟยโดยไม่รู้?”
“เหตุผลนี้…ฟังแล้วทำไมข้ารู้สึกแสบสีข้างแปลบๆ?”
“เหอะๆ ผู้ใดไม่รู้บ้างว่าอาวุโสฝ่ายในอย่างอาวุโสเจิ้งชิวเป็นคนละเอียดรอบคอบเพียงใด ไหนเลยจะลืมบอกกฏให้ต้วนหลิงเทียนฟังได้?”
“นั่นสิ ทำไมข้ารู้สึกว่า…ท่านผู้ว่าจงใจปกป้องต้วนหลิงเทียน?”
“แปลกยิ่ง ว่ากันตามตรงแล้วท่านผู้ว่าไม่น่าจะเข้าข้างต้วนหลิงเทียนเลย เพราะตัดสินแบบนี้ไม่พ้นต้องผิดใจกับผู้พิทักษ์โจวทงแน่! และระหว่างผู้พิทักษ์โจวทงกับต้วนหลิงเทียน ไม่ใช่ท่านผู้ว่าสมควรเห็นแก่ผู้พิทักษ์โจวทงมากกว่าหรือไร?”
“จริง! ถึงต้วนหลิงเทียนจะมีพรสวรรค์สูง หากแต่ในแง่คุณค่าแล้วยังไม่สู้ต้าหลัวจินเซียนอย่างผู้พิทักษ์โจว!”
…
วาจาทำนองดังกล่าวเริ่มดังไปทั่วจวนผู้ว่า
ทุกคนในจวนรู้สึกตะลึงกับคำแถลงของผู้ว่านัก กระทั่งยังรู้สึกแปลกใจสงสัยถึงขีดสุด
เพราะสุดท้ายแล้วอาวุโสฝ่ายในอย่างเจิ้งชิวก็ลงมือทำอะไรรอบคอบเสมอมา หากเป็นคนอื่นพวกมันจะไม่แปลกใจอะไรขนาดนี้เลย
แต่มาบอกว่าอาวุโสเจิ้งชิวที่รอบคอบกว่าใครลืมบอกกฏ…อันเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในหลุมมังกรซ่อนแบบนี้! พวกมันจึงไม่อาจเชื่อได้ลงคอ!!
ภายในคฤหาสน์หลังเขื่องแห่งหนึ่ง
ได้ฟังข่าวลือที่ผู้คนด้านนอกพูดสงสัยกันไปเรื่อย เจิ้งชิวที่นั่งดื่มชาที่โต๊ะศิลาในลาน ก็อดไม่ได้ที่จะคลี่ยิ้มขื่นขมออกมา
“ข้าหลงคิดว่าครานี้ไอ้หนูนั่นซวยแน่แล้ว…ไม่คิดเลยว่าการมาของทูตพิเศษพระราชวังฉินจะช่วยให้มันรอดพ้นเภทภัยไปได้”
เจิ้งชิวไม่ได้แปลกใจอะไรกับข่าวที่กำลังเป็นประเด็นร้อนในจวนผู้ว่าด้านนอก เพราะมันเข้าใจเรื่องทั้งหมดดีตั้งแต่เมื่อวาน
เมื่อวานนี้ เป็นผู้ว่าได้มาหามันด้วยตัวเอง และบอกเรื่องราวทั้งหมดที่ทูตพิเศษจากพระราชวังฉินมาบอกนำกระแสรับสั่งฝ่าบาทมาบอก
ในตอนนั้นมันก็รู้ได้ทันที
ว่ามูลค่าของยอดฝีมือหนุ่มต้วนหลิงเทียนจากเมืองเฉวี่ยโยวในสายตาของผู้ว่าการประจำมณฑลจิ่วโยวนั้น ได้พุ่งสูงข้ามหน้าข้ามตาผู้พิทักษ์โจวทงไปเรียบร้อย…
“การประลอง 16 มณฑลคราวนี้ถึงกับนำโอสถทิพย์ระดับกลางอย่างโอสถต้าหลัวมาเป็นของรางวัล…นับว่าพระราชวังฉินทุ่มทุนสร้างจริงๆ!!”
เจิ้งชิวถอนหายใจออกเบาๆ
มันรู้ดีแก่ใจ หากเป็นแบบนี้ มูลค่าของต้วนหลิงเทียนก็ได้สูงกว่าการรักษาหน้าให้ผู้พิทักษ์โจวทงมากมายนัก!
เพราะผู้ว่าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าต้วนหลิงเทียนจะเข้าร่วมการประลอง 16 มณฑลแล้วบังเกิดผลเลิศล้ำ ชิงโอสถต้าหลัวกลับมา!
โอสถทิพย์ระดับกลางอย่างโอสถต้าหลัวนั้น สามารถสร้างต้าหลัวจินเซียนได้!
ยิ่งไปกว่านั้นมันเองก็รู้ดี ว่าหากได้ใช้โอสถต้าหลัวล่ะก็ ระดับพลังฝึกปรือของผู้ว่าที่ค้างเติ่งมานานก็สามารถทะลวงขั้นได้แน่!
“ก่อนที่ต้วนหลิงเทียนจะปรากฏตัวขึ้นมา โจวเฟยสมควรเป็นตัวความหวังของมณฑล…แต่ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนไม่เพียงเอาชนะโจวเฟยได้ ยังเอาชนะได้อย่างราบคาบ ย่อมเบียดโจวเฟยตกเก้าอี้…กลายเป็นความหวังมณฑลแทน!”
เจิ้งชิวย่อมรู้เรื่องนี้ดี
หาไม่แล้วผู้ว่าคงไม่มาหามันด้วยตัวเองและขอให้มันเป็นผู้ ‘แบกหม้อก้นดำ’ ในครั้งนี้ เพื่อให้ต้วนหลิงเทียนรอดพ้นความผิด
“ครานี้นับว่าข้าได้แต่ต้องแบกหม้อก้นดำแล้วจริงๆ…”
ตอนนี้พอข้างนอกลือกันว่าที่ต้วนหลิงเทียนลงมือแบบนั้น เพราะมันละเลยหน้าที่ลืมบอกกฏให้ต้วนหลิงเทียนทราบ! จึงกล่าวได้ว่ามันคือราเหง้าของปัญหา…!!
แต่จะให้มันทำอย่างไรได้? ภายใต้การร้องขอเป็นการส่วนตัวของผู้ว่า มันก็ได้แต่ยินยอมแบกหม้อก้นดำใบนี้แต่โดยดี
อย่างไรก็ตามแม้มันจะรับหม้อก้นดำมาแบกไว้ แต่มันก็ไม่ได้ไม่พอใจอะไร
เพราะผู้ว่าได้ให้คำมั่นต่อมันแล้ว ว่ามันจะได้รับผลตอบแทนในภายหลังไม่น้อย
อีกทั้งต่อให้โจวทงจะมาหาความจากมัน ผู้ว่าก็จะออกตัวปกป้องมันเอง ไม่ให้โจวทงหาเรื่องอะไรมันแน่นอน
ณ หลุมมังกรซ่อน
“งั้น…ต้วนหลิงเทียนก็รอดแล้ว?”
“จ้าวสวรรค์ช่วย! สุดท้ายเรื่องนี้คนผิดกลับเป็นผู้อาวุโสเจิ้งชิวซะงั้น!?”
“ถึงแม้ว่าผู้อาวุโสเจิ้งชิวจะเป็นคนไปรับตัวต้วนหลิงเทียนมาจากเมืองเฉวี่ยโยว…แต่การออกตัวปกป้องต้วนหลิงเทียนจนตัวเองเสื่อมเสียแบบนี้…มันคุ้มแล้วหรือ?”
“หืม? เจ้าว่าไงนะ…หรือเจ้าจะบอกว่า ผู้อาวุโสเจิ้งชิวเต็มใจแบกหม้อก้นดำใบนี้เพราะคิดปกป้องต้วนหลิงเทียน?”
“ใช่! อาวุโสเจิ้งชิวทำอะไรละเอียดรอบคอบเสมอ เป็นไปไม่ได้เลยที่ท่านจะลืมเรื่องที่สำคัญที่สุดอย่างการบอกกฏในหลุมมังกรซ่อนให้ต้วนหลิงเทียนฟัง! นี่เป็นอาวุโสเจิ้งชิวจงใจแบกรับความผิดแทนต้วนหลิงเทียนชัดๆ!”
…
เหล่ายอดฝีมือในหลุมมังกรซ่อนไม่ใช่ตัวโง่งม
พวกมันรู้ดีว่าเรื่องนี้สมควรเป็นเจิ้งชิวคิดออกตัวปกป้องต้วนหลิงเทียนไม่ผิดแน่ ถึงได้ยอมแบกหม้อก้นดำไว้แต่ผู้เดียว…
หาไม่แล้วคราวนี้ต่อให้ต้วนหลิงเทียนจะไม่ถึงกับต้องตาย แต่ก็ต้องมีหนังถลอกกันบ้าง!
“อาวุโสเจิ้งชิว!?”
ฉินอวี่ที่ออกมาจากห้องศิลาบ่มเพาะ ก็ได้ยินเรื่องที่ผู้ว่าประกาศให้ต้วนหลิงเทียนรอดพ้นความผิดที่ก่อไว้กับโจวเฟยเมื่อ 3 วันก่อนเช่นกัน
มันเองก็ไม่คิดฝันจริงๆ ว่าสุดท้ายแล้วผู้ที่รับผิดชอบเรื่องนี้จะกลายเป็นเจิ้งชิวไปได้…
มันเองก็ถูกพามายังหลุมมังกรซ่อนพร้อมกับต้วนหลิงเทียน
มันจึงจดจำทุกสิ่งที่อาวุโสเจิ้งชิวกล่าวบอกมันกับต้วนหลิงเทียน ตอนมาถึงหลุมมังกรซ่อนได้
ยังจดจำได้ชัดเจน!
ตอนนั้นอาวุโสเจิ้งชิวบอกกฏออกมาอย่างละเอียด รวมถึงเรื่องที่ผู้ท้าชิงไม่อาจเข่นฆ่าหรือทำร้ายผู้ถูกท้าให้พิการ กระทั่งคิดทุบตีรังแกก็ทำไม่ได้…
“เรื่องนี้อย่างไรก็เกี่ยวพันกับผู้พิทักษ์อันดับหนึ่งอย่างโจวทง…อาวุโสเจิ้งชิวออกหน้ารับแทนต้วนหลิงเทียน เลือกจะแบกหม้อก้นดำให้แบบนี้ หรือไม่กลัวโจวทงจะทำให้เดือดร้อน?”
ฉินอวี่เองก็ไม่เข้าใจเรื่องนี้เหมือนกัน
ถึงแม้เจิ้งชิวจะเป็นอาวุโสฝ่ายในและได้ชื่อว่าเป็นอันดับ 2 ใต้ต้าหลัวจินเซียนแห่งมณฑลจิ่วโยว แต่สุดท้ายเจิ้งชิวก็ไม่ใช่ต้าหลัวจินเซียน คุณค่าในจวนผู้ว่าย่อมด้อยกว่าโจวทงอย่างมาก!
ถึงขั้นที่ต่อให้โจวทงจะฆ่าอีกฝ่ายทิ้งตรงๆ ก็เกรงว่าจะไม่ต้องรับโทษอะไร!
เพราะในสายตาของผู้ว่าแล้ว คุณค่าของเจิ้งชิวมันเทียบกับโจวทงไม่ได้เลย!
ด้วยเหตุนี้มันจึงอดไม่ได้ที่จะงุนงงอยู่บ้าง
ว่าอาวุโสเจิ้งชิวกล่าวช่วยเหลือต้วนหลิงเทียนแบบนี้ หรือไม่กลัวบาดหมางกับโจวทง?
แต่นี่ก็ช่วยไม่ได้ เพราะฉินอวี่ไม่รู้เรื่องการประลอง 16 มณฑลและของรางวัล ไม่งั้นคงไม่คิดแบบนี้แน่นอน
ส่วนด้านตัวละครหลักในเรื่องราวนี้อย่างโจวเฟยนั้น หลังมันปิดด่านรักษาตัวไป 3 วัน พอมันออกมาและคิดว่าต้องได้รับทราบข่าวดีเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนโดนสำเร็จโทษไปแล้ว มันก็ถึงกับผงะเพราะคิดไม่ถึงจริงๆ…
เพราะข่าวที่ได้รับคือต้วนหลิงเทียนยังอยู่ดีมีสุข และอาวุโสเจิ้งชิวกลายเป็นแพะรับบาปแทนต้วนหลิงเทียน!
“ไม่จริง…เป็นไม่ได้! เป็นไปไม่ได้!!”
โจวเฟยได้แต่ส่ายหัวไปมา ปฏิเสธไม่เชื่อว่าเรื่องดังกล่าวเป็นความจริง!
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ามันจะไม่ยอมรับความจริงแค่ไหน แต่ข้างนอกก็ลือกันไปทั่วทำให้สุดท้ายมันก็ต้องเชื่อ
“อาวุโสเจิ้งชิว…อาวุโสเจิ้งชิว!”
โจวเฟยย่อมรุดไปหาเจิ้งชิวด้วยตัวเองอย่างไม่รอช้า ถามออกไปด้วยน้ำเสียงคาดคั้น
“อาวุโสเจิ้งชิว ไฉนท่านต้องช่วยต้วนหลิงเทียนนั่นด้วย ความละเอียดรอบคอบของท่านรู้กันดีทั้งจวนผู้ว่า เป็นไปไม่ได้แน่ที่อย่างท่านจะลืมเรื่องบอกกฏหลุมมังกรซ่อนให้ต้วนหลิงเทียนฟัง!”
“ต้วนหลิงเทียนที่แท้มีความสัมพันธ์กับท่านอย่างไรกันแน่! ท่านถึงได้ปกป้องมันขนาดนี้!?”
โจวเฟยมองถามเจิ้งชิวด้วยน้ำเสียงท่าทีคาดคั้น
“สามหาว!”
เจิ้งชิวตะโกนออกเสียงเย็น มองจ้องโจวเฟยตาขวาง กล่าวว่า “โจวเฟยเจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่ากำลังพูดอยู่กับใคร!? ข้าเป็นอาวุโสฝ่ายในของจวนผู้ว่า แต่เจ้าเป็นแค่ศิษย์หลุมมังกรซ่อน กล้าดีอย่างไรมาตั้งคำถามกับข้า?!”
เผชิญหน้ากับคำถามคาดคั้นด้วยน้ำเสียงไม่เกรงใจ เจิ้งชิวก็ไม่กลัวกล่าวย้อนถามออกไปเสียงกร้าว
“อาวุโสเจิ้งชิวอย่าได้ลืมไปว่าข้าไม่ใช่แค่ศิษย์หลุมมังกรซ่อน แต่ยังเป็นบุตรบุญธรรมของโจวทง…ท่านเข้าข้างต้วนหลิงเทียนเช่นนี้ยังต่างอะไรกับไม่ไว้หน้าพ่อบุญธรรมข้า! หรือท่านไม่กลัวผิดใจกับพ่อบุญธรรมข้า?”
“แม้กระทั่ง…ท่านไม่กลัวว่าท่านพ่อบุญธรรมข้า จะมาหาท่านเพื่อคิดบัญชีครั้งนี้จริงๆ?”
กล่าวถึงท้ายประโยคน้ำเสียงของโจวเฟยก็เต็มไปด้วยการข่มขู่
“ไสหัวไป!”
เผชิญหน้ากับคำขู่ของโจวเฟย เจิ้งชิวเองก็มีโมโหเช่นกัน มันยกมือขึ้น อุบัติเป็นคลื่นพลังสุดไพศาลขุมหนึ่ง แผ่ออกไปกระแทกโจวเฟยอย่างแรงประหนึ่งกระสุนปืนใหญ่ถล่มอก จนร่างโจวเฟยลอยละลิ่วออกไปนอกลาน…!
“หากเจ้าไม่พอใจ…ก็ไปฟ้องโจวทงพ่อบุญธรรมเจ้าเสีย! ให้มันมาหาข้าด้วยตัวเอง!!”
โจวเฟยถูกซัดจนปลิวกระเด็นออกไปนอกลานได้ไม่ทันไร ก็ได้ยินวาจาเยียบเย็นไร้แยแสของเจิ้งชิวดังขึ้นตามหลัง…
จังหวะนี้โจวเฟยที่ร่างตกกระแทกพื้นกลิ้งหลุนๆไป ถึงกับนอนอึ้งไม่ได้ลุกขึ้นอยู่นาน…
มันคิดไม่ออกจริงๆ
ว่าไฉนมันกระทั่งยกอ้างพ่อบุญธรรมมาขู่แล้ว แต่เจิ้งชิวยังไม่กลัวแม้แต่นิดเดียว!
เจิ้งชิวที่อยู่ในลาน หลังซัดคนแล้วก็แสยะยิ้มเย้ยหยันออกมา
ผู้พิทักษ์โจวทง มันแน่นอนว่ากลัว!
อย่างไรก็ตามการแบกหม้อก้นดำแทนต้วนหลิงเทียนครั้งนี้ เป็นคำสั่งตรงจากผู้ว่า! หากผู้พิทักษ์อย่างโจวทงคิดหาความ มันก็ไม่ต้องกลัวว่าอีกฝ่ายจะมาเอาเรื่องกับมัน…!!
ต้วนหลิงเทียนย่อมไม่ได้ล่วงรู้ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้านนอกเลย
เขาที่อยู่ในห้องศิลานั้น ได้จมจ่อมอยู่ในภวังค์บ่มเพาะอย่างสมบูรณ์ ตั้งหน้าตั้งตาดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดินอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย ลืมเลือนเวลาไปเสียสิ้น…
“ในที่สุด…”
ครึ่งปีต่อมา ต้วนหลิงเทียนที่บ่มเพาะพลังโดยไม่ถูกรบกวน ก็ได้ลืมตาตื่นขึ้น สองตาฉายประกายดั่งดาราระยับ
จินเซียน!
ในที่สุดเขาก็ทะลวงถึงขอบเขต จินเซียน!