เล่ม-1 ตอนที่ 362-1 คลอดแล้ว หนึ่งครรภ์สองบุตร

หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก นิยายอัพทุกวันเข้ามาดูก่อน

ตอนที่ 362-1 คลอดแล้ว หนึ่งครรภ์สองบุตร

เดือนเจ็ดเป็นเดือนที่ได้กำหนดไว้แล้วว่าจะเป็นเดือนที่ไม่ธรรมดา หลังจากสวินหลันถูกขับออกจากบ้านตระกูลจีได้ไม่นาน จวนกั๋วกงก็ได้รับข่าวดี จีหว่านจะคลอดบุตรแล้ว จะคลอดแต่ยังคลอดไม่ออก อาการนางมาเมื่อตอนบ่าย เวลานี้กำลังเจ็บท้องอยู่ หมอตำแยบอกว่าทุกอย่างปกติดี แต่หลินฮูหยินไม่วางใจ เอ่ยกับหลินซูเยี่ยนว่า “ได้ยินว่าน้องสะใภ้ของหว่านหว่านเป็นหมอ ฝีมือการแพทย์สูงส่งกว่าหมอหลวงเสียอีก เจ้ารีบไปเชิญนางมาเร็ว!”

พี่เขยหลินกวาดตามองหมอตำแยกับหมอหลวงที่อยู่กันเต็มห้อง อย่างน้อยก็หลายสิบคนแล้ว เขากระตุกมุมปากเงียบๆ แล้วให้คนไปเตรียมรถม้า

หลินฮูหยินเอ่ยอย่างไม่ได้ดั่งใจว่า “จะมานั่งรถม้าอะไร ขี่ม้าไปสิ! ขี่ม้าเร็วกว่าตั้งมาก!”

หลินซูเยี่ยนหน้าตาพูดไม่ออก “ท่านไม่ได้ไม่ให้ขี่ม้าหรอกหรือ ท่านบอกว่าขี่ม้าอันตราย!”

หลินฮูหยินเลือกที่จะลืมความทรงจำส่วนนั้นไปเสีย “เจ้าต้องจำผิดแน่! ข้าไม่มีทางเอ่ยเช่นนั้น! เวลานี้ไปหาม้าฝีเท้าดีที่สุดมา นั่นน่ะ…อะไรนะ… ม้าอึดที่ซยงหนีว์นำมาบรรณาการน่ะ ฮ่องเต้ไม่ได้พระราชทานให้เจ้าหรอกหรือ เอาตัวนั้นแล้วกัน!”

หลินซูเยี่ยนตัวเซจนเกือบล้มลง!

ท่านแม่ ท่านแม่ของข้า ท่านก็รู้ว่าม้าตัวนั้นจวนเราส่งองครักษ์วรยุทธ์สูงส่งไปควบคุมมันยี่สิบกว่าคนก็ถูกสะบัดหล่นทุกคนมิใช่หรือ ท่านยังหวังจะให้บุตรชายที่ไม่มีวรยุทธ์ของท่านไปขี่คอมันอีกหรือ

หลินซูเยี่ยนถูกมารดาของตนไล่ออกไป

ก่อนหน้านี้เขาเป็นบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของท่านแม่ แต่เด็กในครรภ์ของหว่านหว่านยังไม่ทันได้ลืมตาดูโลก ฐานะของเขาก็หล่นฮวบลงไปเป็นพันจั้ง จนกลายเป็นดอกหญ้ากำหนึ่งไปแล้ว

แน่นอนว่าหลินซูเยี่ยนไม่มีทางขี่ม้าตัวนั้นจริงๆ เขาขึ้นนั่งรถม้าคันที่เร็วที่สุดเพื่อไปรับตัวคณะของเฉียวเวยมา วันนี้พอดีว่าสำนักศึกษาหยุดเรียน เด็กน้อยทั้งสามเลยตามมาด้วย

จิ่งอวิ๋นกับวั่งซูเคยมาพักค้างที่จวนกั๋วกงหลายครั้ง จึงคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้เป็นอย่างดี พวกเขาลากหลิวเกอร์ที่หน้าตาเหรอหราไปยังห้องที่จัดไว้เฉพาะสำหรับพวกเขาสองคน

ส่วนเฉียวเวยไปที่ห้องของจีหว่าน พอเข้าไปเห็นคนอยู่กันเต็มไปหมดก็เกือบผงะ นี่เชิญหมอตำแยกับหมอหลวงทั้งวังมาแล้วหรือ ขบวนใหญ่เพียงนี้ก็ไม่มีใครแล้ว!

ในห้องมีเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดของจีหว่านดังออกมา หลินฮูหยินร้อนรนราวกับมดบนเตาร้อน นางจะไม่ร้อนใจได้อย่างไร นี่เป็นหลานที่นางเฝ้ารอมาสิบปีเชียวนะ จะให้เกิดข้อผิดพลาดใดๆ ไม่ได้เด็ดขาด!

“ฮูหยิน ฮูหยินน้อยตระกูลจีมาแล้วเจ้าค่ะ” สาวใช้เอ่ยรายงานจากนอกผ้าม่าน

หลินฮูหยินรีบเลิกผ้าม่านออกมาลากเฉียวเวยเข้าไป

เฉียวเวยก่อนหน้านี้เคยมีการปะทะคารมกับสะใภ้รองของตระกูลหลินอย่างหลีซื่อมาก่อน ครานั้นเพื่อป้กป้องเฉียวเวย จีหว่านยังจัดการหลีซื่อให้ด้วย หลีซื่อไปฟ้องร้องห่มร้องไห้กับแม่สามี หลินฮูหยินยังต่อว่าจีหว่านกับเฉียวเวยไว้ไม่น้อย แต่เวลานี้ความไม่พอใจเหล่านั้นไม่สำคัญอีกแล้ว เพื่อให้การทำคลอดหลานหัวแก้วหัวแหวนของนางได้อย่างราบรื่นปลอดภัย ต่อให้นางต้องเทิดทูนเฉียวเวยนางก็ยอม!

“หลินซูเยี่ยนไอคนสารเลว! ข้าไม่คลอดแล้ว!” จีหว่านเจ็บท้องขึ้นมาอีก

หลินซูเยี่ยนยืนอยู่นอกผ้าม่าน “ข้าเป็นคนสารเลว! ข้าเป็นคนสารเลว!”

หมอหลวงทุกคน “…”

หมอตำแยทุกคน “…”

ตรงหน้าเตียงมีหมัวมัวสูงอายุที่มีหน้าที่ทำคลอดให้เหล่านายหญิงในวังโดยเฉพาะ ที่แท้หลินฮูหยินก็ไม่ได้วุ่นวายไปถึงแค่บ้านตระกูลจี แต่ยังวุ่นวายไปถึงฮ่องเต้ด้วย ฮ่องเต้พอได้ฟังว่าจีหว่านจะให้กำเนิดบุตร ก็ส่งคนทั้งหมดมาโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงทันที

หมัวมัวผู้นี้มีประสบการณ์มาก ทำคลอดให้จีหว่านได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งร่างกายของจีหว่านก็มีแรงต้านทานพอ จึงไม่มีอาการใดที่ส่อเค้าว่าจะทำคลอดได้ไม่ราบรื่น ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี เฉียวเวยเข้าไปในห้องก็แค่ช่วยเป็นกำลังใจให้จีหว่านเท่านั้น แต่ใครจะรู้ว่าแค่นางจับมือจีหว่าน จีหว่านก็คลอดออกมาทันที เป็นเด็กผู้ชายตัวอวบอ้วนคนหนึ่ง

เสียงร้องของเด็กทารกดังกังวานขึ้นในห้อง แค่ฟังจากเสียงก็รู้ทันทีว่าร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง

พี่เขยหลินตื่นเต้นจนน้ำตานองเต็มหน้า

หลินฮูหยินจับมือเฉียวเวยไว้ “เจ้าช่างเป็นดาวนำโชคของพวกเราตระกูลหลินโดยแท้! แค่เจ้ามาหว่านหว่านก็คลอดแล้ว! เจ้าไม่รู้หรอกว่านางปวดท้องมานานมาก! ข้ายังคิดว่านางจะคลอดยาก เด็กไม่ออกมาแล้วเสียอีก!”

หมัวมัวทำคลอดที่กำลังจะบอกว่า “ลูกสะใภ้ของท่านช่างคลอดเร็วยิ่งนัก” จึงพลันค้างอยู่ที่ลำคอ!

จีหว่านที่เดิมคิดว่าในที่สุดพอคลอดออกมาแล้วก็จะได้สบายเสียที จู่ๆ ก็จับท้องแล้วตะโกนร้องขึ้นมาอีกครั้ง “อ๊าๆๆ! ปวดอีกแล้ว!”

หมอตำแยรีบเข้ามาจับ “ยังมีอีกคน!”

หลินฮูหยินถึงกับตาโตพูดไม่ออก มิน่าเล่าท้องของหว่านหว่านถึงได้ใหญ่กว่าท้องของหลีซื่อ!

หลังจากผ่านไปหนึ่งเค่อ จีหว่านก็ให้กำเนิดบุตรอีกคนหนึ่ง แล้วยังเป็นบุตรชายเช่นกันอีกด้วย!

หลินฮูหยินดีใจจนตัวแทบจะลอยได้ หลีซื่อยังบอกกับนางว่าท้องจีหว่านกลม จะต้องเป็นบุตรสาวแน่นอน นางคิดว่าหลานสาวก็หลานสาวเถิด อย่างไรก็ดีกว่าไม่มีมากนัก แต่ผู้ใดจะคิดว่าเป็นเด็กชายตัวอวบอ้วนเช่นนี้ แค่คนเดียวนางก็พอใจมากแล้ว แต่สวรรค์ยังให้คนที่สองกับนางอีก! ซ้ำยังเป็นเด็กผู้ชายเช่นกันด้วย!

มือเรียวของนางยกขึ้นโบก “ตกรางวัลทุกคนคนละสิบตำลึง!”

เฉียวเวย: สิบตำลึง…ใจถึง!

จีหว่านให้กำเนิดบุตรชายตัวอวบอ้วนคู่หนึ่ง นับว่าเป็นหน้าเป็นตาให้กับบ้านฝ่ายสามียิ่งนัก หลีซื่อที่มักทำตัวเย่อหยิ่งต่อหน้านางก็เลยต้องเก็บหาง เข้ามากล่าวแสดงความยินดีกับนางอย่างนอบน้อม

หลีซื่อชาติกำเนิดต่ำต้อยกว่าจีหว่าน รูปลักษณ์ก็สู้จีหว่านไม่ได้ ความรู้ความอ่านยิ่งสู้ไม่ได้แม้แต่ปลายก้อยของจีหว่าน มีเพียงสิ่งเดียวที่นางเหนือกว่าจีหว่านก็คือนางมีบุตรให้ตระกูลหลินถึงสี่คน แต่ในเวลานี้ข้อได้เปรียบเดียวของนางได้หายไปแล้ว ตั้งแต่นี้ต่อไปจะไม่เหลือพื้นที่ให้นาง หลีหมิ่นซูได้ลิงโลดอีกแล้ว

จีหว่านจัดการอะไรจนเรียบร้อยก็ทิ้งตัวลงนอนในห้องด้วยความสบายใจ จีหว่านเหนื่อยสายตัวแทบขาด ยังไม่ทันพูดอะไรก็หลับไปเสียแล้ว หลินซูเยี่ยนนั่งอยู่ตรงหัวเตียง อยู่เป็นเพื่อนนางด้วยความสงสารและยินดี

เด็กทารกทั้งสองมีแม่นมมาอุ้มไปชำระล้างตัวแล้ว

จิ่งอวิ๋นกับวั่งซูและหลิวเกอร์วิ่งมาล้อมวงดู

พวกเขาไม่เคยเห็นเด็กน้อยตัวเล็กเช่นนี้มาก่อน ทุกคนเบิกตาโตด้วยความใคร่รู้

“ข้าขอลองลูบเขาได้รึไม่” จิ่งอวิ๋นชี้ไปยังทารกคนพี่ขณะเอ่ยถาม

แม่นมที่อุ้มทารกคนพี่อยู่ระบายยิ้มอบอุ่น “ได้สิ ต้องเบามือหน่อยนะ”

จิ่งอวิ๋นยื่นนิ้วเล็กๆ ที่ประณีตบรรจงขงตนออกไปลูบเส้นผมของเด็กน้อยเบาๆ “โอ้โห นุ่มจัง”

หลิวเกอร์ก็เบิกตากว้างด้วยความใคร่รู้ เขาเองก็อยากลูบเด็กน้อยเช่นกันแต่ติดตรงที่นึกกลัวอยู่เล็กน้อย

จิ่งอวิ๋นลูบศีรษะเด็กน้อยอีกครั้ง แล้วยังเลื่อนไปลูบมือน้อยๆ นั้นด้วย มือของเขาเล็กมาก เล็กกว่าของจูเอ๋อร์เสียอีก จิ่งอวิ๋นวางนิ้วมือนิ้วหนึ่งลงบนฝ่ามือของเด็กน้อย เด็กน้อยก็คว้าหมับเอาไว้ทันที!

จิ่งอวิ๋น: โอ้โห โอ้โห!