ตอนที่ 2,729 : แขกในห้องปฐพีหมายเลข 1

ต้องทราบด้วยว่าผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศอมตะเถิงหลงแห่งนี้ ก็คือตัวตนขอบเขตยอดเซียนอมตะขั้นสุดยอด และตัวตนที่ว่าก็มีอยู่ด้วยกัน 2 คนเท่านั้น!

เช่นนั้นด่านพลังยอดเซียนอมตะขั้นสวรรค์ ก็คือตัวตนที่แข็งแกร่งรองลงมา และทั่วทั้งประเทศอมตะเถิงหลง ก็มีไม่ถึง 10 คน!

‘ยอดฝีมือที่ติดตามรับใช้องค์ชาย 4 กับองค์ชาย 7 จะเป็นยอดฝีมือขอบเขตยอดเซียนอมตะขั้นสวรรค์ก็ไม่แปลก…แต่ไม่คิดเลยจริงงๆว่ากระทั่งฝีมือที่ติดตามรับใช้องค์ชาย 13 จะเป็นถึงยอดฝีมือขอบเขตยอดเซียนอมตะขั้นสวรรค์ด้วย ว่ากันตามตรงเรื่องนี้มิน่าเป็นไปได้เลย’

หลังออกมาจากห้องนภาหมายเลข 1 ผู้ดูแลโรงประมูลสกุลเหนียน อดไม่ได้ที่จะงุนงง คิดไม่ออกวาไฉนเป็นแบบนี้ไปได้

เพราะถึงแม้ในประเทศอมตะเถิงหลงตอนนี้ องค์ชายที่โดดเด่นจะมีอยู่ด้วยกัน 3 คน แต่ให้ไปถามผู้ใด ทั้งหมดก็ล้วนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า…ฝ่าบาทเพียงโปรดปรานแค่องค์ชาย 4 กับ 7 เท่านั้น! และองค์ชาย 13 ก็ไม่ต่างอะไรจากฝุ่นใต้ตา ยากจะได้นั่งบัลลังก์มังกร!!

มีคนจำนวนไม่น้อยรวมถึงมันด้วย ที่คิดว่าองค์ชาย 13 พยายามไปก็ไร้ผล

นั่นเพราะฮ่องเต้ของพวกมัน ยังไม่อาจยืนยันได้จนถึงบัดนี้…ว่าที่แท้องค์ชาย 13 ใช่ลูกชายแท้ๆหรือไม่! ทำให้ไม่ค่อยจะใส่ใจอะไรกับองค์ชาย 13 และมุ่งหวังให้องค์ชาย 4 กับ 7 แสดงผลงานเลิศล้ำเพื่อชิงตำแหน่งรัชทายาทกันสองคน เช่นนั้นจึงมอบยอดฝีมือขอบเขตยอดเซียนอมตะขั้นสวรรค์ให้ไปติดตารับใช้ทั้งคู่

สำหรับองค์ชาย 13 นั้น เท่าที่ทราบมา ฝ่าบาทเพียงมอบยอดฝีมือขอบเขตยอดเซียนอมตะขั้นปฐพีให้ไปติดตามคุ้มกันเท่านั้น…

และมันก็ยังจดจำผู้ดูแลคนที่ว่าได้ เพราะเคยพบเจอครั้งหนึ่งในอดีต

ทว่าคราวนี้มันกลับไม่เห็นยอดฝีมือขอบเขตยอดเซียนอมตะคนดังกล่าว แต่เป็นหน้าใหม่!

‘ดูท่าแล้วยอดฝีมือที่ติดตามรับใช้องค์ชาย 13 จะมิใช่ยอดฝีมือของประเทศอมตะเถิงหลง…เพราะข้าจำได้ดีว่าในบรรดา 7 ยอดฝีมือขอบเขตยอดเซียนอมตะขั้นสวรรค์ของประเทศอมตะเถิงหลงมิมีมัน!’

ผู้ดูแลโรงประมูลสกุลเหนียนก็นับว่ามีฐานะในตระกูลเหนียนไม่น้อย มีหรือมันจะไม่รู้จักตัวตนระดับแนวหน้าของประเทศอมตะเถิงหลง?

เช่นนั้นมันจึงมั่นใจได้ทันที

ว่าในบรรดายอดฝีมือขอบเขตยอดเซียนอมตะขั้นสวรรค์ทั้ง 7 ของประเทศอมตะเถิงหลงนั้น ไม่มีบุคคลข้างกายองค์ชาย 13 รวมอยู่ด้วยแน่นอน!

‘คนผู้นั้น…สมควรเป็นยอดฝีมือที่องค์ชาย 13 รับตัวมาจากนอกประเทศ!’

สุดท้ายผู้ดูแลโรงประมูลสกุลเหนียนก็ได้บทสรุปดังกล่าว อย่างไรก็ตามมันอดสูดอากาศเข้าลึกๆไม่ได้

ท้ายที่สุดแล้วนั่นก็คือยอดฝีมือขอบเขตยอดเซียนอมตะขั้นสวรรค์!!

ในประเทศอมตะเถิงหลงแห่งนี้ ตราบใดที่ไม่ท้าทายอำนาจราชวงศ์ ยอดฝีมือขอบเขตยอดเซียนอมตะขั้นสวรรค์ก็สามารถเดินทอดน่องได้ทั่วแดนดิน ไม่ต้องเกรงกลัวผู้ใด!

กระทั่งในตระกูลเหนียนของมันที่เป็นตระกูลระดับสูงของประเทศ ก็มีตัวตนขอบเขตยอดเซียนอมตะขั้นสวรรค์อยู่แค่คนเดียวเท่านั้น

เช่นนั้นก็ทราบได้ว่าในประเทศอมตะเถิงหลงแห่งนี้ ตัวตนระดับยอดเซียนอมตะขั้นสวรรค์หายากเพียงใด

ด้วยเหตุนั้นทำให้ตัวตนระดับยอดเซียนอมตะขั้นสวรรค์ มีสถานะที่สูงส่งในประเทศแห่งนี้นัก

แต่ตอนนี้มันพบว่า…

ยอดเซียนอมตะขั้นสวรรค์ที่ไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดมาจากไหน กลับติดตามรับใช้องค์ชาย 13! กระทั่งท่าทียังแลดูรับใช้ด้วยความเต็มใจ!!

‘ว่ากันว่าองค์ชาย 13 นั้นมีความสามารถไม่ใช่ชั่ว หลายอย่างกระทั่งองค์ชาย 4 กับองค์ชาย 7 ยังเทียบไม่ติด…วันนี้ได้เห็นกับตาแล้วจริงๆ ถึงกับไปหาตัวตนระดับนั้นมาติดตามรับใช้ตัวเองได้!’

ผู้ดูแลโรงประมูลสกุลเหนียนลอบทอดถอนในใจ

อยู่ๆตอนนี้มันก็รู้สึกว่า ก่อนหน้าเป็นมันประเมินองค์ชาย 3 ต่ำเกินไปมาตลอด!

‘เรื่องนี้ข้าต้องรีบนำกลับไปแจ้งทางตระกูล เพื่อที่ท่านผู้นำจะได้นำไปแจ้งต่อองค์ชาย 7…การที่องค์ชาย 13 มียอดฝีมือระดับนั้นติดตามคุ้มกัน องค์ชาย 7 ต้องให้ความสนใจเป็นอย่างมากแน่’

พอนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ผู้ดูแลสกุลเหนียนก็ไม่รอช้า เร่งหยิบยันต์อมตะสื่อสารแล้วส่งกลับไปยังตระกูลเหนียนทันที

ความสัมพันธ์ระหว่างองค์ชาย 4 กับสกุลโจวแน่นแฟ้นเพียงใด ความสัมพันธ์ระหว่างองค์ชาย 7 กับสกุลเหนียนก็ไม่แตกต่าง

เพราะมารดาผู้ให้กำเนิดองค์ชาย 7 ก็เป็นน้องสาวแท้ๆของผู้นำตระกูลเหนียนเช่นกัน!

หากกล่าวว่าตระกูลโจวเป็นผู้สนับสนุนหลักให้องค์ชาย 4 ขึ้นดำรงตำแหน่งองค์ชายรัชทายาทเพื่อสืบบัลลังก์ในภายภาคหน้าล่ะก็…เช่นนั้นองค์ชาย 7 ก็มีพวกมันตระกูลเหนียนเป็นผู้ที่คอยค้ำจุนอยู่!

สำหรับองค์ชาย 13 นั้น มารดาผู้ให้กำเนิดไม่ได้เป็นคนของตระกูลใหญ่อะไรในประเทศอมตะเถิงหลงแห่งนี้ ยังเป็นสนมที่ฮ่องเต้เถิงหลงได้มาจากนอกประเทศด้วยซ้ำ

เช่นนั้นองค์ชาย 13 จึงไม่มีทุนรอนเหมือนอีก 2 องค์ชาย ไร้ซึ่งแรงหนุนใดๆ มีแต่ต้องพึ่งกำลังของตัวเองเท่านั้น!

นอกจากนั้นด้วยความที่กระทั่งฮ่องเต้เถิงหลงเองก็ยังไม่มั่นใจ ว่าที่แท้องค์ชาย 13 ใช่ลูกตัวเองแน่รึเปล่า มันก็เลยละเลยองค์ชาย 13 และไม่ค่อยดูดำดูดีอะไรสักเท่าไหร่

ต่อให้ความสามารถจะไม่ได้ด้อยกว่าองค์ชาย 4 หรือองค์ชาย 7 เลยก็ตาม

งานประมูลย่อยของโรประมูลสกุลเหนียนก็ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ สิ่งของถูกนำขึ้นประมูลชิ้นแล้วชิ้นเล่า บ้างสมหวัง บ้างผิดหวังกันไปตามประสา เงินผู้ใดมากกว่าก็ชนะไป

และหลังจากเวลาผ่านไปได้พักใหญ่ๆ ในที่สุด ต้วนหลิงเทียนที่นั่งเอื่อยเฉื่อยอยู่ในห้องปฐพีหมายเลข 1 ก็ได้เห็นสิ่งที่เขารอคอยถูกนำขึ้นมาประมูลเสียที!

เคล็ดวิชาบ่มเพาะระดับลี้ลับ!

“ทุกท่าน นี่คือยันต์อมตะเก็บความทรงจำ ที่บันทึกเคล็ดวิชาบ่มเพาะอมตะ ‘เมฆาคล้อยฝัน’ เอาไว้”

สตรีอวบอิ่มกลางเวทีประมูลกล่าวเสียงไพเราะมากเสน่ห์แนะนำออกมาอย่างมีชีวิตชีวา

เสียงมากเสน่ห์ของนาง กระทั่งผู้ที่นั่งอยู่ในห้องส่วนตัวทั้งหลายก็ได้ยินกันชัดเจน

หลังจากแนะนำเคล็ดวิชาอมตะ เมฆาคลอยฝัน ให้ทุกคนรับทราบคร่าวๆแล้ว สตรีงามอวบอิ่มบนเวที ก็กล่าวราคาเปิดประมูลออกมาให้รับทราบ “เคล็ดอมตะเมฆาคล้อยฝันแห่งนี้ มีราคาเปิดประมูลอยู่ที่ 10,000 หินอมตะระดับสูงสุด และการเพิ่มราคาแต่ละครั้งต้องมิน้อยก่า 50,000 หินอมตะระดับสูงสุด!”

ต้วนหลิงเทียนที่นั่งรอคอยในห้องปฐพีหมายเลข 1 ไม่ได้คิดจะประมูลเคล็ดอมตะอย่างเมฆาคล้อยฝันแต่อย่างใด

ส่วนคนอื่นๆในโรงประมูลนั้น มีไม่น้อยที่สนใจเคล็ดอมตะเมฆาคล้อยฝัน ราคาของมันจึงดีดตัวสูงขึ้นในเวลาอันสั้น และสุดท้ายก็ปิดประมูลไปในราคา 90,000 หินอมตะระดับสูงสุด!

“ขอแสดงความยินดีกับแขกผู้มีเกียรติในห้องปฐพีหมายเลข 6 ด้วยค่ะ! ตอนนี้เคล็ดอมตะเมฆาคล้อยฝันเป็นของท่านแล้ว!! รายการต่อไป ทางเราจะเริ่มทำการประมูลเคล็ดอมตะเคล็ดที่ 2…”

เสียงกล่าวมากเสน่ห์ของพิธีกรสาวดังขึ้นอย่างมีชีวิตชีวา ไม่ทันให้ผู้คนได้พักหายใจหายคอ ก็เริ่มแนะนำเคล็ดอมตะที่ส่งเข้าประมูลเคล็ดที่ 2 ทันที

และสุดท้ายแล้วเคล็ดอมตะดังกล่าวก็ถูกปิดประมูลไปในราคา 90,000 หินอมตะระดับสูงสุดเช่นกัน

‘เคล็ดอมตะขั้นลี้ลับราคา 90,000 หินอมตะระดับสูงสุด…ก็ไม่ถือว่าแพงอะไร’

ต้วนหลิงเทียนที่นั่งอยู่ภายในห้องปฐพีหมายเลข 1 นั้น ไม่ได้แลดูกังวลแม้แต่น้อยเมื่อเห็นว่าเคล็ดอมตะขั้นลี้ลับทั้ง 2 ถูกคนประมูลไปแล้ว เขายังคงนั่งพิงพนักนุ่มๆ จิบชาอย่างสบายอารมณ์ สีหน้าสงบ แลดูราวกับเทพชราที่กำลังมีความสุขกับการพักผ่อน…

เสมือนให้ไท่ซานถล่มลงตรงหน้า ก็ไม่อาจทำให้หน้าเขาเปลี่ยนสีได้

เหตุผลที่เขาไม่ได้กังวลหรือร้อนใจอะไรนั้น เพราะว่าเคล็ดอมตะขั้นลี้ลับยังเหลืออีกตั้ง 5 เคล็ด และที่สำคัญที่สุดคือต้วนหลิงเทียนไม่ค่อยชอบเคล็ดอมตะขั้นลี้ลับทั้ง 2

ถึงแม้เคล็ดอมตะขั้นลี้ลับจะไม่ค่อยแตกต่างกันมากเท่าไหร่ หากแต่ก็ยังมีความแตกต่าง

ตัวอย่างเช่นเคล็ดอมตะทั้ง 2 ที่ถูกประมูลออกไปนั้น เคล็ดอมตะเมฆาคล้อยฝัน ยามเมื่อใช้มันบ่มเพาะพลังแล้ว พลังเซียนต้นกำเนิดในร่างเขาจะก็กลายเป็นอ่อนโยน เหมาะสำหรับผู้ที่ถนัดมวยอ่อนรวมถึงมีทักษะเน้นไปทางด้านอ่อนสยบแข็ง ส่วนเคล็ดที่ 2 ก็ทำให้พลังเซียนอมตะต้นกำเนิดในร่างร้อนแรงดังเพลิงไฟ เป็นแนวทางแข็งกร้าวอันสุดขั้ว

ต้วนหลิงเทียนไม่ชอบทั้งคู่

สำหรับเขาเคล็ดอมตะที่ดี ยามบ่มเพาะต้องทำให้พลังเซียนอมตะต้นกำเนิดพร้อมพรั่งทั้งแข็งกร้าวและอ่อนหยุ่น ส่วนจะมีคุณสมบัติพิเศษอะไรอื่นเขาไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ เพราะแก่นแท้ของการเข่นฆ่าคือรวดเร็วรุนแรงและแม่นยำ ลูกเล่นใดอืน ล้วนไร้สาระในสายตาเขา

หลังจากที่เคล็ดอมตะถูกประมูลออกไปเคล็ดแล้วเคล็ดเล่า ในที่สุดเคล็ดอมตะเคล็ดที่ 5 ก็เข้าตาต้วนหลิงเทียน เช่นนั้นเขาจึงเริ่มเสนอราคาประมูลเป็นครั้งแรก และยังเป็นคนประกาศราคาเป็นคนแรกอีกด้วย

“หมื่นหินอมตะระดับสูงสุด”

หลังจากที่กล่าวประกาศราคาประมูลออกไปตามราคาเปิดประมูลแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็เฝ้ารอให้คนประกวดราคาสู้ อย่างไม่รีบไม่ร้อน

เพราะสุดท้ายแล้วเคล็ดอมตะทั้ง 4 ก่อนหน้า 2 เคล็ดแรกก็ถูกปิดประมูลไปในราคา 90,000 หินอมตะ ส่วนเคล็ดที่ 3 กับเคล็ดที่ 4 ก็ถูกปิดประมูลไปในราคา 80,000 หินอมตะระดับสูงสุด เช่นนั้นต้วนหลิงเทียนจึงไม่คิดว่าอาศัยราคาเปิดแค่ 10,000 หินอมตะขั้นสูงสุดของเขา จะได้เคล็ดอมตะนี้มาครอง

เว้นเสียแต่ทุกคนภายในโรงประมูลจะเกิดอาการใบ้ขึ้นมากะทันหันอย่างพร้อมเพรียง

“15,000 หินอมตะระดับสูงสุด”

ครู่ต่อมาก็มีคนเกทับราคาเขา และยังเป็นคนที่นั่งอยู่ในชั้นแรกของโรงประมูลซึ่งเป็นชั้นที่นั่งเรียงรายเป็นแถวๆ หน้าเวที

และถึงแม้จะมีเสียงประกวดราคาอีกครั้ง เหล่าผู้คนในห้องส่วนตัวระดับปฐพีอื่นๆก็ยังเงียบ เพราะตั้งแต่ที่ได้ยินเสียงเปิดประมูลครั้งแรก พวกมันก็เริ่มกล่าวพึมพำกับตัวเบาๆ “เสียงนั่นมัน…หรือแขกในห้องปฐพีหมายเลข 1 ที่เปิดราคาประมูลคนแรกนั่นจะเป็นคนๆเดียวกันกับที่…”

“เสียงนั่นมัน…หรือจะเป็นแขกที่เข้าพักในโรงเตี๊ยมหลิวเหนียนและฆ่าคนทิ้งเอาดื้อๆผู้นั้น! มันแม้จะฆ่าคนในขบวนคุ้มกัน แต่ไม่เพียงไม่ถูกยอดฝีมือสกุลเหนียนเอาความ ยอดฝีมือสกุลเหนียนจากโรงเตี๊ยมหลิวเหนียนยังออกหน้าปกป้องมัน…เห็นชัดว่ามันมีความเป็นมาไม่ธรรมดาแน่แท้ หาไม่แล้วโรงเตี๊ยมหลิวเหนียนไหนเลยจะออกหน้าปกป้องมันเช่นนั้น”

“คนผู้นี้…มิอาจตอแยด้วยได้”

“ใครจะกล้าแข่งกับมันเล่า…เกิดมันลุกขึ้นมาตัดหัวผู้คนอีกจะทำอย่างไร”

ผู้ที่กล่าวพึมพำในห้องปฐพีอื่นๆ เห็นได้ชัดว่าพวกมันเป็นแขกที่เข้าพักโรงเตี๊ยมหลิวเหนียนและถูกพามาพร้อมกับต้วนหลิงเทียน พวกมันจึงเห็นตอนต้วนหลิงเทียนฆ่าคนมากับตา ทว่าโรงเตี๊ยมหลิวเหนียนไม่เพียงไม่ถือสาหาความยังออกหน้าปกป้อง!

เช่นนั้นพวกมันย่อมตระหนักได้ทันที…

ว่าต้วนหลิงเทียนไม่ใช่คนที่พวกมันจะล่วงเกินได้

เช่นนั้นจึงไม่มีใครคิดประกวดราคาแข่งกับต้วนหลิงเทียน

“30,000 หินอมตะระดับสูงสุด”

ด้วยประกาลฉะนี้…หลังจากต้วนหลิงเทียนประกวดราคาครั้งที่ 3 ออกไป ก็ไม่มีใครคิดสู้กับเขาเลย

สำหรับกลุ่มคนในโถงประมูลรวมนั้น จะไม่สู้ก็ไม่แปลก เพราะส่วนมากแล้วพวกมันมีทุนทรัพย์จำกัด และไม่อาจจ่ายไหว

เช่นนั้นเหลาคนในโถงประมูลรวม จึงหันไปแหงนมองเหล่าผู้คนในห้องส่วนตัวด้านหลังทั้งหลาย ด้วยอยากรอฟังการประกวดราคาแข่งกับห้องปฐพีหมายเลข 1

ทว่าห้องส่วนตัวทุกห้องบัดนี้ พร้อมใจกันเงียบกริบ…

“เกิดอะไรขึ้น? ไฉนห้องส่วนตัวห้องอื่นๆไม่มีใครคิดประกวดราคาแข่งเลยเล่า?”

“นั่นน่ะสิ อย่างไรนี่ก็เป็นเคล็ดอมตะขั้นลี้ลับ…หากนำไปประมูลในตลาดมืดจะอย่างไรก็เรียกราคาได้ไม่ต่ำกว่า 60,000 – 70,000 หินอมตะระดับสูงสุด หากมีใครในห้องปฐพีแข่งประมูลตอนนี้แล้วได้ไปถูกๆ จะอย่างไรก็กำไรอื้อซ่า…”

“จริง…แต่ไฉนไม่มีใครประกวดราคาแข่งเลยเล่า นี่ยังมิใช่โอกาสได้รับหินอมตะระดับสูงสุดง่ายๆหรือไร?”

โถงประมูลด้านล่างฮือฮากันอยู่พักหนึ่ง หากแต่ก็ไม่มีใครในห้องส่วนตัวอื่นๆ คิดจะประกวดราคาออกมาเลย

“ดูเหมือนว่า…คนในห้องปฐพีหมายเลข 1 จะมิใช่ธรรมดาๆเสียแล้ว”

“เจ้ายังจะกล่าวคำซ้ำซากไปทำอะไร หากคนในห้องปฐพีหมายเลข 1 ง่ายดาย ไหนเลยคนในห้องส่วนตัวอื่นๆจะเงียบกริบกันเช่นนี้ กล่าวไปดูเหมือนทุกห้องจะพากันเงียบแต่แรกแล้วด้วยซ้ำ”

ไม่นานนักคนในโถงประมูลด้านล่างก็คาดเดาว่าคนที่อยู่ในห้องปฐพีหมายเลข 1 ไม่ใช่คนธรรมดาๆแน่นอน ถึงขั้นทำให้คนในห้องปฐพีอื่นๆไม่มีใครกล้าสู้ด้วยแบบนี้

สำหรับคนทั้ง 2 ในโถงประมูลด้านล่างที่ประกวดราคาแข่งกับต้วนหลิงเทียนก่อนหน้า ตอนนี้ก็นั่งหน้าเสียเหงื่อแตก ยังเริ่มนึกเสียใจที่ดันทะลึ่งประกวดราคาแข่งออกไป…