ตอนที่ 2,909 : จุดหมายต่อไป นิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ!

“ปรมาจารย์โอสถต้วน”

เถี่ยไท่เหอ ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายอมตะไท่อี ที่รออยู่หน้าทางเข้านิกายอมตะสราญรมย์ ด้วยค่ายกลที่ก่อให้เกิดม่านเมฆหมอกบดบัง มันจึงไม่อาจล่วงรู้ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับนิกายอมตะสือหังด้านใน

จนเมื่อเห็นต้วนหลิงเทียนเหินร่างออกมจากม่านหมอกมาปรากฏตัวให้เห็น สายตาที่เฉยเมยไร้คลื่น ก็เริ่มฉายอารมณ์ความรู้สึกอีกครั้ง

“อาวุโสเถี่ย”

ครู่ต่อมาต้วนหลิงเทียนก็วูบร่างมาหยุดข้างเถี่ยไท่เหอ จากนั้นก็เอ่ยทักคำหนึ่ง ค่อยหันไปมองฮ่วนเอ๋อที่ยังคงไม่ตื่นจากภวังค์การตีความเวทย์พลัง

สุดท้ายก็หันกลับมามองเถี่ยไท่เหออีกครั้ง พลางกล่าวว่า “ผู้อาวุโสเถี่ย ต่อไป…รบกวนท่านพาข้าไปยังพื้นที่สามัญที”

กล่าวจบคำสองตาต้วนหลิงเทียนก็เปล่งประกายขึ้นมาสว่างไสว

“พื้นที่สามัญรึ?”

ได้ยินคำขอดังกล่าวของต้วนหลิงเทียน เถี่ยไท่เหอก็อึ้งไปครู่หนึ่ง “ปรมาจารย์โอสถต้วน ถึงพื้นที่สามัญจะติดกับพื้นที่ก้าวข้าม แต่ก็อยู่อีกฟากเลย…ท่านคิดไปที่นั่นทำอะไรหรือ?”

พื้นที่สามัญนั้น เรียกว่าอยู่ตรงกันข้ามกับทางกลับพื้นที่รกร้างเลยก็ว่าได้

“ข้าจะไปเยือนนิกายอมตะสือหังน่ะ”

ได้ยินคำถามของเถี่ยไท่เหอ ต้วนหลิงเทียนก็กล่าวตอบออกไปตามตรง ไม่ได้คิดปิดบังอะไร

และในขณะที่กล่าวคำออกมา ประกายตาที่พึ่งหรี่ลงได้ไม่ทันไร ก็ทอประกายสดใสขึ้นมาอีกครั้ง มองไปยังคล้ายดวงดาวกลางฟ้ายามราตรีกาลอยู่บ้าง

ก่อนจะมายังนิกายอมตะสราญรมย์ ต้วนหลิงเทียนก็วางแผนไว้แล้ว ว่าจะเลยไปยังนิกายอมตะสือหังด้วย

แน่นอนว่าการไปเยือนนิกายอมตะสือหังครั้งนี้ เขาไม่ได้คิดไปพาตัวมู่หรงปิงให้ไปกับเขาแต่อย่างใด

เพราะในระหว่างเดินทาง ต้วนหลิงเทียนก็ครุ่นคิดไตร่ตรองเรื่องราวมาอย่างถี่ถ้วนแล้ว

เรื่องที่เขามองมู่หรงปิงเป็นผู้หญิงของเขานั้น ไม่ต้องสงสัยเลย

ด้วยเหตุนี้เขาจึงอยากให้มู่หรงปิงมีชีวิตอยู่อย่างดี ปลอดภัยไร้เรื่องราว

หากเขาพามู่หรงปิงออกจากา 6 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้ กระทั่งออกจากพื้นที่ชายแดนเข้าสู่ภาคกลางกับเขา เป็นธรรมดาว่าต้องพบพานอันตรายอันยากคาดเดา

นอกจากนั้นมู่หรงปิงยังอยู่นิกายยอมตะสือหังมาทั้งชีวิต ผูกพันกับนิกายอมตะสือหังอย่างมาก หากเขาพานางไปด้วย นางย่อมยากจะปรับตัวได้เหมือนเขา

พอคิดไปคิดมาแล้ว ต้วนหลิงเทียนจึงรู้สึกว่า การปล่อยให้นางใช้ชีวิตต่อไปในนิกายอมตะสือหัง สมควรเป็นเรื่องดีสำหรับนางมากกว่า

จนเมื่อความสามารถของเขาสูงถึงขั้นช่วยเหลือเค่อเอ๋อภรรยาเขา รวมถึงลี่เฟยและครอบครัวและญาติสนิทมิตรสหายเขาจากดินแดนแห่งมวยเทพได้แล้ว เขาค่อยย้อนกลับมายังหลิงหลัวเทียนแห่งนี้ เพื่อรับตัวมู่หรงปิงไปอยู่กับเขา…

‘หลังผ่านไปพันปี ข้าจะกลับมารับตัวนางไปอยู่กับข้า’

‘แต่จะเป็นอย่างนั้นได้…ต้องหมายความว่าถึงวันนั้น ข้ายังมีชีวิตอยู่’

‘ตอนนี้ที่ข้าทำได้…ก็มีแต่ให้นางได้อยู่ในนิกายอมตะสือหังอย่างปลอดภัยไร้เรื่องราว และมีชีวิตที่ดี…’

ระหว่างที่เถี่ยไท่เหอหอบหิ้วมายังนิกายอมตะสราญรมย์นั้น ต้วนหลิงเทียนได้ตัดสินใจแล้ว และพบว่าไม่ควรกระเตงมู่หรงปิงให้ไปเสี่ยงตายกับเขา

เพราะสุดท้ายแล้วหนทางสายนี้ของเขา เบื้องหน้าล้วนมีแต่เมฆหมอดบดบัง จะอยู่หรือตายก็ไม่อาจทราบได้

ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เขาจะเติบโตก้าวหน้าจนถึงจุดที่สามารถช่วยพวกเค่อเอ๋อลี่เฟยและคนอื่นๆจากดินแดนแห่งทวยเทพได้ในเวลาพันปี…

ระหว่างการเดินทางของเขา ไม่พ้นต้องพบพานภยันตรายนานานับประการ และการเข่นฆ่าอันโหดร้ายเพื่อช่วงชิงแน่แท้!

เขาไม่อยากให้มู่หรงปิงต้องมาลำบากไปกับเขา!

พื้นที่สามัญนั้น เมื่อมันอยู่ติดกับพื้นที่ก้าวข้าม เวลาที่ต้องใช้ในการเดินทางจึงน้อยกว่าตอนเดินทางมาจากนิกายอมตะไท่อี

แต่ถึงแม้ว่าจะใช้เวลาเดินทางน้อยลงกว่าเดิม อาศัยความเร็วของเถี่ยไท่เหอ ก็ยังต้องใช้เวลาเดินทางนานหลายเดือน

“ปรมาจารย์โอสถต้วน…”

หลังเหินร่างออกห่างนิกายอมตะสราญรมย์ได้สักพัก สุดท้ายเถี่ยไท่เหอที่บังเกิดอาการคันในหัวใจยากจะเกาแต่แรก ก็อดไม่ได้จำต้องถามต้วนหลิงเทียนออกมาให้รู้เรื่องกันไป “ท่าน…หลังเข้าไปในนิกายอมตะสราญรมย์ก่อนหน้า…ได้เข่นฆ่าระดับสูงของนิกายอมตะสราญรมย์หมดสิ้นแล้วหรือ?”

ในสายตาของเถี่ยไท่เหอนั้น จะอย่างไรนิกายอมตะสราญรมย์ ใน 6 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้ ก็ถือเป็นขุมกำลังที่เป็นรองก็แค่นิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับซึ่งเป็นนิกายอมตะอันดับ 1 เท่านั้น

“ใช่”

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับ กล่าวออกเสียงเบา “ตราบใดที่เป็นระดับสูงๆอันเป็นเสาหลักของนิกายอมตะสราญรมย์ นอกจากจี้ฟ่านแล้ว…ข้าฆ่าพวกมันหมดสิ้น ไม่เว้นประมุขนิกายอมตะสือหัง หลิวเสวียนคงนั่นด้วย”

เสียงกล่าวเรื่องราวของต้วนหลิงเทียนนั้น กล่าวออกเบาๆอย่างไร้เรื่องราว คล้ายพูดถึงเรื่องดินฟ้าอากาศ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขา ยังทำท่าเหมือนเรื่องนี้ไม่คู่ควรให้พูดถึง

“ฟืด~~!”

ถึงแม้จะเตรียมใจไว้แต่แรก แต่เถี่ยไท่เหอก็อดสูดลมหายใจเข้าลึกๆไม่ได้ เมื่อได้ยินคำพูดของต้วนหลิงเทียน

“อ่อ…นอกจากนั้นยังมีบรรพบุรุษของนิกายอมตะสราญรมย์อีกคน ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ลงความเห็นเรื่องฆ่าข้า แต่ในเมื่อมันขวางข้าไม่ให้ฆ่าพวกหลิวเสวียนคงและคนอื่นๆ มันก็เลยต้องตายไปด้วย”

เถี่ยไท่เหอพึ่งสูดอากาศเข้าลึกๆไม่ทันไร ต้วนหลิงเทียนพลันกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเฉยเมยอีกครั้ง

“ขวางไม่ให้ปรมาจารย์โอสถต้วนฆ่าหลิวเสวียนคงกับคนอื่นๆ?”

เถี่ยไท่เหออึ้งไปพักหนึ่ง หลังดึงสติกลับมาได้ก็ขมวดคิ้วกล่าวถามต้วนหลิงเทียนออกมาเสียงหนัก ลูกตายังหดเล็กลง “ปรมาจารย์โอสถต้วนท่าน…ท่านหมายถึงบรรพบุรุษอีกคนของนิกายอมตะสราญรมย์ หลี่ผิง งั้นรึ?!”

หลังดึงสติกลับมาได้ เถี่ยไท่เหอก็เดาออกได้ไม่ยากว่าบรรพบุรุษอีกคนที่ต้วนหลิงเทียนพูดถึงเป็นใคร

ตอนนี้ในเมื่อหลี่อันตายตกไปแล้ว นิกายอมตะสราญรมย์ก็เหลือตัวตนที่มีขอบเขตพลังขุนนางอมตะ 9 ตำหนักขึ้นไปอยู่แค่ 2 คนเท่านั้น

หนึ่งในนั้นก็คือหลิวเสวียนคง ผู้เป็นประมุขนิกายอมตะสราญรมย์ ระดับพลังของมันทัดเทียมกับหลี่อัน เป็นขุนนางอมตะ 9 ตำหนักเช่นกัน

ส่วนอีกคนก็คือบรรพบุรุษอีกคนของนิกายอมตะสราญรมย์ หลี่ผิง ตัวตนขอบเขตขุนนางอมตะ 10 ทิศ! ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของนิกายอมตะสราญรมย์!!

“เป็นมันนั่นล่ะ”

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า

“ฮ่าๆๆ!”

หลังได้ยินคำยืนยันจากต้วนหลิงเทียน เถี่ยไท่เหอก็อดไม่ได้ที่จะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างถูกใจ “อาศัยแค่ขุนนางอมตะ 10 ทิศเช่นมัน กลับหาญกล้าขวางท่านปรมาจารย์โอสถต้วนไม่ให้ฆ่าหลิวเสวียนคงกับคนอื่นๆงั้นเหรอ…รนหาที่ตายโดยแท้!”

“ขุนนางอมตะ 10 ทิศ?”

ได้ยินคำพูดดังกล่าวของเถี่ยไท่เหอ ต้วนหลิงเทียนก็ส่ายหน้าไปมาเบาๆ “อาวุโสเถี่ย หากท่านพูดถึงหลี่ผิงบรรพบุรุษนิกายอมตะสราญรมย์คนนั้นอยู่…มันไม่ใช่ขุนนางอมตะ 10 ทิศแล้ว เพราะวันนี้มันพึ่งทะลวงถึงขอบเขตราชาอมตะ 1ต้นกำเนิดพอดี หาไม่แล้วมันคงไม่มีความกล้าหยุดข้าจากการเข่นฆ่าหลิวเสวียนคงและคนอื่นๆหรอก”

“อะไร?!”

เถี่ยไท่เหอพอได้ฟังคำพูดของต้วนหลิงเทียนก็ตกกตะลึงอึ้งไปทันใด สีหน้าแววตายังฉายชัดถึงความตกใจเหลือเชื่อ “ปรมาจารย์โอสถต้วน ที่ท่านกล่าวหมายความว่าอย่างไร…บรรพบุรุษของนิกายอมตะสราญรมย์ หลี่ผิง ผู้นั้น มันพึ่งทะลวงถึงขอบเขตราชาอมตะวันนี้หรือ?”

“ใช่”

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า

“กล่าวได้ว่า…ปรมาจารย์โอสถต้วน ท่านสามารถเข่นฆ่าหลี่ผิงที่เป็นราชาอมตะ 1 ต้นกำเนิดได้หรือ?”

เถี่ยไท่เหอมองถามต้วนหลิงเทียนด้วยความตกตะลึง

“ก็ใช่”

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับอีกครั้ง

จังหวะนี้เถี่ยไท่เหอถึงกับอ้าปากพะงาบๆคล้ายมีคำใดจะกล่าว หากแต่กลับพูดไม่ออกอยู่นาน…

นั่นเพราะต้วนหลิงเทียนทำให้มันตกใจครั้งยิ่งใหญ่แล้วจริงๆ

‘ดูเหมือนว่าปรมาจารย์โอสถต้วนจักมิใช่ราชาอมตะธรรมดาๆ…แม้กระทั่งหลี่ผิงที่ทะลวงถึงราชาอมตะ 1 ต้นกำเนิดก็ยังฆ่าได้! ข้าเกรงว่าอย่างน้อยๆปรมาจารย์โอสถต้วนต้องบรรลุถึงราชาอมตะ 2 ยศแล้วเป็นแน่!!’

เถี่ยไท่เหอที่หอบหิ้วต้วนหลิงเทียนและฮ่วนเอ๋อเดินทาง อดไม่ได้ที่จะคิดไปในใจอย่างทึ่งๆ

ขณะเดียวกัน มันก็อดไม่ได้ที่จะบังเกิดความเวทนาสงสารนิกายอมตะสราญรมย์ขึ้นมา

‘หากเป็นเช่นนี้ ต่อให้นิกายอมตะสราญรมย์คิดจะสืบสานมรดกสืบต่อไป แต่เกรงว่าไม่พ้นต้องถูกลบออกจาก 1 ในนิกายอมตะใหญ่ของ 6 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้แน่นอนแล้ว กระทั่งอาจถึงขั้นล่มสลายลง…’

‘และหากเรื่องราวที่ หลี่ผิง บรรพบุรุษของนิกายอมตะสราญรมย์ทะลวงถึงขอบเขตราชาอมตะ 1 ต้นกำเนิดได้แล้ว แต่ยังโดนปรมาจารย์โอสถต้วนเข่นฆ่าทิ้งแพร่ออกไปสู่โลกภายนอก ต่อให้นิกายอมตะสราญรมย์จะมียอดฝีมือกึ่งราชาอมตะเร้นกายอยู่ใน 6 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้ พวกมันก็ไม่กล้าโผล่หัวออกมากอบกู้นิกายอมตะสราญรมย์แน่นอน…’

‘เพราะพวกมันไม่พ้นต้องกังวลว่าปรมาจารย์โอสถต้วนจะย้อนกลับมาทำลายพวกมันรึเปล่า หากพวกมันกล้าช่วยเหลือนิกายอมตะสราญรมย์ที่บาดหมางกับปรมาจารย์โอสถต้วน…ในเมื่อปรมาจารย์โอสถต้วนฆ่าได้กระทั่งราชาอมตะ 1 ต้นกำเนิด แล้วอาศัยกึ่งราชาอมตะเช่นพวกมันปรมาจารย์โอสถต้วนจะฆ่าไม่ได้หรือ?’

เถี่ยไท่เหอรู้ดี

ว่าคราวนี้นิกายอมตะสราญรมย์ได้จบสิ้นแล้ว!

‘สาเหตุที่นิกายอมตะสราญรมย์ถึงกาลอวสาน เพียงเพราะพวกมันไปล่วงเกินคนที่พวกมันไม่อาจล่วงเกินได้โดยแท้…’

พอนึกถึงจุดนี้ เถี่ยไท่เหอก็อดมองไปทางต้วนหลิงเทียนไม่ได้ ใจยังสั่นไหวเต้นไปไม่เป็นจังหวะ

“จริงสิอาวุโสเถี่ย…”

ทันใดนั้นเอง ต้วนหลิงเทียนคล้ายฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้ จึงหันไปมองถามเถี่ยไท่เหอทันที “หากข้าจำไม่ผิด…ดูเหมือนนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับก็อยู่ในพื้นที่ก้าวข้ามเหมือนกันใช่ไหม?”

พอเสียงถามไถ่ต้วนหลิงงเทียนดังจบคำ สีหน้าก็เริ่มเปลี่ยนเป็นขรึมเคร่ง สองตายังหดเล็กประกายเยียบเย็นเรืองขึ้นวูบหนึ่ง

ตอนนี้เขาพึ่งนึกขึ้นได้ ว่าบรรพจารย์ไท่อี เหอซาน ที่คอยดูแลเขาระหว่างไปร่วมงานสมัชชาเต๋าโอสถ ได้ตกตายเพราะประมุขนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ ไป๋หวู่จี้!

ยามนั้นไป๋หวู่จี้อาศัยเรื่องที่เหอซานเข่นฆ่าบุตรชายตัวเองอย่าง ไป๋อวี่ซวน นายน้อยนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ เป็นข้ออ้าง ก่อนจะเข่นฆ่าสังหารบรรพจารย์ไท่อีอย่างอุกอาจ จนเป็นเหตุทำให้นิกายอมตะไท่อีสูญเสียขุนนางอมตะ 8 ชะตาที่เป็นเสาหลักไป…

หากไป๋อวี่ซวนตกตายไปแล้วจริงๆ ก็ไม่นับเป็นอะไร

แต่ปัญหาคือไป๋อวี่ซวนยังไม่ตาย!

ทั้งหมดบ่งชี้ไปในทิศทางว่า…นิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับมีการสมคบคิดบางอย่าง! สุดท้ายพวกมันก็จัดฉากล้อมกรอบบรรพจารย์ไท่อี เข่นฆ่าสังหารบรรพจารย์ไท่อีทิ้งอย่างไร้ความเป็นธรรม!!

“ใช่!”

อันที่จริงตั้งแต่วินาทีแรกที่เข้าเขตพื้นที่ก้าวข้าม เถี่ยไท่เหอก็หวังว่าต้วนหลิงเทียนจะใช้โอกาสนี้ล้างแค้นให้ เหอซาน บรรพจารย์ไท่อี ที่ถูกไป๋หวู่จี้ฆ่าทิ้งไปด้วยเลย แต่มันก็ไม่กล้าพูดออกมา

เพราะสุดท้ายแล้วต้วนหลิงเทียนก็เป็นแค่อาคันตุกะทรงเกียรติของนิกายอมตะไท่อีเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพื่อนิกายอมตะไท่อี

ตอนนี้พอมาได้ยินต้วนหลิงเทียนถามไถ่ถึงนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ เถี่ยไท่เหอจึงตระหนักได้ทันทีว่าต้วนหลิงเทียนคิดจะทำอะไร ในใจย่อมบังเกิดความตื่นเต้นเป็นที่สุด!

“ถ้างั้น…พวกเราไปนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับก่อนดีกว่า”

เมื่อลูกตาที่หดหยีลงของต้วนหลิงเทียนกลับสู่ปกติ สีหน้าที่แลดูแข็งขึ้นเล็กน้อยก็หวนคืนสู่ความสงบอีกครา “พอดีข้าคิดไปไถ่ถามไป๋อวี่ซวนนายน้อยนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับผู้นั้นสักคำ…ว่าที่แท้มันรอดพ้นความตายภายใต้เงื้อมมือบรรพจารย์ไท่อีมาได้อย่างไร…”

ขณะกล่าววาจาประโยคนี้ มุมปากต้วนหลิงเทียนยังยกขึ้นเผยรอยยิ้มแสยะเย้ยหยันออกมา

“ทราบแล้ว ท่านปรมาจารย์โอสถต้วน!”

ถึงแม้ก่อนหน้าเถี่ยไท่เหอจะเดาได้ว่าต้วนหลิงเทียนคิดไปนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับเพื่อหาความเป็นธรรมให้บรรพจารย์ไท่อี แต่พอเถี่ยไท่เหอได้ยินคำพูดยืนยันของต้วนหลิงเทียน มันก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นยินดีเป็นที่สุด!

ขณะเดียวกันมันก็ทุ่มเทใช้พลังออกถึง 12 ส่วน เร่งหอบหิ้วต้วนหลิงเทียนกับฮ่วนเอ๋อเดินทาง บึ่งตรงไปยังนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับทันที!

สถานที่ตั้งนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับอยู่ตรงไหน ในอดีตหลายร้อยปีก่อนมันเคยมาเยือนกับประมุขไป๋ผิงแล้วครั้งหนึ่ง เช่นนั้นจึงรู้ทางดี

“ปรมาจารย์โอสถต้วน ด้านหน้าพวกเราคือนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ!”

หลังผ่านไปราวๆ 3 วัน เถี่ยไท่เหอที่หอบหิ้วต้วนหลิงเทียนกับฮ่วนเอ๋อเดินทางเต็มกำลัง ก็หยุดร่างลงกลางหาว พลางกล่าวบอกกับต้วนหลิงเทียนออกมาอย่างไม่รอช้า…