ตอนที่ 2,931 : อุปกรณ์อมตะระดับราชาอีกชิ้น!

การเข้ามาขวางพร้อมกล่าววาจาดุร้ายของชายหนุ่มชุดหรูหน้าอัปลักษณ์ ไม่ต้องกล่าวถึงต้วนหลิงเทียนที่ตกเป็นเป้าวาจาด้วยซ้ำ กระทั่งหลิวก่วงหลินยังอึ้งไปทันที

“ข้าเคยไปทำอะไรให้เจ้าไม่พอใจมาก่อนรึเปล่า?”

ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามชายหนุ่มชุดหรูหน้าอัปลักษณ์ด้วยความงุนงง

“เจ้าไม่เคยมีเรื่องอะไรกับข้าทั้งนั้น…หากจะโทษ ก็โทษที่เจ้ามีใบหน้าหล่อเหลาดั่งที่อิสตรีชมชอบเถอะ!”

ใบหน้าชายหนุ่มชุดหรูเริ่มบิดเบี้ยว กล่าวออกเสียงเย็น “เช่นนั้นข้าจึงมีสองทางให้เจ้าเลือก…หนึ่งทำลายรูปโฉมนั่นของเจ้าด้วยตัวเอง หรือตาย!”

“รูปร่างหน้าตาคนเรา เป็นพ่อแม่ให้มาแต่กำเนิด…คนหน้าตาอัปลักษณ์นั้นไม่น่ากลัว ที่น่ากลัวคือคนที่มีจิตใจอัปลักษณ์”

พอต้วนหลิงเทียนพอได้รับทราบเหตุผลที่ไฉนชายหนุ่มชุดหรูผู้นี้เพ่งเล็งเขานั้น ก็ตะลึงไปไม่น้อย เพราะสาเหตุที่อีกฝ่ายแลดูเกลียดชังทั้งคิดจะเล่นงานเขานั้น…ก็แค่เพราะใบหน้าเขาหล่อเหลาเท่านั้น!

จังหวะนี้เขาไร้คำจะพูดจริงๆ!

ในขณะที่รู้สึกหมดคำจะพูด เขาก็ตระหนักได้ว่าชายหนุ่มชุดหรูหราผู้นี้ ไม่เพียงแต่จะมีใบหน้าอัปลักษณ์เท่านั้น แต่จิตใจยังบิดเบี้ยวไปแล้วอีกด้วย ไม่งั้นคงไม่คิดเล่นงานเขาด้วยเหตุผลเหลวไหลดังกล่าวแน่นอน

“เรื่องของข้า ยังไม่ถึงคราวให้ไอ้หนุ่มหน้าขาวเจ้าสอดปาก!”

สีหน้าชายหนุ่มชุดหรูที่แต่เดิมก็อัปลักษณ์อยู่แล้ว บัดนี้ยิ่งดูไม่ได้ไปกันใหญ่

และพอกล่าวจบคำ ชายหนุ่มชุดหรูหน้าอัปลักษณ์ ก็มองจ้องต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเยียบเย็น กล่าวออกด้วยน้ำเสียงอำมหิตว่า “ดูเหมือนเจ้าจะเลือกแล้ว…ประเสริฐ ประเสริฐนัก!”

“อาวุโสเก้า! ขุนนางอมตะ 1 ต้นกำเนิดนั่น ข้าจะปล่อยให้ท่านจัดการ…ส่วนไอ้หน้าหล่อนี่ข้าจะฆ่ามันเอง!”

ไม่ทันที่ต้วนหลิงเทียนจะได้พูดจาอะไร ทั่วร่างชายหนุ่มชุดหรูก็ปะทุพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดออกมาปานเพลิงไฟ ต้วนหลิงเทียนก็สัมผัสกลิ่นอายพลังของมันได้ชัดเจน

“อายุไม่ถึงร้อยปี…”

“ยอดเซียนอมตะขั้นเหลือง?”

สีหน้าต้วนหลิงเทียนแลดูประหลาดใจไม่น้อย เพราะไม่คิดไม่ฝันมาก่อนจริงๆ ว่าชายหนุ่มชุดหรูหน้าอัปลักษณ์ผู้นี้ จะเป็นยอดเซียนอมตะขั้นเหลืองที่มีอายุไม่ถึงร้อยปีไปได้!

ต้องทราบด้วยว่าตอนอยู่ในพื้นที่ชายแดน เขาไม่เคยพบเจอใครที่บรรลุถึงขอบเขตยอดเซียนอมตะก่อนอายุร้อยปีเหมือนเขากับฮ่วนเอ๋อเลยสักคน!

‘ไม่อาจตัดสินหนังสือจากปกฉันท์ใด ก็ไม่อาจตัดสินคนจากภายนอกได้ฉันท์นั้น…น่าเสียดาย’

ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนลอบทอดถอนในใจ ชายหนุ่มชุดหรูที่ปะทุพลังออกมาอย่างเกรี้ยกราด ก็โจนทะยานเข้ามาปานสัตว์ร้ายกระหายเลือด หมายตะครุบใส่ต้วนหลิงเทียน!

ขณะที่มันโจนทะยานเข้ามา มันก็พบจากสำนึกเทวะเช่นกันว่าต้วนหลิงเทียนยังมีอายุไม่ถึงร้อยปีเหมือนมัน

เผชิญหน้ากับคนที่มีอายุไม่ถึงร้อยปีเหมือนกัน มันย่อมคิดว่าอีกฝ่ายไม่มีทางเป็นคู่มือมันได้แน่นอน เพราะมันทะลวงถึงขอบเขตยอดเซียนอมตะขั้นเหลืองเรียบร้อยแล้ว!

อายุไม่ถึงร้อยปี หากแต่ทะลวงถึงขอบเขตยอดเซียนอมตะได้ ในประเทศฝูชิวมีอยู่ไม่กี่คนเท่านั้น และมันเองก็รู้จักอัจฉริยะที่เหมือนมันเหล่านั้นทุกคน และไม่มีใครมีลักษณะเดียวกันกับชายหนุ่มชุดม่วงเบื้องหน้าเลย

ในขณะที่ชายหนุ่มชุดหรูโจนทะยานเข้าใส่ต้วนหลิงเทียน แววตาของมันก็ฉายชัดถึงความอำมหิต ราวกับได้เห็นฉากที่มันเข่นฆ่าต้วนหลิงเทียนได้แล้ว

ส่วนอีกด้านนั้น หลิวก่วงหลินไม่ได้กังวลเรื่องที่ชายหนุ่มชุดหรูลงมือกับต้วนหลิงเทียนเลย มันโคจรเร่งเร้าพลังออกมาพร้อมรับมือชายชราที่ติดตามข้างกายชายหนุ่มชุดหรูเบื้องหน้าอย่างเคร่งขรึมจริงจัง

เพราะดูจากความเร็วก่อนหน้าของชายชรา มันก็รู้ได้ทันทีว่าพลังฝีมือของชายชราอยู่เหนือมัน…ซ้ำยังเหนือกว่ามันมาก!

บรึมม!!

ทันใดนั้นความว่างเปล่ารอบกายชายชราคล้ายระเบิดออก ร่างชราก็พุ่งทะยานเข่นฆ่าสังหารมาทางหลิวก่วงหลินปานกระสุน!

“ก่วงหลิน เจ้าพยายามดึงดูดความสนใจมันเอาไว้…ข้าจะหาโอกาสลงมือฆ่ามันในกระบวนเดียว!”

ในขณะที่ชายชราโจนทะยานเข่นฆ่าสังหารเข้ามา เสียงผ่านพลังหนึ่งพลันดังขึ้นในหูหลิวก่วงหลิน เป็นเสียงของต้วนหลิงเทียนเอง

ทันใดนั้นหลิวก่วงหลินก็ตั้งใจลงมือต้านรับเต็มที่

พริบตาต่อมาพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดของมันก็หลั่งไหลลงสู่สนับมือที่ไม่ทราบเรียกออกมาสวมใส่ไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่

ทันใดนั้นสนับมือดังกล่าวก็แผ่กลิ่นอายพลังลี้ลับออกมา บ่งบอกว่ามันเป็นอุปกรณ์อมตะระดับขุนนางชิ้นหนึ่ง

จากนั้นร่างกายของหลิวก่วงหลินก็เริ่มขยายใหญ่ขึ้น กล้ามเนื้อทั่วร่างยังปูดโปนใหญ่โตขึ้นมาด้วยความเร็วอันน่ากลัว พริบตาชุดคลุมของมันก็เริ่มฉีกขาด เผยให้เห็นมัดกล้ามเนื้อได้ชัดถนัดตา!

เพียงเวลาชั่วพริบตา ไม่เพียงแต่ร่างหลิวก่วงหลินขยายใหญ่จนมีความสูง 3 หมี่ หากแต่กล้ามเนื้อทั่วร่างยังคล้ายเปี่ยมล้นไปด้วยพลังดิบเถื่อนอันน่ากลัว!

นอกจากนั้นพลังวิญญาณกับพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดยังผสานหลอมรวมกลับกลายเป็นพลังเวทย์ลี้ลับหนึ่ง อันก่อเกิดเงาร่างพยัคฆ์สีเลือดตัวเขื่องขึ้นกลางหาว จากนั้นเงาร่าพยัคฆ์สีเลือดดังกล่าวก็ประทับลงมาครอบคลุมไว้ทั่วเรือนกาย!

เห็นได้ชัดว่าไม่เพียงแต่หลิวก่วงหลินจะใช้ออกด้วยวรยุทธ์อมตะที่ฝึกปรือ หากแต่ยังใช้ออกด้วยเวทย์พลังที่มีอีกด้วย

“ผู้เฒ่า รับหมัดข้าดู!!”

หลิวก่วงหลินคำรามเสียงดังลั่น จากนั้นร่างก็โจนทะยานสวนเข้าหาชายชรา พร้อมง้างหมัดชกออกไปอย่างเกรี้ยวกราด! หมัดพลังพุ่งแหวกฟ้าผ่าอากาศออกไปอย่างดุร้าย!!

หลิวก่วงหลินที่บัดนี้สูงถึง 3 หมี่ประหนึ่งยักษ์น้อยๆ ยามปะทุพลังชกออก อานุภาพหมัดพลังของมันยังร้ายกาจไม่ต่างอะไรจากค้อนดาวตกที่ฟาดทุบไปยังร่างชรา!

เงาร่างพยัคฆ์สีเลือดเองก็ไม่น้อยหน้าผู้เป็นนาย ปากกระหายเลือดอ้าออกกกว้าง พุ่งขย้ำเข่นฆ่าเข้าใส่ชายชราอย่างดุดันอีกทาง!

“ขุนนางอมตะ 1 ต้นกำเนิดเช่นนั้นหรือ…ต่อให้เราผู้เฒ่ามิใช้อุปกรณ์อมตะอันใด คิดฆ่าเจ้ายังกระทำได้ใน 3 กระบวนท่า!”

เผชิญหน้ากับการโจนทะยานสวนลงมือเข้ามาของหลิวก่วงหลิน ชายชราเพียงแสยะยิ้มดูแคลน กล่าวเย้ยกลับไปด้วยน้ำเสียค่อนแคะ บ่งบอกชัดเจนว่ามันไม่ได้เห็นหลิวก่วงหลินอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย

และครู่ต่อมา ร่างชราที่โจนทะยานเข่นฆ่าสังหารเข้ามาแต่แรก ก็เริ่มปะทุพลังดุร้ายขึ้นไปอีกครั้ง พลังสภาวะของมันเห็นชัดว่าสะกดข่มพลังสภาวะของหลิวก่วงหลินได้ชะงัด บ่งบอกให้รู้ว่ามันมีพลังมากพอทำตามคำพูดจริงๆ!

“คิดเข่นฆ่าคนของข้า ได้ถามข้ารึยังว่ายอมหรือไม่!”

ในขณะที่ชายชราเร่งเร้าพลังลงมือหักโหมจนพลังสภาวะอีกฝ่ายเริ่มครอบงำหลิวก่วงหลินที่ใช้อุปกรณ์อมตะ พลันมีเสียงหนึ่งดังขึ้นเข้าหูมันจากด้านหลัง

และพร้อมกันนั้นมันยังสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังน่าเกรงขามขุมหนึ่งจี้เข้ามาใกล้มันมากขึ้นทุกขณะ!

“ขุนนางอมตะ 3 ศักดิ์!”

ในฐานะที่เป็นขุนนางอมตะ 3 ศักดิ์ ชายชราย่อมคุ้นเคยกับกลิ่นอายพลังดังกล่าวดีจนไม่รู้จะดีไปกว่านี้ได้อย่างไรแล้ว เพราะนั่นคือกลิ่นอายพลังระดับเดียวกับมัน!

ทันใดนั้นสีหน้าชายชราก็เปลี่ยนไปใหญ่หลวง!

ครู่ต่อมามันก็รีบเร่งเร้าพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดสุดชีวิต ก่อเกิดเป็นม่านพลังคลุมกายแน่นหนา! หมายป้องกันการลอบจู่โจมของต้วนหลิงเทียน!!

ขณะเดียวกันมันก็เร่งรุดหันหลังกลับมาโดยไม่แยแสหลิวก่วงหลินแม้แต่น้อย ในมือยังคว้ากระบี่ที่ผุดโผล่จากความว่าง มากระชับแน่นทั้งถ่ายทอดพลังลงไปฉับไว และจากกลิ่นอายลี้ลับที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวกระบี่ ไม่พ้นต้องเป็นอุปกรณ์อมตะระดับขุนนางแน่แท้!

ตูมมม!!

ซู่มมม!!

และทันทีที่หันกลับมา ชายชราก็เห็นว่าชายหนุ่มชุดม่วงอายุไม่ถึงร้อย บัดนี้โจนทะยานเข้ามาพลางควงพลองปานจักรผัน เร่งเร้าสภาะพลองฟาดทุบเข้ามาอย่างดุดัน! ที่น่ากลัวก็คือตัวพลองดังกล่าวนั้นเปล่งแสงสว่างลี้ลับเหลือเกิน!!

ตัวพลองที่ส่องแสงพลังเจิดจ้านั่น ยังปรากฏกลวดลายอักขระโบราณ อันแผ่ซ่านกลิ่นอายพลังไม่ใช่ชั่ว พลังเซียนอมตะต้นกำเนิดที่ถ่ายทอดลงสู่พลองยังไหลแล่นไปตามลวดลายดังกล่าว ก่อเกิดเป็นอานุภาพเพิ่มพูนพลังอันยิ่งใหญ่น่าเกรงขาม!

สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังยิ่งใหญ่น่าเกรงขามดังกล่าว สีหน้าชายชราก็แปรเปลี่ยนไปใหญ่หลวง อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาด้วยยน้ำเสียงตื่นตระหนก

“อะ…อุปกรณ์อมตะระดับราชา!!”

ในขณะที่อุทานอย่างแตกตื่น ชายชราก็ไม่เลินเล่อถึงขั้นเสียสมาธิ กระบี่ในมือรีบตวัดฟันซัดรังสีกระบี่เกรี้ยวกราดขุมหนึ่ง หมายลดทอนสภาวะพลังดุร้ายของพลองที่ฟาดทุบลงมาปานสยยฟ้าฟาด!

ปงงง!!

เสียงระเบิดดังขึ้นสนั่นลั่นฟ้า! เป็นรังสีกระบี่ของชายชราที่ตวัดซัดไปฉับไว เมื่อปะทะเข้ากับพลองที่ในมือต้วนหลิงเทียนที่ฟาดทุบลงมาอย่างเกรี้ยวกราด ก็ถูกปัดทำลายอย่างสิ้นท่า ไม่อาจต้านทานลดทอนพลังสภาวะพลองของต้วนหลิงเทียนได้เลย!

เปรี๊ยงงง!!

พริบตาดั่งประกายอัสนีฟาดผ่า พลองของต้วนหลิงเทียนอันฟาดลงมาตรงๆด้วยสภาวะพลังถล่มขุนเขา ก็ฟาดเข้าใส่กระบี่ที่ชายชรายกขึ้นมาบังขวางไว้เหนือกระหม่อมอย่างรุนแรง! สองพลังหักหาญอย่างหักโหม อุบัติเป็นคลื่นกระแทกซัดกำจายออกไปเป็นวงกว้าง!!

ปงงง!!

ทว่าทันใดนั้นเอง ชายชราที่เร่งเร้าพลังชั่วชีวิตถ่ายทอดลงสู่ตัวกระบี่และยกขวางพลองไว้เหนือศีรษะนั้น พลันสัมผัสได้ว่ามีพลังขุมหนึ่งอัดกระแทกเข้ากลางหลังอย่างจัง ทำให้พลังที่ถ่ายทดลงสู่กระบี่ขาดห้วง จึงถูกพลองฟาดทุบลงมากลางกระหม่อมอย่างจัง!!

ร่างชราปลิดปลิวร่วงฟ้าไปอย่างไม่อาจควบคุม! เมื่อตั้งหลักได้มันก็มองจ้องไปยังชายหนุ่มชุดม่วงที่ถือพลองไม่วางตา แลดูระมัดระวังถึงขีดสุด ไม่ได้แยแสหลิวก่วงหลินที่ฉวยโอกาสชกมันแม้แต่น้อย!

“เจ้า…เจ้าเป็นผู้ใดกันแน่!”

เมื่อครู่หากไม่ใช่เพราะพลังทั้งหมดในกระบี่ลดทอนพลังทำลายของพลองไปได้ส่วนใหญ่ น่ากลัวศีรษะของมันคงถูกฟาดจนแหลกไปแล้ว! ชายชราที่แตกดตื่นเสียขวัญทั้งสมองอื้ออึง ก็พยายามรวบรวมสติกล่าวถามออกไปด้วยน้ำเสียงหวั่นกลัว!!

เพราะอีกฝ่ายไม่เพียงเป็นขุนนางอมตะ 3 ศักดิ์ดุจเดียวกับมัน แต่ยังมีอายุไม่ถึงร้อยปี

นอกจากนั้นในมือยังถือไว้ด้วยอุปกรณ์อมตะระดับราชา!!

มันมั่นใจอย่างถึงที่สุด ว่าในประเทศฝูชิวไม่มีตัวตนผิดประหลาดเช่นนี้แน่นอน!!

ด้วยเหตุนั้น จึงมีความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น

ชายหนุ่มชุดม่วงผู้นนี้ สมควรเป็นลูกหลานของตระกูลใหญ่ ไม่ก็ศิษย์อัจฉริยะใดในพื้นที่ส่วนกลางที่ออกมาหาประสบการณ์ หาไม่แล้วคงไม่น่ากลัวถึงขนาดนี้!

“คิดจะหนีงั้นรึ!?”

ต้วนหลิงเทียนที่ฟาดพลองทุบชายชราจนบาดเจ็บ ไม่ได้สนใจจะตอบคำชายชรา เพียงหันไปมองทิศทางหนึ่งพลางตะคอกคำออกมาอย่างกะทันหัน

หลังได้ยินคำถามชายชรา เดิมทีต้วนหลิงเทียนก็คิดจะตอบคำ แต่คล้ายจะสังเกตเห็นอะไรเสียก่อน มือข้างที่ไม่ได้ถือพลองพลันสะบัดออกไปฉับไวปานสายฟ้า จากนั้นท่ามกลางอากาศว่างเปล่าพลันปรากฏพลังสีม่วงขุมหนึ่งควบแน่นกลับกลายเป็นกระบี่พลัง พุ่งวาบตัดฟ้าไปดั่งประกายแสง หั่นแขนชายหนุ่มชุดหรูหน้าอัปลักษณ์ข้างที่กำลังถือยันต์หลบหนีเงาว่างเปล่าทิ้ง!!

ยันต์เงาว่างเปล่านั้น เป็นยันต์อมตะหลบหนีที่ต้วนหลิงเทียนเองก็เคยใช้มาก่อน มันสามารถทำให้ผู้ใช้สามารถหลบหนีออกไปด้วยความเร็วของตัวตนขอบเขตราชาอมตะ!

“โอ๊ยยย!!”

ชายยหนุ่มชุดหรูหน้าอัปลักษณ์กรีดร้องออกมาเสียงหลงด้วยความเจ็บปวด สองตาจับจ้อมองไปยังแขนข้างถนัดตัวเองที่ถือยันต์เงาว่างเปล่าเอาไว้แทบถลน หากแต่มันก็ไม่กล้าใช้พลังเก็บแขนกลับมาแต่อย่างใด

เพราะมันสัมผัสได้ถึงสำนึกเทวะอันทรงพลังหนึ่งเพ่งเล็งมาที่ร่างมันเขม็ง!

“กล่าวไป ต้องบอกว่านี่เป็นครั้งแรกจริงๆ ที่ข้าเจอคนแปลกหน้าคิดฆ่าข้าเพียงเพราะข้าหล่อ…”

ต้วนหลิงเทียนหันไปมองชายหนุ่มุดหรูด้วยสายตาเฉยเมย กล่าวออกด้วยน้ำเสียงไม่รีบไม่ร้อน

“เจ้า…เจ้าเป็นผู้ใดกันแน่!?”

บัดนี้สายตาที่ชายหนุ่มชุดหรูใช้มองต้วนหลิงเทียน หาได้หลงเหลือความอิจฉาทั้งชิงชังแต่อย่างไร จะมีก็แต่ความหวาดกลัวแตกตื่นเท่านั้น

ถึงแม้เรื่องราวที่พึ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่มันจะแลเห็นไม่ค่อยชัด กระทั่งไม่ทราบว่าไฉนชายหนุ่มที่มันโจนทะยานเข้าใส่อยู่ๆกลับหายตัวไป…

แต่จุดจบของเรื่องราวเป็นอย่างไร มันเห็นชัดเจนดี!

ขุนนางอมตะ 3 ศักดิ์ที่ติดตามดูแลมัน แม้จะนำกระบี่ระดับขุนนางออกมาแล้ว แต่ยังถูกชายหนุ่มชุดม่วงนั่นซัดทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ

นอกจากนั้นชายหนุ่มชุดม่วงผู้นี้ยังมีอายุไม่ถึงร้อยปี

“ข้าเป็นใครไม่สำคัญ…เจ้ารู้ว่าวันนี้เป็นเจ้าหาที่ตายเองก็พอ”

ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกเสียงเบา

และพอกล่าวจบคำต้วนหลิงเทียนก็ระเบิดพลังสังหารลงมือฉับไวปานฟ้าผ่า แต่ทว่าไม่ได้เข่นฆ่าไปทางชายหนุ่มชุดหรู แต่พุ่งไปทางชายชราที่บาดเจ็บแทน!!

ด้านชายชราที่กำลังตกใจเพราะคำพูดเมื่อครู่ของต้วนหลิงเทียนก็ลนลานใจด้วยคิดว่าอีกฝ่ายจะสังหารชายหนุ่มชุดหรู แต่ไม่คิดไม่ฝันว่าที่แท้เป้าสังหารจะเป็นตัวมันเอง! จึงทำให้มันลงมือช้าไปครึ่งจังหวะ!!

โผละ!! ปงงง!!

เช่นนั้นพลองที่ทอแสงพลังสีม่วงเจิดจ้าเปี่ยมล้นไปด้วยพลังเซียนอมตะขอบเขตขุนนางอมตะ 3 ศักดิ์ ก็ฟาดทุบลงบนศีรษะร่างชราที่ไม่ทันตั้งตัวซ้ำรอยเดิมได้ง่ายดาย!

ครานี้ศีรษะชราได้แตกระเบิดออกประหนึ่งลูกแตงโมถูกทุบ! จากนั้นร่างของมันยังถูกพลังอัดกระแทกจนแหลกเป็นชิ้น ก่อเกิดเป็นพิรุณโลหิตชิ้นเนื้อพร่างพรมลงสู่ผืนดิน…

หลังเข่นฆ่าสังหารชายชราแล้ว สายตาต้วนหลิงเทียนก็ย้อนกลับไปมองจ้องร่างชายหนุ่มชุดหรูเขม็ง

“ไม่…เจ้าไม่อาจฆ่าข้า! ท่านป้าของข้าคือนางสนมขององค์ฮ่องเต้! หากเจ้าฆ่าข้าก็ไม่ต่างอะไรจากล่วงเกินพระสนมของฮ่องเต้ฝูชิว! ล่วงเกินองค์เหนือหัวของประเทศฝูชิว!!”

เผชิญหน้ากับสายตาเย็นชาคมกล้าของต้วนหลิงเทียน ชายหนุ่มในชุดหรูหราเร่งนำป้าของมันที่เป็นนางสนมคนโปรดของฮ่องเต้ฝูชิวออกมายกอ้างต่อหน้าต้วนหลิงเทียนทันที หมายหลบหนีภัยพิบัติครั้งนี้ไปให้ได้…