WSSTH ตอนที่ 3,051 : ธาตุไฟ
“เป็นธรรมดาว่าราคาที่ข้ากล่าวมาทั้งหมด คือราคาของราชาอมตะ 1 ต้นกำเนิด…หากเจ้าอยากให้ทางเราส่งนักฆ่าที่ด่านพลังฝึกปรือสูงกว่านี้ ราคาย่อมต่างออกไป”
เฉินหลีแจ้งต่อว่า “อย่างไรก็ตาม ข้าคิดว่า…การฆ่ายอดเซียนอมตะขั้นสูงสุดสักคน หรือนักฆ่าระดับต่ำสุดขององค์กรมือสังหารกะโหลกเลือดยังไม่พอ?”
“ย่อมเพียงพอ!”
เจิ้งหงอี้เร่งติดต่อกลับไปทันที
‘แค่นักฆ่าระดับราชาอมตะ 1 ต้นกำเนิด ก็ต้องจ่ายเกราะอมตะระดับราชาที่จอมราชันอมตะหล่อเลี้ยงขัดเกลาถึง 2 ตัวเชียวหรือ…’
จังหวะนี้เจิ้งหงอี้อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เมื่อได้ยินราคาจ้างวานนักฆ่าขอบเขตราชาอมตะ 1 ต้นกำเนิด
ถึงแม้มันจะเตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้ว ว่าราคาขององค์กรมือสังหารกะโหลกเลือดไม่ต่ำแน่ แต่ก็ไม่คิดเลยว่ามันจะสูงขนาดนี้!
‘โชคดีที่ข้าเกลี้ยกล่อมหวังหงได้…ถึงข้าจะสามารถส่งมอบเกราะอมตะระดับราชาที่จอมราชันอมตะขัดเกลาหล่อเลี้ยงออกไป 2 ชิ้นด้วยตัวเอง แต่หากข้าจ่ายคนเดียว ข้ายังจะเหลือเกราะไว้ช่วยชีวิตอีกหรือ’
เจิ้งหงอี้รู้สึกว่าตัวเองมีโชคอยู่บ้าง
ในมือมันถือครองเกราะอมตะระดับราชาที่ผ่านการขัดเกลาหล่อเลี้ยงจากจอมราชันอมตะแค่ 2 ตัวเท่านั้น แถมตัวหนึ่งมันก็ยังสวมใส่อยู่ตลอดเวลาเพื่อปกป้องชีวิตตัวเอง
ถึงมันจะเกลียดชังต้วนหลิงเทียนที่มาชิงตำแหน่งศิษย์ที่แท้จริงคนสุดท้ายขนาดไหน แต่หากให้มันต้องส่งมอบเกราะอมตะที่มีไว้ปกป้องชีวิตมันออกไปเพื่อแลกกับชีวิตของต้วนหลิงเทียน มันก็ไม่เอาด้วยหรอก
‘อย่างไรก็ตามเฉินหลีบอกว่าสามารถใช้เกราะอมตะระดับราชาธรรมดา 6 ชิ้นแทนเกราะอมตะระดับราชาที่จอมราชันอมตะขัดเกลา 2 ชิ้นได้’
‘เรียกว่าอยู่ในอัตราส่วน 3 ต่อ 1 เท่านั้น’
‘แต่ทว่าในเขตคฤหาสน์เฉวียนโยว เกราะอมตะระดับราชาที่ผ่านการขัดเกลาจากจอมราชันอมตะแล้ว เพียง 1 ชิ้นก็มีค่าเท่ากับเกราะอมตะระดับราชาธรรมดา 4 ชิ้น…’
‘สำหรับสัดส่วนอุปกรณ์อมตะอื่นๆนั้นไม่ต่างจากที่เฉินหลีกล่าวมาเท่าไหร่…’
พอคิดถึงจุดนี้สองตาเจิ้งหงอี้ก็ลุกวาวสว่างจ้าขึ้นมา
ในมือมันมีเกราะอมตะระดับราชาที่ผ่านการขัดเกลาหล่อเลี้ยงจากจอมราชันอมตะ 2 ชิ้นก็จริง แต่ตราบใดก็ตามที่มันได้เกราะอมตะระดับราชาที่ผ่านการขัดเกลาจากจอมราชันอมตะจากหวังหงมาสักชิ้น มันก็สามารถนำไปแลกเป็นเกราะอมตะระดับราชาทั่วไปได้ 4 ชิ้น!
ถึงตอนนั้นมันควักเกราะอมตะระดับราชาออกไปเพิ่มแค่ 2 ชิ้น ก็มีเกราะอมตะระดับราชาทั่วไป 6 ชิ้นให้นักฆ่าขององค์กรมือสังหารแล้ว!
ด้วยวิธีนี้มันก็ไม่จำเป็นต้องส่งมอบเกราะอมตะระดับราชาที่ผ่านการหล่อเลี้ยงขัดเกลาจากจอมราชันอมตะของมันออกไปเลย!
“เฉินหลี ราคานี้ข้าไม่มีปัญหา ว่าแต่ทางท่านจะส่งนักฆ่ามาเมื่อใดหรือ?”
เจิ้งหงอี้เร่งส่งข้อความผ่านยันต์อมตะสื่อสารทางวิญญาณไปถามเฉินหลีอีกรอบ ตอนนี้มันแทบรอให้นักฆ่าจากกะโหลกเลือดมาฆ่าต้วนหลิงเทียนไม่ไหวแล้ว ยังอยากให้อีกฝ่ายมาถึงวันนี้เลยด้วยซ้ำ!
ทว่ามันก็รู้ดีแก่ใจ ว่านักฆ่าขององค์กรมือสังหารกะโหลกเลือดไม่มีทางถึงที่นี่วันนี้ได้
ให้ถอยหลังหมื่นก้าว ต่อให้นักฆ่าจากองค์กรมือสังหารกะโหลกเลือดจะมาถึงที่นี่วันนี้ได้จริงๆ แต่ตราบใดที่ต้วนหลิงเทียนยังไม่ออกจากเขตนิกายอมตะเป้าผู่ ก็คงยากจะลงมือได้สำเร็จ!
เนื่องจากนักฆ่าที่จะมาเป็นแค่ราชาอมตะ 1 ต้นกำเนิด อีกฝ่ายย่อมไม่มีความสามารถถึงขั้นบุกข้ามาเข่นฆ่าคนในนิกายอมตะเป้าผู่ได้อย่างอุกอาจ
และต่อให้บุกเข้ามาเข่นฆ่าคนได้อย่างอุกอาจจริง แต่ก็คงยากจะรอดชีวิตกลับออกไปได้!
เพราะในนิกายไม่ขาดยอดฝีมือขอบเขตราชาอมตะ 1 ต้นกำเนิดเลย
และถึงแม้นักฆ่าดังกล่าวจะยกอ้างองค์กรมือสังหารกะโหลกเลือดออกมาข่ม แต่เบื้องหลังนิกายอมตะเป้าผู่ก็คือคฤหาสน์เฉวียนโยว ซึ่งมีความสัมพันธ์กับ 10 ตระกูลหลักของแดนสวรรค์ใต้
และไม่มีตระกูลใดใน 10 ตระกูลหลักที่กริ่งเกรงองค์กรมือสังหารกะโหลกเลือดเลย กระทั่งองค์กรมือสังหารกะโหลกเลือดก็ไม่กล้ารับงานฆ่าคนของ 10 ตระกูลหลักด้วยซ้ำ!
“ทางเราจะส่งนักฆ่าระดับราชาอมตะ 1 ต้นกำเนิดไปถึงที่นั่นภายใน 3 วัน…พอไปถึงแล้ว มันจักหาวิธีติดต่อเจ้าเอง”
“และกฏขององค์กรมือสังหารกะโหลกเลือดเราก็คือเก็บเงินก่อนครึ่งนึง…เช่นนั้นพอนักฆ่าผู้นั้นไปถึง เจ้าก็จ่ายมัดจำออกไปก่อนครึ่งหนึ่ง ที่เหลือจักเก็บอีกทีหลังจบงาน”
เฉินหลีกล่าว
“ข้าเข้าใจแล้ว”
เจิ้งหงอี้ตอบกลับ จากนั้นมันก็ส่งข้อความอำลาอีกฝ่าย แล้วจบการสื่อสารแต่เพียงเท่านี้
‘อย่างไรก็ตามราคานักฆ่าระดับราชาอมตะ 1 ต้นกำเนิดองค์กรมือสังหารกะโหลกเลือด นับว่าสูงกว่าราคาจ้างวานนักฆ่าขององค์กรมือสังหารในเขตคฤหาสน์เฉวียนโยวถึง 5 เท่า!’
หลังเลิกการติดต่อกับเฉินหลีแล้ว เจิ้งหงอี้ก็อดไม่ได้ที่จะเดาะลิ้นพลางกล่าวในใจ ด้วยรู้สึกว่าราคาของกะโหลกเลือดนั้นสูงเกินไป
อย่างไรก็ตามมันรู้ดีว่าราคาของกะโหลกเลือดนั้น ไม่เพียงแต่จะขึ้นอยู่กับพลังฝีมือของเป้าหมายเท่านั้น ระยะทางยังมีส่วนอีกด้วย
นอกจากนั้นหากมันทะลึ่งไปจ้างวานองค์กรมือสังหารในเขตคฤหาสน์เฉวียนโยว ถึงตอนนั้นต่อให้ฆ่าคนได้ แต่ขอเพียงประมุขนิกาอมตะเป้าผู่ติดต่อไปยังคฤหาสน์เฉวียนโยว ทางคฤหาสน์เฉวียนโยวก็สามารถกดดันให้องค์กรมือสังหารคายชื่อผู้จ้างวานออกมาได้โดยง่าย!
ถึงตอนนั้น มันไม่เพียงแต่จะไม่มีโอกาสได้เป็นศิษย์ที่แท้จริงอีกต่อไป ด้วยนิสัยของอาจารย์มัน น่ากลัวว่ามันคงต้องตกตายกลายเป็นศพ!
และต่อให้อาจารย์จะเห็นแก่ความสัมพันระหว่างศิษย์อาจารย์ จนเกิดความสงสารไม่อาจหักใจฆ่ามัน…แต่ทางนิกาอมตะเป้าผู่ก็ไม่คิดจะเลี้ยงมันไว้แน่!
ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย มันเลือกจ่ายแพงหน่อยจะเป็นไรไป
มีอมตะวาจาหนึ่งกล่าวไว้ว่า
พึงระวังถึงแล่นเรือได้หมื่นปี!
‘ตอนนี้ไปหาหวังหงก่อนดีกว่า และให้นางมอบเกราะอมตะระดับราชาที่ผ่านการขัดเกลาจากจอมราชันอมตะมาให้ข้าตัวนึง…’
เจิ้งหงอี้คิดได้ดังนี้ ก็เริ่มเหินร่างออกจากบ้านลานที่พักของมันทันที บึ่งตรงไปยังที่พักหวังหงอย่างไม่รอช้า ‘ขอเพียงข้าได้เกราะอมตะระดับราชาที่ผ่านการหล่อเลี้ยงขัดเกลาโดยจอมราชันอมตะกับนางมาสักตัว และรีบไปแลกเปลี่ยนเป็นเกราะอมตะระดับราชาทั่วไป 4 ตัว ถึงตอนนั้นข้าแค่ออกเกราะอมตะระดับราชาทั่วไปอีก 2 ตัว ก็พอให้จ่ายค่าจ้างกะโหลกเลือดแล้ว!’
อนิจจาจินตนาการนั้นสวยหรู แต่พอดูความเป็นจริงช่างโหดร้าย
หลังไปพบหวังหงและเอ่ยราคาของกะโหลกเลือดออกไป หวังหงก็ไม่รอให้มันพูดอะไร ชิงกล่าวออกมาก่อนว่า “ถึงข้าจะไม่เคยติดต่อกับองค์กรมือสังหารกะโหลกเลือด แต่ข้าก็รู้ดีว่าองค์กรมือสังหารระดับชั้นนำในแดนสวรรค์ใต้ทำงานอย่างไร”
“พวกมันไม่พ้นต้องเก็บเงินมัดจำก่อนครึ่งหนึ่ง…พอนักฆ่ามาถึงเจ้าก็พาข้าไปด้วยเถอะ และข้าจะเป็นคนจ่ายค่ามัดจำนั่นเอง ส่วนที่เหลือหลังจบงานเจ้าก็เป็นคนจ่าย”
พอหวังหงเอ่ยดักทางมาแบบนี้ เจิ้งหงอี้ก็ไปไม่เป็นเลยทีเดียว
เพราะหวังหงทำแบบนี้ ทุกสิ่งที่มันวางแผนไว้ก่อนหน้าก็ไม่ต่างใดจากผายลม ไม่อาจฉวยโอกาสใดๆจากหวังหงได้อีก
…
ตั้งแต่กลับมาจากหอตำรา ต้วนหลิงเทียนก็อาศัยอยู่ในลานเล็กๆของตัวเองตลอดไม่ไปไหน ตอนนี้เขาก็นั่งอยยู่บนเตียงน้ำแข็งวิเศษอมตะเหินในห้อง
เขาไม่ได้บ่มเพาะพลัง หากแต่คิดจะให้เพลิงเทพโกลาหลช่วยเหลือเขาให้เข้าใจความหมายแห่งไฟก่อน
ต้วนหลิงเทียนยังคงจำสิ่งที่เพลิงเทพโกลาหลพูดวันนั้นได้
“หากเจ้าได้รับวรยุทธ์อมตะหรือเวทย์พลังระดับราชาธาตุไฟมา ภายในเวลา 3 ชั่วโมง ข้าจะช่วยให้เจ้าเข้าใจความลึกซึ้ง ความหมายแห่งไฟ!”
ตอนที่เพลิงเทพโกลาหลพูดประโยคนี้ เขายังสัมผัสได้ถึงความมั่นใจอันเต็มเปี่ยมในน้ำเสียงของอีกฝ่าย
ด้วยเหตุนี้ต้วนหลิงเทียนจึงตั้งหน้าตั้งตารอดูชมนัก!
ว่าเพลิงเทพโกลาหลจะสามารถช่วยให้เขาเข้าใจความลึกซึ้ง ความหมายแห่งไฟ ได้ในเวลาแค่ 3 ชั่วโมงจริงๆเหรอ?
จากนั้นในขั้นตอนทำความเข้าใจความหมายแห่งไฟ เพลิงเทพโกลาหลก็ได้เอ่ยคำชี้แนะ และต้วนหลิงเทียนก็ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ปลายนิ้วบัดนี้ยังปรากฏเพลิงสีเทาลุกโชนขึ้นมา
แน่นอนว่าเขาจุดเพลิงขึ้นมา ไม่ได้คิดจะใช้มันหลอมปรุงโอสถแต่อย่างใด
จากนั้นพอเขาลองแผ่สำนึกเทวะไปยังเพลิงที่ปลายนิ้ว เขาก็รู้สึกว่าบัดนี้เพลิงสีเทาที่อยู่ปลายนิ้วก็คือตัวเพลิงเทพโกลาหลเอง ไม่ใช่แค่พลังของอีกฝ่ายเหมือนแต่ก่อน
หลังผ่านไปสักพักต้วนหลิงเทียนก็พบว่าสำนึกเทวะของตัวเองได้หลอมรวมเข้ากับเพลิงสีเทาโดยสมบูรณ์ และอารมณ์ของเขาไม่ว่าจะโกรธ ยินดี หรือเศร้าโศก บัดนี้ก็ได้เปลี่ยนแปลงไปตามอารมณ์ของเพลิงสีเทา
ในระหว่างกระบวนการดังกล่าว ภาพความทรงจำมากมายก็เริ่มผุดขึ้นในหัวเขาทีละฉากๆ และภาพทั้งหมดไร้ซึ่งข้อยกเว้นใดๆ เป็นภาพตอนที่เขาหลอมกลั่นโอสถด้วยเพลิงเทพโกลาหลทั้งสิ้น
สำนึกเทวะต้วนหลิงเทียนจมจ่อมอยู่ในเพลิงสีเทาจนลืมเลือนเวลาไปโดยสมบูรณ์
พอเขาตื่นขึ้นมา เขาก็พบว่าสามารถติดต่อทั้งควบคุมพลังธาตุไฟของกฏแห่งไฟได้แล้ว และเข้าใจความลึกซึ้งความหมายแห่งไฟจนบรรลุขั้นตอนความสำเร็จเบื้องต้น!
เขาเองก็ไม่รู้ว่ากระบวนการดังกล่าวมันกินเวลาไปเท่าไหร่
วูบหนึ่งก็เสมือนผ่านไปพริบตา บางคราก็เสมือนเนิ่นนานนับศตวรรษ
“ข้าใช้เวลาไปเท่าไหร่เหรอ?”
ต้วนหลิงเทียนเอ่ยถามเพลิงเทพโกลาหล
“สองชั่วโมงครึ่ง”
เพลิงเทพโกลาหลกล่าวตอบ
“ฮึ!”
และแทบจะทันทีที่เพลิงเทพโกลาหลกล่าวจบคำ เสียงพ่นลมสบถเย็นๆของปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินก็ดังขึ้นตามติด “เหลวไหล! เจ้าอย่าโม้ให้มากได้หรือไม่? เห็นกันอยู่ชัดๆว่าเจ้าใช้เวลาไปทั้งสิ้น สองชั่วโมงครึ่งกับอีก 3 ลมหายใจ!”
อย่างไรก็ตาม ได้ยินคำโวยวายไร้แก่นสารของปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดิน เพลิงเทพโกลาหลก็เลือกที่จะเมินเฉย ไม่สนใจมันอย่างสิ้นเชิง
ด้านต้วนหลิงเทียนยังได้ยินชัดเจน ว่าในน้ำเสียงของปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินนั้น มันแฝงไว้ด้วยความสลดหดหู่ไม่น้อย
เพราะท้ายที่สุดแล้ว ปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินก็ต้องใช้เวลาหนึ่งคืนเต็มๆ ถึงจะช่วยให้เขาเข้าใจความหมายแห่งดินได้…
ทว่าตอนนี้ เพลิงเทพโกลาหลกลับช่วยให้เขาเข้าใจความหมายแห่งไฟได้ในเวลาแค่ 2 ชั่วโมงครึ่ง…ไม่ถึง 3 ชั่วโมงอย่างที่พูดไว้ตอนนั้นด้วยซ้ำ!
แน่นอนว่าต้วนหลิงเทียนก็รู้ดีแก่ใจว่าไฉนที่เพลิงเทพโกลาหลช่วยให้เขาเข้าใจความหมายแห่งไฟได้เร็วขนาดนี้นั้น เหตุผลหลักๆเลยก็คือเขาได้เพลิงเทพโกลาหลมานานแล้ว แถมยังใช้อีกฝ่ายหลอมกลั่นโอสถอยู่บ่อยครั้ง
ในขณะที่เขาใช้เพลิงเทพโกลาหลหลอมกลั่นโอสถ ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับไฟของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปโดยไม่รู้ตัว
มาตอนนี้พอได้เพลิงเทพโกลาหลช่วยชี้นำ สุดท้ายเขาก็เข้าใจทุกอย่างที่ผ่านมาได้ชัดขึ้น จึงกลายเป็นเข้าใจความหมายแห่งไฟได้ในเวลาแค่ 2 ชั่วโมงครึ่งอย่างที่เห็น
“ธาตุไฟ…”
พอใจคิด พลังเซียนอมตะต้นกำเนิดต้วนหลิงเทียนก็แผ่พุ่งออกมาจากร่างกาย จากนั้นพอคิดอีกครา พลังธาตุไฟก็เริ่มผสานหลอมรวมเข้าใจพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดของเขา ทำให้พลังเซียนอมตะต้นกำเนิดของเขากลับกลายเป็นสีแดงเพลิง ขณะเดียวกันปลายขอบรัศมีพลัง ก็เสมือนปรากฏคลื่นความร้อนแผ่ออกมาเป็นระลอกๆ
ฟู่ว! ฟู่ว! ฟู่ว! ฟู่ว! ฟู่ว! ฟู่ว!
…
เมื่อผสานพลังจากความลึกซึ้งความหมายแห่งไฟเข้ากับพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดแบบนี้ คุณสมบัติพลังที่ปกคลุมทั่วร่างต้วนหลิงเทียนก็เปลี่ยนเป็นร้อนแรง ทั้งยังสัมผัสได้ถึงการเผาไหม้ในอากาศ
ซู่มม! ซู่มม! ซู่มม!
…
และพอต้วนหลิงเทียนยกมือขึ้นโบก พลังเซียนอมตะต้นกำเนิดสีแดงเพลิงก็เริ่มเคลื่อนไหว ดั่งอสูรเพลิงทะยานผ่านอากาศ แผ่กลิ่นอายพลังอันดุร้ายน่าเกรงขามออกมาอย่างครอบงำ!