ได้ยินสิ่งที่เจียงหลานพูดกับชายหนุ่มในชุดแพรหรูหรา ต้วนหลิงเทียนก็หันไปมองส่งสายตาถามไถ่หลิงเจวี๋ยอวิ๋นทันที และอีกฝ่ายก็พยักหน้าเบาๆตอบกลับ
เห็นได้ชัดว่าเจียงหลานก็พูดกับหลิงเจวี๋ยอวิ๋นแบบนี้ด้วย
ส่วนเรื่องที่หลิงเจวี๋ยอวิ๋นนำเรื่องแดนลับมาบอกเขานั้น ไม่ถือว่าผิดอะไร เพราะเจียงหลานเป็นคนฝากหลิงเจวี๋ยอวิ๋นให้มาชวนเขาเอง
“วันนั้นเจ้า…ดูเหมือนจะรับปากข้าแล้วมิใช่รึ?”
เจียงหลานที่ยังคงลอยร่างกลางฟ้าเหนือยอดเขา มองจ้องชายหนุ่มในชุดแพรหรูหราด้วยสายตาเฉยเมย เอ่ยถามออกมาเสียงเบา
“แล้วไง?”
ชายหนุ่มชุดหรูเย้ยเยาะ “ถึงแม้เจ้าจะแข็งแกร่งกว่าข้า แต่ตอนนี้อาจารย์ของข้ามาแล้ว อาศัยเจ้ายังจะทำอะไรได้ สุดท้ายเจ้ามันก็แค่ยอดเซียนอมตะขั้นสูงสุดตัวกระจ้อย ยังคิดจะให้ข้าเชื่อฟังงั้นหรือ เหลวไหลสิ้นดี!”
“อ้อ…ดูเหมือนเจ้าจะคิดว่า พออาจารย์เจ้ามาที่นี่แล้ว ข้าจะทำอะไรเจ้าไม่ได้งั้นสินะ?”
เจียงหลานหยีตามองถามชายหนุ่มชุดหรูนาม ‘หยวนเจิง’ อีกครั้ง
“หึ! อาจารย์ข้าเป็นราชาอมตะ 8 ชะตา! อาศัยเจ้าคิดว่ามีปัญญาทำอะไรข้าใต้เปลือกตาของราชาอมตะ 8 ชะตาได้รึ!?”
หยวนเจิงแสยะยิ้มกล่าวเย้ยเยาะออกมาอย่างย่ามใจ สีหน้าแววตาที่ใช้มองเจียงหลานบัดนี้ฉายชัดถึงความดูแคลน
“หยวนเจิงผู้นี้ซวยแล้วล่ะ…”
หลิงเจวี๋ยอวิ๋นที่ยืนอยู่ข้างๆต้วนหลิงเทียน เอ่ยออกเสียงเบาพอให้ต้วนหลิงเทียนได้ยินคนเดียว
“เจ้าไม่ได้บอกข้าว่า ค่ายกลของมันผ่านวันเวลามานานจนพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดที่บรรจุไว้ถดถอยถึงขอบเขตราชาอมตะแล้วหรือไง?”
ต้วนหลิงเทียนส่งเสียงผ่านพลังเอ่ยถามด้วยยความสงสัย
“ก็ใช่ แต่กระนั้นอาศัยแค่ตัวตนใต้ขอบเขตจอมราชันอมตะก็ไม่มีวันทำลายได้หรอก เจ้าอย่าได้ลืมไปว่าเมื่อชาติก่อนจะอย่างไรมันก็เป็นจักรพรรดิอมตะ…”
หลิงเจวี๋ยอวิ๋นตอบกลับผ่านพลัง
สิ้นเสียงตอบของหลิงเจวี๋ยอวิ๋น ต้วนหลิงเทียนก็เห็นว่าเจียงหลานเริ่มเงยหน้าขึ้นไปบนฟ้า กวาดตาไปยังร่างผู้มาใหม่ทั้ง 500 คนทั่วๆ จากนั้นก็ชี้นิ้วไปทางชายหนุ่มในชุดแพรพลางถาม “ผู้ใดเป็นอาจารย์ของมัน?”
“เฮอะ!”
เสียงกล่าวถามของเจียงหลานดังไม่ทันจบคำดี ชายวัยกลางคนในชุดจอมยุทธ์เรียบง่าย ก็โพล่งคำสบถออกมา มองเย้ยเจียงหลานด้วยสายตาท้าทาย พร้อมปลดปล่อยแรงกดดันพลังออกมาอย่างไม่คิดจะกักเก็บ “อันใดไอ้หนู หรือเจ้าคิดจะก่อการโอหังต่อหน้าข้า อย่างลงมือทำอะไรลูกศิษย์ข้ากระนั้นรึ?”
“ราชาอมตะ 8 ชะตา!”
เมื่อชายวัยกลางคนดังกล่าวโพล่งคำออกมาพร้อมปลดปล่อยแรงกดดันพลัง เหล่ายอดเซียนอมตะขั้นสูงสุดไม่เว้นต้วนหลิงเทียนก็หันไปสนใจชายวัยกลางคนทันที
เมื่อครู่หยวนเจิงพึ่งกล่าวว่าอาจารย์ของมันก็คือราชาอมตะ 8 ชะตา
เช่นนั้นชายวัยกลางคนผู้นี้ สมควรเป็นอาจารย์ของหยวนเจิง!
“ที่แท้กลับมีหลายคนไม่ทำตามสัญญาและเลือกจะบอกเหล่าอาวุโสให้ลอบติดตามมาด้วย…หากข้ารู้แต่แรกข้าบอกอาจารย์ของข้าให้ลอบติดตามมาด้วยก็ดี”
“นั่นสิ ดูเหมือนบางครั้งการบิดพลิ้วสัญญาก็มีประโยชน์เช่นกัน หากข้าบอกให้ผู้อาวุโสติดตามมาด้วย ไหนเลยยังตกอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้?”
“แต่อย่างไรเสียก็มีคนไม่น้อยเลยที่พาอาวุโสมาที่นี่ด้วย…ข้าเพียงหวังว่าจะสามารถอาศัยคนเหล่านั้น เอาตัวรอดไปจากแผนการอันใดสักอย่างของมันได้”
…
เหล่ายอดเซียนอมตะขั้นสูงสุดหลายต่อหลายคนได้แต่กล่าวพึมพำออกมาด้วยความเสียใจ ที่ดันไปรักษาคำพูดกับเจียงหลาน และเสียใจที่ไม่พาผู้อาวุโสติดตามมาด้วย
“ในเมื่อเจ้าต้องการแบบนั้น ข้าจัดให้!”
ได้ยินคำพูดของชายวัยกลางคนในชุดจอมยุทธ์ เจียงหลานก็มองตอบคำอีกฝ่าย มุมปากยังยกยิ้มแสยะเย้ยเยาะ สองตาหดหยีลง เจตนาฆ่าฟันเริ่มทะลักออกมา!
และมันกล่าวไม่ทันจบคำดี มันก็ลงมือเคลื่อนไหวแล้ว!
ซ่า!
ซ่า!
…
เสียงสายน้ำไหลเชี่ยวดังขึ้น บัดนี้ทั่วร่างของเจียงหลานพลันปรากฏกระแสพลังสีฟ้าห้อมล้อมวนเวียนไปทั่วร่าง มองไปดั่งสายธารไหลริน จากนั้นร่างมันก็ปะทุความเร็วขึ้นในฉับพลัน คนดิ่งลงจากลางฟ้าปานดาวตก จี้เข้าใส่หยวนเจิงอย่างดุร้าย!
เรื่องราวทั้งหมดอุบัติขึ้นในชั่วพริบตา สุดที่ผู้ใดจะตอบสนองเรื่องราวได้ทัน
“หาที่ตาย!!”
กว่าที่อาจารย์ของหยวนเจิง อันเป็นชายวัยกลางคนในชุดจอมยุทธ์จะรู้สึกตัวและโพล่งคำออกมาอย่างเกรี้ยวกราด ร่างเจียงหลานก็วูบมาบรรลุถึงครึ่งทางระหว่างหยวนเจิงแล้ว หนึ่งฝ่ามือสะบัดฟาดออกไป ทันใดนั้นกระแสพลังสีฟ้าดั่งสายธาร ก็พุ่งทะยานออกไปดั่งมังกรวารี เสียงพลังดังกระหึ่มปานมังกรคำราม!
ห้วงเวลาที่มวลพลังสีฟ้าควบรวมก่อตัวเป็นมังกร หยวนเจิงก็ดึงสติกลับมาได้สำเร็จ มันเร่งจ่ายพลังเปิดใช้เกราะอมตะระดับราชาทันที พลังเซียนอมตะต้นกำเนิดปะทุลุกโชนขึ้นมาท่วมปานเพลิงไฟ พริบตาก็แปรเปลี่ยนกลับกลายเป็นสีกากีผสานเข้ากับเงาร่างชุดเกราะที่ปรากฏขึ้นมาคลุมกาย
เห็นได้ชัดว่าหยวนเจิงเข้าใจกฏแห่งดิน!
เมื่อมังกรวารีของเจียงหลานพุ่งเข้ามาใกล้บบรรลุถึง รอบกายหยวนเจิงก็ปรากฏเงาร่างรูปลักษณ์ชุดเกราะครอบคลุม จากนั้นแสงพลังสีกากีที่ไหลเวียนไปทั่วเงาร่างดังกล่าว ก็ควบรวมก่อเกิดวัตถุคล้ายๆแผ่นยันต์ขึ้นมาแผ่นแล้วแผ่นเล่า!
แผ่นยันต์นับร้อยนับพันที่ถูกควบรวมสร้างขึ้น ร้อยเรียงถักทอลงบนเง่าร่างชุดเกราะฉับไวยังหมุนคว้างเร็วรี่ จนเงาร่างชุดเกราะรอบตัวมันตอน นี้เสมือนมีวังวนเกล็ดแกร่งหมุนคว้างเพิ่มพูนพลังป้องกันไปอีกขั้น!
เรียกว่าหยวนเจิงที่อยู่ภายใต้การคุ้มกันของเงาร่างชุดเกราะ อันมีเกล็ดพลังปฐพีนับร้อยพันหมุนคว้างปกปิดมิดชิดแบบนี้ ให้ความรู้สึกอยู่ยงคงกระพันอยู่บ้าง
“ความลึกซึ้ง ‘คุ้มกัน’ ของกฏแห่งดิน!”
สองตาต้วนหลิงเทียนทอประกายจ้าขึ้นมาทันใด เขาย่อมมองออกว่าความลึกซึ้งของกฏแห่งดินที่หยวนเจิงใช้อยู่คือความลึกซึ้งอะไร
ความลึกซึ้งคุ้มกันนั้น เป็นความลึกซึ้งที่มุ่งเสริมในการป้องกันเป็นหลักของกฏแห่งดิน ในแง่พลังป้องกันของมันแล้วไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าความลึกซึ้ง ปราการผลึก ของกฏแห่งดินเลย หากแต่ในแง่ของความคล่องตัวกลับสูงกว่ามาก เพราะมันเสมือนค่ายกลป้องกันที่วนเวียนอยู่รอบกาย
เปรี๊ยงงง!!
เสียงปะทะดังขึ้นสนั่น กระแสพลังสีฟ้าที่ควบรวมจนเหมือนมังกรวารีของเจียงหลาน ปะทะเข้ากับเงาร่างชุดเกราะที่เต็มไปด้วยเกล็ดมากมายหมุนคว้าง ทำให้เกล็ดนับร้อยพันรอบเงาร่างเกราะสั่นสะเทือนยกใหญ่!
อย่างไรก็ตามแม้มังกรวารีจะเปล่งพลังอำนาจดุดันฝ่าทำลายมากเท่าไหร่ หากแต่เกล็ดสีกากีนับร้อยพันที่หมุนคว้างบนเงาร่างชุดเกราะ ก็เพียงสั่นไหวรุนแรงและเปล่งแสงพลังออกมาเจิดจ้าเท่านั้น ไม่มีทีท่าว่าจะพังทลายลงแม้แต่น้อย!
“ต่อให้กระบวนท่าจู่โจมของเจ้าจะรุนแรงทรงพลังแค่ไหน ก็ไม่มีวันทำลายปราการป้องกันของข้าได้หรอก เช่นนั้นเจ้าก็ไม่มีวันเอาชนะข้าได้…สุดท้ายเรื่องราวก็จบลงเหมือนก่อนหน้านี้ที่ข้ากับเจ้าประมือกัน! ถึงข้าทำอะไรเจ้าไม่ได้ แต่เจ้าก็ทำอะไรข้าไม่ได้เช่นกัน!!”
หยวนเจิงที่อยู่ภายในเงาร่างชุดเกราะเกล็ด มองเจียงหลานอย่างได้ใจกล่าวเย้ยเยาะด้วยน้ำเสียงลำพอง “ทำไม? หรือเจ้าคิดว่าครั้งนี้จะมีปัญญาฝ่าการป้องกันของข้าได้? น่าขันนัก!”
เห็นฉากเรื่องราวเบื้องร่าง ชายวัยกลางคนในชุดจอมยุทธ์เดิมทีที่คิดลงมือ ก็หยุดลงไม่คิดทำอะไรอีกต่อไป
เพราะมันเองก็มั่นใจในพลังป้องกันของศิษย์สายตรงของมันมาก
อย่าได้กล่าวถึงเรื่องที่เจียงหลานก็เข้าใจความลึกซึ้งแค่ 2 ประการเหมือนศิษย์สายตรงของมันเลย ต่อให้เจียงหลานจะเข้าใจความลึกซึ้ง 3 ประการ แต่หากคิดจะทะลวงฝ่าการป้องกันของศิษย์สายตรงมันกระทั่งทำร้ายคน ก็ไม่มีทางกระทำได้ในเวลาสั้นๆแน่นอน!
“ช่างเป็นการป้องกันที่แข็งแกร่งอะไรจะขนาดนี้!?”
“นี่น่ะเหรอความลึกซึ้ง คุ้มกัน ของกฏแห่งดิน!?”
“ความลึกซึ้งคุ้มกันของกฏแห่งดินเป็น 1 ในความลึกซึ้งที่มุ่งเน้นในการป้องกันเป็นหลักของกฏแห่งดิน แถมพลังป้องกันยังแข็งแกร่งมาก…ด้วยด่านพลังของหยวนเจิง พร้อมด้วยเกราะอมตะระดับราชาที่ผสานความลึกซึ้งคุ้มกันของกฏแห่งดิน ต่อให้เจียงหลานผู้นั้นจะใช้อาวุธอมตะระดับราชาแล้วผสานความลึกซึ้ง 3 ประการลงไป ก็ยังยากจะฝ่าการป้องกันของหยวนเจิงได้ในเวลาอันสั้น!!”
“ตอนข้าประมือกับเจียงหลาน มันก็ใช้ความลึกซึ้งของกฏแห่งน้ำแค่ 2 ประการเท่านั้น”
“ตอนมันประลองกับข้าก็เหมือนกัน หมายความว่ามันสมควรเข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งน้ำแค่ 2 ประการจริงๆ…อีหร็อบนี้มันไม่มีทางฝ่าการป้องกันของหยวนเจิงได้แน่ เรื่องทำร้ายหยวนเจิงยังยาก ไม่ต้องพูดถึงเรื่องฆ่าหยวนเจิงเลย!”
…
หลังพบเห็นความแข็งแกร่งในการป้องกันของหยวนเจิง ยอดเซียนอมตะขั้นสูงสุดมากมายกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงทอดถอนใจ จากนั้นแต่ละคนก็เอ่ยถึงเรื่องที่ได้ประมือกับเจียงหลานออกมา และลงความเห็นว่าเจียงหลานสมควรเข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งน้ำแค่ 2 ประการเท่านั้น
“ความลึกซึ้งของกฏแห่งน้ำ 2 ประการ?”
อย่างไรก็ตามยังมียอดเซียนอมตะขั้นสูงสุดบางคนขมวดคิ้ว และมองไปที่เจียงหลานด้วยสายตาจริงจัง “เจียงหลานผู้นี้…มิใช่ว่ามันเข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งน้ำ 3 ประการหรือไร?”
ครู่ต่อมา พวกมันก็คล้ายจะคาดเดาอะไรได้ “หรือว่า…ยามเจียงหลานประมือกับพวกมัน จงใจปกปิดพลังฝีมือของตัวเอง?”
เหล่ายอดเซียนอมตะขั้นสูงสุดที่ล่วงรู้ว่าเจียงหลานเข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งน้ำ 3 ประการนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นยอดเซียนอมตะขั้นสูงสุดชนชั้นอัจฉริยะที่มีความสามารถในการทำความเข้าใจสูงทั้งสิ้น อายุไม่ถึง 200 ปี แต่เข้าใจความลึกซึ้งของกฏได้ 3 ประการ!
นอกจากนั้น พวกมันเองก็ได้ประมือกับเจียงหลานมาแล้ว จึงมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าเจียงหลานนั้นเข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งน้ำ 3 ประการไม่ผิดแน่!
และเป็นธรรมดาว่า ในการประลองกับเจียงหลาน พวกมันล้วนพ่ายแพ้กันหมดทุกคน!
“นี่เจ้าคิดจริงๆหรือ…ว่าข้าทำได้แค่นี้?”
ในขณะที่ทุกคนกำลังจดจ่ออยู่กับปะทะกันระหว่างเจียงหลานและหยวนเจิง หยวนเจิงยังคงมองเจียงหลานด้วยสีหน้าเย้ยหยันไม่เปลี่ยน ส่วนด้านเจียงหลานนั้นยังคงเฉยเมย หากแต่ลึกลงไปในสายตาที่ใช้มองหยวนเจิงกลับเผยประกายเยียบเย็นหนึ่ง รอยยิ้มแสยะที่มุมปากยิ่งมายิ่งชั่วร้าย
ได้ยินวาจาดังกล่าวของเจียงหลาน หลายคนก็อดอึ้งไปไม่ได้
หรือเจียงหานผู้นี้ ยังซุกซ่อนพลังอันใดเอาไว้?
“หึ! เสแสร้ง!!”
หยวนเจิงพ่นลมสบถเย็นชา เสียงกล่าวยังเต็มไปด้ววยความเหยียดหยาม ขณะเดียวกันมันก็บังเกิดความตื่นตัวขึ้น เร่งเร้าเสริมพลังให้เงาร่างชุดเกราะทั้งเกล็ดที่คล้ายแผ่นยันต์นับร้อยนับพันไม่ขาดห้วง พวกมันเปล่งแสงพลังเจิดจ้าหมุนวนไปตามผิวเงาชุดเกราะเร็วรี่ คล้ายจะป้องกันให้ไม่มีสิ่งใดล่วงล้ำเข้ามาได้แม้แต่อากาศ!
วูบ!
ทันใดนั้นปรากฏดาบเล่มหนึ่งผุดจากความว่างเปล่าเข้ามือเจียงหลาน จากนั้นมันก็ตวัดดาบดังกล่าวออกไปเบื้องหน้าอย่างไม่รีบไม่ร้อน ปรากฏมวลพลังสีฟ้าขุมหนึ่งทะยานออกมา! ทว่าเสี้ยวพริบตามวลพลังสีฟ้าดังกล่าวก็เริ่มแปลงลักษณ์กลับกลายเป็นมังกรวารีอีกครั้ง!!
ขวับ! ขวับ! ขวับ! ขวับ! ขวับ! ขวับ!
…
มังกรวารีตัวใหม่พึ่งจะก่อเกิดและพุ่งทะยานออกไปได้ไม่ทันไร เจียงหลานพลันตวัดดาบฟันฟาดออกไปถี่ยิบ ก่อเกิดคลื่นดาบสะบั้นดั่งจันทร์เสี้ยวพุ่งไปด้วยความเร็วอัศจันทร์นับร้อยสาย สะบั้นฟันลงยังร่างมังกรวารี จนทำให้ร่างมังกรวารีแตกตัวเป็นละอองน้ำนับร้อยพันกลางหาว!!
หยาดน้ำซ่านกระเซ็นพุ่งไปดั่งห่าพิรุณกระหน่ำ!
อย่างไรก็ตามหยาดน้ำนับร้อนนับพันหยดดังกล่าว ไม่เพียงแต่พลังสภาวะจะถดถอยน้อยลงจากร่างมังกรวารี กลับกันยิ่งมายิ่งกล้าแข็ง พวกมันโถมถันเข้าใส่หยวนเจิงปานห่าพิรุณกระหน่ำ!!
ในขณะที่หยดน้ำนับร้อยยพันโถมไปดั่งห่าพิรุณกระหน่ำ เจียงหลานยังเร่งเร้าพลังลงสู่ดาบ จนมันเปล่งแสงพลังสีฟ้าเจิดจ้า จากนั้นมันก็ตวัดฟันออกไปด้วยยความเร็วที่เหนือล้ำกว่าครั้งก่อน ที่น่ากลัวคลื่นดาบจำนวนมหาศาลดังกล่าว กลับพุ่งไปฟาดฟันผ่าแบ่งหยดน้ำนับร้อยพันหยดให้แบ่งครึ่งอย่างอัศจรรย์!
ซู่ม! ซู่ม! ซู่ม! ซู่ม! ซู่ม! ซู่ม! ซู่ม!
…
เมื่อตวัดดาบผ่าแบ่งหยดน้ำนับร้อยนับพันแล้ว แสงพลังสีฟ้าทั่วตัวดาบไม่เพียงถดถอย แต่ยิ่งมากลับยิ่งทรงพลังกล้าแข็งขึ้นอย่างผิดธรรมชาติ! จนสุดท้ายทำให้ผู้คนอดรู้สึกไปไม่ได้ว่าฟ้าดินบัดนี้ คงเหลือเพียงดาบสีฟ้าอันทรงพลังนั่น!!
พลังอานุภาพที่ตัวดาบเปล่งออกมา ประหนึ่งจะสะท้านสะเทือนทั้ง 4 ทิศ 8 ทาง!
“หยุดมือ!!”
เมื่อเจียงหลานเร่งเร้าพลังสภาวะดาบถึงขีดสุด มันก็ตวัดดาบฟันฟาดไปทางหยวนเจิงทันที บังเกิดเป็นคลื่นดาบอันน่ากลัวเข่นฆ่าสังหารออกไป ทุกผู้คนที่เห็นคลื่นดาบดังกล่าว ไม่ว่าใครก็รู้สึกเสมือนว่าคื่นดาบนี้สมควรผ่าร่างหยวนเจิงได้อย่างง่ายดาย! สุดท้ายกระทั่งอาจารย์ของหยวนเจิงเองก็ไม่วายตะโกนออกมาดังลั่น ยังปะทุพลังลงมือทันที!!
ปง! ปง! ปง! ปง! ปง! ปง!
…
ราชาอมตะ 8 ชะตาปะทุพลังลงมือ อากาศที่มันพุ่งผ่านแตกระเบิดออกส่งเสียงดัง ประหนึ่งอัสนีบาตฟาดลั่นก็ไม่ปาน อย่างไรก็ตามมันพุ่งทะลวงฝ่าอากาศมาได้ไม่ทันไร เบื้องหน้ากลับปรากฏม่านพลังโปร่งแสงขวางกั้นเอาไว้! และไม่ว่าราชาอมตะ 8 ชะตาผู้เป็นอาจารย์หยวนเจิงจะลงมืออย่างไร ก็มิอาจฝ่าทำลายม่านพลังดังกล่าวได้เลย!!
“ค่ายกลนี่มัน…”
“พลังป้องกันระดับนี้ ค่ายกลนี่มันอันใดกันแน่!?”
…
ยอดฝีมืออีกหลายร้อยคนที่ลอยร่างเหนือฟ้าสูง พอเห็นพลังป้องกันอันน่าสะพรึงกลัวของม่านพลังเบื้องล่าง ลูกตาของพวกมันก็หดเล็กลงทันที!