ณ คฤหาสน์ปี้ชิง

บริเวณหน้าอาคารอันมีค่ายกลเคลื่อนย้ายไปยังแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลาง กลุ่มคนที่ยืนอยู่แถวนั้นอยู่ๆก็หยีตาลงอย่างพร้อมเพรียง

พริบตาต่อมาก็เกิดความโกลาหลกันยกใหญ่

“อะไรกัน ชื่อศิษย์พี่กงซุนจิ้ง…หายไปจากตารางจัดอันดับแล้ว!?”

“ศิษย์พี่กงซุนจิ้งจะอย่างไรก็เข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งไฟ 6 ประการ ปกติมักติด 60 อันดับแรกเสมอ แต่ครานี้โชคไม่ดีจึงอยู่แค่อันดับ 69 แต่ไฉนอยู่ดีๆถึงหายไปจากตารางได้เล่า?”

“ศิษย์พี่ไปแพ้ใครงั้นเหรอ?”

“สมควรแพ้ใครสักคนจริงๆ…เว้นเสียแต่จะเจอคนของคฤหาสน์เฉวียนโยว ก็ไม่ควรถูกฆ่าตาย นอกจากนั้นต่อให้เป็นคนนของคฤหาสน์เฉวียนโยว ก็ไม่แน่ว่าจะมีปัญญาฆ่าศิษย์พี่กงซุนจิ้งได้ทันก่อนบดขยี้ป้ายหยกสะสมคะแนน”

“มิผิด! เท่าที่ข้าดู ทั้งคฤหาสน์เฉวียนโยวก็คงมีแต่โจวหงเจี๋ยเท่านั้นที่มีความสามารถมากพอจะเอาชนะศิษย์พี่กงซุนจิ้งได้ แต่ไม่มีทางฆ่าศิษย์พี่ได้ทันก่อนทุบทำลายป้ายหยกแน่นอน…อย่างไรก็ตามอันดับกับคะแนนของโจวหงเจี๋ยกลับไม่เปลี่ยนแปลง!”

เหล่าศิษย์คฤหาสน์ปี้ชิงกล่าวกันเสียงดังเซ็งแซ่ เท่าที่ฟังพวกมันก็คิดว่ากงซุนจิ้งสมควรแพ้พ่ายเท่านั้น ไม่น่าจะไปถูกใครฆ่าเอา

“พวกเจ้าดูนั่น!”

และในขณะที่ศิษย์คฤหาสน์ปี้ชิงหลายคนกำลังคุยกันถึงเรื่องนี้ด้วยความสงสัย ก็มีศิษย์คฤหาสน์ปี้ชิงบางคนที่สังเกตเห็นอะไรผิดแปลกในตารางจัดอันดับ “ชื่อนี้เมื่อครู่มันยังอยู่ในอันดับที่ 93…แต่พริบตาต่อมามันก็พุ่งทะยานขึ้นมาถึงอันดับที่ 52 แล้ว?”

“ใช่ ศิษย์คฤหาสน์เฉวียนโยวที่ชื่อต้วนหลิงเทียนผู้นี้ ก่อนหน้าข้าเห็นมันมีแค่ 6 แต้มและอยู่ในอันดับที่ 93 แต่หลังจากชื่อของศิษย์พี่กงซุนจิ้งหายไป คะแนนมันก็กลายเป็น 19 แถมยังพุ่งขึ้นมารวดเดียวจนอู่ในอันดับที่ 52!”

ศิษย์คฤหาสน์ปี้ชิงอีกคนที่สังเกตเห็นเรื่องนี้กล่าวเสริม

และพอเสียงของศิษย์คฤหาสน์ปี้ชิงคนนี้ดังออกมา โดยรอบก็พร้อมใจกันเงียบลงทันที

พวกมันเองก็สังเกตเห็นชื่อต้วนหลิงเทียนมาก่อน และตระหนักว่าอีกฝ่ายพึ่งจะติดอยู่ 100 อันดับเป็นครั้งแรก

ด้วยเหตุนี้ทำให้พวกมันแปลกใจไม่น้อย เพราะชื่อของอีกฝ่ายก็มีคำคฤหาสน์เฉวียนโยวต่อท้าย

เพราะพวกมันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าศิษย์คฤหาสน์เฉวียนโยวที่เข้าสู่แดนสวรรค์ใต้โบราณ จะเคยมีชื่อนี้ติด 100 อันดับแรกด้วย

ดังนั้นพวกมันจึงเชื่อไปตามจิตใต้สำนึก ว่านี่สมควรเป็นศิษย์ใหม่ที่ไม่มีใครรู้จักของคฤหาสน์เฉวียนโยว และคราวนี้อีกฝ่ายแค่โชคดีเท่านั้นถึงติดอยู่ใน 100 อันดับแรกได้

มาตอนนี้พอพิจารณาจากการเปลี่ยนแปลงในอันดับของต้วนหลิงเทียน และประจวบกับชื่อกงซุนจิ้งหายไปจากตารางจัดอันดับพอดี ก็ทำให้พวกมันตระหนักอะไรได้

“ให้ตายเถอะ นี่ศิษย์พี่กงซุนจิ้งถูกศิษย์คฤหาสน์เฉวียนโยวคนนี้จัดการรึเปล่า…คงไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับศิษย์พี่หรอกนะ!?”

“คงไม่มีเรื่องอะไรหรอก…ให้มองไปทั่วคฤหาสน์เฉวียนโยว ขุนนางอมตะ 10 ทิศอายุไม่ถึงพันปีของพวกมัน นอกจากโจวหงเจี๋ยกับอีก 2 คนที่เข้าใจความลึกซึ้งของกฏ 6 ประการและพึ่งจะริเริ่มเข้าใจประการที่ 7 ก็ไม่มีใครต่อกรกับศิษย์พี่ได้แล้ว”

“อีกทั้ง ถึงศิษย์ 2 คนที่ข้าพูดถึงจะร้ายกาจกว่าศิษย์พี่กงซุนจิ้ง แต่ก็ไม่ถึงขั้นร้ายกาจมากพอจะฆ่าศิษย์พี่กงซุนจิ้งได้ทันก่อนที่จะบดขยี้ป้ายหยก”

“อย่างไรก็ตาม พวกเราทุกคนล้วนรู้จักชื่อสองคนนั่นดี…ต้วนหลิงเทียนนี่ไม่ใช่พวกมันแน่!”

“หรือโจวหงเจี๋ยกับพวกมันจะใช้ศิษย์ที่ชื่อต้วนหลิงเทียนนี่เป็นตัวล่อ จากนั้นก็ร่วมมือกับต้วนหลิงเทียนอะไรนั่นกลุ้มรุมสังหารศิษย์พี่กงซุนจิ้ง!?”

“เป็นไปไม่ได้! ต่อให้พวกมันจะใช้ศิษย์ธรรมดามาล่อศิษย์พี่กงซุนจิ้งแล้วล้อมฆ่าได้จริง พวกมันก็ไม่มีวันมอบคะแนนให้ศิษย์ธรรมดาๆหรอก!!”

เหล่าศิษย์คฤหาสน์ปี้ชิงเริ่มพูดคุยถกเถียงกันยกใหญ่ ด้วยไม่มีใครรู้สักคนว่าต้วนหลิงเทียนเป็นใครมาจากไหน กระทั่งพวกมันพึ่งจะเห็นศิษย์คฤหาสน์เฉวียนโยวชื่อนี้เป็นครั้งแรก

“เข้าไปตรววจดูข้างในเถอะ ว่าลูกแก้ววิญญาณของศิษย์พี่กงซุนจิ้งยังอยู่ดีหรือไม่…”

ศิษย์คฤหาสน์ปี้ชิงคนหนึ่งออกความเห็น

ได้ยินคำแนะนำของมัน ศิษย์คฤหาสน์ปี้ชิงหลายคนก็เดินเข้าไปในห้องโถงของอาคารหลังใหญ่ข้างๆทันที

ในขณะเดียวกันก็มีศิษย์หลายคนที่ยืนอยู่ที่เดิม พร้อมความเชื่อ…

“หึ! ต่อให้ศิษ์พี่กงซุนจิ้งจะถูกขจัดออก แต่ก็ไม่มีทางตายด้วยน้ำมือศิษย์คฤหาสน์เฉวียนโยวแน่นอน…ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่เป็นศิษย์คฤหาสน์เฉวียนโยวที่ไม่มีใครรู้จักเลย นอกจากโจวหงเจี๋ยกับอีก 2 คนนั่นลอบโจมตีโดยที่ศิษย์พี่กงซุนจิ้งไม่ทันตั้งตัว หาไม่แล้วไม่มีทางทำอะไรศิษย์พี่ได้แน่!!”

“มิผิด! ต่อให้โจวหงเจี๋ยกับคนอื่นซุ่มโจมตีจริง ไหนเลยศิษย์พี่กงซุนจิ้งจะตรวจไม่พบแต่แรก ย่อมมีเวลามากพอทำลายป้ายหยกแน่นอน!”

อย่างไรก็ตามเหล่าศิษย์คฤหาสน์ปี้ชิงเหล่านี้ไม่คิดไม่ฝันเลย ว่าไม่ทันไรเหล่าศิษย์ที่เข้าไปตรวจสอบด้านใน ก็รีบวิ่งกลับออกมาพร้อมแจ้งข่าวร้ายให้พวกมัน

ลูกแก้ววิญญาณของกงซุนจิ้งแตกแล้ว….

กงซุนจิ้งตกตายไปแล้วจริงๆ!!

“ได้ไงกัน!?”

“ไม่จริงหน่า! ไฉนเป็นเช่นนี้ไปได้!?”

“ศิษย์คฤหาสน์เฉวียนโยวที่ไม่มีใครรู้จัก มันจะมีปัญญาฆ่าศิษย์พี่กงซุนจิ้งได้อย่างไร!?”

เวลาผ่านไปนานเข้า เหล่าศิษย์คฤหาสน์ปี้ชิงที่รู้เรื่องกงซุนจิ้งตกตายไปแล้วก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งคนของคฤหาสน์อมตะอื่นๆก็เริ่มตระหนักเรื่องราวได้เช่นกัน

ถึงแม้กงซุนจิ้งจะเป็นขุนนางอมตะ 10 ทิศที่เข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งไฟ 6 ประการ แต่เนื่องจากอีกฝ่ายมักติดอยู่ในอันดับกลางๆของแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางบ่อยครั้ง ทำให้ชื่อเสียงนั้นโด่งดังในหมู่ศิษย์คฤหาสน์ปี้ชิงไม่น้อย

ความตายของมันก็เลยสร้างความโกลาหลให้เหล่าศิษย์คฤหาสน์ปี้ชิง

“ศิษย์หน้าใหม่ของคฤหาสน์เฉวียนโยวนามต้วนหลิงเทียน? ฆ่ากงซุนจิ้งได้?”

คฤหาสน์ปี้ชิงเสมือนถูกเขย่า

ในขณะที่คฤหาสน์ปี้ชิงเสมือนถูกเขย่าให้สะเทือน สถานการณ์ในลานหน้าตำหนักเคลื่อนย้ายของคฤหาสน์เฉวียนโยวก็อลหม่านไม่น้อย

“ให้ตายเถอะ ไอ้ชาติชั่วกงซุนจิ้งของคฤหาสน์ปี้ชิงนั่นมันถูกกำจัดออกไปแล้วเรอะ!?”

“ช้าก่อน คะแนนของมัน…ดูเหมือนจะไปเพิ่มให้ต้วนหลิงเทียนของคฤหาสน์เฉวียนโยวเราไม่ใช่รึ?”

“นี่มันอะไรกันแน่ ต้วนหลิงเทียนนั่นไม่ใช่ว่าอายุไม่ถึงร้อยปีหรือไร ไฉนมีความสามารถจัดการกงซุนจิ้งได้? กงซุนจิ้งนั่นจะอย่างไรมันก็เข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งไฟ 6 ประการไม่ใช่หรือ?”

“ไม่รู้ แต่ที่รู้คือหลังกงซุนจิ้งถูกกำจัดออกไป อันดับของต้วนหลิงเทียนก็พุ่งขึ้นมาถึงอันดับที่ 52!”

“หากบอกว่าก่อนหน้าที่มันติด 100 แรกได้เป็นเพราะโชค…ตอนนี้ยังจะเป็นเพราะโชคอีกหรือ?”

“โกง! มันต้องโกงไม่ผิดแน่! ข้าว่ามันต้องเป็นคนที่เบื้องบนคฤหาสน์เฉวียนโยวเราพามาให้โกงแต้มโดยเฉพาะ!!”

“โกงกับตูดเจ้า! ถึงจะโกงแต่เจ้าคิดว่าพวกคฤหาสน์ปี้ชิงมันจะยอมส่งคะแนนให้พวกเรางั้นเรอะ!?”

ในขณะที่กลุ่มศิษย์คฤหาสน์เฉวียนโยวด้านนอกยังงุนงงสับสน

ศิษย์คฤหาสน์เฉวียนโยวคนหนึ่งก็เอ่ยออกมาเสียงดังผสานพลัง

“ถึงแม้คฤหาสน์เฉวียนโยวเราจะไม่ญาติดีกับคฤหาสน์ปี้ชิง แต่ข้าก็มีสหายที่โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กอยู่ในคฤหาสน์ปี้ชิงคนหนึ่ง และยังติดต่อกันอยู่…เมื่อครู่มันพึ่งส่งข้อความมาบอกข้าว่ากงซุนจิ้งของคฤหาสน์ปี้ชิงตกตายแล้ว! และสมควรตกตายด้วยเงื้อมมือของต้วนหลิงเทียน! แถมมันยังถามข้ามาอีกด้วยว่า…คฤหาสน์เฉวียนโยวเราไปหาคนที่มีพลังฆ่ากงงซุนจิ้งในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางมาได้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

พอเสียงของศิษย์คฤหาสน์เฉวียนโยวคนนี้ดังขึ้น เสียงเหล่าศิษย์ในลานหน้าตารางจัดอันดับก็เงียบลงทันที

ครู่ต่อมาหลายคนก็เริ่มหันกลับไปจับจ้องชื่อในอันดับที่ 52 ตาเขม็ง “หรือ…มันจะฆ่ากงซุนจิ้งได้จริงๆ?”

“ในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลาง กำลังภายนอกทั้งหมดไม่เว้นอุปกรณ์อมตะล้วนไม่อาจใช้ได้ ทำได้แค่ใช้พลังฝีมือส่วนตัวเท่านั้น…หากกงซุนจิ้งถูกมันฆ่าจริง ไม่ใช่หมายความว่าพลังฝีมือมันเหนือกว่ากงซุนจิ้งมากหรือไร?”

“แล้วนั่นจะเป็นไปได้อย่างไร…ไม่ใช่มันยังมีอายุไม่ถึงร้อยปีรึไงกัน?”

“ผู้ตรวจการฉี ไปสรรหาสัตว์ประหลาดเช่นนี้มาจากที่ใดกันแน่?”

ฟังจากเสียยงสนทนาของศิษย์เหล่านี้ เห็นได้ชัดว่ายังไม่ได้ทราบเรื่องราวจากเหล่าอาวุโสที่เร่งรุดมา รวมถึงยังไม่ได้เข้าไปในตำหนักเคลื่อนย้าย

หลังคฤหาสน์ปี้ชิงตื่นตระหนก ทางด้านคฤหาสน์เฉวียนโยวเองก็ตื่นตระหนกเช่นเดียวกัน

ขณะเดียวกันเหล่าศิษย์และผู้อาวุโสของคฤหาสน์เฉวียนโยวหลายคนที่ยังไม่ได้รู้เรื่องราวอะไร ก็เริ่มตระหนักได้ว่า…

การที่พวกมันไม่เคยได้ยินชื่อ ต้วนหลิงเทียน มาก่อนเลย หมายความว่าอีกฝ่ายพึ่งจะเข้าร่วมคฤหาสน์เฉวียนโยวได้ไม่นาน

ด้วยเหตุนี้ไฉนต้วนหลิงเทียนที่แข็งแกร่ง แต่ยังเป็นศิษย์ฝ่ายนอก หลายคนในคฤหาสน์เฉวียนโยวจึงเข้าใจได้

อย่างไรก็ตาม พอพวกมันได้รู้ว่าต้วนหลิงเทียนอายุไม่ถึงร้อยปี ก็พากันเงียบไปไร้คำจะกล่าว

“ต้วนหลิงเทียน?”

ในคฤหาสน์เฉวียนโยว นอกจากเจ้าวังผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อย และ 1 ใน 10 ผู้ตรวจการคฤหาสน์เฉวียนโยวที่พาต้วนหลิงเทียนมาอย่างฉีเทียนหมิงแล้ว ยังมีบุคคลที่ 3 ที่รู้จักต้วนหลิงเทียนอยู่

คนที่ว่าก็คือ ปี้ไห่หมิงเฟิง และเป็น 1 ใน 10 ผู้ตรวจการคฤหาสน์เฉวียนโยวเช่นกัน

“ต้วนหลิงเทียน ถูกผู้ตรวจการฉีพาไปส่งที่ตำหนักเคลื่อนย้ายเข้าแดนสวรรค์ใต้ด้วยตัวเอง แถมตอนนี้ยังติดอันดับที่ 52 หลังฆ่ากงซุนจิ้ง?”

หลังได้รับแจ้งเรื่องราวดังกล่าว ปี้ไห่หมิงเฟิงก็วิ่งโร่ไปหาฉีเทียนหมิงถึงบ้านทันที “อาจารย์ลุงฉี นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

“ต้วนหลิงเทียนผู้นั้น ข้าเองก็พบเจอมันตอนแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับต่ำเปิดออกครั้งล่าสุด…ตอนนั้นมันก็แค่ยอดเซียนอมตะขั้นสูงสุดนี่นา?”

“แล้วนี่ยังพึ่งผ่านไปนานเท่าไหร่กัน ไฉนมันถึงไปฆ่ากงซุนจิ้งในแดนสววรรค์ใต้โบราณระดับกลาง และอยู่ในอันดับที่ 52 ได้เล่า?”

ปี้ไห่หมิงเฟิงนั้นมักเผมาดขรึม นิ่งสงบอยู่เสมอ หายากนักที่จะแลดูเสียอาการแบบนี้ และคราวนี้นับว่ามันอื้ออึงไม่รู้เหนือรู้ใต้แล้วจริงๆ

เพราะมันไม่เข้าใจ คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก

ว่ายอดเซียนอมตะขั้นสูงสุดคนหนึ่ง ในเวลาแค่ไม่กี่ปีไฉนประสบความสำเร็จถึงขนาดนี้ได้?

“ผลเทพสังเวยสวรรค์”

พอได้ยินคำถามของปี้ไห่หมิงเฟิง ทั้งเห็นท่าทางทำราวกับหากไม่รู้ไม่คิดเลิกรา ฉีเทียนหมิงก็ได้แต่ตอบไปตามตรง

“ผลเทพสังเวยสวรรค์หรือ?”

ลูกตาปี้ไห่หมิงเฟิงหดเล็กลงโดยพลัน จากนั้นก็มองถามฉีเทียนหมิงต่อด้วยความประหลาดใจ “หรือว่าเรื่องที่ร่ำลือกันก่อนหน้านี้…ว่ามีจักรพรรดิอมตะกลับชาติมาเกิดหลอกยอดเซียนอมตะขั้นสูงสุดทั้งหลายไปสังเวยต้นไม้เทพสังเวสวรรค์นั่นจะเป็นความจริง?!”

เพียงเพราะได้ยินมาอีกที ปี้ไห้หมิงเฟิงจึงยังไม่ปักใจเชื่อข่าวลือดังกล่าว

ยิ่งไปกว่านั้นมันไม่ได้ยินมาว่ามีใครในคฤหาสน์เฉวียนโยวถูกจักรพรรดิอมตะกลับชาติมาเกิดหลอกไปแม้แต่คนเดียว จึงค่อนข้างคิดว่าเป็นข่าวลือเหลวไหลเสียมากกว่า

อย่างไรก็ตาม พอเห็นว่าต้วนหลิงเทียนประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ได้ในเวลาไม่กี่ปี มันจึงเริ่มเชื่อขึ้นมาแล้ว

“เช่นนั้นหมายความว่า ต้วนหลิงเทียนนั่นก็ถูกจักรพรรดิอมตะที่กลับชาติมาเกิดหลอกไปด้วย แต่ไม่เพียงจะไม่พลาดท่าตกตายเพราถูกสังเวย กลับเป็นฝ่ายช่วงชิงผลเทพสังเวยสวรรค์มาจากเงื้อมมือของจักรพรรดิมอมตะที่กลับชาติมาเกิดนั่นได้?”

ปี้ไห่หมิงเฟิงถึงกับต้องสูดลมหายใจเข้าด้วยความหนาวเหน็บ

“ไม่ใช่แค่ต้วนหลิงเทียนที่ถูกหลอกไปคนเดียว ในเขตปกครองคฤหาสน์เฉวียนโยวเรา ยังมีหลิงเจวี๋ยอวิ๋น กับมู่หรงเซี่ยวเซี่ยวที่โดนหลอกไปอีก 2 คน…”

ฉีเทียนหมิงกล่าว “อย่างไรก็ตาม มู่หรงเซี่ยวเซี่ยวเป็นคนเดียวที่ตาย…ส่วนต้วนหลิงเทียนกับหลิงเจวี๋ยอวิ๋นได้รับผลเทพสังเวยสวรรค์กันไปคนละผล”

“หลิงเจวี๋ยอวิ๋นคนนั้นเลือกที่จะรั้งอยู่ในอวี้หวงเทียน ไม่คิดกลับมาหลิงหลัวเทียนเรา ตอนนี้ลูกแก้ววิญญาณของมันในนิกายอมตะอวิ๋นไถก็ยังอยู่ดี เห็นชัดว่ายังไม่ตาย…”

ตอนแรกที่ฉีเทียนหมิงได้รับทราบเรื่องราวจากซุนเหลียงเผิงประมุขนิกายยอมตะเป้าผู่ เรื่องการกลับมาของต้วนหลิงเทียนหลังได้ผลเทพสังเวยสวรรค์ มันก็เริ่มตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องราวก่อนใดอื่น

ด้วยฐานะของมัน ตระกูลมู่หรงกับนิกายยอมตะอวิ๋นไถย่อมให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี…