ตอนที่ 3,231 : คำเชิญจากทุกขุมกำลัง

“ใช่…”

ชายหนุ่มชุดฟ้าที่เป็นคนแจ้งข่าวให้อวิ๋นเอี้ย พอดึงสติกลับมาจากแผ่นศิลาหน้าหอคอยจิตวิญญาณค่ายกลได้แล้ว ก็กล่าวตอบออกไปด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ

เมื่อครู่หลังยืนยันแล้วว่าต้วนหลิงเทียนได้ทำลายสถิติของอวี่เจี้ยนเฉิงประมุขนิกายกระบี่หมื่นหายนะลงแล้วจริงๆ มันยังอดเดาะลิ้นไม่ได้

ต้วนหลิงเทียนผู้นี้จะไม่ร้ายกาจเกินไปหน่อยหรือ?

ราวชั่วพริบตา เวลาก็ล่วงเลยไปอีก 10 กว่าลมหายใจโดยที่ไม่มีใครทันรู้ตัว และร่างสตรีในชุดขาวหนึ่งก็ผุดโผล่ขึ้นมาต่อหน้าต่อตาทุกคน

“พี่หลิงเทียน ท่านออกมาเร็วจัง?”

หลังฮ่วนเอ๋อออกมา นางก็พบว่าต้วนหลิงเทียนได้ออกมาก่อนนางแล้ว จึงอดแปลกใจไม่ได้ “พี่หลิงเทียน ท่านใช้เวลาไปนานเท่าใดหรือ?”

“ฮ่วนเอ๋อ เจ้าทำเวลาได้ไม่เลวเลย…เจ้าใช้ไป 143ลมหายใจก็ออกมาได้แล้ว”

ต้วนหลิงเทียนที่พึ่งแผ่สำนึกเทวะเข้าสู่แท่นศิลาหน้าหอคอยจิตวิญญาณค่ายกล ก็พบอันดับและเวลาของฮ่วนเอ๋อ

ฮ่วนเอ๋ออยู่ในอันดับที่ 3 ต่อจากซูหลี่ และอยู่หน้าอวี่เทียนสิง

ซูหลี่นั้นทำเวลาได้ 141 ลมหายใจ ขณะที่อวี่เทียนสิงใช้เวลาไป 144 ลมหายใจ ซึ่งมากกว่าฮ่วนเอ๋อแค่หนึ่งลมหายใจเท่านั้น

แต่กระนั้นมันก็ถือว่าด้อยกว่าฮ่วนเอ๋อ

พริบตาเดียว มันก็ร่วงตกจากอันดับ 2 ไปอยู่อันดับที่ 4

“นาง…คือฮ่วนเอ๋อที่ฆ่า อวิ๋นเซียว ศิษย์น้องข้างั้นหรือ?”

อวิ๋นเอี้ยหันไปถามชายหนุมชุดฟ้าข้างๆอีกครั้งเพื่อยืนยันให้แน่ชัด​

และพอเห็นอีกฝ่ายพยักหน้า อวิ๋นเอี้ยก็ปะทุพลังชั่วชีวิตพุ่งร่างออกไปดั่งลำแสง เร่งรุดหลบหนีจากไปทันที ไม่แม้แต่จะหันกลับมามองด้วยซ้ำ!

ชายหนุ่มชุดฟ้าก็ตัดสินใจเหินร่างหลบหนีตามไปเช่นกัน

หลายคนที่เห็นการจากไปของอวิ๋นเอี้ยก็เข้าใจได้ไม่ยาก เพราะหากต้วนหลิงเทียนกับฮ่วนเอ๋อสังเกตเห็นมันแล้วสืบถาม คงพบได้ไม่ยากว่ามันคือคนของนิกายปีศาจพันกร

ทั้งคู่ย่อมหวาดกลัวมาก ไม่กล้ารอช้าแม้แต่น้อย เพราะหากเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา พวกมันก็มีแต่ตายกับตายแล้ว

“ไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าพลังฝีมือของทั้งคู่จะร้ายกาจขนาดนี้…แดนลับอัจฉริยะเปิดมาได้ 8 ปีแล้วแท้ๆ แต่ไม่คิดว่าพอปรากฏตัวอีกคร าหนึ่งในนั้นจะได้อันดับ 1 และอีกคนได้อันดับที่ 3”

ตอนนี้คนที่จะสามารถทิ้งชื่อไว้ในสถานที่ทดสอบต่างๆของแดนลับอัจฉริยะ ล้วนไม่ธรรมดาทั้งสิ้นทั้งสิ้น

เรียกว่าหลังผ่านการขับเคี่ยวมานานจนได้อันดับอย่างที่เห็น ก็ยากนักที่จะเกิดความเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีก เพราะคนที่มีฝีมือส่วนใหญ่ ได้เข้าทดสอบกันไปหมดแล้ว

“เห็นว่า…หากมีผู้ใดทำลายสถิติเดิมได้ แดนลับอัจฉริยะจะมอบอุปกรณ์อมตะระดับจักรพรรดิให้เป็นรางวัลใช่ไหม?”

ไม่นานนักสายตามากกมายหลายคู่ก็รุมจ้องไปยังต้วนหลิงเทียน บ้างก็ฉายแววอิจฉา บ้างริษยา บ้างเกลียดชัง และบ้างชื่นชม

ต้วนหลิงเทียนที่คิดจะจากไปพร้อมกับฮ่วนเอ๋อ ก็อดไม่ได้ที่จะชะงักไปทันที หลังได้ยินคำพูดดังกล่าว

ใช่! ดูเหมือนจะมีเรื่องแบบนั้นจริงๆ

ในแดนลับอัจฉริยะ ไม่ว่าผู้ใดก็ตามที่สามารถทำลายสถิติสูงสุดที่ถูกบันทึกไว้ในแดนลับอัจฉริยะได้ ก็จะได้รับของรางวัลเป็นอุปกรณ์อมตะระดับจักรพรรดิ

และในขณะเดียวกันกับที่ต้วนหลิงเทียนนึกขึ้นได้

วิ้งงงง!!

ดวงแสงหนึ่งพลันระเบิดแสงจ้ากลางฟ้า ก่อนจะลอยต่ำลงมาเรื่อยๆ สุดท้ายก็มาหยุดลงตรงหน้าต้วนหลิงเทียน เป็นกระบี่สีเขียวปานหยกยาว 3 ฉื่อเล่มหนึ่ง!

“เป็นกระบี่อมตะระดับจักรพรรดิจริงๆ”

มองปราดเดียวต้วนหลิงเทียนก็บอกได้ทันที ว่ากระบี่เสียวเขียวเบื้องหน้าเป็นกระบี่อมตะระดับจักพรรดิ! เพราะกลิ่นอายที่มันแผ่ออกมานั้น พอๆกับกระบี่นิลสวรรค์ที่อยู่ในเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติที่เขาเคยใช้มาก่อนไม่มีผิดเพี้ยน

กระบี่สีเขียวเล่มนี้ ประหนึ่งสร้างขึ้นจากหยกจักรพรรดิก็ไม่ปาน มีขนาดความยาวมาตรฐาน 3ฉื่อ แม้จะไม่ได้ถ่ายเทพลังลงไป แต่ตัวกระบี่ก็เปล่งกลิ่นอายพลังคมกล้าออกมาทุกขณะ พาลให้ผู้คนรู้สึกได้ถึงความแหลมคมเพียงแค่มอง

ต้วนหลิงเทียนโบกมือคราหนึ่ง กระบี่อมตะระดับจักรพรรดิดังกล่าวก็ลอยมาอยู่ในมือ

และวินาทีที่เขาจับด้ามกระบี่ ก็ปรากฏเสียงประกาศดังกึกก้องไปทั่วทั้งแดนลับอัจฉริยะ…

“ขอแสดงความยินดีกับ ต้วนหลิงเทียน ด้วย ที่สามารถผ่านหอคอยจิตวิญญาณค่ายกล โดยใช้เวลาไปเพียง 127 ลมหายใจ ทำลายสถิติสูงสุดของหอคอยจิตวิญญาณค่ายกลได้สำเร็จ”

เสียงประกาศบอกแบบนี้ ไม่ได้มีเพียงแต่การเอาชนะจิตวิญญาณค่ายนกลในฟ้าดินแห่งกฏเท่านั้น การทำลายสถิติเก่าใดๆได้ในแดนลับอัจฉริยะก็จะมีประกาศบอกเช่นกัน

ยิ่งไปกว่านั้นอย่างแรกรางวัลไม่ได้ดีเด่อะไร แต่อย่างหลังนั้นจะให้ของรางวัลระดับอุปกรณ์อมตะจักรพรรดิ!

“ต้วนหลิงเทียน?!”

“มันปรากฏตัวแล้วหรือ!?”

“ให้ตายเถอะ! มันถึงกับทำลายสถิติสูงสุดของหอคอยจิตวิญญาณค่ายกลลงได้เชียวหรือ? หากข้าจำไม่ผิดไม่ใช่สถิติที่ว่าจะถูกอวี่เจี้ยนเฉิงประมุขนิกายยกระบี่หมื่นหายนะสร้างไว้เมื่อ 20,000 กว่าปีก่อนรึไง?”

“ใช่ อวี่เจี้ยนเฉิงทีว่าแน่ ตอนนั้นยังต้องใช้เวลา 132ลมหายใจเพื่อผ่านหอคอยจิตวิญญาณ…แต่ต้วนหลิงเทียนผู้นี้กลับน่ากลัวยิ่งกว่า ใช้เวลาไปแค่ 127ลมหายใจเท่านั้น น้อยกว่าอวี่เจี้ยนเฉิงถึง 5 ลมหายใจเต็มๆ”

ทั่วทุกที่ในแดนลับอัจฉริยะ ไม่ว่าใครที่ได้ยินประกาศดังกล่าวก็อดตกใจไม่ได้

พวกมันไม่คิดไม่ฝันเลยว่าการเข้ามาแดนลับอัจฉริยะของพวกมัน จะมีคนที่ทำลายสถิติสูงสุดได้ปรากฏตัวขึ้นมา

ต้องทราบด้วยว่าสถิติดังกล่าวมันไม่มีผู้ใดทำลายได้กว่า 20,000 ปีแล้ว

“เมื่อ 8 ปีก่อน ต้วนหลิงเทียนคนนี้ไม่ใช่ว่ายังไม่อาจปีนถึงบันไดขั้นที่ 3,000 ในยอดเขาแรงโน้มถ่วงเลยรึไง…ไฉนผ่านไป 8 ปีมันกลับทำลายสถิติของหอคอยจิตวิญญาณค่ายกลได้ซะเล่า?”

“จริง หอคอยจิตวิญญาณค่ายกลนั้นยังวัดพลังฝีมือผู้คนได้ครอบคลุมกว่ายอดเขาแรงโน้มถ่วงเสียอีก…หมายความว่าพลังฝีมือโดยรวมของมันร้ายกาจมาก!”

“ไฉนข้ารู้สึกว่า เสมือนพวกมันเป็นคนละคนกันเลย?คนที่เคยปีนยอดเขาแรงโน้มถ่วงนั่น เสมือนอ่อนด้อยกว่าคนที่ทำลายสถิติหอคอยจิตวิญญาณของอวี่เจี้ยนเฉิงมาก!”

“นั่นสิ ข้าก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน เพราะตามหลักแล้วคนที่สามารถทำผลงานในหอคอยจิตวิญญาณได้ดีขนาดนี้ ก็สมควรทำลายสถิติของยอดเขาแรงโน้มถ่วงได้ด้วยเช่นกัน…นี่จึงเป็นเหตุผลที่อวี่เจี้ยนเฉิงทำสถิติไว้ทั้ง 2 แห่ง”

หลายคนคิดว่าต้วนหลิงเทียนที่ปีนยอดเขาแรงโน้มถ่วงเมื่อ 8 ปีก่อน เป็นคนละคนกับต้วนหลิงเทียนที่ทำลายสถิติหอคอยจิตวิญญาณในวันนี้

“ต้วนหลิงเทียน? มัน…ทำลายสถิติของท่านลุงได้?”

ในหุบเขาแห่งหนึ่ง อวี่เทียนสิงที่แต่เดิมนั่งสงบจิตอยู่ ถึงกับเบิกตาโพล่ง ร่างทะลึ่งลุกขึ้นยืนพรวด!

“ต้วนหลิงเทียนผู้นี้…ข้าต้องเชิญมาเข้าร่วมนิกายกระบี่หมื่นหายนะให้ได้!!”

อวี่เทียนสิงที่ลุกขึ้นยืนไม่รอช้า เร่งติดต่อไปหาศิษย์นิกายกระบี่หมื่นหายนะทุกคนในแดนลับอัจฉริยะและแจ้งไปว่าเมื่อพเจอต้วนหลิงเทียนให้เข้าหาอย่างสุภาพและพยายามเชิญอีกฝ่ายเข้าร่วมนิกายให้ได้

เพราะก่อนที่จะเข้าสู่แดนลับอัจฉริยะ ประมุขนิกายกระบี่หมื่นหายนะ หรือก็คือลุงของอวี่เทียนสิงได้กำชับเอาไว้ว่า…

หากปรากฏผู้ใดที่สามารถทายสถิติที่ตัวมันเคยสร้างไว้ในอดีตได้ล่ะก็ ไม่ว่าจะเป็นสถิติใดๆก็ได้ ให้พยายามเชื้อเชิญมาเข้าร่วมนิกายกระบี่หมื่นหายนะให้ได้

ด้วยเหตุนี้หลังได้ยินเสียงประกาศบอกว่ามีคนทำลายสถิติของลุงมันได้จริง อวี่เทียนสิงถึงได้แตกตื่นจนเสียอาการอย่างที่เห็น

จังหวะนี้มันกระทั่งส่งข้อความไปแจ้งซูหลี่ด้วย

ถึงแม้จะอยู่กันคนละสาย และเห็นเป็นคู่แข่ง แต่ก็เป็นสหายร่วมนิกายเดียวกัน อวี่เทียนสิงย่อมแลกเปลี่ยนลูกแก้ววิญญาณกับซูหลี่เอาไว้ด้วย

“ต้วนหลิงเทียน?”

ซูหลี่ที่ได้รับข้อความของอวี่เทียนสิง ก็ยังตกใจกับประกาศเมื่อครู่ไม่หาย “127 ลมหายใจงั้นเหรอ?”

ตัวมันได้พยามทำสถิติในหอคอยจิตวิญญาณแล้ว แต่ไม่ว่าจะเข้าไปกี่ครั้ง แต่เวลาที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ก็คือ 141 ลมหายใจ…

ยิ่งไปกว่านั้นในบรรดาหลายสิบครั้งที่เข้าไป มันยังทำเวลานี้ได้แค่ 2 ครั้งเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้ซูหลี่จึงรู้ซึ้งดี ว่าการจะลดเวลาให้เร็วขึ้นสัก 1 ลมหายใจ มันยากเย็นแค่ไหน ยากราวกับจะขึ้นถึงฟ้าให้ได้ในหนึ่งก้าวสำหรับมันเลยทีเดียว…เรียกว่าไม่มีทางทำได้เลย หากพลังฝีมือของมันยังไม่ประสบความก้าวหน้า!

“ต้วนหลิงเทียนคนนี้ช่างร้ายกาจจริงๆ…ให้ความรู้สึกยอดเยี่ยมเหมือนสหายเก่าข้าไม่มีผิด…”

ในนดวงตาคู่นั้นของซวูหลี่ พลันฉายแววแห่งความคิดถึงวูบวาบ

ในขณะเดียวกัน

เหนือทะเลสาบแห่งหนึ่ง ร่างที่นั่งขัดสมาธิเหนือผิวน้ำในชุดคลุมสีม่วงแดง แลแล้วจัดว่าเป็นสตรีที่รูปร่างหน้าตางดงามนางหนึ่ง อยู่ๆสองตาดั่งสารทนั่นก็ลืมตื่นขึ้นมาทันที

“ต้วนหลิงเทียน? อัจฉริยะรากหญ้า?”

“มันทำลายสถิติของอวี่เจี้ยนเฉิงได้จริงๆ?”

หลังสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้ว สตรีดังกล่าวก็เร่งส่งข้อความออกไปชุดหนึ่ง “พี่น้องเผ่าหงส์ฟ้าโบราณทุกคน…ไม่ว่าจะอย่างไร ก็ต้องตามหาต้วนหลิงเทียนผู้นี้ให้เจอ และพยายามเชิญเข้าร่วมเผ่าหงส์ฟ้าโบราณของพวกเราให้ได้”

สตรีนางนี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น เฟิ่งชีชี อัจฉริยะอันดับ 1 ในบรรดาผู้ที่มีอายุไม่ถึงพันปีของเผ่าหงส์ฟ้าโบราณ

และในขณะที่เฟิ่งชีชีเร่งส่งข้อความออกไป

ไป๋หลี่หงเฟยก็มือไวทุบทำลายยันต์อมตะสื่อสารทางวิญาณเป็นกองส่งข้อความออกไปแจ้งอัจฉริยะจากตระกูลไป๋หลี่ทุกคนในแดนลับอัจฉริยะ ให้พยายามเชื้อเชิญต้วนหลิงเทียนมาให้ได้

สำหรับขุมกำลังระดับ 1 อื่นๆ แม้จะรู้ตัวดีว่าโอกาสได้ตัวคนน้อยมาก แต่พวกมันก็พยายามอย่างเต็มที่

ดุจเดียวกับเอี้ยอู๋เต้า อัจฉริยะอันดับ 1 ของนิกายมรรคาฟ้าลึกล้ำ ก็เร่งส่งข้อความไปกำชับอัจฉริยะในนิกายที่เข้ามาในแดนลับอัจฉริยะครั้งนี้ ว่าให้พยายามใช้ความสุภาพจริงใจเชิญต้วนหลิงเทียนมาให้ได้

หากถามว่าคนของขุมกำลังใดที่ไม่มีความเคลื่อนไหวเลย ก็เห็นจะเป็นคนของนิกายปีศาจพันกร!

เนื่องเพราะสตรีที่อยู่ข้างกายต้วนหลิงเทียนนั้นเป็นนคนฆ่า อวิ๋นเซียว ลูกชายคนเดียวของประมุขพวกมัน ต่อให้ต้วนหลิงเทียนมีพลังฝีมือร้ายกาจแค่ไหน พวกมันก็ไม่อาจยอมรับได้

หากจะเชิญต้วนหลิงเทียน ก็มีแต่ ‘เชิญท่านลงโอ่ง’เพื่อให้ฆ่าได้ถนัดๆเท่านั้น

และต้วนหลิงเทียนก็ยังไม่โง่เขลาถึงขั้นนั้น ไม่มีทางส่งตัวเองไปเป็นปลาบนเขียงให้นิกายปีศาจพันกรแล่สับตามใจเด็ดขาด

“ฮ่วนเอ๋อ กระบี่เล่มนี้เจ้าเอาไปใช้สิ”

ด้านหน้าหอคอยจิตวิญญาณค่ายกล ท่ามกลางสายตาลุกวาวที่มองจ้องมาเขม็ง ต้วนหลิงเทียนก็โยนกระบี่อมตะระดับจักรพรรดิไปให้ฮ่วนเอ๋อ ด้วยท่าทางทำราวกับมันเป็นขยะชิ้นหนึ่ง…

“ขอบคุณพี่หลิงเทียน”

ฮ่วนเอ๋อก็ไม่เกรงใจพุ่งมือไปคว้ากระบี่มาแกว่งไกวเล่นทันที เพราะนางรู้ว่าพี่หลิงเทียนของนางมีอาวุธที่ทรงพลังกว่ากระบี่เล่มนี้อยู่แล้ว

ไม่งั้นนางไม่มีทางรับไว้หรอก

“นั่นมันกระบี่อมตะระดับจักรพรรดิเชียวนะ…มันมอบให้ผู้อื่นง่ายๆแบบนั้นเลยหรือ?”

“ข้าล่ะไม่แปลกใจเลย ว่าไฉนโฉมงามถึงได้อยู่กับมัน…มันใจกว้างซะขนาดนี้!”

“แต่อย่างไรเสียตั้งแต่ต้นนจนจบ ข้าไม่เห็นมันจะแลดูตื่นเต้นที่ได้รับกระบี่อมตะจักรพรรดิเลย…มันเป็นใครกันแน่? อัจฉริยะรากหญ้าคนไหนจะนิ่งได้เท่ามัน?”

หลายคนตกใจไม่น้อยที่เห็นต้วนหลิงเทียนโยนกระบี่อมตะระดับจักรพรรดิให้ฮ่วนเอ๋อง่ายๆ กระทั่งหลายคนยังสังเกตเห็นความเฉยเมย กระทั่งราวกับจะดูเบากระบี่อมตะระดับจักรพรรดิเล่มนั้นอย่างไรไม่ทราบ ทำให้เริ่มคาดเดาไปว่า ต้วนหลิงเทียนคนนี้หรือจะมีความเป็นมายิ่งใหญ่อันใด…

“ต้วนหลิงเทียน!”

ตอนนี้เองท่ามกลางฝูงชนปรากฏคนผู้หนึ่งก้าวอาดๆออกมา พางยกมือขึ้นป้องประสานคารวะทักทายต้วนหลิงเทียนด้วยรอยยิ้ม “ข้าเป็นคนของตระกูลไป๋หลี่ เรียกว่า ไป๋หลี่คง มาในนามตระกูลไป๋หลี่เพื่อเชิญท่านเข้าร่วมกับตระกูลไป๋หลี่ของเรา”

“ด้วยพลังฝีมือและความสามารถของท่าน ทางตระกูลไป๋หลี่ของพวกเราย่อมดูแลท่านอย่างดี ไม่ให้มีขาดตกบกพร่องอันใดแน่ พวกเราจักมอบทรัพยากรบ่มเพาะให้ท่านมากเท่าที่จะทำได้!”

ชายหนุ่มที่ออกตัวชวนต้วนหลิงเทียนก่อนใครผู้นี้ เป็นอัจฉริยะคนหนึ่งจากตระกูลไป๋หลี่

“ต้วนหลิงเทียน ข้าคือศิษย์ของนิกายมรรคาฟ้าลึกล้ำ หลิงเจี๋ย ข้าในนามนิกามรรคาฟ้าลึกล้ำยินดีต้อนรับท่านเข้าร่วมนิกายของพวกเราเช่นกัน…หากท่านเข้าร่วมกับนิกายมรรคาฟ้าลึกล้ำเรา พวกเราจะมอบการดูแลสนับสนุนที่ไม่ด้อยไปกว่าตระกูลไป๋หลี่ เผ่าหงส์ฟ้าโบราณ และนิกายหมื่นกระบี่หายนะให้ท่าน”

ศิษย์ของนิกายมรรคาฟ้าลึกล้ำคนหนึ่ง ก็รีบก้าวออกมากล่าวคำเชิญชวนต้วนหลิงเทียนเช่นกัน