ตอนที่ 3380 : สวรรค์มีทางเจ้าไม่ไป!

“ไม่จําเป็นหรอก”

ได้ยินคําของต้วนหลิงเทียน ผู้เฒ่าหัวก็คลี่ยิ้มจางๆ หยีตากล่าวว่า “กับเจ้าวังเทียนฉือนั้นข้าไม่เคยพบเจอก็จริงแต่จักรพรรดิสวรรค์อู๋หยาเทียนนั่น ตอนใต้เท้าจักรพรรดสวรรค์กลับมาจากนรกอสุรา ข้าเคยได้พบเจอมันครั้งหนึ่ง”

“เจ้านั่นรวมถึงจักรพรรดิสวรรค์อีกหลายยคน พอได้รับทราบข่าวเรื่องใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์กลับมาแล้ว ก็พากันมาเยี่ยมเยียนเพื่อกล่าวคําแสดงความยินดีถึงพระราชวังจักรพรรดิสววรรค์จี้เมี่ยเทียน”

“ตอนนั้นข้าก็เลยได้พบมัน”

พอผู้เฒ่าหัวกล่าวถึงประโยคท้าย สองตาก็ฉายความดูแคลนขึ้นมา “วันนั้น เหล่าจักรพรรดิสวรรค์ที่มาร่วมแสดงความยินดี ล้วนแล้วแต่เป็นจักรพรรดิสวรรค์ที่มีความแข็งแกร่งกลางๆ ในบรรดาจักรพรรดิสวรรค์ทั้ง 81 ระนาบเทวโลก”

“กับจักรพรรดิสวรรค์ระดับนี้ ต่อให้พวกมันจะหอบหิ้วของขวัญมากล่าวคําแสดงความยินดีอันใด ใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์ ย่อมไม่คิดจะลดตัววออกมาพบพวกมันด้วยตัวเอง”

“เพราะมีแต่เหล่าจักรพรรดิสวรรค์ที่อ่อนแอเท่านั้น ถึงคิดมาพบใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์โดยอาศัยคําอ้างว่ามาแสดงคววามยินดี พูดให้ชัดทั้งหมดมาเพื่อเสนอหน้า หมายประจบประแจงใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์ล้วนๆ”

ใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์ที่ผู้เฒ่าหัวกล่าวถึง ก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียน ฟงชิงหยาง

“อาศัยจักรพรรดิสวรรค์อู๋หยาเทียนนั่น ต่อให้มันจะมีความกล้ามากกว่านี้อีกร้อยเท่า มันก็ไม่กล้าแตะต้องเจ้าหรอก”

ผู้เฒ่าหัวกล่าวคําด้วยความมั่นใจ

หลังได้ยินเรื่องราวจากผู้เฒ่าหัว ต้วนหลิงเทียนก็พอได้วางใจ ขณะเดียวกันเขาก็เริ่มตระหนักถึงความน่ากลัวของอาวุโสฟงชิงหยาง เพราะแม้แต่จักรพรรดสวรรค์ด้วยกันยังต้องเร่งรุดไปประจบประแจงเอาใจ!

“ถ้างนพวกเราก็ไปกันเลยเถอะ”

หลังต้วนหลิงเทียนกล่าวทักผู้เฒ่าหัว เขาก็เดินเข้าค่ายกลเคลื่อนย้ายข้ามระนาบเทวโลก จากนั้นก็เคลื่อนย้ายไปยังแดนไร้ขอบเขต อันเป็นดินแดนหลักของอู๋หยาเทียนที่มีพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ ไม่เว้นขุมกําลังระดับสวรรค์ต่างๆตั้งอยู่

สําหรับค่ายกลเคลื่อนย้ายของวังเทียนฉือนั้น นอกจากคนในคิดออกไปด้านนอกแล้ว คนนอกไม่อาจใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายมาถึงวังเทียนฉือได้โดยตรง และทุกขุมกําลังก็ล้วนเป็นแบบนี้ทั้งนั้น

พอมาถึงอู๋หยาเทียน สิ่งแรกที่ต้วนหลิงเทียนกระทําก็คือการส่งข้อความไปหาครอบครัวและมิตรสหายเขาโดยใช้ลูกแก้ววิญญาณที่ได้จากเฟิ่งเทียนหวู่และต้วนซือหลิงเป็นสื่อ จากนั้นก็ได้แต่รอว่าจะมีการตอบกลับมาหรือไม่

ตราบใดที่มีการตอบสนอง หมายความว่าเขาสามารถไปรับตัวคนๆนั้นได้

“ต้วนหลิงเทียน!?”

เมื่อต้วนหลิงเทียนกับผู้เฒ่าหัวมาถึงหน้าประตูวังเทียนฉือ เหล่าผู้อาวุโสที่ทําหน้าที่หัวหน้าหน่วยลาดตระเวนก็จดจําต้วนหลิงเทียนได้แทบจะทันที

เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต ทําให้ต้วนหลิงเทียนฉือว่าเป็นคนที่โด่งดังที่สุดในวังเทียนฉือไปแล้ว ถึงจะไม่เกิดเรื่องแหกคุก ลําพังการลงมือเข่นฆ่าศิษย์อัจฉริยะบนสังเวียนอัจฉริยะติดๆกันก็นับว่าดึงดูดความสนใจของผู้คนในวังเทียนฉือได้ทั้งหมด

“ทุกท่าน วันนี้ข้ามาเพื่อพบเจอหน้าครูของข้า ฉือหล่าง”

ต้วนหลิงเทียนคลี่ยิ้มมากอัธยาศัย กล่าววแจ้งการมากับอาวุโสและเหล่าศิษย์ลาดตระเวนของวังเทียนฉือเบื้องหน้า

เหล่าศิษย์และผู้อาวุโสหน่วยลาดตระเวน ได้แต่มองด้วนหลิงเทียนด้วยสายตาหวาดกลัว เพราะพวกมันเคยได้ยินมาแล้ว ว่าหลังจากต้วนหลิงเทียนก่อวีรกรรมปลดปล่อยนักโทษในคุกหมื่นพันธนาการออกมา ขณะหลบหนี ยังสามารถซัดเหลยอิง 1 ใน 9 จักรพรรดิอมตะสมญานามของวังเทียนฉือจนสิ้นท่าได้!

กล่าวได้ว่าพลังฝีมือของต้วนหลิงเทียนกล้าแข็งสุดที่พวกมันจะต่อกรด้วยได้ หากอีกฝ่ายคิดบุกเข่นฆ่าเข้ามา พวกมันก็มีแต่ตายกับตาเท่านั้น!

“ทุกท่านไม่ต้องกังวล ข้าแค่กลับมาเยี่ยมสหายเท่านั้น ไม่ได้มาร้าย”

พอเห็นท่าทางหวั่นหวาดปนระแวงของเหล่าศิษย์และอาวุโสหน่วยลาดตระเวนวังเทียนฉือเบื้องหน้า ต้วนหลิงเทียนก็กล่าวด้วยรอยยิ้มแจ้งจุดประสงค์ของเขาไป จากนั้นก็ไม่รอให้ทุกคนตอบสนอง เขาเห็นร่างนผู้เฒ่าหัวเข้าวังเทียนฉือทันที

พอเห็นต้วนหลิงเทียนกับชายชราไม่ทราบชื่อบุกเข้าวังเทียนฉือโดยตรง เหล่าศิษย์กับอาวุโสหน่วยลาดตระเวนก็ได้แต่หันมามองหน้าสบตากันปริบๆ แต่ละคนยังเห็นถึงความหวาดกลัวในแววตากันและกัน

“ต้วนหลิงเทียนยังจะกลับมาที่นี่ทําไมกัน!?”

“เห็นว่าที่วันนั้นต้วนหลิงเทียนรอดไปได้ เพราะอาวุโสใหญ่ของเผ่ามังกร จี้อวี่เหนียน สอดมือเข้าช่วยเหลือ…หาไม่แล้ว มันคงไม่อาจพาคนหลบหนีไปได้สบายใจเฉิบ!”

“เรื่องวันนั้นไม่เพียงจะทําให้จ้าววังมีโทสะครั้งใหญ่ กระทั่งใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์ของเราก็มีโมโหไม่น้อย..อนิจจาในเมื่อท่านจ้าววังไม่อาจต่อกรกับจี้อวี่เหนียนได้ เรื่องราวก็เลยอยู่เหนือการควบคุม”

“เจ้าต้วนหลิงเทียนนั่น กล่าวไปแล้วเมื่อหนีไปได้ไม่ใช่สมควรซ่อนตัววและอยู่ให้ห่างวังเทียนฉือของพวกเรารึไง มันมาที่นี่แบบนี้ยังต่างอะไรกับมารหาที่ตายกัน?”

“ข้าดูๆแล้วมันไม่คล้ายตัวโง่งมมารนหาที่ตาย…พวกเจ้าสังเกตชายชราด้านหลังมันหรือไม่? ไม่ทราบที่แท้เป็นผู้ใดกันแน่ จะใช่ผู้อาวุโสใหญ่ของเผ่ามังกรที่ว่าหรือไม่?”

“นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร? ลักษณะของชายชราที่เห็นร่างตามหลังต้วนหลิงเทียนต้อยๆ แบบนั้น ข้าดูอย่างไรก็สมควรเป็นผู้ติดตามของต้วนหลิงเทียนชัดๆ อาวุโสใหญ่ของเผ่ามังกรมีหรือจะให้หน้ามันถึงขนาดนี้?”

ในขณะที่เหล่าศิษย์ลาดตระเวนของวังเทียนฉือกําลังซุบซิบคุยกันอย่างออกรส ด้านผู้อาวุโสหัวหน้าหน่วยลาดตระเวนก็เร่งรุดแจ้งเรื่องราวไปถึงจ้าววังเทียนฉือโดยตรง จักรพรรดิอมตะพินิจเอกอุ โหยวเฟิ่งอวี้

หลังจากแจ้งเรื่องราวให้โหยวเชิงอวจ้าววังเทียนฉือแล้ว อาวุโสหัวหน้าหน่วยลาดตระก็หันไปกล่าวกับเหล่าศิษย์ที่กําลังกระซิบกระซาบคุยกันอย่างออกรส “ข้าแจ้งเรื่องราวให้ท่านจ้าววังรับทราบเรียบร้อย…หลังจากนี้ไม่มีสิ่งใดที่พวกเราจัดการได้ เช่นนั้นพวกเจ้าก็ติดตามข้าไปลาดตระเวนต่อเถอะ”

และในขณะที่พวกมันเริ่มกลับไปลาดตระเวนอีกครั้ง

ต้วนหลิงเทียนที่วิ่งตรงเข้าวังเทียนฉือมาดื้อๆ ไม่นานก็มาถึงเขตที่พักของฉือหล่าง 1 ใน 9 จักรพรรดิอมตะสมญานามของวังเทียนฉือ

เขายังมุ่งหน้าไปยังสถานที่พักบ่มเพาะของฉือหล่างโดยตรง

“ครู”

ได้พบเจอฉือหล่างอีกครั้ง อีกฝ่ายก็ยังคงเหมือนเดิมไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลง และพอฉือหล่างเห็นวนหลิงเทียน สีหน้าแววตาก็ฉายชัดถึงความตื่นเต้นยินดีทันที อย่างไรก็ตามสีหน้ายินดีของมันก็แปรเปลี่ยนไปเร็วไว “ต้วนหลิงเทียน เจ้าคิดบ้าอันใด ไฉนถึงกลับมาที่นี่อีกเล่า?!”

ในสายตาของฉือหลาง การช่วยเหลือนักโทษของคุกหมื่นพันธนาการให้แหกคุกหลบหนีไปโดยเฉพาะจักรพรรดิอมตะสมญานามในเรือนจําชั้น 3 ที่จักรพรรดิสวรรค์อู๋หยาเทียนจับมาขังด้วยตัวเอง สิ่งนี้ไม่ใช่แค่การหักหน้าวังเทียนฉืออย่างแรง กระทั่งยังไม่ต่างอะไรจากการหักหน้าจักรพรรดิสววรรค์แห่งอู๋หยาเทียนด้วย!

แต่ไม่ทันจะถึงร้อยปี ต้วนหลิงเทียนดันย้อนกลับมาหน้าตาเฉย?

นี่สะกดคําว่าตายไม่เป็นแล้วหรือไร?

“ครู ที่ขากลับมาวันนี้ก็เพื่อขอขมาท่านกับศิษย์พี่ข้าส่งข้อความไปหาทุกคนแล้ว จะได้ขอขมาทุกคนต่อหน้าสําหรับเรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้น

ต้วนหลิงเทียนกล่าวขอโทษออกมารอยยิ้มแหยๆ

“เจ้ายังมัวมาขอขมงขอขมาอะไรอีก รีบหนีไปเสีย! หนีไปให้ไกล ยังต้องไปให้พ้นจากที่นี่โดยเร็ว…เดี๋ยวพอพวกจ้าววังมาถึงตอนนั้นเจ้าคิดจะหนีก็หนีไม่ได้แล้ว!”

ฉือหล่างกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงร้อนใจ

การกลับมาของต้วนหลิงเทียน แน่นอนว่าเป็นเรื่องน่ายินดีและทําให้มันดีใจไม่น้อย

อย่างไรก็ตามพอคิดว่าตอนนี้ต้วนหลิงเทียนได้กลายเป็นศัตรูตัวฉกาจของวังเทียนฉือไปแล้ว ฉือหล่างก็ฟื้นคืนสติ และอดไม่ได้ที่จะหลั่งเหงื่อเย็นแทนต้วนหลิงเทียน ขณะเดียวกันก็คิดให้ต้วนหลิงเทียนรีบหนีไปให้ไกลที่สุด! และไม่ต้องย้อนกลับมาอีก!

หรืออย่างน้อยๆก็ต้องจากไป จนมีพลังฝีมื่อถึงขั้นจ้าววังเทียนฉือกับจักรพรรดิสวรรค์แห่งอู๋หยาเทียนไม่อาจทําอะไรได้ก่อน ค่อยหวนกลับมา!!

ทว่าแทบจะพร้อมๆกันกับที่เสียงร้อนใจของฉือหล่างดังจบคํา

ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!

บังเกิดสายลมกรรโชกแรงพัดมา 6 สายจากทิศทางที่แตกต่างกัน พริบตาก็มีร่าง 6 รางวูบมาปรากฏในสถานที่พักบ่มเพาะของฉือหล่าง แต่ละคนเร่งดิ่งลงจากฟ้าก้าวเข้ามาหาทันที

“ศิษย์พี่หญิงใหญ่ ศิษย์พี่รอง ศิษย์พี่หญิง 3 ศิษย์พี่หญิง 4 ศิษย์พี่ 5 ศิษย์พี่ 6!”

พอเห็นร่างผู้มาใหม่ทั้ง 6 ต้วนหลิงเทียนก็เร่งทักทายเร็วไว

ที่มาก็คือศิษย์พี่หญิงทั้ง 3 รวมถึงศิษย์พี่ชายทั้ง 3 ของต้วนหลิงเทียน

และทั้ง 6 ก็นํามาโดยศิษย์พี่หญิงใหญ่ ฉือหย่าชี

ศิษย์พี่หญิง 3 หูเหม่ย กับศิษย์พี่ 6 หงเฟยนั้น แน่นอนว่ารับทราบต้นสายปลายเหตุทั้งหมด ทั้งคู่เร่งรุดเข้ามาหาต้วนหลิงเทียนทันที เห็นได้ชัดว่าไม่ได้เกลียดต้วนหลิงเทียนแม้แต่น้อย

ด้านศิษย์พี่รอง หลู่อี้ ก็ยังคงดูเย็นชามาดขรึมเหมือนเช่นทุกที เพิ่งแค่ตอนหันมามองต้วนหลิงเทียน อีกฝ่ายก็สลายใบหน้าเย็นชา พยักหน้าทักทายต้วนหลิงเทียนด้วยรอยยิ้ม

เวิ่นหว่านเอ๋อศิษย์พี่หญิง 4 กับศิษย์พี่ 5 โอวหยางฉีเฟย ก็คลี่ยิ้มบางๆให้ต้วนหลิงเทียน แลดูเป็นมิตร

จะมีก็แต่ศิษย์พี่หญิงใหญ่ ฉือหย่าชี ที่มองเขาตาขวาง

“ฮึ ศิษย์น้องเล็กคนเก่งของพวกเรา ยังรู้จักกลับมาด้วยหรือ?”

ฉือหย่าชีมองทักถ้วนหลิงเทียนด้วยรอยยิ้มเย้าแหย่

“ศิษย์พี่หญิงใหญ่ ข้าต้องขอโทษท่านแล้ว วันนั้นขออภัยท่านจริงๆ”

ต้วนหลิงเทียนเห็นท่าทางของนางก็ได้แต่ยิ้มแหยๆ เร่งขอโทษซ้ำๆ

ถึงแม้วันที่เขาหลบหนีออกจากววังเทียนฉือวันนั้น อีกฝ่ายก็แลดูดุร้ายกับเขา แต่อันที่จริงนางก็ทุ่มสุดตัวเพื่อให้เขาหลบหนีออกไป

เขาย่อมซาบซึ้งน้ำใจของนางไม่น้อย

เขายังรู้อีกด้วยว่าการกระทําเช่นนั้น สําหรับศิษย์พี่หญิงใหญ่แล้ว มันสร้างแรงทัดทานให้กับนางขนาดไหน

“ว่าแต่เจ้า….คงยังไม่ลืมที่ข้าพูดไปวันนั้นสินะ?”

ฉือหย่าชีมองกล่าวกับต้วนหลิงเทียนด้วยใบหน้าเคร่งขรึม “วันนั้นข้าบอกเจ้าไปแล้วว่าหากให้ข้าเจอเจ้าอีกครั้ง ข้าจะจับเจ้าไปขังคุกหมื่นพันธนาการ หรือเจ้าแสร้งทําเป็นหูหนวกไม่ได้ยินคําพูดข้า?”

“ข้าจักให้เวลาเจ้า 3 ลมหายใจ รีบหายไปให้พ้นหน้าข้าเสีย ทั้งออกไปจากวังเทียนฉือให้ไว หาไม่แล้วข้าจะจับเจ้ากลับไปขังไว้ในคุกหมื่นพันธนาการ!”

ฉืออย่าชี กล่าวกับต้วนหลิงเทียนด้วยสีหน้าท่าที่แลดูดุร้ายเอาเรื่องนัก

และแทบจะพร้อมๆกกันกับที่ฉือหย่าชีกล่าวจบคํา เสียงผ่านพลังจากศิษย์พี่ทั้งหลาย ก็ดังขึ้นเข้าหูเขาอย่างพร้อมเพรียง

“ศิษย์น้องเล็กเชื่อฟังศิษย์พี่ 6! ตอนนี้เจ้ารีบหนีไปเร็วเข้า! เดี๋ยวพอจ้าววังมาได้ฉิบหายกันพอดี!!”

“ศิษย์น้องเล็กรีบหนีไปเร็ว ที่ศิษย์พี่หญิงใหญ่กล่าวเช่นนั้น แม้ปากร้ายแต่ที่แท้นางหวังดี อยากให้เจ้ารีบจากไปอย่างปลอดภัย”

“ศิษย์น้องเล็กอ่า วันหลังหากเจ้าอยากพบพวกเรา เจ้าก็ส่งข้อความมานัดพวกเราออกไปพบด้านนอกเถอะ! พวกเราจะออกไปหาเจ้าเอง! เจ้าเล่นบุกเข้าวังเทียนฉือมาดื้อๆแบบนี้ ทําให้หัวใจศิษย์พี่หญิง 3 แทบวายแล้ว!”

ได้ยินเสียงผ่านพลังจากศิษย์พี่ทั้งหมด ในใจต้วนหลิงเทียนก็รู้สึกตื้นตันไม่น้อย

และในขณะที่ต้วนหลิงเทียนอยากจะบอกว่า ในเมื่อเขากล้ากลับมาวังเทียนฉือ เช่นนั้นเขาย่อมไม่กลัวจ้าววังเทียนฉือจะสร้างปัญหาอะไรให้

“ต้วนหลิงเทียน!”

พลันมีเสียงหนึ่งลั่นดังก้องฟ้าขึ้นมาเสียก่อน! ทําให้ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าเป็นผู้ใดที่มาถึงแล้ว หันไปมองชมดูต้นเสียงทันที ไม่ทันได้กล่าวบอกเรื่องราวต่อศิษย์พี่ทั้งหลาย!

“เหลยอิงรึ?”

แรกได้ยินเสียงตะโกนดุร้ายดังกล่าว ต้วนหลิงเทียนก็รู้สึกคุ้นๆ พอได้เห็นเจ้าของเสียงเขาก็รองอ๋อในใจทันที ไม่ใช่ใครที่ไหน จักรพรรดิอมตะไร้ใจ เหลยอิง นั่นเอง

“ยังยืนที่มอันใด! ไม่รีบไปอีกเล่า!!”

ฉือหย่าชีที่ได้ยินเสียงดังกล่าว ก็เร่งหันไปตะคอกคําใส่ถ้วนหลิงเทียนตาขวาง

“เปล่าประโยชน์ ฉือหย่าชี วันนี้สารเลวน้อยนั้นอย่าได้คิดจะไปไหนได้อีก!”

ทันใดนั้นเองปรากฏเสียงราบเรียบหนึ่งดังขึ้น ที่แท้ไม่ใช่แค่เหลยอิงที่มาถึงแล้ว แต่จ้าววังเทียนฉือโหยวเฟิ่งอวี้ ก็มาแล้วเช่นกัน

นอกจากนั้นยังมีจักรพรรดิอมตะสมญานามอีกหลายคนของวังเทียนฉือที่ปรากฏตัวขึ้น

ทว่าวันนี้ จักรพรรดิอมตะหอนฟ้า หยางเซี่ยวเทียนกลับไม่อยู่

เพราะหลังจากเกิดเรื่องวันนั้น คล้อยหลังอาวุโสใหญ่ของเผ่ามังกรจี้อวี่เหนียนกลับไป หยางเซี่ยวเทียนก็พักอยู่ในวังเทียนฉือไม่กี่วัน ก็ออกจากวังเทียนฉือกระทั่งออกจากอู๋หยาเทียน ย้อนกลับไปยังมาตุภูมิอย่างอวี้หวงเทียน

กระทั่งศิษย์สายตรงอย่างซุนชิง ก็ถูกมันพาไปด้วย

“ต้วนหลิงเทียน สวรรค์มีทางเจ้าไม่ไป นรกไร้ประตูเจ้าดันทุรังมุดมา! วันนี้ในเมื่อเจ้ากล้ามาที่นี่ เช่นนั้นก็อยู่นี่ไปชั่วกาลเถอะ!”

จักรพรรดิอมตะมังกรบู๊ กู้ฉางเจียง มองจ้องต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาดุร้ายเสียงกล่าวยังเย็นชานัก

ถึงแม้จักรพรรดิอมตะสมญานามคนอื่นๆของวังเทียนฉือจะไม่พูดอะไร แต่สายตาที่ใช้มองต้วนหลิงเทียนก็ทําราวกับกําลังมองคนตาย

วันนั้น หลังจักรพรรดิอมตะสมญานามทั้งหลายแหกคุกหมื่นพันธนาการจากไปได้ต่อหน้าต่อตา ถึงแม้ว่าจะเป็นเพราะการสอดมือเข้ามายุ่งของ จี้อวี่เหนียน ผู้อาวุโสใหญ่แห่งเผ่ามังกร แต่พวกมันก็รู้สึกอับอายขายขี้หน้าไม่น้อย

อย่างไรก็ตามด้วยความที่จี้อวี่เหนียนเป็นอาวุโสใหญ่ของเผ่ามังกร ทั้งมีพลังฝีมือแข็งกล้าสุดที่พวกมันจะทาบติด พวกมันย่อมไม่กล้าโกรธแค้นอะไรตัวตนระดับนั้น สุดท้ายความโกรธแค้นชิงชัง ทั้งหมดก็ถูกนําไปลงที่ต้วนหลิงเทียนคนเดียว!

ตอนนี้ในเมื่อต้วนหลิงเทียนกล้าโผล่หัวมาวังเทียนฉือ ก็ไม่ต่างอะไรกับพวกมันได้โอกาสระบายโทสะ เช่นนั้นพวกมันจะพลาดได้อย่างไร

“อ่า…มากันพร้อมหน้าพร้อมตาเชียว”

ต้วนหลิงเทียนกวาดตามองผ่านหน้าเหล่าผู้มาใหม่ทั้งหมดด้วยรอยยิ้มเฉยเมย เขาพบว่านอกจาก จักรพรรดิอมตะหอนฟ้า หยางเซี่ยวเทียน แล้วจักรพรรดิอมตะสมญานามที่เหลือทั้งหมดของวังเทียนฉือ ได้แห่กันมาพร้อมหน้าพร้อมตา!