ตอนที่ 3,415 : ข่งโย่วอี้ที่โกรธแค้น!
ซู่ม! ซู่ม! ซู่ม! ซู่ม! ซู่ม! ซู่ม!
…
กลิ่นอายพลังเยือกแข็งกำจายออกมาสะท้านสะเทือนความว่างเปล่าอีกครั้ง และคราวนี้ยังทรงพลังน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม เพราะครั้งนี้จักรพรรดิอมตะหนามม่วงลงมือจริงจังแล้ว!
“ขอท่านอาจารย์โปรดเมตตาด้วย!!”
เมื่อเห็นไอพลังเยียบเย็นกำจายคลุมฟ้า ทั้งแผ่ปกคลุมไปยังร่างต้วนหลิงเทียนผู้เป็นสามี สีหน้าลี่เฟยก็เปลี่ยนไปใหญ่หลวง เร่งร่ำร้องออกทั้งปะทุพลังเพื่อช่วยเหลือต้วนหลิงเทียนสุดตัว
อย่างไรก็ตามนางพึ่งปะทุพลังเตรียมลงมือได้ไม่ทัน ก็อุบัติหนามน้ำแข็งงอกเงยจากพื้นดินมารัดขาเอาไว้ราวเชือกเหนียวสองเส้น ทำให้นางไม่อาจขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวไปไหนได้เลย
พลังไอเย็นอันน่าพรั่นพรึงแพ่ผุ่งไปยังต้วนหลิงเทียนฉับไวหมายหยุดยั้งต้วนหลิงเทียนไม่ให้ทำร้ายข่งโย่ววอี้ ห้วงงอากาศยังเยือกแข็งไปเป็นทาง!
ข่งโย่วอี้จะอย่างไรก็เป็นลูกชายคนเดียวของศิษย์พี่นาง จักรพรรดิอมตะวายุสุดขั้ว หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับมันที่นี่ นางก็ไม่รู้จะไปอธิบายให้ศิษย์พี่ฟังอย่างไรแล้ว!
อันที่จริง การลงมือของจักรพรรดิอมตะหนามม่วงมันสายเกินไป
พลังงที่นางใช้ออกแม้จะรุนแรงกว่าก่อนหน้า แต่ก็มีจุดประสงค์เพียงเพื่อข่มขู่ให้ต้วนหลิงเทียนล่าถอยไม่ลงมือกับข่งโย่วอี้เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม แม้เผชิญหน้ากับไอเย็นเยือกที่แช่ห้วงอากาศเข้ามาฉับไวของจักรพรรดิอมตะหนามม่วง ต้วนหลิงเทียนคล้ายไม่สนใจแม้แต่น้อย เพียงเสี้ยวพริบตาคมมีดมิติก็พุ่งไปถึงตัวข่งโย่วอี้แล้ว!
ฉัวะ! ฉัวะ!!
เป็นปากของข่งโย่วอี้ถูกคมมีดมิติเฉือนผ่าทั้งไปทั้งซ้ายขวา จนปากของมันฉีกถึงหูทั้ง 2 ข้างอย่างน่าสยอง อีกทั้งพลังมิติยังตกค้างที่ปากมัน ทำให้มันไม่อาจเดินพลังรักษาบรรเทาความเจ็บอะไรได้
“อ๊า—!!”
เมื่อไม่อาจโคจรพลังไปรักษาบาดแผลห้ามเลือดและบรรเทาความเจ็บปวด เช่นนั้นข่งโย่วอี้ก็ต้องพบเจอกับความเจ็บปวดของการถูกฉีกปากอย่างจัง แถมยังมีความเจ็บปวดจากพลังมิติที่กัดกินปากแผล สิ่งนี้ทำให้ลูกตามันเบิกโพลง เหงื่อกาฬไหลท่วมกาย หน้าซีดลงอย่างเห็นได้ชัด ร่ำร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดไม่หยุด
“ต้วน! หลิง! เทียน!”
เสียงงจักรพรรดิอมตะหนามม่วงเย็นลงทันใด ขณะเดียวกันบรรากาศรอบกายก็เย็นยะเยือกลงปานฤดูหนาวมาเยือน
ขณะเดียวกันพลังที่นางปล่อยออกไปก็ไม่ไม่ใชแค่เล่นๆอีกต่อไป เพราะคิดสั่งสอนต้วนหลิงเทียน! และพริบตาพลังไอเย็นของนางก็บรรลุถึงเหนือศีรษะต้วนหลิงเทียน หมายปกคลุมแช่ร่างต้วนหลิงเทียนไปทั้งอย่างนั้น และพลังรุนแรงแค่ไหนมองจากห้วงอากาศโดยรอบที่จับตัวแข็งก็รู้ได้!!
เห็นฉากดังกล่าวหน้าลี่เฟยก็เปลี่ยนสีครั้งใหญ่ เร่งร้องออกมาเสียงดังลั่น “ไม่!!”
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่พลังงของจักรพรรดิอมตะหนามม่วงจะทันได้ตกลงถึงศีรษะต้วนหลิงเทียน ก็บังเกิดเสียงระเบิดหนึ่งดังขึ้น!
ปงงง!!
ฟู่มมมม!!
…
ห้วงอากาศปานระเบิดออกในฉับพลัน อุบัติเพลิงพลังสีทองขุมหนึ่งราวกับเพลิงงของดวงตะวัน แผ่พุ่งออกไปฉับไว ก่อลักษณ์เป็นข่ายเพลิงหนึ่งในฉับพลัน!
ข่ายเพลิงดังกล่าวไปปรากฏเหนือศีรษะต้วนหลิงเทียนในชั่วพริบตา และหยุดพลังไอเย็นของจักรพรรดิอมตะหนามม่วงได้อย่างง่ายดาย
จักรพรรดิอมตะหนามม่วงเพียงคิดสั่งสอนต้วนหลิงเทียน ไม่ได้คิดเข่นฆ่าทำร้ายถึงชีวิต เช่นนั้นแม้จะแลดูรุนแรง แต่ก็ยังออมรั้งพลังเอาไว้มาก
อย่างไรก็ตามสิ่งที่นางไม่คิดเลยก็คือ การลงมือของนางกลับถูกผู้อื่นหยุดยั้งได้อย่างง่ายดาย!
ยิ่งไปกว่านั้นผู้ที่หยุดยั้งการลงมือของนาง ยังเป็นชายชราที่ประพฤติตัวราวข้ารับใช้ที่อยู่ด้านหลังสามีศิษย์นางเงียบๆมาตลอด
“จักรพรรดิอมตะหนามม่วง นายน้อยข้ายังไม่ถึงตาให้คนเช่นเจ้าสั่งสอน…”
เมื่อผู้เฒ่าหั่วลงมือ คราบคนรับใช้ไหนเลยยังหลงเหลือ? เพลิงพลังที่ลุกโนทั่วร่างผู้เฒ่าหั่ววห่างไกลคำธรรมดาไปมาก เพลิงพลังสีทองนั่นเห็นได้ชัดว่ารุนแรงกว่ากฏแห่งไฟของผู้ที่มีพลังและความเข้าใจพอๆกันชัดเจน!!
“ฮึ!”
สีหน้าจักรพรรดิอมตะหนามม่วงเย็นลง จากนั้นพอรู้ว่าผู้อื่นไม่ใช่ชนชั้นต่ำทราม นางจึงไม่คิดออมรั้งยั้งมืออันใดอีก พอยกมือขึ้นสองข้าง ก็อุบัติหนามน้ำแข็งอันเขื่องยาวสิบกว่าหมี่ขึ้นกลางหาว จากนั้นก็พุ่งแหวกอากาศส่งเสียงดังหวีดหวิววไปทางผู้เฒ่าหั่วทันที!
ซู่มมม!!
หนามน้ำแข็งทะยานแหวกฟ้ามาฉับไว สภาวะพลังดุดันไร้ปราณี!
และการโจมตีครานี้ นางรวมรั้งพลังให้รวมศูนย์จู่โจมอย่างแยบคาย ไม่ให้พลาดพลั้งไปทำร้ายลี่เฟยศิษย์ที่แท้จริงของนาง ศิษย์หลานอย่างข่งโย่วอี้ รวมถึงสามีของลี่เฟยอย่างต้วนหลิงเทียนอย่างไม่ตั้งใจ!
เป้าหมายของนางในตอนนี้มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น…
ชายชราในชุดคลุมสีแดงเพลิงด้านหลังต้วนหลิงเทียน!
“มาได้ดี!”
เห็นการลงมือของจักรพรรดิอมตะหนามม่วง สองตาผู้เฒ่าหั่วพลันหรี่ลง จากนั้นชุดคลุมสีแดงเพลิงก็เริ่มกระเพื่อมแรงปานเพลิงไฟ
และพริบตาเดียวกันกับที่ลูกตาผู้เฒ่าหั่ววหดเล็ก ลึกลงไปในดวงตาคล้ายบังเกิดวังวนเปลวเพลิงหมุนคว้าง จากนัน้ก็อุบัติลำแสงเปลวเพลิงออกมาจากวังวนเปลวเพลิงในดววงตาทั้งคู่!
ลำแสงเปลวเพลิงพอพุ่งออกมา ก็รัดพันเป็นเกลียวรวมผสานอัดแน่นในฉับพลัน บังเกิดเป็นศรเพลิงอันร้อนแรงพุ่งแหวกฟ้าเข้าใส่หนามน้ำแข็งอย่างอุกอาจ!
ปงงง!!
ฟู่มมมม!!
ศรเพลิงพุ่งทะยานแหวกวฟ้าขึ้นไปฉับไว ไม่ทันไรยังอุบัติเพลิงพลังปะทุออกมาปานจุดระเบิด ยังผลให้ศรเพลิงบรรลุความเร็ววอัศจรรย์มากล้นไปด้วยพลังทะลวงหาใดเปรียบ!!
ด้านหนามน้ำแข็งที่พุ่งเข้ามา ก็รวมรั้งไอเย็นอันตรายยถึงขีดสุด!!
ท่ามกลางเสียงกรีดร้องโหยหวนของข่งโย่วอี้ หนามน้ำแข็งกับศรเพลิงก็ปะทะกันกลางหาว!
ไร้ซึ่งการระเบิดเสียงดังสะเทือนฟ้าสะท้านดินอันใด
พอหนามน้ำแข็งกับศรเพลิงปะทะกัน ด้านศรเพลิงก็ค่อยดับลงง ส่วนทางด้านหนามน้ำแข็งก็ค่อยยๆละลายสลายไป สองพลังหักล้างกันอย่างเงียบงัน!
สุดท้าย ศรเพลิงก็ดับมอดหายไป ด้านหนามน้ำแข็งก็ละลายทั้งระเหยหายไปไม่มีเหลือ
การปะทะกันครั้งนี้ ไร้ผลแพ้ชนะ!
จังหวะนี้จักรพรรดิอมตะหนามม่วงก็ได้แต่มองจ้องผู้เฒ่าหั่วด้วยสายตาหวั่นเกรง เนื่องจากตระหนักได้แล้วว่าพลังความแข็งแกร่งของงผู้อื่นไม่ได้ด้อยไปกว่านางแม้แต่นิดเดียว
นอกจากนั้นตอนที่อีกฝ่ายลงมือเมื่อครู่ นางยังสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังลี้ลับยากสัมผัสที่เล็ดลอดออกมาจากร่างกายของอีกฝ่ายบางเบา…นั่นเป็นกลิ่นอายของสัตว์อมตะไม่ผิดแน่!
ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นสัตว์อมตาตุไฟชั้นยอดที่มีพลังอำนาจไม่ใช่เล่นๆเลย อย่างน้อยๆก็ใกล้บรรลุถึงขอบเขตสัตว์เทพเต็มที!
เช่นนั้นหากอีกฝ่ายคืนร่างที่แท้จริง เกรงว่านางคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่าย!
“เฟยเอ๋อ บอกให้สามีของเจ้าหยุดเสีย…ถึงแม้ข่งโย่วอี้จะพูดจาไม่เข้าหู แต่มันก็ได้รับบทเรียนที่สมควรได้รับไปมากพอแล้ว”
พริบตาต่อมาไอเย็นที่กำจายในบรรากาศก็หดหายคืนกลับเข้าร่างจักรพรรดิอมตะหนามม่วงจนหมด ราวกับไม่เคยปรากฏมาก่อน
จากนั้นนางก็หันไปกล่าวกับลี่เฟยด้วยสายตาอ่อนโยน
ขณะเดียวกัน พอนางมองไปยังต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง ในดวงตาก็ฉายชัดถึงความประหลาดใจถึงที่สุด เดิมทีนางคิดว่าสามีของศิษย์รักของนางลี่เฟย จะมีพรสวรรค์อ่อนด้อยกว่าลี่เฟย และด้วยความที่อายุเท่าๆกับลี่เฟย ด่านพลังฝึกปรือทั้งงความเข้าใจต้องตามหลังลี่เฟยอยู่มากโข…
จนเมื่อเห็นอีกฝ่ายลงมือกับข่งโหยวอี้ นางจึงตระหนักได้ในบัดดล ว่าสิ่งที่นางคิดมันผิดพลาดมหันต์!
สามีของศิษย์รักอย่างลี่เฟย ไม่เพียงแต่จะมีด่านพลังบรรลุถึงขอบเขตจักรพรรดิอมตะ 1 ต้นกำเนิดดุจเดียวกับข่งโย่วอี้ที่อายุเจียนครบพันปี แต่อีกฝ่ายไม่ใช่แค่จะเข้าใจความลึกซึ้งของกฏมิติทุกประการถึงขั้นตอนความสำเร็จยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่ยังเข้าใจการผสานรวมความลึกซึ้งของกฏมิติ 2 ประการได้หลายชุดแล้ว!
อายุแค่ 300 กว่าปี แต่กลับประสบผลสำเร็จถึงขนาดนี้ นางไม่เคยเห็น ยังไม่แม้แต่จะเคยได้ยินมาก่อนเลยด้วยซ้ำ!
นางจึงตระหนักได้ทันที ว่านางเข้าใจอีกฝ่ายผิดพลาดไปครั้งใหญ่!
สามีของลี่เฟย ที่แท้คือสัตว์ประหลาดตัวจริง!!
ต่อหน้าชายคนนี้ นับประสาอะไรกับข่งโย่วอี้ กระทั่งศิษย์รักนางอย่างลี่เฟย ก็ห่างชั้นกันอย่างไม่เห็นฝุ่น!
พอเห็นว่าต้วนหลิงเทียนไม่เป็นอะไร ลี่เฟยก็ระบบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ขณะเดียวกันก็หันไปมองผู้เฒ่าหั่วด้วยความประหลาดใจ ด้วยไม่คิดมาก่อนเลยว่าผู้เฒ่าหั่วจะมีพลังฝีมือกล้าแข็งถึงระดับนี้
นางยังได้รับทราบการคงอยู่ของผู้เฒ่าหั่วตั้งแต่อยู่ในระนาบเซียนแล้ว และยังได้รู้เรื่องที่ผู้เฒ่าหั่วได้หายตัวไปอย่างลึกลับพร้อมเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติด้วย
อย่างไรก็ตาม นางไม่คิดเลยว่าหลังจากผ่านไป 300 กว่าปี ผู้เฒ่าหั่วไม่เพียงแต่จะได้ออกมาจากเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติแล้ว แต่อีกฝ่ายยังมีพลังอันน่ากลัวถึงระดับนี้อีกด้วย!
ให้เทียบกับจักรพรรดิอมตะหนามม่วงอาจารย์ของนาง ก็มีแต่จะเหนือกว่า ไม่มีอ่อนด้อยกว่าเลย!
และต้องทราบด้วยว่า จักรพรรดิอมตะหนามม่วงอาจารย์ของนางนั้น ในพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ฝูโหย่วเทียนแห่งนี้ ก็เป็นจักรพรรดิอมตะสมญานามที่มีพลังฝีมืออ่อนด้อยกว่าก็แต่จักรพรรดิสวรรค์แห่งฝูโหย่วเทียนเท่านั้น!
ในบรรดาศิษย์ที่แท้จริงทั้ง 3 ของจักรพรรดิสวรรค์ฝูโหย่วเทียน แม้อาจารย์ของนางจะเป็นศิษย์คนเล็กและเป็นศิษย์ปิดสำนัก แต่พลังฝีมือก็ไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าศิษย์พี่ทั้ง 2 เลย!
“ตัวเลวร้าย ปล่อยมันไปเถอะ”
ลี่เฟยมองไปยังข่งโย่วอี้ที่กำลังตะลึงลานกับเรื่องราวตรงหน้า ตอนนี้สองแก้มของอีกฝ่ายถูกฉีกเปิดจนถึงหู เลือดยังทะลักออกมาไม่หยุด ไม่อาจใช้พลังรักษาหรือห้ามเลือดบรรเทาอาการได้เลย
พลังของข่งโย่วอี้ ถูกพลังของต้วนหลิงเทียนสะกดข่มโดยสมบูรณ์
และตอนนี้ข่งโย่วอี้ที่กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดมานาน เสียงก็เริ่มแหบลงแล้ว เห็นได้ชัดว่ามันเจ็บปวดจนเหน็ดหนื่อยไร้แม้กระทั่งเรี่ยวแรงโอดครวญ
กระทั่งในขณะทีจักรพรรดิอมตะหนามม่วงเอ่ยคำกับลี่เฟย ข่งโย่วอี้ก็หันไปมองลี่เฟยด้วยสายตาอ้อนวอน ราวกับจะขอให้ลี่เฟยช่วยร้องขอสามีให้ปล่อยมันเร็วๆ
วูบ!
ได้ยินคำขอของลี่เฟย ต้วนหลิงเทียนก็พยักหน้ารับเบาๆ จากนั้นก็ถอนรั้งพลังมิติคืนกลับ
ทันใดที่พลังมิติหายไป สองแก้มที่ฉีกถึงหูของข่งโย่วอี้ก็ปรากฏแสงพลังสีเขียวเรืองรองปกคลุม ไม่ทันไรก็รักษาอาการบาดเจ็บให้หายได้อย่างง่ายดาย
กฏที่ข่งโย่วอี้เข้าใจก็คือกฏแห่งไม้ที่เด่นในเรื่องการรักษาอยู่แล้ว กับอาการบาดเจ็บระดับนี้ย่อมรักษาให้หายได้อย่างง่ายดาย
ต้วนหลิงเทียนที่ฉีกปากมัน ไม่ได้ทำร้ายอะไรมันมากนัก สิ่งนี้เป็นแค่อาการบาดเจ็บเพียงผิวเผินเท่านั้น ก็แค่หากไม่อาจเดินพลังรักษามันก็เจ็บปวดไม่ใช่เล่นๆ
หลังจากรามือ ต้วนหลิงเทียนกระทั่งหางตาก็ไม่เหลือบแลข่งโย่วอี้อีกเลย เพียงมองไปยังจักรพรรดิอมตะหนามม่วงด้วยท่าทีสงบ
ด้านข่งโย่วอีกตอนแรกก็มองต้วนหลิงเทียนด้วยสายหวาดกลัว จนเมื่อเห็นต้วนหลิงเทียนไม่แม้แต่จะเหลือบแลมัน ลึกลงไปในใจก็ปรากฏโทสะอันยากระงับพวยพุ่งขึ้นมา
ตอนนี้มันแทบรอฆ่าผู้อื่นไม่ไหวแล้ว!
อย่างไรก็ตามหลังโดนดีไปกับตัว มันก็สำเหนียกตัวเองดีว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่าย
ถึงแม้จะล้วนเป็นจักรพรรดิอมตะ 1 ต้นกำเนิดดุจเดียวกัน แต่พลังของกฏที่อีกฝ่ายเข้าใจเหนือล้ำกว่ามันมาก…ที่สำคัญกฏที่อีกฝ่ายเข้าใจยังเป็นถึงกฏมิติ!
‘นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน?!’
‘ไม่ใช่ว่ามันก็มีอุพอๆกับศิษย์น้องหญิงลี่เฟยหรือไร ไฉนมันถึงร้ายกาจได้ขนาดนี้ล่ะ?’
ในสายตาของข่งโย่วอี้ พลังความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียนนั้นเหนือกว่าลี่เฟยที่มีพรสวรรค์มากกว่ามันหลายเท่า…อีกฝ่ายยังใช่บุรุษที่ลี่เฟยกล่าวว่าอาจมีพรสวรรค์ไม่เท่านางจริงๆหรือ?
จังหวะนี้ข่งโย่วอี้อดคิดไปไม่ได้ว่า…ทั้งหมดเป็นหลุมพรางที่ลี่เฟยขุดไว้ล่อมันอย่างแยบคาย!
ดูเหมือนว่ามันจะลืมเลือนไปหมดแล้ว
ว่าสิ่งที่มันรับรู้นั้น…มาจากปากของบิดา!
“โย่วอี้ เจ้ากลับไปก่อนเถอะ”
จักรพรรดิอมตะหนามม่วงหันไปกล่าวกับข่งโย่วอี้ตรงๆ สุดท้ายแล้วจะอย่างไรต้วนหลิงเทียนก็เป็นสามีของลี่เฟยศิษย์นาง และต่อจากนี้ก็เป็นเรื่องในครอบครัว
หากเลือกได้ นางก็ไม่อยากให้เรื่องราวมันแย่ลงไปกว่านี้
สุดท้ายแล้วนางก็ต้องดูแลศิษย์ของนางอย่างลี่เฟย
ยิ่งไปกว่านั้นจากพลังฝีมือที่ต้วนหลิงเทียนกับผู้ติดตามข้างกายเผยออกมา นางก็ตระหนักได้รางๆ…ว่าต้วนหลิงเทียที่มั่นใจเรื่องพาตัวลี่เฟยไป น่ากลัวความเป็นมากับเบื้องหลังจะไม่ใช่ชั่วแล้วจริงๆ
“ทราบแล้วอาจารย์อา 3”
ข่งโย่วอี้รับคำและหันหลังจากไปแต่โดยดี ทว่าในขณะที่มันหันหลังกลับมา ใบหน้ามันเริ่มบิดเบี้ยวอัปลักษณ์แลดูดุร้ายอาฆาตนัก!
มันไม่มีวันลืมเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้เด็ดขาด!
ต้วนหลิงเทียนผู้นี้ ฉีกหน้ามันต่อหน้าสตรีที่มันหลงรัก ทำให้อีกฝ่ายเห็นด้านน่าสมเพชของมัน สิ่งนี้ทำให้มันรู้สึกอับอายขายขี้หน้านัก!!
‘ต้วนหลิงเทียน…ฝากไว้ก่อนเถอะ! เจ้าล้างคอรอข้าได้เลย!!’
ข่งโย่วอี้หอบร่างกลับไปพร้อมความโกรธแค้นสุดใจ!