ตอนที่ 3,424 : จิ้งจอกเฒ่า
เพียงหนึ่งห้วงคิด จักรพรรดิสวรรค์ฝูโหย่วเทียนก็สังหารข่งโย่วอี้ทิ้งทันที
ฉากเรื่องราวดังกล่าวทำให้คนของพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ฝูโหย่วเทียนที่มามุงชม พากันหยุดหายใจไปขณะหนึ่ง และคนส่วนใหญ่ในที่นี้ก็ไม่เคยพบเห็นจักรพรรดิสวรรค์ฝูโหย่วเทียนสักครั้ง
“อี้เอ๋อ!”
หลังเห็นข่งโย่วอี้ตายต่อหน้าต่อตา จักรพรรดิอมตะวายุสุดขั้วก็ร้องออกมาด้วยความโศกเศร้า มองไปยังหยางอวิ๋นเซียวข้างกายอีกครั้งนอกจากความโกรธแล้ว ยังเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ถึงแม้พลังฝีมือของมันจะไม่ใช่ชั่ว แต่ต่อหน้าผู้เป็นอาจารย์กลับไม่นับเป็นตัวอะไร
“ศิษย์หลานต้วน…”
หลังฆ่าข่งโย่วอี้แล้ว หยางอวิ๋นเซียวก็หันไปมองกล่าวกับต้วนหลิงเทียนด้วยรอยยิ้ม “ข้าจัดการตัวต้นเรื่องอย่างข่งโย่วอี้แล้ว…สำหรับข่งเฝิน ทั้งหมดที่ทำไปก็เพราะความรักที่มีต่อลูกชายอย่างไม่ลืมหูลืมตาเท่านั้น โทษของมันก็ไม่ถึงขั้นต้องตายกระมัง?”
หลังกล่าวจบประโยค หยางอวิ๋นเซียวก็ไม่รอให้ต้วนหลิงเทียนได้พูดอะไร เพียงกล่าวสืบต่อออกมาก่อนว่า “แน่นอนว่าโทษตายสามารถละเว้นได้แต่โทษเป็นยังอยู่ อย่างไรมันก็มีความผิดโทษฐานไม่อบรมสั่งสอนบุตรตัวเองให้ดี…เช่นนั้นเรื่องนี้วันหลังข้าจะเดินทางไปพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนเพื่อไปขอขมา นอกจากนั้นข้ายังจะสั่งขังข่งเฝินเป็นเวลาร้อยปี เพื่อให้มันสำนึกผิด…”
คำพูดประโยคต่อมาของหยางอวิ๋นเซียวทำให้ใจต้วนหลิงเทียนจมลงทันที ผู้เฒ่าหั่วเองก็ขมวดคิ้วเป็นปม
ทั้งคู่ย่อมได้ยินชัดถนัดหู
ความนัยวาจาของ หยางอวิ๋นเซียว จักรพรรดิสวรรค์ฝูโหย่วเทียนคนนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าคิดช่วยชีวิตจักรพรรดิอมตะวายุสุดขั้ว!
อีกฝ่ายได้ผลักไสความผิดทั้งหมดไปยังข่งโย่วอี้ที่พึ่งถูกสำเร็จโทษตาย เรียกว่าให้ข่งโย่วอี้ที่ตายไปแล้วเป็นแพะรับบาปไปกว่า 99 ส่วน
สั่งขังจักรพรรดิอมตะวายุสุดขั้วร้อยปี?
โทษพรรค์นี้มันต่างจากไม่ลงโทษตรงไหน?
ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่จักรพรรดิสวรรค์ฝูโหย่วเทียนใช่จะจับจักรพรรดิอมตะวายุสุดขั้วขังคุกจริงหรือไม่หลังจากพวกเขากลับไปแล้ว ต่อให้ทำจริงกับอีแค่จับขัง 100 ปี ยังนับเป็นอะไรสำหรับจักรพรรดิอมตะวายุสุดขั้ว?
สำหรับจักรพรรดิอมตะวายุสุดขั้วแล้ว นี่ต่างจากเปลี่ยนสถานที่บ่มเพาะตรงไหน?
“ใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์”
ต้วนหลิงเทียนยังไม่พูดอะไร ก็เป็นผู้เฒ่าหั่วที่พูดขึ้นมาก่อน “การลงโทษศิษย์คนรองของท่าน ใช่เบาเกินไปหน่อยหรือไม่?”
“ต่อให้มันจักมิใช่คนต้นเรื่อง แต่รับโทษสถานเบาเช่นนั้นไหนเลยจักสาสมกับความผิดมัน?”
ขณะกล่าวถาม สีหน้าผู้เฒ่าหั่วก็มืดลงไม่น้อย
พอเห็นว่าหยยางอวิ๋นเซียวทำเป็นเงียบไม่ตอบคำ ผู้เฒ่าหั่วก็ได้แต่หันไปมองต้วนหลิงเทียน เพราะคำพูดของมันย่อมไม่มีน้ำหนักเท่าต้วนหลิงเทียนที่เป็นผู้เสียหาย
“ข้าเองก็คิดเหมือนผู้เฒ่าหั่ว”
ต้วนหลิงเทียนเอ่ยออกเสียงเข้ม
ได้ยินคำพูดของต้วนหลิงเทียน หยางอวิ๋นเซียวก็หยีตาลงเล็กน้อย “ศิษย์หลานต้วน เจ้าหมายความว่าอย่างไร…หรือคิดว่าการลงโทษของข้าเบาเกินไป?”
หลังกล่าวถามจบ มันก็มไรอให้ต้วนหลิงเทียนพูดอะไรอีกรอบ เพียงพูดต่อออกมาว่า “เช่นนั้น ให้ข้าเพิ่มโทษมันเป็นอย่างไร? จากจำคุก 100 ปีเป็น 300 ปีเถอะ”
“แบบนี้ ศิษย์หลานต้วนพอใจแล้วหรือไม่?”
ประโยคท้ายขณะกล่าว หยางอวิ๋นเซียวยังมองลึกไปที่ต้วนหลิงเทียน
ได้ยินคำถามดังกล่าวของหยางอวิ๋นเซียว ต้วนหลิงเทียนรู้สึกเสมือนโดนอีกฝ่ายดูถูกสติปัญญาอย่างไรไม่ทราบ สีหน้าเขายังเริ่มมืดลงอยู่บ้าง
แต่ในขณะที่เขาคิดจะพูดอะไรสืบต่อ ก็เป็นอาจารย์ของลี่เฟย จักรพรรดิอมตะหนามม่วงลอบส่งเสียงผ่านพลังมาก่อน “ต้วนหลิงเทียน เห็นได้ชัดว่าอาจารย์คิดจะช่วยชีวิตศิษย์พี่รอง…เรื่องนี้ข้าเกรงว่าเว้นแต่จักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางของเจ้ามาด้วยตัวเอง ไม่ว่าเจ้าจะโต้แย้งอย่างไร ก็คงยากจะเปลี่ยนความตั้งใจของอาจารย์ข้าได้”
“ข้าเองก็ไม่คิดเลยว่าข้ายังประเมินความสำคัญของศิษย์พี่รองในใจท่านอาจารย์ต่ำเกินไป”
จักรพรรดิอมตะหนามม่วงกล่าว
เพราะผลลัพธ์ดังกล่าว ก็เหนือความคาดหมายของจักรพรรดิอมตะหนามม่วงจริงๆ
ก่อนหน้านี้นางรู้สึกว่า ด้วยพลังอันแข็งแกร่งที่จักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางเผยออกขณะทวงตำแหน่งจักรพรรดิสวรรค์คืน กอปรทั้งเรื่องที่ทุกคนรู้กันดีว่าจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางปกป้องคนของตัวเองขนาดไหน ทำให้นางเชื่อไปตามจิตใต้สำนึกว่า…
การที่ศิษย์พี่รองของนางกับลูกชายก่อเรื่องขนาดนี้ ไม่พ้นอาจารย์ของนาง หยางอวิ๋นเซียว จักรพรรดิสวรรค์แห่งฝูโหย่วเทียนต้องประหารทั้งคู่ทิ้งเป็นการอธิบายแก่ต้วนหลิงเทียน ไม่มีทางละเว้นทั้งคู่แน่นอน
แต่ไม่คิดไม่ฝันเลย ว่าอาจารย์ของนางเพียงฆ่าแค่ข่งโย่วอี้คนเดียยว และคิดปกป้องชีวิตศิษย์พี่รองเอาไว้!
“บางทีท่านอาจารย์คิดว่าต่อให้ทำแบนี้ จักรพรรดิสวรรค์ฟงชงหยางก็คงไม่มาหาความอะไร…”
จักรพรรดิอมตะหนามม่วงกล่าวผ่านพลังสืบต่อ “ท้ายที่สุดแล้วอาจารย์ก็ถือว่ารู้จักกันกับจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยาง และการจัดการสะสางเรื่องราวก็จัดการตัวต้นเรื่องไปแล้ว สุดท้ายก็ไม่มีใครกล้าพูดว่าเรื่องในวันนี้ เป็นศิษย์พี่รองตั้งใจฆ่าเจ้าจริงๆ อาจอ้างว่าแค่คิดจับตัวเจ้าให้ลูกชายทุบตีสั่งสอนเท่านั้น…ส่วนที่ลูกชายของมันบอกว่าอยากจะฆ่าเจ้าก็แค่พูดข่มขู่เท่านั้น…”
เดิมทีต้วนหลิงเทียนก็เต็มไปด้วยโทสะคิดจะโต้แย้งให้ได้ แต่พอมาได้ยินคำพูดของจักรพรรดิอมตะหนามม่วงเขาก็ใจเย็นลงทันที
หลังจากใจเย็นลงแล้ว ก็ไม่ยากที่จะยืนยันข้อเท็จจริงในสิ่งที่จักรพรรดิอมตะหนามม่วงกล่าวออกมา
“ในเมื่อจักรพรรดิสวรรค์หยางตัดสินใจแล้ว ข้าก็ไม่มีอะไรจะพูด”
พอต้วนหลิงเทียนเอ่ยถึงหยางอวิ๋นเซียวอีกครั้ง เขาก็ไม่ใช้คำว่า ‘อาจารย์ลุง’ อีกต่อไป เพียงเรียกหาอีกฝ่ายว่าจักรพรรดิสวรรค์ตรงๆ
พรอมกันนั้น สีหน้าท่าทียังกลายเป็นเฉยเมย ไม่แยแส
เรื่องที่ต้วนหลิงเทียนจะไม่พอใจ หยางอวิ๋นเซียวก็เตรียมใจรับไว้แต่แรก สีหน้าท่าทีของมันจึงไม่แปรเปลี่ยน “ตอนนี้ค่ายยกลเคลื่อนยย้ายข้ามระนาบเทวโลกของพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ฝูโหย่วเทียนเราก็เสียหายไปแล้ว หากคิดจะซ่อมแซมเกรงว่าต้องใช้เวลาอยู่บ้าง…หากศิษย์หลานต้วนกับผู้เฒ่าหั่วคิดกลับก็คงต้องไปหาใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายที่อื่น…”
“แต่ถ้าพวกเจ้าไม่รีบร้อนกลับ เช่นนั้นก็พักอยู่รอซ่อมค่ายกลที่นี่เถอะ”
หยางอวิ๋นเซียวกล่าว
“พวกเรามีเรื่องต้องรีบกลับ”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวตัดบทเสียงเฉย ไม่คิดจะอยู่ต่ออีกแม้วินาทีเดียว จากนั้นก็พยักหน้าให้จักรพรรดิอมตะหนามม่วงเป็นการอำลา ก่อนจะเหินร่างนำผู้เฒ่าหั่วจากไปทันที
ผู้เฒ่าหั่วที่เหินร่างตามมาติดๆ ในแววตายังฉายชัดถึงความไม่เต็มใจ
“หยางอวิ๋นเซียวนั่น มันถึงกับกล้าออกหน้าปกป้องศิษย์ตัวดีของมันอย่างโจ่งแจ้ง มันทำเช่นนี้หรือไม่กลัวใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์มาหาความมันแล้ว?”
หลังเหินร่างจากมาไกลพอสมควร ผู้เฒ่าหั่วก็อดบ่นออกมาอย่างหัวเสียไม่ได้
“ต่อให้อาวุโสฟงชิงหยางจะมาหาความมัน สุดท้ายมันก็พยายามอ้างนู่นนี่นั่นเพื่อโยนความผิดทั้งหมดไปให้ข่งโย่วอี้อยู่ดี เพียงพูดให้จักรพรรดิอมตะวายุเป็นแค่พ่อที่ไม่มีทางเลือก นอกจากต้องออกหน้าช่วยลูกชายเอาคืนเท่านั้น…”
ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวไปมาพลางกล่าว “หากอาวุโสฟงชิงหยางไม่เต็มใจจะฉีกหน้ามัน เช่นนั้นเรื่องนี้ก็คงแล้วกันไป และจบลงเพียงเท่านี้ แต่ถ้าอาวุโสฟงชิงหยางเผยทีท่าว่ามีโทสะไม่คิดเลิกรา มันก็แค่ชิงฆ่าจักรพรรดิอมตะวายุสุดขั้วเพื่อไว้หน้าอาวุโสฟงชิงหยางเท่านั้น”
“มันคิดว่า สุดท้ายจนแล้วจนรอดอาวุโสฟงชิงหยางก็คงไม่มีเหตุผลให้ทำอะไรมันอยู่ดี”
“ข้ากล่าวได้เพียงว่า…หยางอวิ๋นเซียวนั่นเป็นจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา!”
ต้วนหลิงเทียนกล่าว
ก่อนหน้านี้ต้วนหลิงเทียนยังรู้สึกมีความประทับใจอันดีต่อหยางอวิ๋นเซียวอยู่บ้าง ที่อีกฝ่ายมอบสมบัติให้เขา ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่รู้ว่ามันคืออะไรก็ตาม
แต่ไม่อาจปฏิเสธได้เลย ว่ามันเป็นสมบัติล้ำค่าจริงๆ
อะไรก็ตามที่สามารถยยกระดับกระบี่หลิงหลง 7 เปลี่ยน จากอุปกรณ์เทพขั้นสูงให้กลายเป็นอุปกรณ์เทพขั้นสูงสุดได้ ถ้าไม่เรียกว่าสมบัติล้ำค่าแล้วอะไรถึงเป็นสมบัติล้ำค่า? ถึงแม้หวงเอ้อจะบอกแค่ว่ามั่นใจไม่ใช่ต้องสำเร็จแน่นอน แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธคุณค่าของสมบัติชิ้นนั้นได้
ก่อนหน้าเขาอาจยังมีความประทับใจอันดีต่อหยางอวิ๋นเซียวอยู่บ้าง แต่หลังจากการกระทำของอีกฝ่ายเมื่อครู่ ความประทับใจอันดีที่ต้วนหลิงเทียนมีต่อหยางอวิ๋นเซียวก็มลายหายไปหมดสิ้น
ช่างหัวมัน!
แพะชรานั่นไม่ฆ่าจักรพรรดิอมตะวายุสุดขั้ว เขาไม่เอาเรื่องสืบต่อก็ถือเสียว่ามอบน้ำใจคืนกลับ
นอกจากนั้นที่อีกฝ่ายให้ของมา ก็เพราะเขาเป็นศิษย์ที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียวของจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยาง หาไม่แล้วอีกฝ่ายก็ไม่กระตือรือร้นจะสานไมตรีอะไรกับเขา
“ไม่คิดเลยว่านายน้อยจะมองทะลุปรุโปร่ง”
ผู้เฒ่าหั่วได้แต่ถอนหายใจออกมา มันก็มัวแต่หัวเสียเลยไม่ทันคิดอะไรมาก หลังได้ฟังคำพูดของต้วนหลิงเทียนก็เข้าใจได้ว่าอีกฝ่ายคิดมาไม้นี้จริงๆ
วันนี้สาเหตุเดียวที่ทำให้หยางอวิ๋นเซียวกล้าปกป้องชีวิตลูกศิษย์ ก็เพราะจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียนไม่ได้มาเอง
หากภายหลังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนคิดหาความ ก็ไม่สายเกินไปที่จะประหารศิษย์ของตัวเอง ถึงตอนนั้นก็ไม่ถือว่าล่วงเกินจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนแต่อย่างใด
แต่หากจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนไม่มาหาความ มันก็ไม่จำเป็นต้องฆ่าศิษย์ตัวเอง สำหรับเรื่องล่วงเกินจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนหรือไม่ อย่างน้อยๆมันก็ลอยตัวไม่ต้องเผชิญหน้า
ต้วนหลิงเทียนกับผู้เฒ่าหั่วที่พกพาความไม่พอใจออกจากพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ฝูโหย่วเทียน ไม่นานก็มาถึงเมืองที่อยู่ใกล้ๆ และใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายข้ามระนาบเทวโลกกลับจี้เมี่ยเทียน ก่อนจะกลับถึงพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนในที่สุด…
ด้านพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ฝูโหย่วเทียน หลังจากพวกต้วนหลิงเทียนกลับไปแล้ว ภายในลานด้านหลังของที่พักจักรพรรดิสวรรค์ฝูโหย่วเทียน จักรพรรดิอมตะวายุสุดขั้วที่ยืนอยู่ในลานก็มองจ้องชายชราหน้าตาอ่อนวัยด้วยสองตาแดงฉาน
“ข่งเฝิน…เรื่องวันนี้เจ้าอย่าได้ตำหนิอาจารย์เลย”
ชายชรามองจักรพรดริอมตะวุสุดขั้วที่จ้องตัวด้วยสองงตาแดงฉานก็ได้แต่ส่ายหัวไปมา กล่าวด้วยน้ำเสียงทอดถอน “ข้าจำต้องฆ่าลูกเจ้าเพื่อช่วยชีวิตเจ้า…เรื่องนี้ในเมื่อพวกเจ้าเป็นคนก่อ ข้าจะอย่างไรก็ต้องมอบคำอธิบายให้ฟงชิงหยาง”
“หากข้าไม่ฆ่าลูกเจ้าเป็นการอธิบาย ด้วยนิสัยของฟงชิงหยาง ไม่พ้นต้องบุกมาเข่นฆ่าพวกเจ้าพ่อลูกด้วยตัวเองแน่…ถึงตอนนั้นเกรงว่ากระทั่งข้าก็ต้องพลอยประสบเคราะห์ไปพร้อมพวกเจ้าด้วย”
“ในเมื่อข้าใช้การฆ่าลูกเจ้าเป็นคำอธิบายแล้วแบบนี้ วันหลังต่อให้มันมาหาข้าถึงหน้าประตู ข้าก็ยังพอมีคำอธิบายให้มันบ้าง และมันก็คงไม่ถึงกับฉีกหน้าข้าหรอก”
“แน่นอนว่าหากถึงตอนนั้นแล้วมันเลือกจะฉีกหน้าข้า อาจารย์ก็ไม่อาจปกป้องเจ้าได้อีก”
ชายชรากล่าวสืบต่อ “เช่นนั้นเรื่องราวหลังจากนี้เจ้าตัดสินใจเลือกเองเถอะ…ว่าจะเลือกออกจากพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์เราไปหลบอยู่ด้านนอก หรือรั้งอยู่ที่นี่ต่อไป”
“หากเจ้าเลือกจะออกจากพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ฝูโหย่วเทียนเราไปหลบด้านนอก ภายหลังต่อให้ฟงชิงหยางมาและคิดฆ่าเจ้า อย่างดีเจ้าก็แค่ไม่ต้องกลับมา…แต่ถ้ามันไม่คิดฆ่าเจ้า ถึงตอนนั้นเจ้าก็แค่ย้อนกลับมาเพราะคงไม่มีเรื่องราวใดแล้ว…”
“กล่าวได้ว่าหากเจ้าเลือกอยู่ต่อ ชะตากรรมของเจ้าก็จักสุดแล้วแต่ฟงชิงหยางจะตัดสิน”
“หากข้าเป็นเจ้า ข้าเลือกที่จะหลบออกไปด้านนอกสักพัก…รอให้เรื่องราวมันชัดเจนเสียก่อน”
หยางอวิ๋นเซียวกล่าว
“ท่านอาจารย์”
จักรพรรดิอมตะวายุสุดขั้วคุกเข่าโค้งหัวลงงต่ำ “วันนี้ตอนศิษย์เห็นท่านอาจารย์สังหารลูกชายคนเดียว ในใจศิษย์บังเกิดความคิดเจ็บแค้นต่อท่าน…หวังว่าท่านอาจาร์จะไม่ถือสา…”
“ตอนนั้น ศิษย์หลงคิดว่าหลังท่านฆ่าอี้เอ๋อแล้ว ท่านยังจะฆ่าศิษย์เพื่อดับโทสะนายน้อยแห่งพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียน…”
“แต่ไม่คิดเลยว่าท่านอาจารย์จะทำไป เพื่อปกป้องศิษย์โง่งมเช่นข้า…”
กล่าวถึงจุดนี้จักรพรรดิอมตะวายุสุดขั้วก็โขกศีรษะลงพื้น 3 ครั้งเป็นการขอขมา
“เฮ่อ…ข่งเฝินเอย เจ้าอยู่กับข้ามากี่ปีแล้ว เจ้าคิดว่าข้านิ่งดูดายมองเจ้าตายได้หรือ?”
หยางอวิ๋นเซียวส่ายหัวไปมาพลางถอนหายใจ
กับสุนัขที่เลี้ยงมานานปียังรู้สึกผูกพัน เช่นนั้นนับประสาอะไรกับผู้คน?
“ข่งเฝิน แล้วเจ้าตัดสินใจได้แล้วหรือไม่? คิดจะรั้งอยู่หรือออกจากที่นี่ไปก่อน?”
หยางอวิ๋นเซียวถามอีกครั้ง
“อาจารย์ ศิษย์ตัดสินใจได้แล้ว”
จักรพรรดิอมตะวายุสุดขั้วก่าวตอบด้วน้ำเสียงจริงจัง “ศิษย์…ศิษย์ไม่ต้องการให้ชะตาชีวิตอยู่ในมือผู้อื่น ต่อให้ผู้นั้นจะเป็นจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียน!”
ตอนนี้เองลึกลงไปในแววตาของจักรพรรดิอมตะวายุสุดขั้ว ก็เผยประกายเยียบเย็นวูบวาบนัก
ลูกชายของมันตกตายไปทั้งคน มันไหนเลยจะปล่อยผ่านไปไม่ทำอะไรได้
อย่างไรก็ตามแต่…ถึงแม้ผู้ที่ฆ่าลูกชายมันจะเป็นหยางอวิ๋นเซียว แต่ที่หยางอวิ๋นเซียวทำไปก็เพื่อรักษาชีวิตมัน! มันไหนเลยจะตำหนิหยางอวิ๋นเซียวได้?
เช่นนั้นมันจึงได้แต่นำโทสะทั้งหมดไปลงกับคนๆเดียว ต้วนหลิงเทียน!!