พอได้ยินเสียงกล่าวคำกันสนุกสนานเฮฮาปานกลัวโลกวุ่นวายไม่พอของเหล่าอัจฉริยะบนอัฒจันทร์ที่นั่งโดยรอบ แม้จงกุ้ยอวี่จะหัวเสียและบังเกิดความไม่พอใจแค่ไหน แต่สุดท้ายมันก็ไม่กล้าสู้กับต้วนหลิงเทียนอยู่ดี “ข้าขอยอมแพ้”
ยอมแพ้!
การยอมรับความพ่ายแพ้โดยไม่สู้ของจงกุ้ยอวี่ ทำให้เหล่าอัจฉริยะทั้งหลายพากันกล่าววาถากถางมันไม่น้อย แต่จงกุ้ยอวี่ก็ทำเป็นหูทวนลมไม่สนใจ หันไปมองกล่าวกับต้วนหลิงเทียนว่า “ต้วนหลิงเทียน เจ้ามันร้ายกาจเหมือนที่ศิษย์พี่หญิงว่าไว้จริงๆ…แต่ข้าเองก็ไม่คิดถอดใจยอมแพ้เจ้าหรอกนะ สักวันข้าจะไล่ตามเจ้าให้ทัน!”
พอกล่าวถึงจุดนี้ สีหน้าจงกุ้ยอวี่ก็เปลี่ยนเป็นจริงจัง “ถึงแม้ข้าจะอายุมากกว่าเจ้าหลายร้อยปีและยังสู้เจ้าไม่ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าวันหน้าข้าจะสิ้นไร้โอกาสไล่ตามเจ้าทัน!”
“ข้าจะรอดู”
ต้วนหลิงเทียนยิ้มตอบด้วยสีหน้าเฉยๆ จากนั้นก็เหินร่างกลับที่นั่งไปพร้อมๆกับจงกุ้ยอวี่
ถึงแม้การท้าประลองของต้วนหลิงเทียนครั้งนี้ จงกุ้ยอวี่จะยอมแพ้โดยไม่สู้ แต่ผู้คนก็เพียงผิดหวังที่ไม่ได้ดูชมการประลองอยู่ครู่เดียวเท่านั้น ไม่นานก็เริ่มคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง
นั่นเพราะเมื่อต้วนหลิงเทียนท้าประลองเอาชนะจงกุ้ยอวี่ได้สำเร็จ ต่อไปก็ถึงตาถังซานเป่าที่บัดนี้ร่วงตกลงไปอยู่อันดับที่ 5แทนต้วนหลิงเทียน เอ่ยท้าผู้ที่มีอันดับเหนือกว่ามัน
แรกเริ่มเดิมที ถังซานเป่านั้นอยู่ในอันดับที่ 2
แต่ตอนนี้ไม่ว่าหวงเฉวียนอัน หลิงเจวี๋ยอวิ๋น หรือต้วนหลิงเทียน ก็ประสบความสำเร็จในการท้าทายหมดแล้ว จึงทำให้มันร่วงตกลงมาอยู่อันดับที่ 5 ตามระเบียบ
และอันดับในปัจจุบันของศึกอัจฉริยะสวรรค์ก็คือ…
อันดับที่ 1 หลิงเจวี๋ยอวิ๋น
อันดับที่ 2 หวงเฉวียนอัน
อันดับที่ 3 ต้วนหลิงเทียน
อันดับที่ 4 จงกุ้ยอวี่
อันดับที่ 5 ถังซานเป่า
อันดับที่ 6 ซือหม่ารุ่ย
อันดับที่ 7 เย่ตงลี่
อันดับที่ 8 หงหยวน
อันดับที่ 9 หลิวสื่อเยียน
และอันดับที่ 10 อวี๋ตงฟาง
“หลังการท้าประลองของถังซานเป่าจบลง ก็ถือได้ว่าการท้าประลองรอบแรกจบลงแล้วล่ะ…เพราะถึงแม้หลังจากถังซานเป่าจะเป็นจงกุ้ยอวี่ที่ยังท้าทายได้อีกคน แต่บัดนี้อันดับที่สูงกว่ามันก็มีแต่คนที่ร้ายกาจกว่ามันทั้งนั้น มันคงไม่หาเรื่องท้าใครให้เจ็บตัวเปล่าๆแน่นอน”
ในปัจจุบันไม่ได้มีแค่คนสองคนที่คิดไปทำนองดังกล่าว แต่อัจฉริยะทั้งหมดล้วนคิดไปดุจเดียวกัน
“จงกุ้ยอวี่ที่ถูกต้วนหลิงเทียนท้าไปเมื่อครู่ ถึงแม้มันจะยอมแพ้โดยไม่สู้ แต่ตามกฏแล้วมันก็ได้สิทธิ์พักศึกหนึ่ง…ถังซานเป่าเองก็ไม่สามารถท้ามันได้…”
“ต้วนหลิงเทียนเองก็ได้สิทธิ์พักเช่นกัน…ถังซานเป่าจึงไม่อาจท้าต้วนหลิงเทียนได้เช่นกัน”
“กล่าวได้ว่าคนที่ถังซานเป่าสามารถท้าประลองได้ตอนนี้ ก็มีแค่หวงเฉวียนอันดับหลิงเจวี๋ยอวิ๋นเท่านั้น! พวกเจ้าว่ามันจะเลือกใคร?”
“มันดูเหมือนจะสนิทกับต้วนหลิงเทียนและหลิงเจวี๋ยอวิ๋นไม่ใช่เหรอ…เช่นนั้นไม่ใช่มันสมควรเลือกหวงเฉวียนอันรึไง? ถึงแม้หวงเฉวียนอันจะเก่งกฏเวลา และแทบจะอยู่ยงคงกระพันใต้เทพสงคราม 6 ดารา แต่ถ้าไม่ใช่เพราะสายเลือดของหลิงเจวี๋ยอวิ๋นเป็นดาวข่มมัน พูดได้ว่าผู้ที่อยู่ใต้เทพสงคราม 6 ดาราคงยากจะสู้มันได้…แต่ก่อนหน้านี้ถังซานเป่าก็เผยพลังอันร้ายกาจที่สมควรแตะถึงระดับเทพสงคราม 6 ดาราออกมา…”
“หากถังซานเป่าเป็นเทพสงคราม 6 ดาราจริงๆ คิดท้าเอาชนะหวงเฉวียนอันก็ไม่น่าใช่เรื่องยาก”
…
ท่ามกลางสายตาของทุกคน ร่างถังซานเป่าได้เหินเข้าไปกลางอากาศเหนือสนามประลองอีกครั้ง
ก่อนหน้ามันได้รับคำท้า โจวหย่งฉี ศิษย์ปิดสำนักของจักรพรรดิสวรรค์ฉีหงเทียน โจวปิงหวู่ ที่ท้าทายมันไป จากนั้นก็ได้ลงมือเข่นฆ่าผู้คนไปหน้าตาเฉย
กระทั่งโจวปิงหวู่ที่คิดออกหน้าล้างแค้น สุดท้ายแม้จะเป็นจักรพรรดิสวรรค์ผู้น่าเกรงขามคนหนึ่งก็จำต้องพบจุดจบอย่างน่าสังเวช…ทั้งหมดเพราะถังซานเป่าเป็นนายน้อย หรือกล่าวได้ว่าเป็นเจ้าวิหารน้อยของวิหารเฟิงฮ่าวสาขาหลักกลายๆ!
“ข้าขอท้า…”
ท่ามกลางสายตาที่จับจ้องมองมาด้วยความสนใจของผู้คน สองตาถังซานเป่าก็ทอประกายเรืองวูบ กล่าวออกมาเสียงดังฟังชัดว่า “หวงเฉวียนอัน!”
ถึงแม้มันจะมีตัวเลือก 2 คนให้ท้าทายอย่างหลิงเจวี๋ยอวิ๋นกับหวงเฉวียนอัน แต่มันก็เลือกหวงเฉวียนอันหลังมองสำรวจหลิงเจวี๋ยอวิ๋นครู่หนึ่ง
“หลิงเจวี๋ยอวิ๋น ไม่ใช่ว่าข้ากลัวเจ้า…แต่ข้าคิดว่าศึกระหว่างเราสมควรเอาไว้ท้ายๆ”
ถังซานเป่าที่มองหลิงเจวี๋ยอวิ๋นเอ่ยออกเสียงขรึม
“ตามนั้น”..
หลิงเจวี๋ยอวิ๋นที่นั่งข้างๆต้วนหลิงเทียน สีหน้าท่าทียังคงเย็นชาไร้แยแส กล่าวตอบรับออกไปห้วนๆ ไม่คล้ายใส่ใจอะไรกับการท้าทายของหลิงเจวี๋ยอวิ๋นเลย
ขณะเดียวกัน ด้านหวงเฉวียนอันก็เข้าสนามเรียบร้อย
สีหน้าของมันเคร่งขรึมจริงจังไม่น้อย
ถังซานเป่านั่นจากการลงมือเมื่อครู่ เผยให้เห็นพลังที่น่าจะอยู่ระดับเทพสงคราม 6 ดารา! ก็คงดีหากว่าไม่ใช่เทพสงคราม 6 ดาราเพราะพลังของตัวเองแต่เป็นเพราะอุปกรณ์อมตะ แต่ถ้าอีกฝ่ายอยู่ในระดับนี้ด้วยพลังตัวเองจริงๆมันคงไม่มีโอกาสชนะ!
อันที่จริงพลังของมันก็ไม่ถือว่าเป็นยอดฝีมือเทพสงคราม 5 ดาราชนชั้นยอดฝีมือด้วยซ้ำ เพียงแค่พลังอำนาจของแปรเปลี่ยนในหนึ่งห้วงคิดมันทรงพลังเกินไป จึงทำให้มันเก่งกาจเหนือใครในบรรดาเทพสงคราม 5 ดารา
“ข้าจะให้โอกาสเจ้าใช้แปรเปลี่ยนในหนึ่งห้วงคิดเล่นงานข้า 3 ครั้ง…จากนั้นข้าจะลงมือ”
ถังซานเป่าเหลือบมองไปยังหวงเฉวียนอันที่ลอยร่างอยู่เบื้องหน้าพลางกล่าวเสียงเรียบ
และทันทีที่เสียงของถังซานเป่าดังจบคำ ผู้ชมโดยรอบก็ฮือฮาขึ้นมาไม่น้อย “ดูเหมือน ถังซานเป่า นายน้อยของวิหารเฟิงฮ่าวสาขาหลักผู้นี้จะเป็นเทพสงคราม 6 ดาราแล้วจริงๆ…ไม่งั้นคงไม่กล้าพูดคำโตแบบนี้หรอกมั้ง?”
“มารอดูชมกันเถอะ…ว่าที่แท้มันใช่ร้ายกาจถึงระดับเทพสงคราม 6 ดาราแล้วจริงๆหรือไม่ การประลองครั้งนี้สมควรยืนยันได้แน่ชัด เพราะสุดท้ายหวงเฉวียนอันก็ไม่ใช่ตะเกียงประหยัดน้ำมัน มากพอจะบีบให้มันเผยพลังที่แท้จริงได้”
…
ต่อมาท่ามกลางสายตาคาดหวังของทุกคน หวงเฉวียนอันก็ได้ใช้แปรเปลี่ยนในหนึ่งห้วงคิดออกมาใส่ถังซานเป่า หากทว่าถังซานเป่ากลับต้านทานได้อย่างง่ายดาย
เรียกว่าคนเพียงยืนอยู่เฉยๆเท่านั้น ก็ต่อต้านพลังอำนาจของแปรเปลี่ยนหนึ่งห้วงคิดได้แล้ว!
อาศัยแค่การใช้พลังของการผสานรวมความลึกซึ้งเข้ากับพลังวิญญาณปกคลุมทั่วร่าง ก็หยุดยั้งพลังอำนาจของกฏเวลาได้สมบูรณ์!
“หยุด!”
ด้านหวงเฉวียนอันที่เห็นว่าพลังของแปรเปลี่ยนในหนึ่งห้วงคิดเฉยๆไม่อาจทำอะไรถังซานเป่าได้ ก็ไมรอช้าเร่งใช้โอกาสที่ถังซานเป่ามอบให้ลงมือต่อเนื่องทันที และคราวนี้เลือกจะใช้การผนึกห้วงเวลารอบตัวถังซานเป่าก่อน
ต่อมา
มันก็ใช้แปรเปลี่ยนในหนึ่งห้วงคิดเข้าใส่ถังซานเป่าที่สมควรถูกหยุดเวลาอยู่
ซัว! ซัว!
อนิจจาพลังอำนาจของแปรเปลี่ยนในหนึ่งห้วงคิดมันก็ไม่อาจชำแรกเข้าร่างถังซานเป่าได้ เพราะพลังวิญญาณผสานความลึกซึ้งของถังซานเป่าได้ต่อต้านมันอีกครั้ง…
“เจ้า…นี่เจ้าไม่ได้รับผลกระทบจากการหยุดเวลาของข้าหรือ?!”
ลูกตาของหวงเฉวียนอันหดเล็กลงทันที สีหน้าท่าทีมันเผยความประหลาดใจออกมาไม่น้อย “เจ้า…เจ้าเป็นเทพสงคราม 6 ดาราแล้วจริงๆ! เจ้าเป็นเทพสงคราม 6 ดาราแน่นอน! เพราะมีแต่เทพสงคราม 6 ดาราเท่านั้นที่จะไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากการหยุดเวลาของข้า!!”
หวงเฉวียนอันกล่าวยืนยันออกมาเป็นมั่นเหมาะ ถังซานเป่าเป็นเทพสงคราม 6 ดารา!
“ให้ตายเถอะ…ถังซานเป่านั่น มันเป็นเทพสงคราม 6 ดาราจริงๆ!?”
ถึงแม้ถังซานเป่าจะไม่ได้ลงมือเผยพลังเลิศล้ำอะไร แต่การอยู่เฉยๆโดยไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่การผนึกห้วงเวลาของหวงเฉวียนอัน ก็เป็นเครื่องบ่งชี้ชัดเจน…
อย่างที่หวงเฉวีนอันกล่าวไว้ มีแค่เทพสงคราม 6 ดาราเท่านั้นที่จะไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากการหยุดเวลาของมัน!
ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว เรื่องที่ถังซานเป่าเป็นเทพสงคราม 6 ดารา ก็ไม่จำเป็นต้องสงสัยสืบไป!!
“บ้าไปแล้ว! มันเป็นเทพสงคราม 6 ดาราจริงๆ!!”
“ให้ตายเถอะ! ศึกอัจฉริยะสวรรค์ครั้งนี้กลับปรากฏเทพสงคราม 6 ดาราออกมาจริงๆ!!”
“ศึกอัจฉริยะสวรรค์ครั้งนี้ สมควรถูกจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์แน่!”
…
หลังจากยืนยันได้แล้วว่าถังซานเป่าเป็นเทพสงคราม 6 ดารา ผู้คนก็โพล่งคำอุทานออกมาด้วยความตกใจอย่างลืมตัว และไม่ใช่แค่เหล่าอัจฉริยะเท่านั้น กระทั่งเหล่าจักรพรรดิสวรรค์เองก็ตกใจไม่น้อย
นอกจากนี้ยังมีระดับสูงๆของวิหารเฟิงฮ่าวสาขาย่อยอีกด้วย
เพราะกระทั่งพวกมันเองก็ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าวิหารเฟิงฮ่าวสาขาหลัก ได้เพาะสร้างเทพสงคราม 6 ดาราอายุไม่ถึงพันปีออกมาได้จริงๆ!
“ไม่น่าแปลกใจเลยที่ไฉนมันถูกกำหนดให้เป็นศิษย์สืบทอดของวิหารเฟิงฮ่าว กลายเป็นนายน้อยของวิหารเฟิงฮ่าว…ที่แท้มันเป็นถึงเทพสงคราม 6 ดาราตั้งแต่อายุไม่ถึงพันปี! แม้แต่จ้าววิหารเฟิงฮ่าวสาขาหลักคนปัจจุบัน ดูเหมือนตอนอายุไม่ถึงพันก็ยังไม่ใช่เทพสงคราม 6 ดาราไม่ใช่หรือไร?”
“ตราบใดที่มันรักษาอัตราก้าวหน้านี้ไว้ได้…ต่อไปมันก็สมควรร้ายกาจเหนือจ้าววิหารเฟิงฮ่าวสาขาหลักได้แน่นอน!”
…
ตอนนี้ทุกคนไม่แคลงใจเรื่องที่ถังซานเป่ากลายเป็นผู้สืบทอดของจ้าววิหารเฟิงฮ่าวสาขาหลักอีกต่อไป และรู้สึกว่าสมควรเป็นแบบนี้อยู่แล้ว
หากตัวตนเช่นถังซานเป่า ยังไม่อาจเป็นผู้สืบทอดของจ้าววิหารเฟิงฮ่าวสาขาหลักได้ แล้วยังจะมีใครมีสิทธิ์อีก?
“ข้ายอมแพ้”
หลังยืนยันได้แล้วว่าถังซานเป่าเป็นเทพสงคราม 6 ดารา หวงเฉวียนอันก็ไม่คิดใช้สิทธิ์ลงมือครั้งสุดท้ายกับถังซานเป่าอีกต่อไป เลือกจะกล่าวยอมแพ้ออกมาตรงๆ
จากนั้นท่ามกลางสายตายำเกรงของทุกผู้คน ร่างถังซานเป่าก็เหินออกจากกลางฟ้าเหนือสังเวียนประลอง
“เจ้าบ้านั่น มันเป็นเทพสงคราม 6 ดาราจริงๆ”
ซูหลี่ที่มองแผ่นหลังถังซานเป่าเหินไปยังอัฒจันทร์ที่นั่งไกลๆ อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา “แม้ก่อนหน้าเจ้าจะเดาไว้แล้ว ต่อพอได้มาเห็นกับตาก็ยังอดตกใจไม่ได้อยู่ดี”
ด้านจางเทียนโย่ว ว่างถิง และเหอเจี้ยนอวี่ที่นั่งอยู่ด้านหลังพวกต้วนหลิงเทียนก็อดตะลึงไม่ได้ “เทพสงคราม 6 ดารา…ถังซานเป่าเป็นเทพสงคราม 6 ดาราจริงๆ…”
พวกมันไม่คิดไม่ฝันเลย ว่าชายหนุ่มที่นั่งข้างพวกมันและพูดคุยหยอกล้อหัวเราะกันอย่างสนุกสนานมาเป็นเดือนๆ จนเริ่มสนิทสนมกันแล้ว ที่แท้จะเป็นถึงเทพสงคราม 6 ดารา…
กล่าวให้ชัดคือ เป็นเทพสงคราม 6 ดาราที่มีอายุไม่ถึงพันปี!
นอกจากนี้ อีกตัวตนของอีกฝ่ายก็ขู่ขวัญพวกมันนัก…
นายน้อยแห่งวิหารเฟิงฮ่าว!
ฐานะดังกล่าว เรียกว่าสูงส่งยิ่งกว่าบุตรของจักรพรรดิสวรรค์ หรือศิษย์ที่แท้จริงของจักรพรรดิสวรรค์เสียอีก!
“ต่อไปจะคนสุดท้ายของรอบนี้ จงกุ้ยอวี่”
ในขณะความสนใจของทุกคนยังหยุดอยู่ที่ถังซานเป่า เสียงฉีคงไห่ก็ดังขึ้นอีกครั้ง และเป็นการเรียกตัวจงกุ้ยอวี่ที่จะเป็นคนท้าทายคนสุดท้ายในรอบนี้ออกมา ความสนใจของทุกคนจึงละออกจากถังซานเป่าและหันมาหยุดที่จงกุ้ยอวี่ทันที
“ข้าขอผ่าน”
คราวนี้จงกุ้ยอวี่ก็เพียงยืนขึ้นและกล่าวตอบออกมาเสียงดังฟังชัด ไม่คิดออกมาท้าทายใคร
และการตัดสินใจของมันก็ไม่ได้ผิดแปลกไปจากสิ่งที่ทุกคนคาดเอาไว้ และไม่มีใครคิดจะหัวเราะมันทั้งสิ้น ยังมองว่ามันเป็นผู้ฉลาดที่รู้สถานการณ์
ยิ่งไปกว่านั้น การเลือกที่จะยอมแพ้ขอผ่านทันทีของมันยังเป็นผลดีกับทุกคนอีกด้วย เพราะอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องเสียเวลาชมดูศึกที่รู้ๆผลกันอยู่
“เช่นนั้นการท้าทายรอบแรกของช่วงสุดท้ายจึงถือว่าจบลง ต่อไปจะเป็นการเริ่มท้าทายในรอบที่ 2”
ฉีคงไห่กล่าวประกาศออกมาอีกครั้ง
และต่อมา ก็จะเป็นอันดับที่ 29 ที่จะเริ่มออกมาไล่ท้าทายไต่อันดับทันที เพราะตอนนี้อันดับที่ 30 ได้ว่างลงหลังโจวหย่งฉีศิษย์ของจักรพรรดิสวรรค์ฉีหงเทียนตายตก
“รองจ้าววิหารฉี”
ตอนนี้เอง พลันมีจักรพรรดิสวรรค์บางคนเอ่ยถามออกมา “แล้วอันดับ 30 ที่ว่างลงเล่า…จะให้เด็กๆแข่งกันเพื่อช่วงชิงหรือไม่?”
สิ้นคำถามของจักรพรรดิสวรรค์ผู้นั้น เหล่าอัจฉริยะรุ่นเยาว์ที่คิดว่าตัวเองน่าจะมีพลังพอเบียดเข้าสู่ 30 อันดับแรกได้ก็ตาลุกวาวขึ้นมาทันที พวกมันจึงหันไปมองรอฟังคำตอบจากฉีคงไห่ด้วยสายตาคาดหวัง
อย่างไรก็ตาม คำตอบของฉีคงไห่ก็ทำให้พวกมันมีอันต้องผิดหวัง “อันดับที่ 30 จะถูกปล่อยว่างไว้ ไม่จำเป็นต้องแข่งขันช่วงชิงอีกต่อไป”
หลังจากนั้นสักพัก การท้าทายไต่อันดับก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง
ถึงแม้การท้าประลองระหว่างเหล่าเทพสงคราม 4 ดาราจะรุนแรง แต่ก็ยังอ่อนด้อยกว่าการประมือกันระหว่างเทพสงคราม 5 ดาราอย่างมาก
ซูหลี่ที่ดิ้นรนสู้สุดกำลัง ก็ยังคงรักษาอันดับเอาไว้ได้อย่างแน่นเหนียว…
ไม่นานนัก การท้าทายก็ไล่มาถึงเหล่าเทพสงคราม 5 ดาราทั้งหลายอีกครั้ง และก็เป็นศิษย์คนที่ 3 ของจักรพรรดิสวรรค์ซวนหยวนเทียน อวี๋ตงฟาง ที่ได้รับสิทธิ์ท้าทายเป็นคนแรกของบรรดาเทพสงคราม 5 ดารา!
“อวี๋ตงฟาง เจ้าคิดท้าทายผู้ใด?”
ฉีคงไห่หันไปเอ่ยถามอวี๋ตงฟาง
พออวี๋ตงฟางได้ยินคำถาม มันก็โพล่งตอบออกมาเสียงดังฟังชัดโดยที่แทบจะไม่ต้องคิดใดๆ “จงกุ้ยอวี่!”
ในเมื่อจงกุ้ยอวี่ก็เป็นเทพสงคงครามที่อยู่ในระดับพอๆกับมัน เช่นนั้นอวี๋ตงฟางจึงตัดสินใจเลือกช่วงชิงอันดับของอีกฝ่าย
และตอนนี้อันดับที่มันวาดหวังก็ไม่ใช่ 3 อันดับแรกอีกต่อไป แต่เป็นอันดับที่ดีที่สุดเท่าที่มันจะไขว่คว้ามาได้ท่ามกลางเทพสงคราม 5 ดาราทั้งหลาย
เพราะดูจากสถานการณ์ในปัจจุบัน อย่าว่าแต่ 3 อันดับแรก กระทั่ง 4 อันดับแรกมันก็ไม่มีโอกาส
ตอนนี้ผู้ที่จะติดอยู่ใน 4 อันดับแรกได้ ก็มีแค่เทพสงคราม 6 ดาราคนหนึ่งกับยอดฝีมือเทพสงคราม 5 ดาราทั้ง 3 เท่านั้น…