ตอนที่ 17 มาเยือนครั้งที่สอง (1)
ภายในห้องพลังแสงดาราสว่างวาบแต่ไม่ได้แผ่กระจายออกมา
ต่อให้ตอนนี้ข้างนอกห้องจะมีคนอยู่ หรือกระทั่งเป็นถึงผู้มีพลังเหนือธรรมชาติก็ไม่มีทางมองเห็นและสัมผัสไม่ได้ด้วย
ผืนท้องฟ้ามีพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติกระจัดกระจายอยู่ รังสีไม่ได้ขยายเป็นวงกว้างนัก หากกระจายเกินขอบเขตเมื่อไรก็จะสลายหายไปจากกลางอากาศทันที
ยิ่งไปกว่านั้นเวลานี้ยังมีเจ้าเสือดำอยู่ด้วย
พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติที่กระจายออกมาถูกเจ้าหมอนี่ดูดซับเข้าไปจนหมดจึงไม่มีหลุดเล็ดลอดออกมาเลย
หลี่ฮ่าวรู้สึกเหมือนจะดูดซับพลังเกินไปหน่อย!
ตอนนี้เขารู้สึกว่ามีพลังเต็มเปี่ยม ฮึกเหิมกระปรี้กระเปร่า เขาฝึกเคล็ดวิชาลิงรอบละสามนาทีโดยไม่หยุดหย่อน กระทั่งไม่รู้ว่ารอบนี้ตนฝึกไปกี่รอบแล้วกันแน่
เขาคิดว่าหากไม่ระบายออกมาตัวต้องระเบิดอย่างแน่นอน
ดูดซับมากไปเสียแล้ว!
ถึงกระนั้นหลี่ฮ่าวก็ไม่หยุดที่จะใช้วิชาคายรับห้าปาณภูต แน่นอนว่ามันไม่ใช่ฉบับสมบูรณ์ เพียงแค่รักษาวิธีการหายใจเข้าออกเช่นนี้ไปเรื่อยๆ
‘วิชาคายรับห้าปาณภูต’ ความจริงสามารถแยกออกเป็นสองวิธี
วิธีแรกคือฉบับสมบูรณ์ซึ่งต้องประสานกันระหว่างท่วงท่าและวิธีการหายใจ อีกวิธีหนึ่งคือไม่ต้องประสานกันระหว่างท่า แต่ใช้วิธีการหายใจเพียงอย่างเดียว ความจริงวิธีนี้ซึมซับพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติได้บ้าง เพียงแต่ไม่ได้ผลมากเท่าการประสานกับท่วงท่าเท่านั้นเอง
“ดื่ม!”
เสียงทุ้มต่ำดังขึ้น
หลี่ฮ่าวกระโดดโลดเต้นไม่หยุด จู่ๆ ก็หยุดกระโดดแล้วใช้สองมือหันไปเกาะกำแพงเหมือนเท้าของลิง
เคล็ดวิชาลิง ไม่ใช่แค่วิชาตัวเบาเพียงอย่างเดียว
เพียงแต่เมื่อก่อนหลี่ฮ่าวใช้วิชาสังหารของเคล็ดวิชาลิงน้อยครั้งมาก เพราะไม่ได้มีความจำเป็นใดๆ
ณ ตอนนี้ภายในร่างกายของหลี่ฮ่าวมีพลังมากเกินไปจนชักจะแบกรับไม่ไหว บวกกับวิกฤตที่กำลังจะเกิดขึ้นเลยทำให้เขาไม่สนใจเรื่องพวกนี้แล้วงอสองแขนตะกุยมือเหมือนลิง
เสียงพลั่กกระหึ่มดังขึ้น!
“ซี๊ด!”
หลี่ฮ่าวเผลอสูดปากทีหนึ่ง เจ็บจัง!
ในเมื่อมือยังเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย พอตะกุยเล็บก็จิกลงบนกำแพงปรากฏรูเล็กๆ อยู่หลายรู หลี่ฮ่าวเองก็เจ็บนิ้วมือมากเช่นกัน แม้แต่เล็บนิ้วมือยังฉีกหักไปด้วย
แต่แล้วหลี่ฮ่าวก็ไม่สนใจความเจ็บอีก!
หันขวับไปยังกำแพงด้วยสายตาที่ลุกวาว
เพราะใช้มือตะกุยกำแพงไปเลยทำเอากำแพงราบเรียบมีรูปรากฏอยู่หลายรู จุดนี้หากเป็นเขาในอดีตคงทำไม่ได้
เนื่องจากปลายนิ้วมือสัมผัสเนื้อที่เน้อย พลังที่จะแสดงให้เห็นเลยมีไม่มากนัก
อีกทั้งสัมผัสผิวกำแพงลื่นมันวาวเลยทำให้ตอนตะกุยกินแรงไปสักหน่อย
นี่ไม่ใช่กำแพงดิน แต่เป็นกำแพงจากปูนที่ฉีดพ่นสี
“ก่อนหน้านี้หลิงหลงเหมือนจะต่อยกำแพงห้องครัวทะลุด้วยหมัดเดียว พลังหมัดจะรุนแรงกว่า อีกทั้งกำแพงตระกูลจางเป็นแค่กำแพงจากอิฐแดง…แน่นอนว่าเขาแข็งแกร่งมาก แต่เราในตอนนี้เหมือนจะแข็งแกร่งกว่าแต่ก่อนมากเหมือนกัน!’
หลี่ฮ่าวคิดในใจ วันนี้แค่ฝึก ‘วิชาคายรับห้าปาณภูต’ เพียงเล้กน้อยก็รู้สึกว่าตนแข็งแกร่งขึ้นมากแล้ว
แน่นอนว่ามันเกี่ยวกับที่เขาอ่อนแอเกินไป
ยิ่งอ่อนแอก็ยิ่งพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
หากไปถึงขั้นของพวกหลิงหลงจริงๆ ต่อให้มีพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติมากก็จริง แต่สำหรับพวกเขาแล้วก็เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยไม่ได้ช่วยอะไร เพราะมันไม่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก
‘วิชาของอาจารย์สุดยอดจริงๆ!’
หลี่ฮ่าวสังเกตนิ้วมือตัวเองทีหนึ่ง เมื่อครู่ยังแดงอยู่หน่อยแถมเล็บก็ขึ้นสีช้ำด้วย
แต่ตอนนี้ด้วยพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติกำลังไหลเข้าตัว ไม่นานแผลเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ก็หายไป
หลี่ฮ่าวเองรู้สึกได้ว่ากล้ามเนื้อของตนเริ่มแน่นขึ้นยิ่งกว่าเดิม
ดูเหมือนเลือดก็ไหลเวียนเร็วกว่าเดิมด้วย!
กระดูกก็กำลังเปลี่ยนไปช้าๆ
ความรู้สึกแบบนี้ หากพูดให้ชัด…มันกำลังหดตัวอยู่!
ใช่แล้ว พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติทำให้หลี่ฮ่าวดูตัวหดลงเล็กน้อย
หลี่ฮ่าวคนเดิมมีส่วนสูงอยู่ราวหนึ่งร้อยเจ็ดสิบแปด ไม่ถือว่าตัวสูงใหญ่มากแต่ก็ไม่ได้เตี้ย
เวลานี้ต่อให้หลี่ฮ่าวไม่ได้วัดส่วนสูง แต่เขาก็รู้สึกเหมือนตัวเองเตี้ยลงเล็กน้อย บางทีอาจจะเพียงหนึ่งเซนติเมตรหรือน้อยกว่านั้น แต่หลี่ฮ่าวรู้สึกว่าตนตัวเตี้ยลงแน่นอน
ตัวถูกหดลง!
กล้ามเนื้อกระชับ ช่องว่างระหว่างกระดูกคับแคบลง
“ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป…เราคงไม่เตี้ยมากไปกว่านี้หรอกใช่ไหม?”
หลี่ฮ่าวรู้สึกแปลกๆ ทั้งที่หลิงหลงยังตัวสูงอยู่มาก
เมื่อก่อนก็ไม่เคยเห็นว่าใครฝึกวิชาการต่อสู้แล้วจะตัวเตี้ยลงเลย
แน่นอนว่าส่วนมากเขามักฝึกวิชาเหล่านี้มากันตั้งแต่เด็ก ต่างไปจากหลี่ฮ่าวที่เพิ่งเริ่มตอนอยู่กู่ย่วนเมื่อสามปีก่อน อีกทั้งสองปีแรกก็ไม่ได้ตั้งใจฝึกขนาดนั้นด้วย
หลี่ฮ่าวครุ่นคิดในใจเพราะเขาเริ่มฝึกช้าไป
ทันใดนั้นเองเขาก็ผุดความคิดบางอย่างขึ้นได้เลยกางแขนขวาออกโดยไม่ได้ทำท่าตะกุยดั่งแขนลิงเหมือนเมื่อครู่อีก จากนั้นก็ประกบนิ้วทั้งห้าลงไป หลี่ฮ่าวในตอนนี้กางนิ้วมือออกแล้วตะกุย!
บึ้ม!
เสียงดังสนั่นแฝงด้วยเสียงเสียดสีไม่น่าฟังจากปลายเล็บดังขึ้น นิ้วมือทั้งห้าจิกลงกำแพงโดยตรงจนปรากฏให้เห็นรูที่ไม่ถือว่าลึกมากนัก เพียงแต่ยังทิ้งรอยฝ่ามือหนึ่งไว้บนกำแพง แต่ไม่ได้สัมผัสถึงโครงสร้างกำแพงชั้นใน
แต่คราวนี้ดูเหมือนกำแพงจะสั่นไหวนิดๆ หรือบางทีหลี่ฮ่าวอาจจะรู้สึกไปเอง
แต่หลี่ฮ่าวรู้สึกว่าพลังทำลายล้างมันรุนแรงกว่าครั้งก่อน
“หัตถ์พยัคฆ์!”
นี่เป็นวิธีการจู่โจมของเคล็ดวิชายุทธ์พยัคฆ์ของตำราใหม่ห้าปาณภูต
หลี่ฮ่าวไม่คุ้นเคยกับเคล็ดวิชาสี่ปาณภูตที่เหลือนัก แต่ก็ใช่ว่าเขาจะไม่รู้อะไรเลย หยวนซั่วเคยสอนทุกอย่างให้กับเขาแล้ว เพียงแต่หลี่ฮ่าวฝึกเคล็ดวิชาลิงเป็นหลักเท่านั้น
เขาคิดว่าเคล็ดวิชายุทธ์พยัคฆ์จะโจมตีง่ายกว่า
เป็นไปตามคาดพอปล่อยกระบวนท่าหัตถ์พยัคฆ์ออกไป วิธีการใช้พลังก็ต่างไปจากเดิมทันที ไม่เพียงแค่ท่วงท่าที่เปลี่ยนไปแต่ยังรวมถึงการปรับลมหายใจที่ต่างกันด้วย ทำให้หลี่ฮ่าวรู้สึกได้ทันทีว่าหัตถ์พยัคฆ์ที่ปล่อยออกไปมีพลังมากกว่า!
บาทาวานรเสาะทางของเคล็ดวิชาลิงมีท่วงท่าที่เบาและไวกว่า แต่แรงที่ปล่อยออกไปต่างจากหัตถ์พยัคฆ์อยู่มากโข
“วิชายุทธ์พยัคฆ์เหมาะกับการจู่โจมมากที่สุดในบรรดาวิชาห้าปาณภูตจริงๆ ด้วย!”
หลี่ฮ่าวคอยสำรวจถึงความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ในร่างกาย จากนั้นก็เริ่มดีใจขึ้นมา
พลังมากกว่าเดิมแล้ว!
กล้ามเนื้อมีปฏิกิริยาไวกว่าเดิม แถมยังรู้สึกตัวเบากว่าเดิมอยู่ประมาณหนึ่ง
ราวกับว่าที่ผ่านมาตนมักจะแบกของหนักตอนวิ่ง แต่ตอนนี้เหมือนยกของหนักออกไป นี่คือผลลัพธ์ของพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติหรือ
มันชัดเจนเกินไปแล้ว!
มิน่าเจ้าเสือดำดื่มน้ำไปแค่หนึ่งวันขนก็เงางามขึ้น หลี่ฮ่าวในตอนนั้นยังคิดว่าเพราะเจ้าเสือดำเป็นสุนัขเลยมีผลต่างออกไปเสียอีก
แต่วันนี้ลองคิดดูให้ดีอีกที…หลี่ฮ่าวก็ได้แต่สบถด่าคำหนึ่งในใจ!
ต้องเป็นเพราะเจ้าเสือดำดื่มน้ำถ้วยแรกไป พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติเลยมีมากกว่าแหง!
วันนั้นเขาดื่มน้ำถ้วยที่สอง ของดีๆ ถูกเจ้าเสือดำดื่มไปแล้ว นี่เขาได้ดื่มน้ำที่มีแค่เศษพลังหลงเหลืออยู่อย่างนั้นหรือ
ครั้นนึกถึงเจ้าเสือดำหลี่ฮ่าวก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้
ทำไมวันนี้เจ้าเสือดำไม่มีความเปลี่ยนแปลงอะไรเลย!
ทว่าพอหลี่ฮ่าวหันมองก็ต้องชะงักไป
ตอนนี้เจ้าเสือดำกำลังนอนหงายท้องเลียนแบบท่าเมื่อครู่ของหลี่ฮ่าว จังหวะหายใจจากปากของสุนัขไม่ต่างจากหลี่ฮ่าวเท่าไร
เจ้าหมอนี่…กำลังฝึกวิชาอยู่!
“นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย”
หลี่ฮ่าวชะงักไปครู่หนึ่ง เจ้าเสือดำเข้าใจภาษาของตน หลี่ฮ่าวยังพอเข้าใจได้
แต่…หมอนี่กลับมีความสามารถในการเรียนรู้ที่เก่งกาจขนาดนี้เชียวหรือ
นี่มันกำลังฝึก ‘วิชาคายรับห้าปาณภูต’ เลียนแบบตนเลยเหรอ!
แต่ด้วยหลี่ฮ่าวที่หยุดฝึกไปแล้ว พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติก็ไม่ได้แผ่พลังออกจากจี้หยกกระบี่นี้อีกอีก พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติภายในห้องก็ค่อยๆ สลายหายไป ไม่นานหลี่ฮ่าวที่ยังมองอยู่ก็เห็นว่าเจ้าเสือดำซึมซับพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติไม่ได้อีกแล้ว
สุนัขลืมตาเห็นหลี่ฮ่าวจ้องมองตนอยู่ เจ้าเสือดำก็เด้งตัวขึ้นแล้วกระโจนใส่หลี่ฮ่าวทันที!
หลี่ฮ่าวเบี่ยงตัวเล็กน้อยเพื่อหลบการจู่โจมของเจ้าเสือดำ
แต่เจ้าเสือดำกลับไม่สนใจพลางหมอบลงกับพื้นแลบลิ้นเลียเท้าหลี่ฮ่าวไปมา
“ถอยไป!”
หลี่ฮ่าวเตะขาออกแล้วก้มลงไปลูบหัวของเจ้าเสือดำ พลางขมวดคิ้วน้อยๆ “นี่แกกำลังจะเก่งขึ้นอีกแล้วเหรอ”
เขาครุ่นคิด นี่คือเรื่องดีหรือเรื่องไม่ดีกันแน่นะ
เจ้าเสือดำให้ความรู้สึกเหมือนกำลังจะกลายเป็นมนุษย์เลย!
ในฐานะที่เป็นมนุษย์ธรรมดาและเป็นหนึ่งในสมาชิกของกองตรวจการณ์ ความคิดแรกของหลี่ฮ่าวคือจะก่อให้เกิดผลที่ไม่ค่อยดีตามมาหรือเปล่านะ?
……………………………………………………………….