ตอนที่ 19-3 คนไม่สู้สุนัข (3)

STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา

ตอนที่ 19 คนไม่สู้สุนัข (3)

“…”

หลิวหลงพูดไม่ออก เพราะเวลานี้หมอนี่กลับนึกถึงเรื่องนี้เสียได้

เขาร้องไห้ไม่ได้หัวเราะไม่ออกพร้อมพยักหน้าไป “เพิ่มแล้ว เพิ่มตั้งแต่วันแรกที่คุณเข้ามาแล้ว ได้เดือนละหนึ่งหมื่นเหรียญดารา!”

หลี่ฮ่าวใจสั่นน้อยๆ “งั้นก็แปลว่าเงินเดือนสูงกว่าผู้ตรวจการณ์ระดับหนึ่งแล้วสิ”

ผู้ตรวจการณ์ระดับหนึ่งยังแค่แปดเก้าพัน แน่นอนว่าถ้าบวกโบนัสอื่นๆ ก็คงเกินหมื่น

“อืม!”

หลิวหลงพยักหน้าและไม่พูดเรื่องนี้อีก “พูดเรื่องนี้แค่อยากให้คุณเข้าใจว่าพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติมีค่ามาก! อย่าคิดว่ามันไร้ค่า ถ้าคุณไม่เข้าร่วมทีมล่าปีศาจ ทั้งชีวิตก็คงหาซื้อสองลูกบาศก์ได้ยาก!”

คราวนี้กลับเป็นหลี่ฮ่าวที่เผยยิ้มเอง

มีค่าอย่างนั้นเหรอ ไม่ผิดเลย

แน่นอนว่าเวลานี้เงินทองไม่สำคัญ เขาชักจะอดใจรอดูดซับมันไม่ไหวแล้ว

เขาอยากดูว่าพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติของที่นี่จะเหมือนกับที่อยู่ในจี้หยกกระบี่ของตนหรือเปล่า ศักยภาพดีกว่าหรือเปล่า

“พี่ใหญ่ แล้วผมจะดูดซับยังไงเหรอ”

เขามองไปทางหลิวหลง หลิวหลงยื่นสมุดเล็กๆ เล่มหนึ่งให้เขา “นี่เป็น ‘วิชาดึงพลังสู่ตัว’ ที่ผู้พิทักษ์รัตติกาลใช้ เป็นวิธีมาตรฐานในการสอนดึงพลังสู่ร่างกาย แม้แต่สมาชิกเหล่าพลังเหนือธรรมชาติข้างนอกก็ใช้วิธีนี้กัน!”

วิชาฝึกของผู้พิทักษ์รัตติกาลอย่างนั้นเหรอ?

หลี่ฮ่าวรู้สึกสนใจขึ้นมาฉับพลัน แล้วรีบรับหนังสือมาเปิดอ่านดู…

เป็นหนังสือขนาดเล็กเล่มบางมาก!

หลี่ฮ่าวความจำดีเยี่ยม กวาดตามองรอบเดียวก็พลิกไปหน้าสอง หน้าสาม…จากนั้นก็ไม่มีแล้ว!

มีแค่สามหน้า!

ราวๆ หนึ่งพันกว่าตัวอักษร

นี่ก็คือ ‘วิชาดึงพลังสู่ตัว’ ที่บรรดากลุ่มองค์กรใหญ่ต่างใช้กัน เป็นวิธีมาตรฐานที่ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติใช้ดูดซับพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติ

ส่วนหลี่ฮ่าว ตอนนี้กลับรู้สึกแปลกใจถึงขั้นสุด

ให้ตาย!

นี่…นี่ทำไมถึงดูคล้ายๆ วิธีการหายใจของวิชาห้าปาณภูตเลย

ไม่ใช่ ‘วิชาคายรับห้าปาณภูต’ ที่เพิ่งทำในภายหลัง แต่เป็นวิธีการหายใจที่หลี่ฮ่าวใช้ฝึกเคล็ดวิชาลิงตั้งแต่แรก

วันแรกที่หลี่ฮ่าวดื่มน้ำก็ใช้วิธีนี้ ซึ่งความจริงแล้วมีผลต่อพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติน้อยมาก

หากว่า ‘วิชาคายรับห้าปาณภูต’ สามารถดูดพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติได้เจ็ดส่วน เช่นนั้นวิธีหายใจที่เขาใช้ในทีแรก อย่างมากก็เก็บพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติได้เพียงสามส่วน ส่วนที่เหลือก็กระจายหายไปหมด

ส่วน ‘วิถีดึงพลังสู่ตัว’ นี้ เท่าที่หลี่ฮ่าวอ่านดู อย่างมากก็อยู่ในระดับเดียวกับวิธีการหายใจที่เขาเริ่มฝึกทีแรก

ขณะที่หลี่ฮ่าวกำลังคิด หลิวหลงยังเอ่ยเตือนอีกว่า “อันนี้ห้ามแพร่งพรายออกไปเด็ดขาด! ถึงแม้จะมีกลุ่มองค์กรจำนวนไม่น้อยที่ได้มันไปแล้วแต่ก็กล้าแค่แอบใช้ ถ้าผู้พิทักษ์รัตติกาลเจอเมื่อไรก็จะถูกลงโทษอย่างหนัก! แน่นอนว่าถ้าคนในกองตรวจการณ์ใช้ย่อมไม่มีปัญหาอะไร แค่ห้ามแพร่งพรายให้คนอื่นรู้ก็พอ!”

เขาพูดด้วยเสียงจริงจังอย่างมาก ส่วนหลี่ฮ่าว…ทำได้แค่พยักหน้ารับ

เขาทำขั้นตอนนี้ได้ตั้งแต่หลายปีก่อนแล้ว แน่นอนว่าไม่ได้คล้ายกันเสียทีเดียว แต่ก็ไม่ต่างกันเท่าไร

ตอนนี้เรามี ‘วิชาคายรับห้าปาณภูต’ แล้วเลยคร้านจะเรียนวิธีนี้

ทว่าอาจารย์ก็เคยบอกแล้วว่าห้ามแพร่งพรายให้ใครรู้ หลี่ฮ่าวจึงไม่คิดจะใช้ ‘วิชาคายรับห้าปาณภูต’ แต่เลือกจำ ‘วิถีดึงพลังสู่ตัว’ เอาไว้ ก่อนที่หลี่ฮ่าวจะตอบกลับไปอย่างไวว่า “พี่ใหญ่ ผมจำได้แล้ว เริ่มได้หรือยังครับ”

หลิวหลงหยักหน้ารับ เขามองอวิ๋นเหยาแวบหนึ่งก่อนที่อวิ๋นเหยาจะปริเสียงว่า “ยื่นมือขวาออกมา!”

เธอเปิดช่องเล็กๆ ตรงกระจกครอบผลึกเหมันต์แต่พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติไม่ได้เล็ดลอดออกมา ระบบการป้องกันมีความพิเศษ พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติข้างในจะไม่กระจายออกมาแต่ถูกจำกัดไว้แทน

หลี่ฮ่าวยื่นมือออกไป อวิ๋นเหยาก็ชี้แล้วกล่าวว่า “สอดมือเข้าไป แล้วเริ่มใช้ ‘วิถีดึงพลังสู่ตัว’ พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติก็จะเข้าสู่ร่างกายของนายตามกลไกวิธีที่นายใช้ แต่จำเอาไว้ว่าถ้าประสิทธิภาพภายในร่างกายของนายซึมซับได้แย่เกินไปจนไหลออกนอกร่างกาย พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติก็จะหายไปอย่างรวดเร็ว…”

เรื่องนี้หลี่ฮ่าวทราบดี เขาถามไปอย่างฉงนว่า “แล้วทำไมไม่ให้ผมเข้าไปในกระจกครอบผลึกเหมันต์ละครับ แบบนี้ต่อให้ไหลออกมาก็ดูดเข้าไปอีกรอบได้”

นี่เป็นสิ่งที่เจ้าเสือดำทำ มันซึมซับพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติที่ไหลออกจากตัวหลี่ฮ่าว

ของล้ำค่าขนาดนี้ก็หมุนเวียนใช้ไปสิ!

อวิ๋นเหยาหัวเราะ “อย่างแรก กระจกครอบผลึกเหมันต์ใหญ่ขนาดนี้ เสี่ยงมากไป! อย่างที่สอง พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติที่ไหลออกจากตัว ถ้าใช้ซ้ำคุณภาพจะยิ่งต่ำลง และร่างกายจะขับพลังออกมามากกว่าเดิม! พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติถูกใช้ซ้ำมากเท่าไร คนสุดท้ายที่ได้รับก็จะมีโอกาสถูกขับพลังออกจากร่างกายมากเท่านั้น! พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติในห้องเก็บของนับว่าเป็นการใช้ซ้ำครั้งที่สองหรือครั้งที่สามแล้ว…”

เพราะนี่มาจากการช่วงชิงจากคนอื่น!

กล่าวโดยสรุป หากเกิดการใช้งานซ้ำก็สู้ให้มันกระจายไปเลยดีกว่า โอกาสในการขับออกมามาก นอกจากประสิทธิภาพแย่แล้วยังอาจจะเกิดอันตรายได้มากกว่าด้วย

“อย่างนี้นี่เอง…”

หลี่ฮ่าวเข้าใจพานนึกถึงเจ้าเสือดำขึ้นมา สุนัขตัวนี้ไม่สนใจเรื่องนี้ ดูท่าทางจะไม่เลือกมากเท่าไรด้วย ส่วนเรื่องอันตรายก็ไม่เห็นว่าจะมีอันตรายอะไรเลย เพราะมันก็ดูดซับพลังเพลิดเพลินเช่นเคย

ตอนนี้เขาได้สอดแขนเข้าไปข้างในแล้ว

จากนั้นก็เห็นพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติไหลเข้าฝ่ามือเขาได้ด้วยตาเปล่า

เป็นครั้งแรกที่หลี่ฮ่าวได้สัมผัสพลังลี้ลับเหนือธรรมชาตินอกจากจี้หยกกระบี่

อย่างแรกใช้ ‘วิถีดึงพลังสู่ตัว’

ต่อมาหลี่ฮ่าวก็ใจสั่นไหววูบหนึ่ง

ให้ตาย!

ความรู้สึกนี้มัน…แย่เหลือเกิน

ตอนเขาดูดซับพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติจากจี้หยกกระบี่ค่อนข้างรู้สึกสบายตัว เพราะมีกระแสอุ่นหลั่งไหลเข้ามาในตัว ถึงแม้จะรู้สึกอิ่มจนเริ่มลนแต่มันสบายมากจริงๆ

แต่การดูดซับพลังคราวนี้หลี่ฮ่าวกลับรู้สึกแย่มาก เขารู้สึกว่าพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติไม่เชื่อฟังเลยสักนิด มันไหลผ่านเข้าไปอย่างบ้าคลั่งจากตรงแขนกระทั่งไหลเวียนไปทั่วทั้งร่างกาย ซึ่งแรงกระแทกในร่างกายหนักหน่วงมากทีเดียว!

เขาแอบรู้สึกว่าร่างกายกำลังปฏิเสธเล็กน้อย!

“นี่ก็คือความรู้สึกถูกขับออกจากการใช้งานหลายครั้งที่อวิ๋นเหยาพูดถึงเหรอ”

หลี่ฮ่าวตระหนักขึ้นมาทันที ทั้งรู้สึกสงสัย ทั้งรู้สึกแปลกใจ เช่นนี้แล้วพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติในจี้หยกกระบี่ยังเป็นของมือหนึ่งอยู่ แต่พลังที่นี่กลับผ่านมือคนมาไม่น้อยแล้วสินะ!

ดังนั้นจึงดูดซับได้ยากกว่าและแรงกระแทกหนักหน่วงกว่าอย่างนั้นเหรอ?

ฉะนั้นพลังที่เจ้าเสือดำดูดซับไปก็ถือว่าเป็นของมือสอง ส่วนที่ตนกำลังดูดซับอยู่นั้นยังสู้ไม่ได้แม้แต่ของที่เจ้าเสือดำซึมซับเลย!

สุนัขยังดีกว่าคนมากโข!

หลี่ฮ่าวคิดในใจแต่กลับไม่กล้าแสดงออกมาให้เห็น

เขาพยายามใช้วิธีนี้เพื่อดูดซับพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติ

ท่ามกลางกระจกครอบผลึกเหมันต์ พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติหลั่งไหลสู่ร่างกายเขาไม่หยุด ตรงแขนของหลี่ฮ่าวเส้นเลือดแตกถึงขั้นเริ่มมีเลือดซึมออกมา นั่นเป็นเพราะแรงขับที่มากเกินไปเลยทำให้เส้นเลือดตามรูขุนขมแตก

“ของมือสองคุณภาพแย่กว่าจริงๆ!”

หลี่ฮ่าวสบถในใจ จู่ๆ ก็รู้สึกว่าพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติจากจี้หยกกระบี่ช่างหอมหวานเหลือเกิน!

เขาคิดมาตลอดว่าพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติจะอบอุ่น แต่ตอนนี้เข้าใจแล้วว่ามันรู้สึกแย่มากจริงๆ มิน่าถึงบอกว่าการดึงพลังสู่ตัวถึงขั้นตายได้ ก่อนหน้านี้เขายังไม่เข้าใจ แต่ตอนนี้เข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว!

แรงกระแทกรุนแรงขนาดนี้ ศักยภาพร่างกายของเขานับว่าแข็งแรงมากแล้ว แถมเส้นเลือดยังแตกอีกต่างหาก เกรงว่าหากเป็นคนธรรมดาทั่วไปเจอพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติไร้ธาตุเช่นนี้คงระเบิดตัวแตกไปแล้ว!

“ถ้าใช้ซ้ำสามสี่รอบ แม้แต่เราก็คงตายเหมือนกัน”

ทันใดนั้นเองเสียงของหลิวหลงก็ดังขึ้นข้างหู “ไม่เลว! ไม่ถือว่าถูกขับออกมามาก ดีมาก! เห็นทีศักยภาพร่างกายคุณยังใช้ได้เพราะมีเลือดไหลแค่นิดเดียว ผมนึกว่าต้องให้ผมช่วยคุณซะอีก…”

นี่ยังไม่ถือว่ามากอีกเหรอ?

หลี่ฮ่าวชักจะเห็นใจคนอื่นๆ ขึ้นมาฉับพลัน คนที่เพิ่งเคยดูดซับพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติครั้งแรกไม่เกือบตายเอาหรืออย่างไร

เขาพยายามไม่คิดถึงแรงขับเหล่านั้น แล้วค่อยๆ ดูดซับพลังเข้าสู่ร่างกายไม่หยุด

ผ่านไปครู่หนึ่งเสียงหลิวหลงก็ดังแว่วขึ้นมาอีกครั้ง “พอแล้ว ดึงแขนออกได้แล้ว ทำแผลสักหน่อย สองวันนี้ฝึกเยอะๆ ผลลัพธ์ใช้ได้ เพราะอย่างน้อยก็เก็บพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติได้ถึงสามส่วน! ใช้ได้!”

ส่วนหลี่ฮ่าวกลับหน้าชาเล็กน้อย

หมดแล้วเหรอ?

หมดแล้ว!

พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติสองลูกบาศก์ หมดไปแค่นี้หรือ!

โอ้โห!

เขาสัมผัสได้ถึง อารมณ์…อารมณ์เหมือนพอๆ กับน้ำแช่จี้หยกมือสองที่เจ้าเสือดำเหลือไว้ให้ในคืนแรกละมั้ง

แค่นี้เองเหรอ?

สองล้านเลยนะ?

เรา…

หลี่ฮ่าวหมดคำจะพูดขึ้นมาชั่วขณะ และรู้สึกผิดหวังอย่างเปี่ยมล้น

ให้ตาย!

น้อยเกินไปหรือเปล่า นี่ยังสู้ปริมาณที่ตนดูดซับไปเมื่อคืนไม่ได้เลย ไม่สิ ห่างชั้นกันมากโข!

ครั้นเห็นหลี่ฮ่าวแน่นิ่งหลิวหลงก็ทำหน้าเสียดายขึ้นมาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่งว่า “เห็นความสุดยอดและคุณค่าของพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติแล้วสินะ พยายามเข้าล่ะ อย่าทำให้ผมผิดหวัง! ถ้าครั้งนี้ทำได้ดี ฆ่าอีกฝ่ายได้สำเร็จ จบงานผมจะตบรางวัลให้คุณอีกสองลูกบาศก์!”

“…”

หลี่ฮ่าวยิ้มเกร็งๆ ก็เท่ากับว่าผมทำงานเหนื่อยสายตัวแทบขาด เสี่ยงชีวิตกำจัดเงาโลหิตแทบตาย แต่คุณแค่ตบรางวัลให้ผมสองลูกบาศก์อย่างนั้นเหรอ?

แบบนี้สุนัขตัวหนึ่งยังมีชีวิตดีกว่าเราด้วยซ้ำ!

เจ้าเสือดำ ดูดพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติฉันไปเท่าไรแล้วนะ!

วินาทีนี้หลี่ฮ่าวเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าทำไมเงาโลหิตถึงเพ่งเล็งไปที่อาวุธของแปดตระกูลใหญ่ ถ้าเปลี่ยนเป็นเรา เราก็คงไม่ต่างกัน!

…………………………………………………………………..