ตอนที่ 22-3 ปรมาจารย์นักรบพันยุทธ์ (3)

STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา

ตอนที่ 22 ปรมาจารย์นักรบพันยุทธ์ (3)

หยวนซั่วมีพลังที่แท้จริงแกร่งกล้า วิชาคายรับห้าปาณภูตก็แข็งแกร่งเลยทำให้ดูดซับกระแสอุ่นหมดในคราวเดียวไม่มีรั่วไหลออกมาแม้แต่น้อย นี่ยังไม่พอให้เขาดูดซับด้วยซ้ำแล้วจะเหลือให้รั่วไหลได้อย่างไรเล่า

อีกอย่างพลังแสงดารา เดิมทีก็ดูดซับง่ายกว่าพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติอยู่แล้ว

หมดเกลี้ยงในพริบตา!

วินาทีนี้หยวนซั่วแสดงท่าทีไม่พอใจและหิวกระหายปรากฏให้เห็น แต่วินาทีถัดมาเหมือนนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้เลยถอนหายใจเสียงเบา

เขารู้สึกเสียดายอย่างบอกไม่ถูกแต่บนหน้าก็ยังเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย “ใช้ได้ แต่ของพวกนี้…เธอเก็บไว้ให้ตัวเองใช้เถอะ! กระบี่ของเธอ ไม่ธรรมดา! เพียงแต่พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติประเภทนี้น่าจะน้อยมาก…เธออย่าใช้ฟุ่มเฟือยเลย ประหยัดใช้หน่อยเถอะ”

“อาจารย์ ใช้ได้ผลไหมครับ”

หลี่ฮ่าวกลับทำหน้าคาดหวังโดยไม่สนใจว่าอาจารย์จะพูดเช่นใด

“งั้นๆ!”

หยวนซั่วตอบเสียงกลั้วหัวเราะ “ก็งั้นๆ แหละ!”

เขาเข้าใจวัตถุเหนือธรรมชาติดีว่าในนั้นกักเก็บพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติไม่มากเท่าไร

เขาแก่แล้ว!

ดูดซับทั้งหมดก็ใช่ว่าจะเห็นผลอะไร

เก็บไว้ให้หมอนี่ใช้เองดีกว่า!

ถ้าให้ตนใช้ก็ออกจะสิ้นเปลืองไปสักหน่อย

นาทีนี้ความคิดนับหมื่นนับพันไหลพรั่งพรูเข้ามาในหัวของหยวนซั่ว ถึงขั้นคิดขึ้นมาชั่ววูบหนึ่งว่า…หากเป็นอดีตคงจะขอมาเสียดื้อๆ แล้ว

แต่ตอนนี้ ช่างมันเถอะ

อายุมากแล้ว ใจอ่อนแล้ว บวกกับรู้ว่าพลังแบบนี้มีไม่มาก อารมณ์ชั่ววูบเมื่อครู่ดับหายไปในพริบตา หยวนซั่วเอ๋ยหยวนซั่ว อย่าทำลายภาพลักษณ์อาจารย์ที่แสนดีในสายตาของลูกศิษย์แกสิ

“งั้นๆ เหรอ”

หลี่ฮ่าวได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกผิดหวังอย่างบอกไม่ถูก

ไม่ได้ผลอะไรเลยเหรอ

ไม่ควรเป็นแบบนั้นเลยนี่นา!

แน่นอนว่าอาจจะเพราะอาจารย์แข็งแกร่งเกินไป น้ำแค่แก้วเดียวเลยน้อยไปหรือเปล่านะ

พอคิดได้ดังนี้หลี่ฮ่าวก็ยังไม่ยอมแพ้รีบพูดขึ้นว่า “อาจารย์ ถ้าดื่มอีกหลายๆ แก้ว…”

“ช่างเถอะ!”

หยวนซั่วพูดขัดเขา

หลี่ฮ่าวยังไม่ยอมแพ้ “อาจารย์ ต้องเป็นเพราะอาจารย์ดื่มน้อยเกินไปแน่ๆ! อาจารย์แข็งแกร่งเกินไปเลยไม่เห็นผล…น้ำแก้วนี้ผมแค่เอาให้ลอง ถ้าดื่มมากกว่านี้น่าจะเห็นผลอยู่บ้าง…วันก่อนหมาของผมตัวหนึ่งดื่มไปหนึ่งแก้ว ขนดูเงาขึ้นมากเลยครับ!”

หลี่ฮ่าวโพล่งออกไป “อาจารย์ ดื่มน้ำไม่ได้ผลก็ลองดูดซับโดยตรงดู! เมื่อคืนผมลองดูดซับแล้วน่าจะได้ปริมาณราวๆ สิบเท่าของน้ำหนึ่งแก้ว พอจะได้ผลอยู่บ้างครับ…”

หยวนซั่ว “…”

เขามองหลี่ฮ่าวเงียบๆ

หมาหนึ่งตัวดื่มไปมากเหรอ

เมื่อคืนหลี่ฮ่าวดูดซับได้ถึงสิบเท่าเลยเหรอ

นี่มันอะไรกันแน่เนี่ย!

ตอนนี้หยวนซั่วชักจะเริ่มงงขึ้นมาแล้ว

ลำพังแค่จี้หยกกระบี่จิ๋วของหลี่ฮ่าว ขนาดเล็กแค่นั้นจะกักเก็บพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติได้เท่าไร เขาหลับตายังเดาได้เลย

แต่…หลี่ฮ่าวกำลังพูดอะไรอยู่กันแน่!

กระบี่ตระกูลหลี่ หรือว่าจะมีความพิเศษแตกต่างกว่าจริงๆ

วินาทีนี้หยวนซั่วรักษาภาพพจน์ที่แสนดีไม่ได้อีกต่อไป กระแอมไอทีหนึ่งแล้วเอ่ยถามด้วยเสียงทุ้มต่ำที่ดูกดดัน “เธอ…เสี่ยวฮ่าว เธอหมายถึง เธอยังมีพลังประเภทนี้อยู่มากเหรอ”

“ไม่รู้สิครับ!”

หลี่ฮ่าวส่ายหน้า “แต่เมื่อคืนผมดูดซับไปหน่อยหนึ่ง พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติที่ไหลออกมาก็ไม่เห็นลดน้อยลงเลย! ผมคิดว่าน่าจะมีอยู่ไม่น้อย ไม่แน่ถ้าอาจารย์ดูดซับไปจนหมดอาจจะเห็นผลอยู่บ้าง”

“ไม่เห็นลดน้อยลงเลยเหรอ”

หยวนซั่วลูบหนวดอีกทีแล้วมองหลี่ฮ่าวอีกหน “น้ำแช่เมื่อกี้ แค่แช่ไปแบบลวกๆ ใช่ไหม”

“ใช่ครับ!”

“…”

หยวนซั่วดึงหนวดขาดหนึ่งเส้นแล้วเป่าให้หนวดปลิวลอยไป

เขามองหลี่ฮ่าวอีกครั้งด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป

จริงหรือ

เป็นไปได้อย่างไรกัน!

“เธอ…หรือว่า…ลองเอาให้ฉันดูดซับดูอีกหน่อยดี”

หยวนซั่วเกิดหวั่นไหวขึ้นมาอย่างควบคุมไม่อยู่ ก่อนหน้านี้เขาอยากเก็บไว้ให้หลี่ฮ่าว แต่พอนึกถึงว่าแม้แต่หมาเจ้าเด็กนี้ยังป้อนให้ได้ ช่างใช้สิ้นเปลืองจริงๆ แบบนั้นฉัน…ฉันลองดูดซับอีกสักหน่อยไม่ดีกว่าหรือ

ครั้นหลี่ฮ่าวเห็นอาจารย์ยอมถึงพรูลมหายใจอย่างโล่งอกทีหนึ่ง จากนั้นก็รีบถอดจี้หยกกระบี่ออกมาแล้วยื่นส่งให้อาจารย์

หยวนซั่วรับจี้หยกกระบี่ไปพลางย่นคิ้วน้อยๆ

เขาไม่รู้สึกถึงกลิ่นอายเหนือธรรมชาติอะไรเลย!

นี่อยู่ในสถานะปกป้องตัวเองหรืออยู่ในสภาวะหลับใหลกันแน่นะ

หรือว่าต้องให้หลี่ฮ่าวกระตุ้นมัน

อาวุธในบทเพลงพื้นบ้านดูไม่ธรรมดา ซึ่งต่างจากวัตถุเหนือธรรมชาติบางส่วนที่เขาเคยพบเห็นมาก่อน

“ดูดซับได้ไหมครับ”

หยวนซั่วคิดๆ แล้วก็เริ่มใช้วิชาคายรับเบาๆ จากนั้นกระแสไออุ่นก็ไหลทะลักออกมา!

“อา!”

หยวนซั่วครางออกเสียงพลันก็รู้สึกสบายแทรกซึมเข้ากระดูก นี่มันสบายกว่าตอนหาความสุขใส่กายในวัยหนุ่มมากโข

เยอะจัง!

พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติพิเศษเข้มข้นเหลือเกิน!

เขาดูดซับพลังได้จริงๆ!

ณ ตอนนี้เหมือนหยวนซั่วกำลังล่องลอยอยู่ในอากาศทั่วทุกทิศ

เขาเริ่มรู้สึกเมาขึ้นมาหน่อยแล้ว!

พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติอันแข็งแกร่งทะลักออกมาไหลเข้าสู่ร่างกายเขา

ตอนนี้หัวใจของเขากำลังดูดซับพลังลี้ลับเหล่านี้อย่างบ้าคลั่ง

ไม่เพียงแค่หัวใจ แต่ส่วนอื่นๆ ภายในร่างกายเขารวมถึงรอยแตกร้าวในส่วนลึกของเส้นเลือดฝอยต่างๆ ก็กำลังดูดซับอย่างรวดเร็ว รอยบาดแผลตามกระดูกก็ดูดซับเช่นกัน ทั่วทั้งร่างกายเขาไม่มีส่วนไหนที่ไม่ดูดซับพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติเหล่านี้เลย

ร่างกายของเขาคล้ายกระหายสิ่งเหล่านี้เหลือเกิน

เพราะอดีตเขาเป็นถึงปรมาจารย์นักรบที่เกือบจะเลื่อนขั้นเป็นพันยุทธ์ กระทั่งเป็นบุคคลที่เรียกได้ว่าปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่

แต่นี่ก็แสดงว่าความจริงแล้วบาดแผลที่เขาทิ้งไว้มีอยู่มาก

สบายเนื้อสบายตัวราวกับอยู่บนโลกแห่งเซียน!

ตอนนี้หยวนซั่วลืมเรื่องที่จะเหลือไว้ให้หลี่ฮ่าวอย่างสิ้นเชิง เขาต้องการพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติพวกนี้มากเหลือเกิน

นี่มันยาวิเศษชัดๆ!

ดูดซับอีกนิด ดูดซับอีกนิด ขอฉันดูดซับอีกนิดนะ…

ภายในใจผุดความคิดนี้ขึ้นมา

สักพักหนึ่งผ่านไป หยวนซั่วที่อยู่ในสภาวะจิตใจของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ก็ได้สติกลับคืนมาและตระหนักได้ทันที

การเรียกสติกลับคืนมาภายใต้สภาวะเช่นนี้ช่วยทำให้สภาวะทางจิตใจของหยวนซั่วแข็งแกร่งเกินมนุษย์แล้ว!

มือหนึ่งของเขากำจี้หยกกระบี่ ส่วนอีกมือหนึ่งกำหมัด พยายามสงบสติให้ตัวเองใจเย็นลง

เขามองหลี่ฮ่าวด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เอ่ยเสียงเรียบว่า “ปัญหาของเธออาจจะใหญ่กว่าที่คิด!”

“…”

หลี่ฮ่าวงุนงง อาจารย์กำลังดูดซับพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติไม่ใช่หรือ

จู่ๆ ก็พูดเรื่องนี้ หรือว่าอาจารย์คิดจะปล้นเราอย่างนั้นหรือ

เขาอยากบอกว่าผมยังมีหินมีดอยู่อีกด้วย จี้หยกกระบี่ของสืบทอดจากบรรพบุรุษ หรือว่าอาจารย์ลองเป็นปืนไหม

“ของสิ่งนี้…วิเศษกว่าสิ่งเหนือธรรมชาติที่ฉันเคยเจอมาทั้งหมด คนที่เพ่งเล็งสิ่งนี้อาจจะรู้ว่าเจ้านี่มีคุณค่ามากแค่ไหน ถ้าคนพวกนั้นรู้เข้า ปัญหาของเธอคงเกินกว่าที่คาดคิดเอาไว้แน่นอน! อีกฝ่ายเองก็ต้องหาทางครอบครองมันให้ได้ ประเด็นอยู่ที่…กระบี่เล่มนี้อาจจะยังไม่ถูกเปิดผนึก!”

ใช่แล้ว ยังไม่ได้ถูกเปิดผนึก

จากคนมากประสบการณ์อย่างหยวนซั่วยังรู้สึกตกตะลึง

กระบี่เล่มนี้ยังไม่ถูกเปิดผนึกร้อยละแปดถึงสิบแน่นอน

บางทีพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติที่เขาดูดซับไปอาจเป็นพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติเพียงส่วนหนึ่งที่กักเก็บอยู่ในกระบี่ ไม่ใช่ของที่มีค่ามากที่สุด เพราะของที่มีค่ามากที่สุดคงเป็นตัวกระบี่

ดังนั้นหยวนซั่วในตอนนี้จึงแทบอดใจไม่ไหว

เขาพอจะคาดคิดได้ว่าหากถูกเปิดผนึกเมื่อไร กระบี่เล่มนี้จะดึงดูดสายตาของคนไม่น้อยทีเดียว

“แปดตระกูลใหญ่แห่งเมืองหยิน…”

หยวนซั่วพึมพำทีหนึ่ง

เมืองเล็กอย่างเมืองหยิน ในความคิดเขานั้นต่อให้จะมีตำนานเล่าขานว่ามีแปดตระกูลใหญ่ แล้วอย่างไรล่ะ

โลกนี้กว้างใหญ่นัก เมืองหยินเล็กจนน่าตกใจ

แปดตระกูลใหญ่ของที่นี่จะเก่งกาจสักแค่ไหนเชียว

……………………………………………………………….