ตอนที่ 29 พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติธาตุสุดแปลก (1)
ไม่ว่าจะหลิวหลงหรือทั้งทีมล่าปีศาจ หลี่ฮ่าวก็ไม่ได้รู้จักอย่างลึกซึ้งเท่าไร
เขาอยู่กองตรวจการณ์หนึ่งปี อีกทั้งไม่ค่อยได้ปฏิสัมพันธ์กับทีมปฏิบัติการณ์เหล่านี้มากนัก
แต่หลังจากรู้จักกันไม่กี่วันนี้ ความรู้สึกกลับค่อยๆ เปลี่ยนไป
ครั้งแรกที่ได้ยินหลิวหลงบอกว่าเป็นผู้ผดุงความเที่ยงธรรม ในใจหลี่ฮ่าวกลับเย้ยหยัน!
จอมปลอมสิ้นดี!
ใช้ความเที่ยงธรรมเป็นข้ออ้างในการฆ่าคนช่วงชิงพลัง เช่นนี้นับว่าเป็นความเที่ยงธรรมด้วยเหรอ
ไว้ปลอบตัวเองอย่างเดียวเถอะ!
แต่พวกโง่เง่าในทีมล่าปีศาจดันคิดจริงจังเสียได้
แน่นอนว่าหลี่ฮ่าวไม่ได้แสดงออกมา คิดว่าเป็นอย่างนี้ก็ไม่เลว
ครั้งที่สองที่ได้ยินหลิวหลงบอกว่าเป็นผู้ผดุงความเที่ยงธรรม หลี่ฮ่าวกลับเริ่มสงสัยในตัวเองขึ้นมาเล็กน้อย การผดุงรักษาอย่างที่หลิวหลงเอ่ยถึงคือการผดุงรักษาอย่างแท้จริง หรือเพียงเพื่อต้องการพลังที่ยิ่งใหญ่ แล้วถือโอกาสฆ่าพวกที่มีพลังเหนือธรรมชาติที่คอยสร้างความปั่นป่วนแก่เมืองหยินไปด้วย นี่ยังนับว่าเป็นความเที่ยงธรรมได้ไหมนะ
ความจริงเขายังมีข้อกังขาเล็กๆ เหล่าสมาชิกในทีมไล่ล่าผู้มีพลังเหนือธรรมชาติด้วยเป้าหมายอะไร
จุดประสงค์คืออะไร?
เพื่อจะให้ตนแข็งแกร่งมากขึ้น?
พลังเหนือธรรมชาติเหมือนจะอันตรายมากเหมือนกัน
คนปกติทั่วไปใช่ว่าจะสุขสบายน้อยกว่าผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ หากหลี่ฮ่าวไม่ถูกเงาโลหิตจับตาดูอยู่ ใช่ว่าเขาใฝ่ฝันอยากจะเข้าสู่ขอบเขตพลังเหนือธรรมชาติ อดีตอาจารย์ก็เคยเอ่ยถึงความเป็นอยู่ของกลุ่มองค์กรพลังเหนือธรรมชาติ อย่างเช่นผู้พิทักษ์รัตติกาลให้ฟัง หลี่ฮ่าวรู้จักองค์กรนี้ แค่ไม่รู้จักชื่อที่แท้จริงก็เท่านั้นเอง
เมื่อนั้นความจริงหลี่ฮ่าวไม่ได้คิดอะไรมาก คิดแค่ว่าพวกเขาอยู่กันคนละโลก
ตอนนี้จำต้องเข้ามาอยู่ในขอบเขตนี้ด้วยความจำเป็นเท่านั้น
หลี่ฮ่าวคิดในใจไม่ได้พูดออกมา
เขาชอบอยู่เงียบๆ
บางครั้งจะพูดมากหน่อยก็เพื่อจุดประสงค์อย่างอื่น แค่อยากบรรลุเป้าหมายตนเท่านั้น ตั้งแต่หนึ่งปีก่อนเขาก็เริ่มสวมหน้ากากจอมปลอมประดับรอยยิ้มเสแสร้งเอาไว้แล้ว
……
จากนั้นก็ตามหลิวหลงมุ่งหน้าสู่ห้องเก็บของอีกครั้ง
ครั้งนี้ไม่เพียงแต่อวิ๋นเหยา แต่คนอื่นๆ ก็ตามมาด้วยเช่นกัน
หลิวเยี่ยนโอบหลี่ฮ่าวอย่างไม่ถือสาด้วยความกระตือรือร้น ฉีกยิ้มกว้างเอ่ยว่า “เสี่ยวฮ่าวฮ่าว ไม่ธรรมดาเลย เพิ่งเข้าร่วมทีมมาได้ไม่กี่วันก็ได้ดูดซับพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติครั้งที่สองแล้ว ตอนที่พี่สาวเพิ่งเข้ามาใหม่ๆ ครั้งแรกกับครั้งที่สองเว้นช่วงไปถึงสามเดือนเต็มแหนะ!”
หลี่ฮ่าวขยับไหล่น้อยๆ
พี่สาวท่านนี้ไม่ถือตัวสักนิดจริงๆ แทบจะเกยทับตัวเขาอยู่แล้ว เพลาๆ หน่อยเถอะ
“ขยับอะไรกัน ปวดไหล่เหรอ คืนนี้พี่สาวนวดให้ไหม”
“…”
หลี่ฮ่าวหมดคำจะพูด
ท่านผู้นี้…ตามตอแยไม่เลิก
หลิวหลงที่อยู่ตรงหน้าไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย
เขาคร้านจะสนใจพฤติกรรมของหลิวเยี่ยนแล้ว
ห้าคนที่มีชีวิตรอดของทีมล้วนมีเรื่องราวเป็นของตัวเอง และมีความคิดของใครของมัน
นับตั้งแต่ทีมล่าปีศาจก่อตั้งจนถึงตอนนี้เสียชีวิตไปทั้งหมดยี่สิบสองคน เหลือพวกเขาเพียงไม่กี่คน ใครเล่าจะไม่มีเรื่องในใจบ้าง บางครั้งเขารู้แต่กลับไม่ยอมพูดเสียมากกว่า
ผ่านวันนี้ไปจะมีชีวิตพรุ่งนี้หรือเปล่ายังพูดยากเลย
“แกร๊ก!”
ประตูห้องเก็บของถูกเปิดออกอีกครั้ง
ภายในสามห้อง พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติอยู่ในห้องที่สาม
คราวก่อนที่มา หลี่ฮ่าวไม่รู้ว่าอีกสองห้องนั้นไว้เก็บอะไร
ครั้งนี้หลิวเยี่ยนมาด้วย หล่อนกลับมีน้ำใจดียิ้มอธิบายให้หลี่ฮ่าวฟัง “ในนี้มีสามห้อง ห้องที่สามไว้เก็บพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติ สองห้องด้านหน้า นายรู้ไหมว่ามีอะไร”
“อาวุธปืนเหรอ”
“ผิด เจ้านั่นมีค่าพอไว้เก็บในห้องเก็บของเสียที่ไหนกัน!”
หลิวเยี่ยนหัวเราะเสียงร่วน “ห้องแรก เป็นพวกวัตถุเหนือธรรมชาติ อย่างเช่นอาวุธของผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ หรือหนังสือตำราของผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ สมุดไดอารี่ของผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ…โดยสรุปแล้ว นอกจากพวกที่โดนเราฆ่า เรายังเก็บรวบรวมจากที่อื่นได้อีกบางส่วนซึ่งล้วนเป็นของสัพเพเหระทั่วไป แต่คิดว่าน่าจะมีราคาเหมือนกัน เพียงแต่เราแยกแยะได้ยาก!”
หลี่ฮ่าวพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
“แล้วห้องที่สองล่ะ”
“ห้องที่สอง”
หลิวเยี่ยนสายตายังคงเปื้อนยิ้มเช่นเดิม แต่พอหลี่ฮ่าวหันมองกลับรู้สึกว่ารอยยิ้มนี้…ดูพิกลแปลกๆ
หลิวเยี่ยนหัวเราะเสียงร่วนเอ่ย “ห้องที่สองน่ะน่าสนใจเชียว! คนทั่วไปเข้าไม่ได้ นับว่าเป็นสถานที่สำคัญที่สุดของทีมเรา สำคัญยิ่งกว่าห้องลับของพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติเสียอีก พี่สาวขอเตือนนายไว้ก่อนนะ ทางที่ดีอย่าเข้าไป!”
ของดีหรือ
ของดีอะไรที่แม้แต่ดูยังดูไม่ได้
หลี่ฮ่าวเกิดข้อสงสัยขึ้นมา
ขณะนั้นเองหลิวหลงที่อยู่ตรงหน้าก็หันมามองหลิวเยี่ยนแวบหนึ่ง เอ่ยเสียงเย็นชาว่า “สนุกพอหรือยัง”
หลิวเยี่ยนหัวเราะปล่อยแขนออกจากคอของหลี่ฮ่าว ตอบเสียงอ้อนว่า “ลูกพี่ อย่าดุขนาดนี้สิ ก็แค่ไม่ได้เล่นกับพี่เอง หึงเหรอ”
หลิวหลงทำหน้านิ่งเหมือนเดิมไม่ได้เคืองโกรธอะไร
เพียงแค่ปรายตามองห้องลับที่สองวูบหนึ่ง หลังจากเงียบไปอึดใจหนึ่งก็ก้าวเท้าไปยังห้องลับที่สาม
หลี่ฮ่าวก็มองห้องลับที่สองตามแวบหนึ่ง ครั้งนี้เขาชักแปลกใจขึ้นมาตงิดๆ แล้วสิ
ก่อนหน้านี้หลิวหลงไม่ปริเสียงพูดอะไร แต่พอหลิวเยี่ยนพูดถึงห้องลับที่สอง หลิวหลงถึงมีท่าทีขุ่นเคืองหน่อยๆ ข้างในนั้นเก็บอะไรไว้นะ
ไม่มีเวลาให้เขาได้คิด
ประตูห้องลับที่สามก็ถูกอวิ๋นเหยาเปิดออก
คุณหมอหญิงท่านนี้เงียบเสมอต้นเสมอปลาย ไม่พูดมาก แต่ทุกครั้งที่มองไปจะเห็นอวิ๋นเหยาพยักอมยิ้ม ไม่เป็นอย่างที่หลิวเยี่ยนพูดไว้ว่าดุเลยสักนิด รู้สึกว่าค่อนข้างเป็นมิตรมากทีเดียว
ภายในกระจกผลึกเหมันต์ พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติหลากหลายสีสันกำลังปรากฏอยู่ตรงหน้าทุกคน
ยังเหลือพลังอีกสิบลูกบาศก์ถูกเก็บไว้ภายในกระจกครอบผลึกเหมันต์
อวิ๋นเหยาเปิดปากอธิบาย “พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติสิบลูกบาศก์ที่เหลือล้วนมีธาตุทั้งสิ้น มาจากผู้มีพลังเหนือธรรมชาติสามท่าน!”
เธอชี้ไปยังพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติสีแดงเพลิงไฟด้านซ้าย อธิบายว่า “นี่เป็นพลังธาตุไฟ ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติท่านนี้ความสามารถใช้ได้ จุดสูงสุดของปรมาจารย์แสงดารา ถ้าเปลี่ยนเป็นปรมาจารย์นักรบ ก็เท่ากับว่าอยู่จุดสูงสุดในขอบเขตสิบสังหาร”
เธอนึกๆ แล้วก็อธิบายเสริมว่า “อย่าดูถูกปรมาจารย์แสงดาราที่อยู่จุดสูงสุดแม้แต่คนเดียว ตอนนั้นหัวหน้าหลิวอยู่ในระดับทะลวงร้อยแล้ว ที่จริงแข็งแกร่งกว่าอีกฝ่ายด้วย แต่ต่อให้เป็นอย่างนี้เราก็สูญเสียคนไปหลายชีวิตกว่าจะฆ่าอีกฝ่ายได้! พลังไฟของหมอนั่นแกร่งมาก ถ้าโดนตัวเข้าก็จะลามท่วมทั้งตัวอย่างรวดเร็ว ทุกคนที่ตายไปก็ถูกแผดเผาเหลือแต่ขี้เถ้าทั้งสิ้น!”
เฉินเจียนร่างอ้วนท้วมที่ยืนอยู่ข้างๆ เลิกเสื้อตัวเองขึ้นอย่างฉับพลัน เปิดช่วงหน้าอกให้ดู จากนั้นก็พบว่าตรงหน้าอกไม่ใช่ขนหน้าอกแต่เป็นรอยแผลเป็นขนาดใหญ่
เฉินเจียนยิ้มบางกล่าว “หลี่ฮ่าว นายต้องระวังพวกนี้เอาไว้! นี่ก็คือร่องรอยที่หมอนั่นทิ้งไว้ให้ฉัน แค่สะเก็ดไฟกระเด็นใส่นิดเดียวก็แทบจะลุกไหม้เผาตัวฉันเกือบตายแล้ว!”
หลี่ฮ่าวรู้ดีถึงความแข็งแกร่งของเขา
พลังป้องกันตัวสูงลิ่ว!
แต่แล้วนี่เป็นเพียงการป้องกันตัวตามกฎธรรมชาติ เมื่อเจอการจู่โจมจากพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติ สะเก็ดไฟเพียงน้อยนิดก็เกือบจะแผดเผานักสู้สายป้องกันท่านนี้เข้าให้!
น่ากลัวชะมัด!
หลี่ฮ่าวทำหน้าเคร่งเครียด พยักหน้ารับน้อยๆ
คิดๆ แล้วพลันก็เปิดปากเอ่ยว่า “เมื่อปี 1727 ชานเมืองทางใต้ของเมืองหยินเกิดเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ มีคนเสียชีวิตไป 128 คน จากการตรวจสอบพบว่าไฟฟ้าลัดวงจรเป็นเหตุให้เกิดไฟไหม้ในโรงงาน แต่มีผู้พบเห็นเหตุการณ์บอกว่า วันนั้นเห็นดาวตกร่วงมาจากฟ้า แล้วเผาโรงงานไปทั้งอย่างนั้นเลย…”
หลิวหลงทำท่าแปลกใจน้อยๆ มองเขาแวบหนึ่งแล้วพยักหน้าหงึกหงัก “คุณดูข่าวเยอะดีนี่ คดีนี้สิ้นสุดไปแล้ว! ฝีมือหมอนี่นั่นแหละ ก่อนที่หมอนี่จะมีพลังเหนือธรรมชาติ เขาเป็นแค่พนักงานที่ทำงานอยู่โรงงาน แต่เพราะชอบลักขโมยภายหลังเลยถูกไล่ออก! ปกติทุกคนจะรู้นิสัยของเขาดีถึงได้รังเกียจกันมาก หลังจากกลายเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ เขาก็กลับมาเมืองหยินเพื่อแก้แค้นคนเหล่านี้!”
…………………………………………………………………….