ตอนที่ 40 สุริยะพราย (1)
หลังจากดูดซับพลังของเงาโลหิตเข้าไป หลี่ฮ่าวก็รู้สึกเหมือนตัวเองแข็งแกร่งขึ้นจริงๆ
รู้สึกได้อย่างชัดเจนมาก
ชัดเจนยิ่งกว่าตอนได้ดูดซับพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติก่อนหน้านี้ทั้งหมดด้วยซ้ำ
หลี่ฮ่าวในขณะนี้กำลังใจฮึกเหิมอย่างมาก เขาพาเจ้าเสือดำวิ่งกลับไปพร้อมกัน เขากำลังคิดว่าจะมีเงาโลหิตมาด้วยอีกหรือเปล่า
……
ในเวลาเดียวกัน
ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่รวมรวบพลังสร้างธนูวารีออกมานับไม่ถ้วนกำลังจะทลายโล่คุ้มกันตัวของเฉินเจียนโดยหวังจะกำจัดเจ้าอ้วนน่ารำคาญนี้เสีย
ทันใดนั้นธนูวารีที่รวมรวบขึ้นมาก็แตกสลายกลายเป็นเพียงน้ำ
ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติธาตุน้ำคนนั้นกระอักเลือดออกมาอย่างมึนงง
ใช่แล้ว มึนงง
พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติถูกกลืนกิน!
เขาทำอะไรไป
เขาต่างหากที่ต้องเป็นต่อในสภาพแวดล้อมท่ามกลางสายฝนเช่นนี้ เขาไม่ได้ผลาญพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติถึงขีดสุดแล้วอยู่ดีๆ จะถูกกลืนกินได้อย่างไร
จากนั้นเขาก็ตัวแข็งทื่อเล็กน้อย
เงาโลหิต…หายไปแล้ว!
เหลือเชื่อแฮะ!
เขาเผยสีหน้านิ่งอึ้ง!
ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติดูอึ้งไปเล็กน้อย ทำท่าเหมือนเหลือเชื่อมากๆ
เพราะ…ไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาก่อน
เงาโลหิตไม่ใช่ของเขาแต่ถูกแจกจ่ายมาโดยทางองค์กร ผู้ที่แข็งแกร่งในองค์กรเป็นผู้แจกจ่ายให้แก่พวกเขาเอง และเคยบอกว่าเงาโลหิตเป็นร่างที่ไม่มีวันตายและดับสูญไปแน่นอน
ขอแค่เหลือชีวิตอยู่เพียงน้อยนิดก็ไม่มีวันดับสลายและจะเกิดใหม่ซ้ำๆ
ดังนั้นจึงไม่เคยเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาก่อน
ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติอย่างพวกเขากับเงาโลหิตจะมีสัมพันธ์ในเชิงพึ่งพาอาศัยกัน พวกเขาใช้พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติช่วยคงชีวิตของเงาโลหิตไว้ ส่วนเงาโลหิตก็จะช่วยพวกเขาจัดการในสิ่งที่พวกเขาทำไม่ได้
เฝ้าควบคุม สะกดรอยตาม ลอบฆ่า เงาโลหิตเป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดในองค์กรและเป็นสิ่งมีชีวิตที่ลี้ลับที่สุดด้วย!
เกรงว่าระดับขั้นสุริยะพรายเองก็ยังยากที่จะกำจัดเงาโลหิตได้เลย
พวกเขารับรู้อย่างชัดเจนดี แต่คิดจะฆ่าเงาโลหิตให้ถึงขั้นดับสลาย…มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
หลังจากเงาโลหิตเหลือพลังอยู่น้อยนิดจนร่างเกือบสลายหายไป ต่อให้เป็นพันยุทธ์หรือสุริยะพรายก็ไม่อาจสัมผัสได้ถึงพลังอันน้อยนิดนั้นแล้ว ดังนั้นตลอดหลายปีที่ผ่านมาเงาโลหิตจึงไม่เคยตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ!
ไม่เคยมีใครคิดว่าเงาโลหิตจะตายได้
ต่อให้ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติอย่างพวกเขาตายเงาโลหิตก็ไม่มีวันตาย ขอแค่ขาดการติดต่อทางองค์กรก็จะส่งคนมาตามเก็บคืนเอาภายหลัง การต่อสู้ครั้งนี้สูญเสียผู้มีพลังเหนือธรรมชาติไปหลายคน เงาโลหิตของพวกเขาก็อยู่ในภาวะรอรับคำสั่งทั้งสิ้น
หากไม่ได้รับคำสั่ง ใครก็ไม่อาจสัมผัสได้ ขอเพียงเงาโลหิตไม่ขยับ พันยุทธ์กับสุริยะพรายก็ไม่มีทางเห็น ดังนั้นองค์กรจะหาเวลาส่งคนมาตามเก็บทีหลัง
“เป็นไปไม่ได้…”
เขาไม่อาจเข้าใจได้
ในสถานการณ์ทั่วไปนั้นสภาวะทางจิตใจของผู้มีพลังเหนือธรรมชาติจะเทียบไม่ได้กับปรมาจารย์นักรบ
ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติส่วนมากล้วนประสบความสำเร็จภายในก้าวเดียวจึงไม่ได้เข้มแข็งอดทนเท่าปรมาจารย์นักรบ การต่อสู้โดยอาศัยเพียงพลังแล้วเอาชนะได้อย่างง่ายดาย หากเกิดเหตุที่คาดไม่ถึงขึ้น หลายครั้งสภาวะทางจิตใจก็เกิดปัญหา
วินาทีนี้ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติธาตุน้ำคนนี้ดูเหมือนจะตกอยู่ในภวังค์
ระหว่างการต่อสู้ถูกพลังกลืนกิน จากนั้นก็เหม่อลอย…
แต่ละคนในทีมล่าปีศาจ ใครบ้างไม่ใช่ปรมาจารย์นักรบที่มากประสบการณ์
โดยเฉพาะหลิวเยี่ยนที่ปกติดูไม่ค่อยเป็นคนจริงจัง ตอนนี้กลับมีปฏิภาณไหวพริบขั้นสุดยอดในการหาช่องโหว่
แทบจะเป็นเวลาเดียวกับที่ธนูวารีของอีกฝ่ายสลาย หลิวเยี่ยนก็สบโอกาสนี้หาช่องโหว่ปล่อยมีดสั้นสีดำออกไปในทันที!
เงียบเชียบไร้เสียง!
ส่วนเฉินเจียนก็ยกโล่ตามไป ขณะอู๋เชาที่อยู่ด้านหลังกระอักเลือดไม่หยุด ตอนนี้กลับดวงตาเป็นประกายตั้งสติแล้วรีบวิ่งล้อมอีกฝ่ายเพื่อเบี่ยงเบนสมาธิ
คุณหมออวิ๋นเหยาก็ล้วงหยิบลูกแก้วในมือหลายลูกอย่างเงียบๆ โยนใส่ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติธาตุน้ำราวกับไม่ได้ตั้งใจ
ตู้ม!
ตอนนี้ลูกแก้วระเบิดตัวออก พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติถาโถมเข้าใส่จนทำเอาผู้มีพลังเหนือธรรมชาติคนนั้นที่กำลังนิ่งตะลึงอยู่รู้สึกย่ำแย่ ไม่รอให้เขาได้ตอบโต้กลับมีดสั้นของหลิวเยี่ยนก็ถูกชักออกมา ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติยกแขนขึ้นสร้างเกราะน้ำกำบังตามสัญชาตญาณ แต่ป่านนี้แล้วจะทันเสียที่ไหน!
พรวด!
มีดสั้นปักลงตรงทรวงอกของอีกฝ่าย!
ตอนนี้ถึงได้สติตื่นเต็มตา!
ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติไม่มีเวลามาสนใจว่าทำไมถึงเกิดเรื่องกับเงาโลหิตได้ หรือทำไมตนถึงถูกพลังกลืนกินได้อีกต่อไป!
ในเมื่อเป็นถึงผู้มีพลังเหนือธรรมชาติจันทราทมิฬ ต่อให้โดนมีดแทงแต่กลับไม่อาจปลิดชีวิตเขาได้ ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติอยู่เหนือกว่าคนธรรมดาทั่วไปย่อมฆ่าตายไม่ได้ง่ายๆ พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติในร่างกายช่วยต้านรับเอาไว้ แม้จะบาดเจ็บแต่เขายังคงรอด!
เขาร้องคำรามเสียงต่ำทีหนึ่งก่อนจะมีเกาะกำบังน้ำผุดขึ้นมาอีกครั้งเพื่อป้องกันตัวเอง พร้อมกับธนูวารีที่โผล่มานับไม่ถ้วนพุ่งออกไปจากรอบตัว!
พวกหลิวเยี่ยนพากันร่นถอยทัพก่อนเฉินเจียนจะนำทีมบุกโจมตีอีกครั้ง
แกร๊ก!
ครั้งนี้ถึงคราวโล่น้อยๆ ของเขาต้านไม่ไหวแล้ว พริบตาเดียวก็ถูกธนูวารีแทงจนโล่ทะลุเป็นรอยร้าว!
เสียงพรวดดังขึ้นติดต่อน ธนูวารีนับไม่ถ้วนแทงเข้าร่างของเฉินเจียน
เฉินเจียนหน้าซีดเลือดไหลพรากออกจากตัว ใบหน้ามีรูเลือดพุ่งกระฉูดปรากฏอยู่ไม่น้อย มีรูหนึ่งปรากฏอยู่ข้างดวงตาจนลูกตาเขาแทบแหลกละเอียด
พวกหลิวเยี่ยนที่ถอยไปด้านหลัง ต่างทำหน้าตึงเครียดกันอย่างมาก
จันทราทมิฬ!
เทียบเท่ากับทะลวงร้อย ไม่ แต่เหนือกว่าทะลวงร้อยด้วยซ้ำ!
ก่อนหน้าฆ่าปรมาจารย์นักรบทะลวงร้อยได้หนึ่งคนทุกคนต่างตื่นเต้นกันมาก กระทั่งเธอคิดว่าเธอใกล้จะถึงขั้นทะลวงร้อยแล้วหรือเปล่า แต่เมื่อประชันฝีมือกันจริงๆ หากไม่มีหลิวหลงคอยนำทีมเธอถึงรู้ว่าจันทราทมิฬน่ากลัวแค่ไหน
พวกเขาร่วมมือกันทำให้อีกฝ่ายเกิดปัญหาแล้วยังสติหลุดลอยได้ เห็นได้ชัดว่าขาดประสบการณ์ลงสนามจริงไปสักหน่อย แต่ถึงขนาดนี้แล้วก็ยังฆ่าอีกฝ่ายไม่ตาย
กลับเป็นพวกเขาสี่คนที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากแทน!
อู๋เชาหมดสิ้นพลังการต่อสู้อย่างสิ้นเชิง ตอนนี้ถูกธนูวารีบางส่วนแทงเข้าเนื้อจนล้มนอนอยู่ข้างๆ ไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร
อวิ๋นเหยาเป็นคนมีไหวพริบจึงถอยได้ทัน แต่ขาก็อาบไปด้วยสีเลือดเช่นกัน
เฉินเจียนเป็นตัวป้องกันหลักจึงบาดเจ็บสาหัสกว่า
ตอนนี้มีเพียงเธอที่นับว่ายังปลอดภัยดี บนตัวมีเพียงรอยเลือดสองสามจุด ไม่ได้อาการหนักเท่าคนอื่นๆ
“พวกแกรนหาที่ตาย!”
ตอนนี้ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติคนนั้นเองก็บันดาลโทสะ ในเวลาเดียวกับที่เดือดดาลก็รู้สึกหวาดกลัวไปด้วย
เงาโลหิตล่ะ
คนพวกนี้เขาไม่ได้เห็นอยู่ในสายตา ประเด็นคือเงาโลหิตหายไปได้อย่างไร
เงาโลหิตตาย เกรงว่าหลังปฏิบัติภารกิจครั้งนี้สำเร็จกลับไปเขาต้องซวยตามไปด้วยแน่ เงาโลหิตไม่ใช่เรื่องเล็ก เมื่อไรที่เงาโลหิตตาย…แม้ว่าทางองค์กรจะไม่เคยบอกว่ามีผลลัพธ์อย่างไร แต่เขารู้ดีถึงรูปแบบการทำงานของเหล่าคนมีตำแหน่งในองค์กรมากเหลือเกิน
จบแล้ว!
ชีวิตของตนใช่ว่าจะสำคัญเท่าเงาโลหิตเสียหน่อย
ขณะที่เขากำลังคิดเรื่องนี้ ไม่ไกลจากตรงนี้หลี่ฮ่าวก็วิ่งแจ้นเข้ามาด้วยสีหน้าหวาดกลัว “พี่สาว ข้างหน้ามีสงครามระหว่างยอดฝีมือผู้แข็งแกร่งสองคน ผมเกือบตายเพราะแรงสะเทือนแหนะ รีบหนีเร็ว…”
หลิวเยี่ยนชะงัก ยอดฝีมือผู้แข็งแกร่งหรือ
สงครามหรือ
แต่สัมผัสถึงแรงสะเทือนไม่ได้เลยนี่นา!
………………………………………………………………………