ตอนที่ 46 ทะลวงร้อย (4)
“แผ่ออกมา…อาจารย์ แผ่ออกมายังไงเหรอครับ”
หยวนซั่วอธิบาย “ก็คือไม่ได้จงใจทำอะไรแต่เป็นปฏิกิริยาของร่างกายตามสัญชาตญาณ! เมื่อพลังภายในของเธอไปถึงลำดับขั้นทะลวงร้อยมันจะแผ่ทะลุออกโดยธรรมชาติ ทลายป้อมปราการ ศักยภาพร่างกายดีขึ้น พลังภายในแข็งแกร่งขึ้นก็เพียงพอแล้ว!”
ฟังเหมือนจะง่ายแต่ความจริง…หลี่ฮ่าวก็ยังคิดว่าง่ายมากอยู่ดี แผ่ทะลุออกหรือ เข้าใจแล้ว!
“ทะลวงร้อยเองก็มีอ่อนแอและแข็งแกร่งเช่นกัน แบบนี้จะแยกแยะได้ยังไงครับ”
หลี่ฮ่าวถามอีก
หยวนซั่วตอบต่อ “ทะลวงร้อย โลกปรมาจารย์นักรบตามธรรมเนียมเดิมของเรา โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็นระดับเริ่มต้น กลาง ปลายและสมบูรณ์! นี่ก็เปรียบเหมือนเสี้ยวจันทรา จันทราครึ่งซีก จันทราเต็มดวงของจันทราทมิฬในขอบเขตพลังเหนือธรรมชาติ…ความจริงเหนือกว่าจันทราเต็มดวง ก่อนจะก้าวสู่ขอบเขตสุริยะพรายยังมีระดับเดือนหงายซึ่งเทียบเท่าปรมาจารย์นักรบทะลวงร้อยระยะสมบูรณ์ เดือนหงายแล้วก็จะค่อยๆ เล็กลง ปรมาจารย์นักรบทะลวงร้อยระยะสมบูรณ์ก็เหมือนกัน! เมื่อไปถึงระดับสมบูรณ์หรือเดือนหงาย ถ้าเธอยังเลื่อนขั้นไม่ได้ เธอก็จะอ่อนแอลงเรื่อยๆ!”
เมื่อทุกอย่างไปถึงจุดสูงสุดก็จะเริ่มเสื่อมโทรมลงไม่ต่างจากน้ำเต็มแก้ว
หากบรรลุระดับสุดยอดของจันทราทมิฬกับทะลวงร้อยแล้วแต่ยังไม่สามารถเลื่อนขั้นได้สักที มัวแต่ย่ำอยู่กับที่เช่นนั้นก็คือจุดเริ่มต้นของความถดถอย
อดีตหยวนซั่วเคยอยู่ลำดับขั้นนี้มานานจึงรู้ซึ้งได้เป็นอย่างดีว่าหากอยู่ลำดับขั้นนี้แล้วไม่สามารถเร่งกำลังพุ่งทะลุตามเป้าไปได้ก็จะตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเขา หากไม่ใช่เพราะมีโอกาสอันเหมาะสม ชีวิตก็คงถึงจุดสิ้นสุดลงแล้ว
ความจริงหลิวหลงในตอนนี้ก็ติดค้างอยู่ตรงจุดที่ต้องกระเตื้องขึ้นบ้างแต่ดันติดอยู่ระดับนี้ไม่ไปไหน หากเขาไม่อาจพัฒนาขึ้นได้อีก ความสามารถในวันหน้าก็ต้องถดถอยลงในอีกไม่ช้านี้แล้วเช่นกัน!
หลี่ฮ่าวครุ่นคิดถามขึ้นอีกว่า “อาจารย์ แล้วจะแยกแยะได้ยังไงว่าอยู่ระดับเริ่มต้นหรือระดับกลาง”
“ง่ายมาก!”
หยวนซั่วอธิบาย “ปรมาจารย์นักรบที่ก้าวสู่ขอบเขตทะลวงร้อยแรกๆ พลังภายในแผ่ออกผ่านแขนขาเท่านั้น! แขนขาทั้งสี่เป็นอวัยวะที่แผ่ทะลุออกมาได้ง่ายที่สุด ถ้าแผ่ออกมาผ่านแขนขาทั้งสี่ได้ครบก็เท่ากับเธอฝึกจบระดับเริ่มต้นแล้ว! ส่วนเอกลักษณ์ของระดับกลางก็คือร่างกาย อวัยวะทุกส่วนของร่างกายล้วนแผ่พลังภายในออกมาได้…นอกจากหัว!”
“ระดับปลายก็คือหัว ตั้งแต่หัวจรดเท้าจะแผ่ปล่อยพลังภายในออกได้ทั้งหมด ถึงตอนนี้เธอเอาหัวไปชนใครก็ปล่อยพลังภายในชนเขาได้…ซึ่งบ่งบอกว่าร่างกายของเธอฝึกถึงระดับสูงสุดแล้ว! ตอนนี้เธอก็คือระดับปลายล่ะ!”
หลี่ฮ่าวกะพริบตา “แล้วระยะสมบูรณ์ล่ะครับ”
“สมบูรณ์เหรอ”
หยวนซั่วหัวเราะ “ระดับสมบูรณ์ก็คือตอนที่เริ่มแตะพลังจิตวิญญาณได้แล้ว! ขอบเขตระดับสมบูรณ์สำหรับเธอแล้วมันอาจจะดูแปลกๆ พูดง่ายๆ ก็คือรอถึงวันที่เธอรู้สึกเหมือนมีตาสวรรค์ มีพลังที่หยั่งรู้ถึงสิ่งอันตราย ถึงขั้นรู้สึกได้ว่ามีคนอยู่ด้านหลัง มองเห็นแผ่นหลัง…หรือว่าเธอมองเห็นร่างกายตัวเอง เห็นอวัยวะภายใน…ตอนนั้นเท่ากับสัมผัสพลังจิตภายใน เธอก็จะอยู่ในระยะสมบูรณ์แล้ว! นี่เป็นหนึ่งในขั้นตอนการก้าวสู่ขอบเขตพันยุทธ์”
หลี่ฮ่าวเข้าใจอย่างถ่องแท้!
วินาทีนี้เขาถึงมีความรู้ความเข้าใจต่อระบบการฝึกของปรมาจารย์นักรบ
ขอบเขตสิบสังหารฝึกพลังภายในกับร่างกายก็พอ
ขอบเขตทะลวงร้อยปล่อยพลังภายในออกมา
เมื่อปล่อยพลังผ่านแขนขาทั้งสี่ข้างคือช่วงระดับเริ่มต้น
เมื่อปล่อยทะลุผ่านร่างกายได้เท่ากับอยู่ช่วงระดับกลาง
ปล่อยผ่านร่างกายตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าคือช่วงระดับปลาย
ช่วงระดับสมบูรณ์บ่งบอกว่ามองเห็นตัวเอง สัมผัสถึงสิ่งอันตรายและสัมผัสถึงพลังจิตวิญญาณได้
“หัวหน้าหลิวอยู่ในระดับสมบูรณ์เหรอครับ”
หลี่ฮ่าวถามอีก
หยวนซั่วส่ายหน้า “ไม่นับ แต่ก็นับได้!”
“ยังไงครับ”
“เขาอาศัยพลังลี้ลับพัฒนาเป็นหลัก ต่อให้ช่วงระดับปลายของทะลวงร้อยไม่ใช่ปัญหา แต่เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพลังจิตวิญญาณสักนิด! เป็นแค่พลังภายในที่ทับถมกันไปจนเกินช่วงระดับปลายเท่านั้น ตอนนี้ปรมาจารย์นักรบมีปัญหานี้เหมือนกันหมด! ฉะนั้นหลิวหลงคิดจะก้าวสู่ขอบเขตพันยุทธ์…มีความหวังไม่มากนัก นอกจากว่าเขาจะสัมผัสถึงพลังจิตได้! เจ้าหมอนี่ไม่ฝึกพลังด้านจิตวิญญาณเลย สุดท้ายถ้าไม่กลายเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติก็ต้องติดอยู่ขั้นสุดยอดทะลวงร้อยไปตลอดชีวิต!”
หลี่ฮ่าวขมวดคิ้ว “ไม่มีวิธีแล้วเหรอครับ”
“มี!”
หยวนซั่วยิ้มพูดอีก “ความจริงด่านนี้ของปรมาจารย์นักรบทลายยากที่สุด! เธอเดาสิว่าตอนนั้นฉันสัมผัสพลังจิตวิญญาณได้ยังไง”
ขอบเขตตรงหน้าไม่ถือว่ายากมาก
มีเพียงตอนสัมผัสพลังจิตวิญญาณถึงจะเรียกว่ายากอย่างแท้จริง
หลี่ฮ่าวไม่รู้ แต่เขารู้ว่าอาจารย์ต้องรู้…เพราะเขาเป็นตั้งพันยุทธ์แล้วนี่นา
“อาจารย์ อาจารย์สัมผัสยังไงเหรอ”
“ฝึกวิชายุทธ์ ฝึกพลังจิตวิญญาณ ฝึกใจ ฝึกรากฐาน!”
หลี่ฮ่าวทำหน้างงไม่ค่อยเข้าใจ
หยวนซั่วถอนหายใจ เจ้าหมอนี่ดูท่าทางไม่ค่อยฉลาดเท่าไร ช่างเถอะ เห็นแก่ที่เพิ่งสัมผัสวิชายุทธ์ไม่นาน เขาจะอธิบายให้ละเอียดอีกนิดแล้วกัน “ยกตัวอย่างจาก ‘ตำราใหม่ห้าปาณภูต’ แล้วกัน ตอนนั้นฉันเคยไปใช้ชีวิตอยู่บนเขาสามปีเพื่อเข้าสู่ระดับสมบูรณ์ของทะลวงร้อย! ฉันคอยสังเกตเอกลักษณ์ของเสือ กวาง หมี ลิง นกอย่างใกล้ชิด! เรียนรู้และเลียนแบบทุกอย่างของพวกมัน…จำเอาไว้ แค่เลียนแบบ ไม่ได้บอกว่าให้เป็นอย่างพวกมัน!”
“ในเมื่อมนุษย์ก็คือมนุษย์ สัตว์เดรัจฉานก็เป็นได้แค่สัตว์เดรัจฉาน…เราต้องรีบสัมผัสถึงพลังจิตวิญญาณในระหว่างนี้ให้ได้! อย่างเช่นตอนเสือดุร้ายกระโจนเข้าใส่…ทำไมมันถึงกระโจนอย่างนั้น ทำไมถึงทำร้ายศัตรูได้อย่างแม่นยำโดนจุดสำคัญได้ในครั้งเดียว…กวางคาดคะเนยังไงว่าเสือจะจู่โจม…เอาเป็นว่าขั้นตอนนี้มันแปลกมาก!”
หยวนซั่วพูดเสียงกลั้วหัวเราะ “สิ่งนี้คนรู้ก็รู้ แต่ถ้าไม่รู้…ก็ช่วยไม่ได้ บ่งบอกว่าไม่มีพรสวรรค์จริงๆ!”
หลี่ฮ่าวเริ่มสนใจขึ้นมา “อาจารย์ แล้ว ‘ตำราเก้าหลอมแรงปราณ’ ที่หัวหน้าหลิวฝึก เขาไม่ได้เลียนแบบห้าปาณภูตอะไร ถ้าเขาคิดจะทะลวงให้ได้ เขาจะสัมผัสถึงพลังจิตวิญญาณได้ยังไงล่ะครับ”
“ความจริงนี่เป็นบทวิเคราะห์แหล่งที่มาของเคล็ดวิชายุทธ์! อย่าง ‘ตำราเก้าหลอมแรงปราณ’ เธอต้องคิดวิเคราะห์ว่าคนที่ริเริ่มสร้างมันริเริ่มยังไง แก่นแท้ของตำราเก้าหลอมแรงปราณคืออะไร ทำไมถึงปล่อยเก้าพลังซ้อนในทีเดียว ฉันไม่เคยฝึกมาก่อนฉันเลยไม่รู้ เขาเคยฝึกแล้วยังฝึกมาถึงขั้นนี้ได้ หรือว่าเขาไม่หยั่งถึงมันเลยสักนิดเหรอ การใฝ่ฝันถึงพลังที่เพิ่มพูนขึ้นไม่ผิดหรอก แต่แค่พลังบริสุทธิ์มันยากที่จะทำให้เธอก้าวข้ามลำดับขั้นได้!”
หลี่ฮ่าวหยักหน้ารับ อาจารย์พูดนิดเดียวก็ช่วยให้เขามีความรู้ความเข้าใจต่อระบบการฝึกของปรมาจารย์นักรบเบื้องต้นในระยะเวลาอันสั้นได้แล้ว
พันยุทธ์ก็คือพันยุทธ์!
ที่แท้หัวหน้าก้าวสู่พันยุทธ์ไม่ได้สักทีเป็นเพราะเขาไม่ได้ก้าวสู่ระยะสมบูรณ์ของทะลวงร้อยอย่างแท้จริง เขาไม่ได้สัมผัสถึงพลังจิตวิญญาณ หยั่งถึงพลังจิตภายใน ดังนั้นย่อมห่างไกลจากพันยุทธ์มากโข
นี่ไม่ใช่สิ่งที่พลังลี้ลับจะแก้ไขได้
ส่วนตัวเองอนาคตอาจจะต้องเผชิญหน้าโจทย์ยากแบบนี้เช่นกัน
ครั้นรู้เรื่องเหล่านี้แล้วหลี่ฮ่าวก็ไม่ถามอีก ตอนนี้ดูดซับพลังลี้ลับก่อนดีกว่า
ก่อนหน้านี้เขาได้เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับม้ามไปแล้ว ครั้งนี้หลี่ฮ่าวตัดสินใจว่าจะเสริมสร้างความแข็งแรงให้อวัยวะภายในส่วนอื่นๆ
ในบรรดาอวัยวะภายใน หัวใจคู่กับพลังธาตุไฟ ม้ามคู่กับพลังธาตุดิน ตับคู่กับพลังธาตุไม้ ปอดคู่กับพลังธาตุโลหะ ไตคู่กับพลังธาตุน้ำ
พอคิดถึงได้เช่นนี้หลี่ฮ่าวก็เริ่มดูดซับพลังธาตุน้ำ!
เสริมสร้างความแข็งแรงให้ไตก่อน!
เสริมสร้างความแข็งแรงให้ไตจะช่วยให้ผู้ชายสุขภาพดีขึ้น…จุดนี้หลี่ฮ่าวอ่านหนังสือมามากเลยพอจะรู้อยู่บ้าง
ไตแข็งแรงบางทีอาจจะช่วยให้อวัยวะเพศแข็งแรงด้วย…เรื่องนี้พูดยาก เอาเป็นว่าหลี่ฮ่าวโจมตีศัตรูโดยวิธีนี้สองครั้งจนเขาพลอยรู้สึกหวาดเสียวไปด้วย เพราะกลัวคนอื่นจะใช้วิธีการเดียวกับตนเช่นกัน
พลังน้ำเข้าสู่ร่างกาย ก่อนที่หลี่ฮ่าวจะดึงพลังจากจี้หยกกระบี่ออกมาเล็กน้อย เขาในตอนนี้ก็ไม่กล้าใช้มันอย่างสิ้นเปลืองนัก เขากลัวจะผลาญเยอะเกินไปส่งผลให้กระบี่หยกเล่มนี้พลังหมดเร็ว
คุณสมบัติของไตมีเยอะมาก ช่วยขับถ่ายของเสียในร่างกาย หากไตแข็งแรงก็ไม่ต้องกลัวศัตรูวางยาพิษ ต่อให้โดนวางยาพิษก็สามารถขับออกจากร่างกายได้อย่างรวดเร็ว
ไต ยังช่วยปรับความดันได้ คนประเภทอย่างหลี่ฮ่าวเลือดหมุนเวียนเร็วจะทำให้ความดันสูงได้ง่าย มันไม่ใช่ปัญหาหนักหนาอะไรแต่กระนั้นก็ทำลายเส้นเลือดได้ง่าย ซึ่งก็เป็นผลทำให้ร่างกายของเขาไม่แข็งแรงมากพอจนเลือดหมุนเวียนเร็วเกินไป
…………………………………………………………………….