ตอนกลางคืนในยามดึกอันเงียบสงบ เย่เทียนเฉินนอนหลับอยู่บนเตียง คืนนี้เขาไม่ได้ใช้พลังพิเศษ หล่อหลอมกายเนื้อของตน ที่สำคัญก็คือเมื่อครู่นี้มีคนมาส่งปลาส่งเนื้อจริงๆ พอดีที่ชางหลางผ่านทางมา เย่เทียนเฉินจึงลากชางหลางมากินดื่มด้วยกัน ทั้งคู่ดื่มสุราอู่เหลียงเย่อันโด่งดังจนเมามาย หลังจากที่ชางหลางไปแล้ว เย่เทียนเฉินก็รู้สึกปวดหัวจนทนไม่ไหว ล้มตัวลงบนที่นอนหลับไปในทันที เขาเองก็ไม่คิดว่าดีกรีสุราของโลกนี้จะแรงมาก
ตอนนี้เป็นเวลาประมาณตีหนึ่ง รอบคฤหาสน์ที่เย่เทียนเฉินหลับมีทหารยืนเฝ้าอยู่แปดคน คุ้มครองตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ที่นี่เป็นที่ที่หยางอี้มาพักเป็นครั้งคราว ดังนั้นจึงได้มีการคุ้มครองที่เข้มงวดขนาดนี้ เย่เทียนเฉินเองก็วางใจจึงหลับไปในเวลาไม่นาน
เงาร่างร่างหนึ่ง สวมชุดดำดั่งคนทำงานด้านมืด สวมผ้าคลุมหน้าสีดำ มาถึงคฤหาสน์ที่เย่เทียนฉินนอนหลับอยู่อย่างไร้ซุ่มไร้เสียง คฤหาสน์ที่เย่เทียนเฉินอยู่ เบื้องหน้าเป็นสวนดอกไม้เล็กๆ แม้เนื้อที่จะไม่มาก แต่ก็เหมาะกับการพักผ่อน หย่อนใจ สถานที่ที่คนระดับสูงของคณะกรรมาธิการทหารมาพักผ่อน จะต้องติดตั้งแต่ของชั้นหนึ่ง การคุ้มครองความปลอดภัยขั้นสูง ทหารทั้งแปดคนนี้ก็ล้วนเลือกออกมาจากคนนับพันนับหมื่น ความสามารถในการต่อสู้ไม่ใช่อะไรที่ทหารธรรมดาจะเทียบได้
เงาร่างนั้นหลบอยู่ที่รั้วที่ล้อมรอบคฤหาสน์อย่างไร้เสียงไร้ร่องรอย ค่อยๆ สำรวจรอบๆ คฤหาสน์และตำแหน่งที่ทหารแปดคนยืนอยู่ ทหารทั้งแปดแยกกันยืนในตำแหน่งแตกต่างกันไปโดยไม่ขยับเขยื้อนราวกับรูปสลัก ในมือของพวกเขาไม่มีอาวุธปืนอะไรอยู่เลย มีเพียงมีดทหารที่เหน็บไว้บริเวณอกซ้าย
ตอนที่เย่เทียนเฉินมานั้นก็รู้สึกแปลกประหลาด เมื่อได้ดื่มเหล้ากับชางหลางจึงได้ถามเรื่องนี้ ชางหลางตอบออกมาแค่สองคำ “คมมีด”
ตอนนั้นเย่เทียนเฉินเองก็รู้สึกฮึกเหิมขึ้นมา “คมมีด” สองคำนี้มีน้ำหนักมากในด้านการทหารของประเทศจีน กระทั่งทำให้ทหารนับไม่ถ้วนตื่นเต้นได้ กองกำลังคมมีด สมาชิกของกองกำลังนี้ทั้งหมดเลือกออกมาจากมาจากทหารที่เก่งที่สุด พวกเขาไม่เหมือนกันหน่วยมังกรฟ้า และไม่เหมือนกองกำลังเหยี่ยวนักล่า พวกเขามีตัวตนเหมือนกับบอดี้การ์ดจงหนานไห่ ที่คอยคุ้มครองผู้นำคนสำคัญโดยเฉพาะ จินตนาการถึงความสามารถสุดแกร่งของพวกเขาได้เลย
แต่ไหนแต่ไรกองกำลังคมมีดก็ไม่เคยมีจำนวนเกินหนึ่งร้อย นี่เป็นเพราะผู้นำระดับสูงของพวกเขา และเพราะหัวหน้ากองกำลังคมมีดต้องการเพิ่มพลังความสามารถของกองกำลังอยู่ตลอดเวลา การต่อสู้แข่งขันทำให้เกิดความก้าวหน้าอยู่เสมอ จนความสามารถแซงหน่วยมังกรฟ้าและกองกำลังเหยี่ยวนักล่าไปได้ มีเพียงสมาชิกที่เป็นสุดยอดหัวกะทิเท่านั้นจึงจะสามารถเข้าร่วมกองกำลังได้ นอกจากนี้ทุกๆ ปี กองกำลังคมมีดจะมีการประเมินสมาชิกอย่างเป็นทางการ หากคุณไม่ผ่านการประเมินก็ต้องขอโทษด้วยที่ต้องไล่คุณออก
ฉัวะๆๆ…
มีดสายลมแปดเล่มพุ่งออกไปยังทหารทั้งแปดที่ยืนอยู่ในตำแหน่งต่างกัน ทั้งกะทันหันและรวดเร็วเป็นอย่างมาก ในตอนที่ทั้งแปดลงมือปัดคมมีดสายลมที่พุ่งเข้ามาอยู่นั้น เงาร่างนั้นได้พุ่งเข้าไปในสวนดอกไม้อย่างรวดเร็วราวสายฟ้า มุ่งโจมตีเย่เทียนเฉินที่กำลังหลับอยู่บนชั้นสองโดยตรง ขาซ้ายหยัดอยู่บนพื้นเล็กน้อยก่อนจะส่งตัวกระโดดพุ่งขึ้นไปสูงสองเมตรกว่า ซัดฝ่ามือไปยังหน้าต่างห้องนอนที่เย่เทียนเฉินนอนอยู่ ต้องการทุบกระจกให้แตกแล้วพุ่งเข้าไปกำจัดเย่เทียนเฉิน
ไหนเลยจะรู้ว่า ในตอนที่คนชุดดำซัดฝ่ามือออกไป ยังไม่ทันได้ทุบกระจกให้แตก เงาร่างสองสายพลันโจมตีเข้ามาจากสองข้าง คนชุดดำอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง ไม่คิดว่าสมาชิกกองกำลังคมมีดจะมีฝีมือและปฏิกริยาคล่องแคล่วเช่นนี้ ในเวลาเพียงชั่วพริบตาพวกเขาก็ปัดคมมีดสายลมที่ตนซัดออกไปได้ แล้วยังกลับมาป้องกันได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
ผัวะ!
เสียงหนึ่งดังขึ้น ฝีมือของคนชุดดำเองก็แข็งแกร่งมาก เมื่อเผชิญกับสมาชิกกองกำลังคมมีดที่จู่โจมตนเองจากสองข้าง แม้ว่าจะจะตกใจ แต่ก็ไม่ร้อนรนเลยสักนิด รีบดึงฝ่ามือขวากลับมาแล้วซัดมือทั้งสองออกไปสองข้างพร้อมๆ กันจนสมาชิกกองกำลังคมมมีดทั้งสองถูกอัดกระเด็นออกไป
“ฮ่า!”
เพล้ง!
ใครก็คิดไม่ถึงว่า หลังจากที่คนชุดดำซัดสมาชิกกองกำลังคมมีดทั้งสองจนกระเด็นออกไปแล้ว จะถึงกับตะโกนออกมา หน้าต่างห้องนอนที่เย่เทียนฉินพักอยู่สั่นสะเทือนจนแตกเป็นเสี่ยงๆ ดูเหมือนกับเคล็ดวิชาสิงโตคำรามในตำนาน หากเป็นคนอื่นจะต้องถูกทำให้ตกใจจนฉี่ราดไปแล้ว แต่สมาชิกกองกำลังคมมีดหลายคนล้วนเป็ผู้คุ้นเคยกับเคล็ดวิชาของพรรควรยุทธโบราณ จึงรู้ว่าคนชุดดำตะโกนจนกระจกแตกได้นั้นเป็นเพราะในเสียงตะโกนของเขาแฝงไปด้วยพลังภายใน แต่นี่ก็พิสูจน์ได้ว่า คนชุดดำแข็งแกร่งอย่างยิ่ง
ไม่กล่าวไม่ได้ว่าเคล็ดวิชาของพรรควรยุทธโบราณนั้นลึกล้ำกว้างขวาง ศิลปะการต่อสู้ของจีนเหมือนกับวัฒนธรรม มีการถ่ายทอดต่อกันมาห้าพันปี แม้ว่าตอนนี้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะพัฒนา พรรควรยุทธโบราณก็ค่อยๆ เลือนหายไปจากสายตาของผู้คน แต่อย่างไรก็ตามพวกมันยังคงมีวิธีการดำรงอยู่อีกประเภทหนึ่ง ซึ่งอำนาจความแข็งแกร่งนั้นไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนตำรวจแห่งประเทศจีนหรือจะเป็นกองกำลังทหาร อย่างน้อยจะต้องมีการสอนเคล็ดวิชาของพรรควรยุทธโบราณอยู่บ้าง แน่นอนว่าสิ่งที่คนส่วนใหญ่เรียนเป็นเพียงส่วนเล็กๆ เท่านั้น ศิลปะการต่อสู้ขั้นสูงไม่ใช่อะไรที่ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ จะเห็นได้ว่าเคล็ดวิชาของพรรควรยุทธโบราณถูกผู้คนยกย่องสรรเสริญถึงระดับไหน กระทั่งในยุคสิ้นโลก เย่เทียนเฉินก็ยังอยากได้เคล็ดวิชาคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นของเส้าหลิน ฝึกฝนเพื่อทำให้เส้นลมปรานแข็งแกร่ง บ่มเพาะกายเนื้อให้มความแข็งแกร่งเกรียงไกร
ด้านนอกมีเสียงต่อสู้ดังขึ้นอย่างดุเดือดแบบนี้ ขนาดกระจกห้องนอกของตัวเองก็แตกจนเกิดเสียงดัง เย่เทียนเฉินกลับยังคงนอนหลับสนิทพลางส่งเสียงกรนออกมา ไม่ทราบว่าเขาและชางหลางดื่มกันไปมากขนาดไหน เกรงว่าคงไม่หยุดอยู่แค่แปดขวด
อย่างไรก็ตาม ตอนที่มือขวาของคนชุดดำมีมีดบินเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นเตรียมจะซัดไปยังเย่เทียนเฉินเพื่อเอาชีวิตนั้น ขาทั้งสองของเขาถูกเชือกรัดแน่น สมาชิกกองกำลังคมมีดสองคนที่ยืนอยู่ข้างล่างคฤหาสน์ออกแรงดึงจนคนชุดดำตกลงมา แต่มีดบินในมือขวาของเขาถูกปาออกไปยังเย่เทียนเฉินอย่างรุนแรงแล้ว
ฉึก!
มีดบินถูกคนชุดดำซัดออกไปอย่างไม่มั่นคง พุ่งตรงเข้าไปปักอยู่ข้างศีรษะของเย่เทียนเฉิน อีกนิดเดียวก็จะปักทะลุสมองของเย่เทียนเฉินอยู่แล้ว ช่างอันตรายจนน่าตกใจจริงๆ แต่เย่เทียนเฉินยังคงส่งเสียงกรนออกมา
สมาชิกกองกำลังคมมีดทั้งแปดคนมีเพียงสี่คนที่ล้อมคนชุดดำเอาไว้ ที่เหลืออีกสี่คนยังคงยืนอยู่ในตำแหน่งอื่นของคฤหาสน์ไม่ขยับเขยื้อน นี่เป็นบอดี้การ์ดที่ถูกอบรมมาอย่างดี การเป็นบอดี้การ์ด ไม่เพียงแต่ต้องมีฝีมืออย่างเดียว ยังต้องมีสมองอีกด้วย หากมีคนชุดดำโผล่มาคนเดียวก็พากันไปล้อมทั้งหมดแล้วมีคนที่สองที่สามโผล่ออกมาล่ะ? จะขวางไว้อย่างไร? ชีวิตของคนที่ได้รับการคุ้มครองจะต้องอันตรายอย่างมากใช่ไหม?
ตอนที่คนชุดดำถูกดึงลงมาอย่างแรงและใกล้จะตกลงบนพื้น ประกายมีดสายหนึ่งพลันสว่างวาบ เชือกสองเส้นที่รัดอยู่บนร่างถูกตัดขาด เขาพลิกตัวกลางอากาศก่อนจะร่วงลงมายืนอย่างมั่นคง
สมาชิกกองกำลังคมมีดทั้งสี่ที่ล้อมคนชุดดำเอาไว้มีการตอบสนองอย่างรวดเร็ว ตอนที่คนชุดดำตัดเชือกขาด พวกเขาก็ควักมีดทหารออกมาจากกระเป๋าเสื้อบริเวณหน้าอก โจมตีไปยังคนชุดดำพร้อมกัน
ทว่าในมือของคนชุดดำเองก็มีกระบองสีดำโผล่ออกมา มีความคล้ายคลึงกับกระบองสองท่อนอย่างมาก มีความยาวประมาณครึ่งแขน ไม่ยอมถอยแต่กลับมุ่งหน้าบุกเข้าไปยังคฤหาสน์ คนชุดดำเห็นว่ามืดบินเมื่อครู่ยังซัดไม่ถูกเย่เทียนเฉิน ดังนั้นจึงคิดจะลงมือฆ่าเย่เทียนเฉินอีกครั้ง
การต่อสู้เริ่มขึ้นแล้ว สมาชิกกองกำลังคมมีดทั้งสี่ลงมือเต็มกำลัง แต่กลับไม่สามารถคว่ำคนชุดดำลงได้ กระทั่งคิดอยากจะเห็นใบหน้าของคนชุดดำก็ยังทำไม่ได้ จึงลอบตกตะลึงกับความสามารถของคนชุดดำอยู่ในใจ ถึงกับแข็งแกร่งขนาดนี้เลย ส่วนคนชุดดำแม้ว่าจะไม่ตกเป็นรองและไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่หากเขาคิดจะทำให้สมาชิกกองกำลังคมมีดทั้งสี่คนบาดเจ็บนั้นเป็นเรื่องยากมาก สมาชิกกองกำลังคมมีดเหล่านี้คัดเลือกออกมาจากคนนับพันนับหมื่น ความสามารถย่อมไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะเทียบได้
“พวกแกอย่าบังคับฉันเลย ฉันต้องการฆ่าเย่เทียนเฉินคนเดียวเท่านั้น!” คนชุดดำยืนอยู่ตรงกลาง เปิดปากพูดอย่างเย็นชา
สมาชิกกองกำลังคมมีดทั้งสี่ไม่พูดอะไร ลงมือโจมตีต่อไปอย่างพร้อมเพรียง พวกเขารับรู้ได้ว่าคนชุดดำนั้นแข็งแกร่ง ใครก็ไม่กล้าลำพองใจ
แววตาของคนชุดดำเปลี่ยนไป เขารู้ว่าพูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์ พริบตานั้นจึงคำรามออกมาครั้งหนึ่ง เกิดแรงสั่นสะเทือนไปรอบๆ จนหญ้าเล็กๆ กระดิก สมาชิกกกองกำลังคมมีดทั้งสี่เองก็ไม่คิดว่าชายชุดดำจะใช้กระบวนท่านี้ออกมาในช่วงเวลาคับขัน รู้สึกว่าหูของตนถูกสะเทือนจนแทบระเบิด ในสมองมีเสียงดังวิ้งๆ ออกมา
พริบตาที่สมาชิกกองกำลังคมมีดทั้งสี่กำลังมึนงงอยู่นั้น ชายชุดดำก็พุ่งออกไปจากการปิดล้อมของพวกเขา พุ่งไปยังห้องนอนที่เย่เทียนเฉินอาศัยอยู่ด้วยความเร็วสูงสุด ตอนนี้ในห้องที่เย่เทียนเฉินอยู่นั้น กระจกได้แตกไปหมดแล้ว คนชุดดำพุ่งทะยานขึ้นไป เมื่อถึงความสูงในระดับที่มองเห็นสถานการณ์ภายในห้องได้ก็ซัดมีดบินเล่มเล็กออกไปหกเล่ม ทั้งหมดต่างเล็งไปที่เตียง
ฉึกๆๆ…มีดบินหกเล่มปักแน่นอยู่บนเตียงจมเข้าไปสามส่วน สมาชิกกองกำลังคมมีดทั้งสี่ขมวดคิ้ว ในใจของพวกเขาตกตะลึง พวกตนแปดคนคุ้มครองเย่เทียนเฉินไม่สำเร็จ นี่มันจบเห่แล้ว
ชายชุดดำตกลงมาสู่พื้น ฆ่าเย่เทียนเฉินได้แล้วก็รู้สึกยินดีมาก แม้ตนอยากจะฆ่าสมาชิกกองกำลังคมมีดทั้งแปดคนนี้ก็ทำไม่ได้ จึงคิดว่าแค่ปกป้องตัวเองให้หนีออกไปคงจะไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร
“เย่เทียนเฉินตายแล้ว หากพวกแกอยากขวางฉันก็เข้ามาลองได้เลย” ชายชุดดำกล่าวพลางยิ้มอย่างมั่นใจเหลือคณา
“ฆ่ามัน!” สมาชิกกองกำลังคมมีดคนหนึ่งพูดออกมาเสียงเย็น
สมาชิกกองกำลังคมมีดทั้งแปดตวัดมีดทหารในแนวนอน เย่เทียนเฉินคนที่พวกเขาคุ้มครองตายแล้ว หากไม่สามารถฆ่าคนชุดดำคนนี้ได้ พวกเขาก็ไม่สามารถไปรายงานเบื้องบนได้ จำเป็นต้องฆ่าคนคนนี้ซะ
“หึ ตอนนี้ฉันดีใจมาก จะไม่ฆ่าพวกแกแล้วกัน!” คนชุดดำเองก็จับกระบองสีดำแน่น กล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา
“ทำอะไรกัน? ดึกๆ ดื่นไ ยังเล่นกันอยู่อีกเหรอ? จะให้คนอื่นเขานอนไหม? แกเป็นใคร? ช่วมีมารยาทสักหน่อยจะได้ไหม รบกวนเวลานอนฉันหมด เข้าใจรึยัง? มีคุณธรรมในใจกันบ้างรึเปล่า?”
เย่เทียนเฉินโผล่ออกมาบริเวณเบื้องหน้าหน้าต่างห้องนอนของตน มองไปยังชายชุดดำอย่างไม่สบอารมณ์ คำพูดไม่พอใจถูกพ่นออกมาจากปากรัวๆ ฟังแล้วทำให้ผู้คนรู้สึกเอือมระอา
……………………….