บทที่ 1 การกำเนิดใหม่ของผู้มีพลังพิเศษระดับพระเจ้า

เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ

บทที่ 1 การกำเนิดใหม่ของผู้มีพลังพิเศษระดับพระเจ้า Ink Stone_Fantasy

ปังปังปัง…. เสียงปืนดังแว่วมาจากชายแดนบริเวณป่าหมอกดำ

เย่เทียนเฉินลืมตาขึ้นช้าๆ มองสหายด้านข้างที่เกือบจะหมดสติ พักผ่อนไปชั่วครู่ เขาไม่ได้กำลังหลับอยู่ ในสถานการณ์อันตรายเช่นนี้ อาจตายได้ตลอดเวลา ไม่มีใครสามารถหลับลงได้ เขาลองกระตุ้นพลังพิเศษภายในร่าง พบว่ามีพลังอยู่บางๆ คงเป็นเพราะร่างกายที่วิญญาณของเขามาอาศัยอยู่นั้นไม่สามารถรองรับพลังพิเศษระดับพระเจ้าได้ พลังของเขาในตอนนี้จึงลดลงเหลือเพียงระดับราชันเท่านั้น หากตอนนี้มีสัตว์กลายพันธุ์โผล่มาสักตัวหนึ่ง เขาต้องตายแน่นอน

“เย่เทียนเฉิน นายฟื้นแล้วเหรอ ดี ดีจริงๆ ไม่เป็นไรใช่ไหม?” ชายด้านข้างเปิดปากถาม เขาสะพายปืนไว้ที่หลัง มีเลือดไหลออกมาไม่หยุด

เย่เทียนเฉินมองชายด้านข้าง ในสมองก็ปรากฏภาพขึ้นมาแวบหนึ่ง สหายร่วมรบนายนี้มีชื่อว่าหลิวเหว่ย เป็นหนึ่งในทหารหน่วยรบพิเศษที่ได้รับมอบหมายงานในครั้งนี้

เพียงแต่เย่เทียนเฉินตรงหน้าไม่ใช่ทหารหน่วยรบพิเศษคนเดิม ตอนนี้เขาถูกผู้มีพลังพิเศษระดับพระเจ้าสิงร่าง สถานะของเขาเปลี่ยนไปตั้งแต่ตอนที่ตกจากหน้าผาแล้ว เพียงแต่หลิวเหว่ยไม่รู้

“ฉันไม่เป็นไร หลิวเหว่ย นายเป็นไงบ้าง?” เย่เทียนเฉินตอบคำที่เขาถูกถามก่อนหน้านี้

“ไม่เป็นไรมาก สหาย ฟังฉันนะ ตามแผนที่ด้านหน้าสุดจะมีภูเขาอยู่ลูกหนึ่ง ขอเพียงนายไปให้ถึงภูเขาลูกนั้น ก็จะสามารถคุ้มครองผู้บัญชาการไปถึงที่ที่ปลอดภัยได้ จะได้ไม่เป็นเหมือนคนอื่นๆ ในทีม….”

หลิวเหว่ยพูดถึงตรงนี้ ก็พูดต่อไม่ออก ดวงตาแดงขึ้นเล็กน้อย รวมกับที่ถูกยิงบาดเจ็บ ทำให้ใบหน้าซีดขาวดูอิดโรยมากขึ้น คิดถึงสหายศึกทั้งเจ็ดคนที่ได้รับมอบหมายภารกิจนี้ร่วมกัน ต่างพลีชีพไปหมดแล้ว เหลือเย่เทียนเฉินกับเขาที่ยังมีชีวิตรอด สุดท้ายจะสามารถรอดไปได้อีกนานแค่ไหนนั้นเป็นสิ่งที่ไม่อาจทราบ

เย่เทียนเฉินมองหญิงสาวด้านข้างที่หมดสติไปเรียบร้อยแล้ว เธอชื่อหานเจี๋ย เป็นผู้บัญชาการเขต อายุประมาณยี่สิบปี แม้ว่าจะสวมชุดทหารอยู่ ก็ไม่สามารถปิดบังความสวยงามได้ โดยเฉพาะทรวดทรงองค์เอวที่มีส่วนโค้งส่วนเว้าของเธอ ภารกิจของหน่วยรบพิเศษทั้งเจ็ดคนก็คือคุ้มครองผู้บัญชาการหญิงคนนี้กลับไปยังค่ายทหารให้สำเร็จ

“หลิวเหว่ย ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันจะพานายไปจากที่นี่เอง!” เย่เทียนเฉินพูด

“ไม่ พวกเราสามคนหนีไม่รอดแน่ อีกฝ่ายแข็งแกร่งมาก นายรีบพาท่านผู้บัญชาการไปเถอะ รีบไป….” หลิวเหว่ยส่ายหัวพลางกล่าวออกมาอย่างเด็ดเดี่ยว

เย่เทียนเฉินขมวดคิ้ว ถึงเขาจะไม่ใช่เย่เทียนเฉินที่เป็นทหารหน่วยรบพิเศษคนนั้น เป็นผู้มีพลังพิเศษระดับพระเจ้าที่มาอาศัยร่างนี้ แต่เขาก็ยังมีความรู้สึกนึกคิดของเย่เทียนเฉินคนเดิมอยู่

ครั้งนี้พวกเขาทั้งเจ็ดคุ้มครองผู้บัญชาการหญิงจากประเทศmผ่านทางป่าหมอกดำ เพื่อกลับไปยังค่ายทหารที่ชายแดน ทางด้านประเทศmนั้นภายนอกไม่เคลื่อนไหวเพราะเกรงว่าจะทำให้เกิดสงคราม แต่เบื้องหลังกลับจ่ายเงินจำนวนมหาศาลว่าจ้างทหารชั้นยอดจากกลุ่มทหารรับจ้างมารโลหิต ซึ่งเป็นองค์กรทหารรับจ้างระดับโลก

พวกเขาทั้งเจ็ดคุ้มครองผู้บัญชาการหญิงจนถึงป่าหมอกดำก็มาติดกับของพวกทหารรับจ้างมารโลหิต ฝ่ายตรงข้ามนอกจากมีฝีมือสูงกันทุกคนแล้ว ยังมีอาวุธที่มีพลังทำลายล้างสูงอยู่ด้วย มีแนวโน้มที่พวกเย่เทียนเฉินจะถูกจัดการราบคาบ

สู้ไปพลางถอยไปพลาง เผชิญหน้ากับกลุ่มทหารรับจ้างมารโลหิตที่มีจำนวนกว่าพวกตนหลายเท่า รวมกับฝ่ายตรงข้ามมีการดักซุ่มโจมตีอยู่ก่อน พวกเย่เทียนเฉินไม่ทันไรก็เสียสหายศึกไปแล้วสามนาย ตอนที่ถอยจนมาถึงหน้าผาแห่งหนึ่ง หลิวเหว่ยก็เอาตัวเข้าบังกระสุนให้เย่เทียนเฉินในขณะที่เย่เทียนเฉินคุ้มครองผู้บัญชาการหญิง ทั้งสามจึงตกหน้าผาไป ส่วนสหายร่วมรบอีกสองนายก็ถูกพวกโจรชั่วระเบิดสมองตายเพื่อปกป้องพวกเขา

“วางใจเถอะ ฉันจะพานายรอดออกไปให้ได้!” เย่เทียนเฉินกล่าวพร้อมรอยยิ้มหล่อเหลา

                หลิวเหว่ยอดจะตกตะลึงไม่ได้ เขาพบว่าสายตาของเย่เทียนเฉินเปลี่ยนไป เย่เทียนเฉินที่เพิ่งจะได้รับการบรรจุเข้าหน่วยรบพิเศษ ลงพื้นที่ทำภารกิจจริงครั้งแรก จะมากน้อยก็ยังคงมีความตึงเครียดและความหวาดกลัวให้เห็นอยู่ แต่ตอนนี้เขาไม่มีความตึงเครียดและความหวาดกลัวแม้แต่น้อย ใช้ท่าทีสนุกสนานขบคิดหาทางรับมือกับวิกฤตการณ์ครั้งนี้ ทำให้หลิวเหล่ยรู้สึกประหลาดใจมาก

“เทียนเฉิน นาย….”

“นายไม่ต้องพูดมาก ถอดเสื้อออกซะ ฉันจะช่วยดูแผลให้นาย!” เย่เทียนเฉินขัดคำพูดของหลิวเหว่ย ไม่ให้หลิวเหว่ยได้คิดอะไรต่อไปอีก เพราะตอนนี้เขารู้สึกถึงวิกฤตแล้วจริงๆ ในฐานะที่เป็นผู้มีพลังพิเศษระดับเทพเจ้าย่อมมีสัมผัสเฉียบแหลม ถ้ายังล่าช้าอยู่เช่นนี้ เกรงว่าพวกเขาทั้งสามต้องตายอยู่ที่นี่แน่

“นี่…ไม่ต้องหรอก ไม่ร้ายแรงอะไร แผลเล็กน้อยแค่นี้ฉันเอาอยู่น่า!” หลิวเหว่ยทราบว่าสถานการณ์เลวร้าย จะมามัวรักษาแผลได้อย่างไร สำหรับชีวิตของนายทหารคนหนึ่ง คำสั่งคือที่สุด แม้ตัวจะตายก็ต้องทำภารกิจให้สำเร็จ นี่คือจิตวิญญาณของนายทหารแห่งกองทัพจีน

“แผลเล็กน้อย? หลังของนายเลือดออกเต็มไปหมด หาแผลไม่เจอด้วยซ้ำ ถ้าหากติดเชื้อที่กระดูกสันหลัง ก็อาจทำให้เป็นอัมพาตได้ ถึงตอนนั้นแม้แต่แรงที่จะขึ้นเตียงกับสาวๆก็ไม่มี ไม่ร้องไห้ก็แปลกแล้ว!”

ได้ยินคำพูดของเย่เทียนเฉิน หลิวเหว่ยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ ตัวเขานั้นไม่ได้คิดไปไกลถึงจุดนั้น เย่เทียนเฉินยังมีอารมณ์ล้อเล่นได้อีก!

ฟิ้ว!

ในขณะที่เย่เทียนเฉินเตรียมที่จะตรวจสอบบาดแผลให้แก่หลิวเหว่ยนั้น ก็มีลูกปืนหัวจรวดถูกยิงมา หลิวเหว่ยรีบผลักเย่เทียนเฉินออกไป ลุกยืนขึ้นบังวิถีกระสุนเบื้องหน้าผู้บัญชาการหญิงอย่างเด็ดเดี่ยว

เย่เทียนเฉินผวา แม้เขาจะเป็นผู้มีพลังพิเศษระดับพระเจ้าที่มาเกิดใหม่ ชีวิตเดิมก็ประสบกับการต่อสู้เอาชีวิตมามาก ก็ยังต้องตกตะลึงกับฉากนี้ หลิวเหว่ยใช้ชีวิตของตน เลือดเนื้อร่างกายของตน ปกป้องภารกิจของเขาในฐานะทหาร

“หลิวเหว่ย….” เย่เทียนเฉินกัดฟันตะโกนออกมา รีบวิ่งไปประคองหลิวเหว่ย

“รีบไป พาท่านผู้บัญชาการไป เหลือแค่นาย….แค่นายแล้ว จะต้อง ต้องทำภารกิจให้สำเร็จ….” หลิวเหว่ยเลือดท่วมตัว พูดจบก็หมดลมหายใจไป

เย่เทียนเฉินกัดฟัน กำมือแน่น รู้สึกถึงพวกโจรชั่วหลายคนที่ล้อมที่นี่ไว้ ทันใดนั้นความต้องการสังหารพลุ่งพล่าน ในเวลาเดียวกันก็รู้สึกเสียใจ เพิ่งจะได้มาเกิดใหม่ในร่างนี้ พลังของเขายังอ่อนแอ มิฉะนั้นจะต้องมาเห็นเพื่อนตายไปต่อหน้าต่อตาได้อย่างไร

เย่เทียนเฉินแบกผู้บัญชาการหญิงขึ้นหลัง รีบวิ่งหายเข้าไปในพงหญ้าหนา ตอนนี้เขาต้องการเวลาสักเล็กน้อยเพื่อกระตุ้นพลังพิเศษภายในร่าง มิฉะนั้นก็ไม่อาจรอดพ้นจากการถูกล้อมฆ่าไปได้

ตกดึก เย่เทียนเฉินนั่งขัดสมาธิ ตาทั้งสองข้างจ้องมองไปข้างหน้า กระตุ้นพลังพิเศษในร่างกายได้เล็กน้อย เกิดใหม่ในร่างนี้ การที่จะใช้พลังระดับพระเจ้ายังยากเกินไป สามารถกระตุ้นพลังได้เล็กน้อยก็ถือว่าไม่เลวแล้ว

หานเจี๋ย ผู้บัญชาการหญิงระดับเขตที่อยู่ข้างๆลืมตาขึ้นช้าๆ เมื่อเธอเห็นเย่เทียนเฉินก็เอ่ยปากถาม “คนอื่นๆล่ะ?”

“สละชีพไปหมดแล้ว เหลือแค่คุณกับผม” เย่เทียนเฉินตอบเสียงเบา

หานเจี๋ยนิ่งอึ้ง ครั้งนี้เธอแอบเข้าไปสืบข่าวในประเทศmจนได้ข้อมูลลับมา หลังจากที่ถูกพบ ทางจีนก็ส่งทหารหน่วยรบพิเศษเจ็ดคนมาคุ้มครองเธอ กับการลอบโจมตีที่ป่าหมอกดำ ไม่ทันไรก็เสียทหารไปถึงหกนาย เหลือรอดเพียงเย่เทียนเฉินทหารที่เพิ่งบรรจุใหม่คนนี้ หรือว่าเธอจะไม่มีทางรอดกลับไปแล้วจริงๆ

“งั้น งั้นตอนนี้พวกเราจะทำยังไงดี?” หานเจี๋ยแม้ว่าจะเป็นผู้บัญชาการเขต แต่มีประสบการณ์รบถึงขั้นเป็นตายน้อยมาก อีกทั้งเธอก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ในช่วงเวลาอันตรายเช่นนี้ ทำให้จิตใจฟุ้งซ่านคิดอะไรไม่ออก ทำได้เพียงปรึกษากับเย่เทียนเฉิน

“ฆ่าพวกมัน ผมจะล้างแค้นให้สหายร่วมรบที่ตายไป….” เย่เทียนเฉินรู้สึกได้ว่าภายในร่างกายสามารถกระตุ้นพลังพิเศษออกมาได้อย่างบางเบา เขาทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นสหายรบตายไปต่อหน้า จะต้องล้างแค้นให้พวกเขาอย่างแน่นอน

“อะไรนะ? อีกฝ่ายเป็นทหารชั้นยอดของกลุ่มทหารรับจ้างมารโลหิต ตอนนี้ก็เหลือแค่นายกับฉัน ยังคิดจะล้างแค้นอีก พูดเพ้อเจ้ออะไรอยู่?” หานเจี๋ยไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง เธอตอบพลางมองเย่เทียนเฉินอย่างแปลกประหลาด

“ผมไม่สามารถปล่อยให้พี่น้องของผมตายเปล่า!” เย่เทียนเฉินกล่าวออกมาอย่างหนักแน่น

 “นาย….ภารกิจของพวกนายคือคุ้มครองฉันกลับไปที่ค่าย นายอย่าลืมหน้าที่ของตัวเอง ตอนนี้ฉันขอสั่งนาย ไม่อนุญาตให้สู้ พาฉันออกไปจากที่นี่” หานเจี๋ยไม่ใช่ว่าจะรักตัวกลัวตาย เพียงไม่อยากให้มีการตายเพิ่มขึ้นอีก ทหารหน่อยรบพิเศษเจ็ดคนตายไปแล้วหก เธอเองก็รู้สึกเจ็บใจ อีกฝ่ายนั้นฝีมือยอดเยี่ยม อยู่ดีๆ เย่เทียนเฉินก็บอกว่าจะไปล้างแค้น นี่ไม่ใช่ว่าไปหาเรื่องตายเหรอ?

“เก็บคำสั่งของคุณกลับไปซะ ผมเย่เทียนเฉิน ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหน จะไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรเพื่อนผมได้ ใครหน้าไหนกล้ามาสร้างความอัปยศ ชดใช้ด้วยชีวิต!” เย่เทียนเฉินกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

“นาย….”

หานเจี๋ยโกรธจนทนไม่ไหว ยังไม่ทันพูดให้จบประโยค จู่ๆเย่เทียนเฉินก็โถมตัวเข้าหาเธอ กดเธอลงกับพื้นในชั่วพริบตา พลันลูกปืนแถวหนึ่งถูกยิงผ่านหัวไป หากไม่ใช่ว่าเย่เทียนเฉินเตรียมพร้อม หรือหากช้าไปเพียงหนึ่งวินาที พวกเขาต้องถูกยิงพรุนแน่ๆ

“อีกฝ่ายมีคนเยอะ อาวุธครบมือ นายอย่าไปเสี่ยงอันตรายเลย อย่าไปตายโง่ๆสิ!” หานเจี๋ยรีบเร่งกล่าวออกมา

อย่างไรเสียคนที่โจมตีพวกเขาก็เป็นคนจากกลุ่มทหารรับจ้างมารโลหิต เป็นกลุ่มที่มีชื่อเสียงระดับโลก ภายในกลุ่มมีทหารชั้นยอดมากมาย มิฉะนั้นทหารหน่วยรบพิเศษอย่างพวกเย่เทียนเฉินทั้งเจ็ดคนคงไม่พบกับการบาดเจ็บล้มตายที่มากมายเช่นนี้ ตอนนี้แม้หานเจี๋ยจะรู้สึกเครียดมาก แต่ยังรู้สึกได้ถึงสองมือของเย่เทียนเฉินที่กดอยู่บนหยกคู่งามอันตั้งตระหง่านของตน ศีรษะก็ซบอยู่ระหว่างร่องหุบเขา ทันใดนั้นใบหน้าของหานเจี๋ยก็กลายเป็นสีแดง

หลังจากเสียงปืนเงียบไป ไม่รอให้หานเจี๋ยได้ทันมีปฏิกริยาอะไร เย่เทียนเฉินก็ยันตัวลุกขึ้นแล้ว แล้วกล่าวเพียงหนึ่งประโยคว่า “ผมไปแปปเดียวเดี๋ยวก็มา!”

ไม่ทันไรหานเจี๋ยก็ได้ยินเสียงร้องอย่างน่าอนาถดังมาจากบริเวณรอบๆ ทั้งหมดสามเสียง ในใจก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเป็นห่วงเย่เทียนเฉิน เขาเป็นเพียงทหารที่เพิ่งบรรจุเข้าหน่วยรบพิเศษ จะแข็งแกร่งขนาดไหนก็มีข้อจำกัด อีกทั้งศัตรูที่ต้องสู้ด้วยก็เป็นคนจากกลุ่มทหารรับจ้างที่มีชื่อเสียงระดับโลก

ตอนที่หานเจี๋ยกำลังวิตกกังวลคิดหาทางอยู่นั้น พงหญ้าก็ถูกแหวกออก มือซ้ายของเย่เทียนเฉินลากโจรคนหนึ่งออกมาปรากฎเบื้องหน้าหานเจี๋ยราวกับลากสุนัขตายตัวหนึ่ง ในมือขวาก็มีกริชที่มีเลือดสดๆหยดลงพื้นไม่ขาดสาย

……………………….