ตอนที่ 3 ชีวิตเจ้าของร่างเดิมช่างได้รับความไม่เป็นธรรมยิ่งนัก!
นางคือบุตรสาวที่กำเนิดจากภรรยาเอกจวนแม่ทัพกู้ มารดาผู้ให้กำเนิดนางหายตัวไป อายุสามขวบถูกตรวจพบว่าร่างกายไร้สมรรถภาพ อายุสามขวบครึ่งบนใบหน้าปรากฏปานแดง ทั้งไร้ค่าและอัปลักษณ์ ถือเป็นความอัปยศของจวนแม่ทัพ จึงตกเป็นเป้าหมายการกลั่นแกล้งของเหล่าพี่น้อง ชีวิตบุตรสาวที่กำเนิดจากภรรยาเอกคนหนึ่งยังเทียบกับข้ารับใช้ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ มีนิสัยขี้ขลาดหวาดกลัวทุกสิ่ง มีองค์ชายองค์หนึ่งเป็นคู่หมั้น…
เหตุผลที่เจ้าของร่างเดิมมาที่นี่ก็เป็นเพราะได้รับจดหมายลับจากองค์ชายผู้เป็นคู่หมั้น ทำการนัดหมายให้นางมาพบกันที่นี่ เมื่อนางตกอยู่ในเงื้อมมือปีศาจแล้วจึงได้รู้ว่านี่คือกับดักหลุมใหญ่
สำหรับบุคคลที่อยู่เบื้องหน้านี้ เป็นเจ้าวิปริตที่มีชื่อเสียงในหมู่เชื้อพระวงศ์ของอาณาจักรเฟยซิง เขาคือบุตรชายของหลูอ๋องผู้เป็นพี่ชายร่วมสายเลือดกับองค์จักรพรรดิในรัชกาลปัจจุบัน ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นเล่อฮวาโหว มีพลังวิญญาณขั้นสี่ หากกล่าวกันตามความสามารถ เขาก็นับได้ว่าเป็นอัจฉริยะผู้หนึ่ง แต่กลับมีข้อเสียที่รับไม่ได้เป็นอย่างยิ่ง คือชื่นชอบการข่มเหงชำเราเด็กสาวอายุน้อย
เล่าลือกันว่าในหนึ่งคืนเขาใช้สตรีถึงหกคน เด็กสาวที่ถูกเขาข่มเหงนั้นส่วนใหญ่จะสิ้นชีพอยู่ใต้ร่างเขา หากว่ารอดชีวิตมาได้ก็กลายเป็นคนเสียสติ…
เมื่อกล่าวถึงเขา เหล่าสตรีในเมืองหลวงล้วนหวาดกลัวยิ่ง กู้ซีจิ่วคนเดิมเมื่อได้ยินว่าต้องไปปรนนิบัติท่านโหววิปริตผู้นี้ ก็หวาดกลัวจนหน้าเปลี่ยนสีกว่าเดิม นางฉวยโอกาสยามที่สาวรับใช้ไม่ทันระวัง พุ่งศีรษะเข้าชนกำแพงทันที!
เจ้าของร่างเดิมคงจะเสียชีวิตลงจากการพุ่งชนครั้งนี้ จากนั้นกู้ซีจิ่วนักฆ่าสาวจากยุคปัจจุบันก็จับผลัดจับผลูวิญญาณมาเข้าร่างนี้แล้วฟื้นคืนชีพขึ้นมา…
การฟื้นฟูความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมสำหรับกู้ซีจิ่วแล้วใช้เวลาเพียงชั่วครู่เท่านั้น นัยน์ตาของเธอฉายแววเย็นชาออกมา!
‘ชีวิตของเจ้าของร่างเดิมช่างได้รับความไม่เป็นธรรมยิ่งนัก!’
‘ตอนนี้ในเมื่อเธอมารับช่วงใช้ร่างนี้ต่อแล้ว เช่นนั้นเธอจะทวงคืนความยุติธรรมให้แก่เจ้าของร่างเดิม เธอจะใช้ชีวิตนี้อย่างยอดเยี่ยม!’
‘สวะไร้ค่างั้นรึ? หึๆ ในพจนานุกรมของเธอไม่มีคำว่าสวะไร้ค่านี้อยู่!’
ริมฝีปากสีแดงอมชมพูระเรื่อของเธอโค้งขึ้น มุมปากกยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าเป็นการเยาะเย้ยหรือเหยียดหยาม…
เล่อฮวาโหวจ้องมองใบหน้าเล็กๆ ของนางอยู่ตลอด ยามที่มุมปากของนางโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม หัวใจที่เหี้ยมโหดด้านชาของเขาก็คล้ายว่าจะเต้นแรงขึ้นหลายจังหวะ! สาวน้อยอัปลักษณ์ผู้นี้ที่แท้ยามแย้มยิ้มงดงามยิ่งนัก ถึงกับทำให้คนเห็นภาพลวงตาว่ามีประกายแสงเจิดจ้าออกมา…
เขารู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที ในดวงตาคู่นั้นฉายแววหื่นกระหายออกมา!
เขายื่นมือไปคลายเชือกมัดมังกรที่อยู่บนผ้าห่มไหมออก เชือกมัดมังกรนี้เป็นอาวุธวิเศษชนิดหนึ่ง ไม่ว่าใครก็ตามหากถูกเชือกนี้มัดไว้ ก็อย่าหวังว่าจะหลุดรอดไปได้!
เชือกมัดมังกรนี้เดิมทีถูกใช้เป็นอาวุธในสมรภูมิรบ แต่เมื่อตกอยู่ในมือเขาก็กลายเป็นของวิเศษที่เอาไว้ใช้จัดการกับเด็กสาวผู้บริสุทธิ์
เขาแกะเชือกมัดมังกรออกไปแล้วโยนทิ้งลวกๆ จากนั้นจึงยื่นมือไปคว้าผ้าห่มไว้คิดจะกระชากผ้าห่มออกไปให้พ้นทางเสีย เพื่อจะนำตัวกู้ซีจิ่วออกมา…
ครั้นผ้าห่มถูกเขาปัดออก แต่ทว่าเขายังไม่ทันได้เห็นเรือนร่างอรชรที่อยู่ในผ้าห่มให้ชัดเจน เบื้องหน้าก็พลันมืดมิด ผ้าห่มผืนหนึ่งปกคลุมทั้งศีรษะของเขาเอาไว้!
แถมยังไม่รอให้เขาได้ทันโต้ตอบอะไร ส่วนสำคัญที่สุดสำหรับบุรุษเพศของเขาก็เจ็บปวดขึ้นมาเฉียบพลัน ความเจ็บปวดนั้นเจ็บไปจนถึงขั้วหัวใจ ราวกับกระดูกจะแหลกสลาย!
เมื่อเจอการจู่โจมอย่างเฉียบพลัน เดิมทีเขาเตรียมจะลงมือตอบโต้ แต่ความเจ็บปวดนี้ทำให้เขาต้องร้องเสียงอู้อี้ออกมาด้วยความทรมาน ร่างกายขดเข้าหากันโดยไม่รู้ตัว ระหว่างที่ร่างกายกำลังขดเข้าขดออกอยู่นั้น หัวใจของเขาก็รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาพลัน คล้ายกับมีบางสิ่งที่แหลมคมเหมือนตะปูตอกเข้าที่หัวใจของเขา!
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยิ่งนัก เร็วเสียจนทำให้ท่านโหวผู้ซึ่งถือดีในวรยุทธ์ของตนมาตลอดตอบโต้กลับไม่ทัน!
จนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายของเขา ก็ไม่เห็นว่ากู้ซีจิ่วลงมืออย่างไร เขาไม่ได้เห็นแม้กระทั่งว่า อาวุธที่ใช้แทงทะลุชีพจรหัวใจเขาได้อย่างแม่นยำนั้นท้ายที่สุดแล้วคือสิ่งใด
เล่อฮวาโหวชักกระตุกอยู่สองครา และไม่เคลื่อนไหวอีกในที่สุด…
ตั้งแต่ต้นจนจบเขาเพียงส่งเสียงสั้นๆ ออกมาสองครั้ง ก็คือยามที่ได้รับความเจ็บปวดอยู่ในผ้าห่ม เสียงนั้นไม่ดังนักย่อมไม่เล็ดรอดออกไปนอกตำหนัก
ตอนที่ 4 จะดูถูกเธอเกินไปแล้ว
กู้ซีจิ่วฉวยผ้าม่านบนเตียงผืนหนึ่งมาคลุมร่างกาย หลุบสายตาลงมองท่านโหวที่สิ้นชีพอยู่แทบเท้าเธอ มุมปากโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็นเยียบ
ท่านโหววิปริตผู้นี้จะดูถูกเธอเกินไปแล้ว!
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่มีกำลังภายใน แต่ความสามารถในการตอบสนองของเธอนั้นรวดเร็วดุจสายฟ้า!
ยิ่งกว่านั้นเธอฝึกซ้อมการโจมตีฉับพลันนี้ในสมองตั้งแต่แรกแล้ว คำนวณไว้อย่างแม่นยำว่าลงมือเวลาไหนจะมีประสิทธิภาพที่สุด
เล่อฮวาโหวนอนแผ่อยู่ตรงนั้น ตายโดยที่ตาทั้งสองข้างยังเบิกโพลงอย่างโกรธแค้น มีปิ่นหยกเขียวมรกตที่ก่อนหน้านี้เคยอยู่บนศีรษะเขาปักอยู่ตรงทรวงอก เลือดไหลทะลักออกมาช้าๆ รอบๆ ปิ่น
เขายังคงเปลือยกายอยู่ กู้ซีจิ่วเตะผ้าห่มผืนนั้นด้วยท่าทีรังเกียจ ผ้าห่มลอยไปคลุมศพของเล่อฮวาโหวทั้งร่างอย่างเหมาะเจาะพอดี เหลือไว้เพียงใบหน้าหล่อเหลาเท่านั้น จากนั้นเธอก็นำผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งที่อยู่บนเตียงมาคลุมมือไว้ แล้วลูบลงไปบนดวงตาของเล่อฮวาโหวครั้งหนึ่ง ทำให้ดวงตาของเขาปิดลง คล้ายกับว่ากำลังนอนหลับอยู่
“ท่านโหวขอรับ?” มีเสียงถามไถ่ดังมาจากนอกห้องในฉับพลัน ย่อมเป็นเสียงของชายร่างใหญ่สองคนนั้น คิดว่าคงกลับมาหลังจากจัดการกับเด็กสาวคนเรียบร้อยแล้ว
ดวงตากู้ซีจิ่ววาบประกายเล็กน้อย เหินกายกลับขึ้นไปบนเตียง เตะปลายเท้าให้ผ้าม่านเป็นชั้นๆ บนเตียงใหญ่ตกลงมาบดบังทัศนวิสัยทั้งหมดบนเตียงเอาไว้
“พวกเจ้าเข้ามาคนหนึ่ง” กู้ซีจิ่วเปิดปากพูด โดยเลียนแบบเสียงของเล่อฮวาโหวได้อย่างแนบเนียนยิ่ง
ชายร่างใหญ่ทั้งสองเชื่ออย่างสนิทใจ ดังนั้นจึงผลักประตูเข้ามาคนหนึ่ง
“ท่านโหว ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหมขอรับ?” ชายร่างใหญ่คนแรกยืนอยู่ที่ประตูพลางโน้มกายถามไถ่
“มาข้างหน้านี่” กู้ซีจิ่วยังคงเอ่ยต่อไปด้วยน้ำเสียงของเล่อฮวาโหว ชายร่างใหญ่คนแรกไม่กล้าขัดคำสั่ง ดังนั้นจึงเดินมาหยุดยังเบื้องหน้าม่าน แล้วโน้มกายอีกครา…
‘ฟึ่บ!’ มีสายลมแผ่วๆ พัดผ่าน ในผ้าม่านนั้นมีเงาที่รวดเร็วดุจสายฟ้าเส้นหนึ่งพุ่งออกมา ชายร่างใหญ่คนแรกไม่ทันได้เงยหน้าขึ้นด้วยซ้ำ ได้ยินเพียงแค่เสียงขวับเบาๆ เสียงหนึ่งเท่านั้น ลำคอของเขาก็ขาดออกจากกันทันที!
น่าสงสารที่แม้แต่เสียงครวญครางก็ไม่ทันได้ร้องออกมาสักแอะด้วยซ้ำ และค่อยๆ ล้มลงไปทั้งแบบนั้น…
เขาตายโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครฆ่าเขา!
กู้ซีจิ่วลากศพของชายร่างใหญ่คนนี้ไปไว้ที่หลังเตียง แล้วใช้วิธีเดียวกันเรียกให้ชายร่างใหญ่คนที่สองเข้ามา ก่อนจะลงมือจู่โจมปลิดชีพชายร่างใหญ่คนที่สองด้วยวิธีแบบเดียวกัน
เธอขยับข้อมือเล็กน้อย ด้วยสภาพที่ไม่มีกำลังภายใน เธอกระทำการเช่นนี้ก็เปลืองแรงอยู่พอสมควร ดังนั้นจึงลงมือช้ากว่ายามปกติไปหลายวินาที แต่ก็เพียงพอแล้วที่จะใช้จัดการกับคนเหล่านี้!
กู้ซีจิ่วถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วลบร่องรอยทั้งหมดของตนเองทิ้ง จากนั้นก็หันหลังจากไป
เพราะเรือนพักแห่งนี้คือคฤหาสน์ลับที่ท่านโหววิปริตใช้เพื่อกระทำการชั่วช้ากับหญิงสาวโดยเฉพาะ ดังนั้นที่นี่จึงมีข้ารับใช้อยู่ไม่มากนัก มีคนเพียงสิบกว่าคนเท่านั้นที่ลาดตระเวนอยู่
กู้ซีจิ่วยังเชี่ยวชาญการอำพรางกายที่สุด ดังนั้นจึงไม่มีใครพบตัวเธอ
หลังจากนั้นเธอได้ย้อนกลับไปหาสาวใช้ที่ชำระร่างกายให้เธอ และแน่นอนว่าเธอสังหารสาวใช้ทั้งสองคนที่รู้ฐานะของเธอทิ้งเสีย
เดิมทีเธอต้องการตามหาเสื้อผ้าของตนเอง แต่กลับพบเพียงเศษผ้ากองหนึ่ง ดูเหมือนว่าคนเหล่านี้ไม่คิดจะเหลือทางหนีทีไล่ไว้ให้แก่เหล่าหญิงสาวที่ถูกฉุดคร่ามาเลย เมื่ออาบน้ำให้พวกนางและนำไปส่งถึงเตียงของท่านโหวเรียบร้อยแล้ว ก็ถือโอกาสทำลายเสื้อผ้าทั้งหมดที่จะทำให้ผู้คนรู้ถึงฐานะตัวตนของพวกนางได้ทิ้งเสีย…
เธอกำลังจะถอดเสื้อผ้าของสาวใช้ออกเพื่อนำมาเปลี่ยนแทนผ้าม่านบนกายตน ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงตะโกนอย่างตื่นตระหนกดังขึ้นในความมืด
“ท่านโหวถูกสังหาร! รีบจับคนร้าย!”
‘ไม่ทันกาลแล้ว!’ กู้ซีจิ่วขยับกายทันใด เงาร่างเล็กๆ หายไปจากตำแหน่งนั้น…
← ตอนก่อน