ตอนที่ 1 สายตาไม่ได้แย่ขนาดนั้น

ลืมรักเลือนใจ

ภาค 1 

 

 

 

 

 

หลินเยียนก้าวลงจากรถ แล้วเดินไปที่ประตูห้องจัดเลี้ยงอันหรูหราอย่างเชื่องช้า 

 

 

ทันทีที่เห็นเธอ ใบหน้าของแขกในห้องจัดเลี้ยงพลันเต็มไปด้วยความเบื่อหน่ายและต่างหลีกเลี่ยงแทบไม่ทัน 

 

 

“ทำไมผู้หญิงคนนี้มาอีกแล้ว? คงจะไม่ได้จะมาร้องห่มร้องไห้ ขอให้หันอี้เซวียนรับผิดชอบอีกหรอกนะ?” 

 

 

“ตลกสิ้นดี หันอี้เซวียนชื่อเสียงโด่งดังขนาดนี้ จะถูกใจตัวประกอบอย่างเธอได้ยังไง? เธอกลับไปป่าวประกาศว่าหันอี้เซวียนเป็นแฟนเธอ เธอเป็นโรคขี้มโนหรือเปล่าเนี่ย?” 

 

 

“ศิลปินที่ไม่มีชื่อเสียงพวกนี้ก็มักจะสร้างกระแส หันอี้เซวียนและหลินซูหย่าโชคร้ายจริงๆ ที่ถูกปลิงตัวนี้เกาะติด!” 

 

 

…… 

 

 

เห็นหลินเยียนตามมาถึงที่ หันอี้เซวียนขมวดปมคิ้วแน่น นัยน์ตาเต็มไปด้วยความขยะแขยงที่ยากจะปกปิด 

 

 

“ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าที่ๆ มีฉัน ก็ไม่อนุญาตให้เธอปรากฏตัว?” 

 

 

หันอี้เซวียน หลินซูหย่าสวมชุดกี่เพ้าที่เรียบง่ายและสง่างาม พร้อมด้วยรูปลักษณ์ที่งดงามและอ่อนโยน ได้ยินเช่นนี้ เธอพลันส่ายหัวและเกลี้ยกล่อมอย่างนุ่มนวล “อี้เซวียน ช่างเถอะ วันนี้วันเกิดฉัน ฉันไม่อยากทะเลาะ…” 

 

 

สีหน้าของหันอี้เซวียนเย็นเยียบขึ้นมาเล็กน้อย “ซูหย่า ฉันบอกแล้วว่า หล่อนจะทำอะไรฉันก็ได้ แต่ห้ามทำร้ายเธอ” 

 

 

บรรดาศิลปินที่อยู่ข้างๆ ได้ยิน ต่างเสริมขึ้นว่า “ซูหย่า เธอเป็นคนดีเกินไป ผู้หญิงคนนี้ ไม่เพียงแค่อยากได้ผู้ชายของเธอ แต่ยังใส่ร้ายว่าเธอเป็นมือที่สาม! คนแบบนี้เธอทนได้เหรอ?” 

 

 

ถ้าเป็นหลินเยียนในยามปกติได้ยินคำพูดบิดเบือนข้อเท็จจริงเหล่านี้ เห็นหลินซูหย่าใช้ความเมตตาจอมปลอมควบคุมคำวิพากษ์วิจารณ์ ยามนี้คงจะพุ่งออกไปแก้ตัวอย่างบ้าคลั่งแล้ว 

 

 

ทว่ายามนี้ หลินเยียนราวกับไม่ได้ยินอะไรเลย เหลือบมองหันอี้เซวียนและหลินซูหย่าด้วยสีหน้าเรียบเฉยปราดหนึ่ง แล้วเดินเข้างานไปพร้อมสีหน้าไร้อารมณ์ 

 

 

แขกที่มางานวันนี้ มีหลายคนที่เป็นแฟนคลับของหลินซูหย่าและหันอี้เซวียน ยามนี้ต่างเต็มไปด้วยคำด่าทอ 

 

 

“ตัวประกอบที่ฝีมือย่ำแย่เหลวแหลกที่จบแค่มัธยมปลาย วันๆ ดีแต่สร้างกระแส หันอี้เซวียนจะไม่สนใจเพชรเม็ดงามอย่างหลินซูหย่า แล้วมามองเธองั้นหรือ? 

 

 

“สร้างกระแสอย่างไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี สร้างข่าวเท็จ ไม่รู้สึกว่าตัวเองทำเกินไปหน่อยหรือ?” 

 

 

…… 

 

 

หลินซูหย่าเป็นหนึ่งในสี่นักแสดงหญิงรุ่นเยาว์แห่งจีน รูปลักษณ์งดงาม จิตใจเมตตา เป็นเทวดาประจำชาติที่ได้รับการยอมรับ 

 

 

หันอี้เซวียนเป็นผู้สืบทอดหันซือกรุ๊ป หากออกจากวงการบันเทิงก็จะไปสืบทอดธุรกิจร้อยล้านของตระกูล 

 

 

ทั้งสองเป็นดั่งกิ่งทองใบหยก ฐานะทางบ้านคู่ควรกัน หลังจากเปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้ ก็กลายเป็นประเด็นร้อนอย่างรวดเร็ว บนอินเตอร์เน็ตเต็มไปด้วยคำอวยพร 

 

 

ส่วนหลินเยียนเป็นแค่ตัวประกอบที่ไม่มีการศึกษา ไม่มีทักษะทางการแสดง ผลการแสดงก็ย่ำแย่ กลับกล้าบอกว่าตนเป็นแฟนสาวของหันอี้เซวียน หันอี้เซวียนปฏิเสธข่าวลือแล้ว แต่นางไม่เพียงไม่มีหลักฐาน แต่ยังตามตื๊อไม่หยุด แน่นอนว่าจะต้องถูกหัวเราะเยาะ 

 

 

“คุณหลินเยี่ยน ยังก่อเรื่องไม่พออีกเหรอ? มาบอกว่าซูหย่าแย่งแฟนเธออีกแล้ว” 

 

 

กับคำด่าที่ดังแว่วขึ้นรอบๆ ครั้งนี้หลินเยียนไม่ได้ด่ากลับ และไม่ได้ร้องไห้โวยวายอย่างบ้าคลั่งจนเสียงแหบแห้ง 

 

 

เธอหยุดฝีเท้าอย่างไม่เร่งรีบ ดวงตาอันเย็นชากวาดมองไปยังฝูงชนอย่างไม่ใส่ใจ พลันพูดอย่างเรียบเฉยว่า “ก็แค่ข่าวลือ ฉันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับหันอี้เซวียน” 

 

 

สิ่งที่ทุกคนคิดไม่ถึงคือ คราวนี้หลินเยียนไม่ได้ร้องไห้โวยวายต่อ ถึงขั้นที่พูดว่า…จนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหันอี้เซวียน 

 

 

ด้วยนิสัยของหลินเยียน เป็นไปได้อย่างไร? 

 

 

ในขณะที่ทุกคนกำลังเคลือบแคลงใจนั่นเอง วินาทีต่อมา พลันได้ยินหลินเยียนพูดต่อว่า “สายตาของฉันหลินเยียน ไม่ได้แย่ขนาดนั้น”