ชั่วขณะที่สิ้นเสียงของหลินเยียน บรรยากาศในงานพลันเงียบสงัดลง
เมื่อ…เมื่อครู่นี้ ตัวประกอบคนนั้นพูดว่าอะไรนะ?
ความหมายของเธอคือ…หันอี้เซวียนแย่มากเหรอ?
ผู้หญิงคนนี้บ้าไปแล้วหรือเปล่า?
เมื่อครู่นี้ทุกคนห่วงแต่ซุบซิบ แต่ตอนนี้ราวกับจู่ๆ ก็สังเกตเห็นว่า หลินเยียนในวันนี้ดูผิดปกติ
หลินเยียนในยามปกติจะไม่ห่วงเรื่องภาพลักษณ์ภายนอก หน้าซีดหน้าเปรอะ ทุกครั้งที่ปรากฏตัวก็ดูคลุ้งคลั่งเหมือนมนุษย์ป้าคนหนึ่ง
แต่วันนี้แม้หลินเยียนสวมเพียงชุดลำลองธรรมดาๆ แต่กลับดูสะอาดสะอ้าน โดดเด่นอย่างมาก
ตอนที่อ้าปากตอบคำถามนักข่าว ใบหน้าอันขาวผ่องยองใยของหญิงสาว เผยความเย็นชาและห่างเหิน แฝงความเกียจคร้านอย่างไม่ได้ตั้งใจ
ดูเหมือน…เปลี่ยนไปเป็นคนละคน…
ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไหร่ ในที่สุดทุกคนก็ตื่นจากภวังค์ ในงานเต็มไปด้วยเสียงฮือฮา
“ปลิงตัวนี้หมายความว่าไง? บอกว่าอี้เซวียนแย่มาก ไม่ถูกใจเธองั้นเหรอ?!”
“เกาะกระแสไม่สำเร็จกลับมาป้ายสีกัน ทำไมถึงได้มีผู้หญิงที่เลวได้ขนาดนี้?”
“เฮ้ย เล่นของสูงมากนะ เป็นแค่ตัวประกอบ ยังจะดูถูกหันอี้เซวียน? หรือเธออยากจะสร้างกระแสกับแนวหน้าของวงการบันเทิงอย่างเผยหนานซวี่?”
……
“บอดี้การ์ดล่ะ?”
หันอี้เซวียนที่อยู่ข้างๆ ใบหน้าหม่นแสง “เฉินเฮ่า นายจัดการยังไง ปล่อยคนเข้ามามั่วซั่วแบบนี้ ยังไม่รีบเอาตัวคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกไปอีก”
ผู้ช่วยได้ยินเช่นนี้ สีหน้าพลันเผยความลังเล ดูอย่างลำบากใจ “พี่เซวียน แบบนี้…คงจะไม่ได้…เมื่อกี้ผมไปตรวจดูแล้ว…เธอมีการ์ดเชิญ…”
หันอี้เซวียนอึ้ง พลันขมวดปมคิ้ว “เธอมีการ์ดเชิญได้ยังไง?”
เขาไม่มีทางให้การ์ดเชิญกับหลินเยียนแน่
หันอี้เซวียนมองหลินซูหย่าที่อยู่ข้างๆ ตามสัญชาตญาณ หลินซูหย่าส่ายหน้า เพื่อบอกว่าตนไม่ได้แจกการ์ดเชิญให้กับหลินเยียน
“ฉันโทรไปเชิญพี่สาว แต่เธอปฏิเสธ…” หลินซูหย่าเปรย
ครานี้ผู้ช่วยเองก็คิดไม่ตก ได้แต่เกาหัวพูด “อาจจะเป็นคู่ควงที่แขกผู้มีเกียรติคนใดคนหนึ่งควงมาหรือเปล่า? แต่ผมยังไม่ทันได้ถาม ว่าการ์ดเชิญในมือเธอเป็นของใคร ให้ผมลองถามมั้ย?”
คู่ควงงั้นหรือ?
แขกผู้มีเกียรติที่อยู่ข้างๆ ได้ยินคำพูดนี้แล้วต่างเชื่อไม่ลง
แขกผู้มีเกียรติในงานล้วนเป็นศิลปินคนดังและผู้มีชื่อเสียงจากวงการต่างๆ ใครจะควงผู้หญิงแบบนี้ออกงาน?
ในขณะที่ทุกคนกำลังวิพากษ์วิจารณ์ จู่ๆ ก็มีเสียงกรีดร้องด้วยความตื่นเต้นดังแว่วมาจากตรงหน้าประตู…
“นั่นๆๆๆ เผย…เผยหนานซวี่!!”
“พระเจ้า! เผยหนานซวี่ก็มางานเลี้ยงวันเกิดของซูหย่าด้วยหรือนี่! ซูหย่าช่างมีหน้ามีตาจริงๆ!”
“วันนี้สามีฉันหล่อเกินไปหรือเปล่าเนี่ย! นี่มันหน้าตาดีระดับเซียนชัดๆ!”
……
หน้าประตูห้องจัดเลี้ยง เผยหนานซวี่สวมชุดสูททรงสูงปักลายสีน้ำเงินกรมท่า ยิ่งทำให้เขาดูไหล่กว้างสะโพกแคบและตัวสูงระหง
มุมปากที่ยกขึ้นเล็กน้อยราวกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิ ดวงตาอันสดใสราวกับดวงดาวภายใต้โคมไฟคริสตัล เครื่องหน้าอันละเมียดละไมราวกับรังสรรค์ขึ้นจากมือพระเจ้า ดูทรงเสน่ห์อย่างที่สุด
ด้วยรูปลักษณ์ที่น่าหลงใหล ทักษะการแสดงที่ยอดเยี่ยมและความตั้งใจทำงาน ทำให้เผยหนานซวี่โด่งดังอย่างมากตั้งแต่เพิ่งเข้าวงการใหม่ๆ ถือเป็นนักแสดงยอดนิยมในวงการบันเทิงปัจจุบันอย่างไร้ข้อกังขา โพสต์ภาพถ่ายด้วยตัวเองที่เซนเซอร์จนเห็นหน้าไม่ชัด ก็ยังกลายเป็นพาดหัวข่าวร้อนได้
ทันใดนั้นคนทั้งงานเลี้ยงต่างเดือดพล่านขึ้นมา
คิดไม่ถึงว่าหลินซูหย่าจะมีหน้ามีตาถึงเพียงนี้ แม้แต่ราชาภาพยนตร์เผยยังให้เกียรติมาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของเธอ
หลินซูหย่าส่งการ์ดเชิญไปให้เผยหนานซวี่จริงๆ แต่ไม่ได้คาดหวังว่าเผยหนานซวี่จะมา เพราะเผยหนานซวี่แทบจะไม่เคยไปร่วมงานเลี้ยงส่วนตัวประเภทนี้เลย
เพราะฉะนั้นแม้แต่ตัวหลินซูหย่าเองก็ไม่คาดคิดกับการมาเยือนของเผยหนานซวี่ ครู่ใหญ่กว่าจะตั้งสติได้
จากนั้นหลินซูหย่าได้เผยรอยยิ้มอย่างใจกว้างและเหมาะเจาะ เดินหน้าเข้าไปทักทายอย่างสง่า “ราชาภาพยนตร์เผย ไม่คิดเลยว่าคุณจะมา…”
ในขณะที่ทุกคนกำลังตื่นเต้นอยู่นั่น เผยหนานซวี่ได้เดินผ่านหลินซูหย่าและหันอี้เซวียนรวมทั้งผู้คนที่เข้ามาทักทายโดยไม่แม้แต่จะชายตามอง ค่อยๆ ก้าวไปทางหลินเยียนทีละก้าว…
ท่ามกลางสายตาของทุกคน เผยหนานซวี่เดินตรงไปยืนนิ่งตรงหน้าหลินเยียน ก่อนจะยิ้มพูด “คุณหลิน ขอโทษที่ให้คอยนาน!”