ต้นฤดูหนาวของเมืองหลง อากาศทั้งอบอุ่นและหนาวเย็น
ลมที่พัดผ่านมานั้น ถึงแม้จะไม่หนาวจนสะท้านไปถึงกระดูก แต่กลับเคล้าไปดูความเหน็บหนาวของฤดูหนาว ดังนั้นตอนที่ลมพัดกระทบใบหน้าจึงไม่ได้ทำให้รู้สึกดีเสียเท่าไหร่
พอลงจากเครื่องบิน อยู่ดีๆ ลมหนาวก็พัดโชยเข้ามาในคอเสื้อ ตัวของเหลิ่งรั่วปิงอดไม่ได้ที่จะหนาวสั่นถึงสองครั้ง มือเรียวสวยราวกับไข่มุกใต้ท้องทะเลลึกยกขึ้น เธอกระชับเสื้อโค้ทสีขาวตัวยาว การกระทำของเธอนั้นดูสง่าและเป็นธรรมชาติ ราวกับเทพธิดาในนิยายกรีกโรมันที่บินลงมาจากปุยเมฆ
วันนี้เป็นวันที่ฟ้ามืดครึ้ม ท้องฟ้าเคล้าไปด้วยสีเทาและความเศร้าหมองของฤดูหนาว หิมะขาวโพลนตกลงบนกิ่งก้านของต้นไม้เล็กน้อย ทำให้กิ่งของต้นไม้คล้ายกับว่ามีกลีบดอกไม้สีขาวประดับอยู่
เหลิ่งรั่วปิงเงยหน้าขึ้นมองไปบนท้องฟ้าอย่างช้าๆ นัยน์ตาสีนิลคู่สวยหรี่ลงเล็กน้อย ทว่าสิ่งที่ไม่มีใครเห็นก็คือ นัยน์ตาคู่นั้นของเธอเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย
การได้กลับมาที่เมืองหลงอีกครั้ง ราวกับว่าได้กลับมาที่โลกอีกใบหนึ่ง ความรู้สึกซึ้งใจ ความรู้สึกที่มีความสุข และความรู้สึกเกลียดแค้นในอดีตได้แผ่ซ่านออกมาเหมือนดอกไม้ไฟที่ปลดปล่อยออกมาอย่างอิสระอยู่ข้างกาย แต่ท้ายที่สุดดอกไม้ไฟเหล่านั้นก็ล่วงหล่นลงบนพื้น
ระยะเวลาสิบปี สำหรับคนทั่วไปนั้น เวลาช่างเดินเร็วเหลือเกิน แต่สำหรับเธอ มันกลับเดินช้าเหมือนหนึ่งศตวรรษ เพราะว่าทุกวันของเธอช่างแสนจะยากลำบาก เธอรอคอยวันนี้ วันที่จะได้กลับมาที่เมืองหลงอีกครั้ง
สิบปีที่ผ่านมานี้ จากเด็กสาวอายุสิบสามปีที่ไม่ประสีประสากับโลกใบนี้ เธอได้เติบโตแล้วกลายเป็นหญิงสาวอายุยี่สิบสามปี ไม่มีใครรู้ ตลอดสิบปีที่ผ่านมานี้ เธอต้องฝึกฝนด้วยความทรมาน ชีวิตของเธอนั้นยากลำบากแค่ไหน
สิบปีที่แล้ว คนพวกนั้นทำให้คนในครอบครัวของเธอต้องตาย เธอต้องหนีไปจากเมืองนี้ซึ่งเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยผู้คนที่ทำร้ายข่มเหงและไล่ฆ่าเธอ เธอต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศเพียงลำพังด้วยความโดดเดี่ยว วันนี้หลังจากสิบปีผ่านไป เธอได้เปลี่ยนแปลงตัวเองทุกอย่าง และกลับมาที่นี่อีกครั้งพร้อมกับความโกรธแค้น สิ่งที่เธอทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อสิ่งเดียวเท่านั้น นั่นก็คือการแก้แค้น
เธอดึงสายตากลับมาอย่างสง่าและหันหน้าตรง พลางกระตุกยิ้มมุมปากที่น่าหลงใหลเหมือนลมในฤดูใบไม้ผลิ คล้ายดอกบัวขาวที่ผลิบาน
เหลิ่งรั่วปิงลากกระเป๋าเดินทาง พร้อมกับก้าวเท้าเรียวยาวช้าๆ และเดินไปตามทาง เสื้อโค้ทสีขาวตัวยาวปลิวไปตามแรงลม
เมืองหลง ฉันกลับมาแล้ว การกลับมาของฉัน ลิขิตให้คุณต้องวุ่นวายเหมือนพายุถล่มขึ้นอีกครั้ง
นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพร้อมกัน ต่างหันหน้ากลับมาจ้องมองไปยังผู้หญิงร่างบาง ตัวสูง สง่างาม ชวนหลงใหล และสวยงามบริสุทธิ์ผุดผ่องราวกับเทพธิดา
ไม่มีใครรู้ ภายใต้เปลือกนอกของผู้หญิงที่สวยและบริสุทธิ์คนนี้ มีหัวใจที่คลั่งไคล้เลือด มือเรียวยาวคู่สวยนั้น แปดเปื้อนไปด้วยเลือดมากมาย หัวใจของเธอนั้นแปรเปลี่ยนด้วยความรวดเร็ว ดวงใจดวงนี้ของเธอเต็มไปด้วยความแค้น เธอคือนางฟ้าใต้แสงอาทิตย์ และเป็นปีศาจในยามค่ำคืน
เมื่อเดินออกไปจากทางเดิน จู่ๆ สายตาก็เหลือบไปเห็นรถหรูคันยาว มันช่างดึงดูดสายตาเป็นอย่างมาก รถคันนั้นเป็นรถหรูสีดำสนิท แม้ว่าจะเป็นวันที่ท้องฟ้ามืดครึ้ม ไม่มีแสงส่องสว่างจากดวงอาทิตย์ แต่มันก็ยังคงดูเงางาม เหมือนหินแกะสลักหุ่นนักรบที่ชนะสงครามในสมัยโบราณ และเหมือนราชสีห์ตัวผู้ที่วางท่าแล้วนอนหลับด้วยความสง่างามในยามค่ำคืน
แม้ว่ารถจะจอดเอาไว้ข้างทางอย่างเงียบๆ ทว่ากลับทำให้ผู้คนไม่อาจละสายตาไปได้ ถึงขั้นพูดว่าไม่มีอะไรน่าดึงดูดสายตาคนได้เท่ากับมันอีกแล้ว รถคันนั้นทำให้คนอื่นๆ ต่างก็อยากรู้มากว่าคนที่นั่งอยู่ในรถเป็นใคร
เหลิ่งรั่วปิงรู้ดี ถึงอย่างไรรถยนต์ก็เป็นเพียงแค่สิ่งไม่มีชีวิต การที่ทำให้รถยนต์สามารถมีออร่าได้แบบนี้ เป็นเพราะเจ้าของรถหรูที่นั่งอยู่ด้านในต่างหาก
แม้จะมีกระจกดำเพื่อกันไม่ให้คนอื่นแอบมองกั้นเอาไว้ ทำให้ไม่สามารถมองเห็นภายในรถยนต์ แต่ราศีที่คนในรถแผ่ออกมานั้น ทำให้เหลิ่งรั่วปิงรู้สึกกดดันเพราะความเย็นยะเยือก
สำหรับคนที่ผ่านการฝึกฝนและใช้ชีวิตด้วยวิธีที่โหดเหี้ยมเหมือนตกนรกทั้งเป็นมาหลายปีนั้น ทำให้เธอกลายเป็นคนที่ไวต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
เซ้นส์มันบอกกับเธอว่า คนที่อยู่ในรถยนต์คือบุคคลอันตราย!
ประสบการณ์บอกกับเธอว่า เวลาที่เจอกับคนแบบนี้ต้องเดินเลี่ยงไปอีกทาง ห้ามแม้แต่จะสบตา
แต่ว่าวันนี้ เธอกลับจ้องมองไปที่กระจกหน้าต่างของรถยนต์คันนั้นอย่างห้ามไม่ได้ และอยากจะมองผ่านกระจกสีดำ เพื่อมองเห็นคนด้านในให้ชัดเจน
← ตอนก่อน