เล่ม 1 ตอนที่ 2 คนอะไรช่างงดงามยิ่งนัก

ราชินีพลิกสวรรค์

เจียงหลียังคงมึนงงไม่ได้สติ เพียงพยายามจะออกแรง ทั่วทั้งร่างของนางก็เจ็บปวดจนไม่มีอะไรมาเทียบได้นางไม่รู้ว่าตัวนางอยู่ที่ใด ยิ่งไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ประสบก่อนหน้านี้ เป็นเรื่องจริงหรือเพียงมายา ทันใดนั้นแรงดึงดูดมหาศาลก็ปรากฏขึ้น ส่งผลให้จิตของเจียงหลีสัมผัสได้ถึงภัยอันตรายที่รุนแรง.. 

 

 

นางรู้สึกได้ว่าวิญญาณของนางกำลังถูกกลืนกิน 

 

 

“ไปให้พ้น” เจียงหลีส่งเสียงคำรามออกมา พร้อมปล่อยพลังจากร่างของนางพุ่งออกไป พยายามข่มให้พลังที่กลืนกินนางอยู่ถอยไป ทันใดนั้น นางลืมตาขึ้นมอง เห็นสถานการณ์ของตนอย่างชัดเจน 

 

 

ไม่ นางยังไม่ทราบอย่างแน่ชัดว่าขณะนี้ตัวนางเองอยู่แห่งหนใด 

 

 

นางรู้เพียงว่าตัวนางอยู่ในความมืดมิดอันไร้ขอบเขต เบื้องหน้าของนางมีดวงไฟสองดวง ซ้ายขวาข้างละดวง 

 

 

ดวงไฟฝั่งซ้ายมือนั้นคล้ำหมองและดูเปราะบาง ประหนึ่งเพียงเอามือบีบก็จะมลายไปทันควัน  

 

 

แต่ดวงไฟฝั่งขวามือนั้น สว่างไสวกว่าดวงซ้ายมากนัก พลังดูดกลืนเมื่อครู่นั้น แผ่ออกมาจากดวงไฟนี้นี่เอง 

 

 

ร่างวิญญาณ! เจียงหลีเข้าใจในบัดดล 

 

 

นางจำได้ว่าเดิมทีนางล่องลอยอยู่ในรอยแยกของความว่างเปล่า ร่างกายของนางถูกทำลายสิ้น อาศัยเพียงความว่างเปล่าเสริมสร้างจิตวิญญาณของนาง เพื่อรอคอยวันคืนที่จะได้กลับคืน นางต้องการกลับไปยังโลกใบเดิมเพื่อตามหาหญิงสาวที่มีนามว่ามู่ชิงเกอ เพื่อดูว่านางตายไปแล้วหรือยังมีชีวิตอยู่ แล้วอยู่ดีหรือไม่ แต่มีอยู่วันหนึ่ง จู่ๆ ก็มีพลังลึกลับดึงดูดนางไปยังสักแห่งหนึ่งของจักรวาล แล้วถีบนางส่งเข้ามาอยู่ในโลกที่แปลกประหลาดใบนี้ ไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะต่อต้านแรงนั้น 

 

 

บัดซบ ใครเป็นคนถีบข้าเนี่ย เจียงหลีโกรธแค้นอยู่ในใจ ขณะเดียวกันก็พินิจพิเคราะห์ดวงไฟทางขวามืออย่างตั้งใจ 

 

 

ส่วนดวงไฟทางซ้ายที่พร้อมจะดับลงทุกเมื่อ นางไม่สนใจมันเลยสักนิด ดูเหมือนว่าร่างวิญญาณของนางจะหลอมรวมเป็นร่างเดียวกับดวงไฟทางขวา ทว่านางสามารถครองตำแหน่งผู้อยู่เหนือกว่าได้ในพริบตา ภายหลัง นางสัมผัสได้ถึงแรงอาฆาตที่บีบนางให้ต้องลืมตาขึ้น และพยุงร่างที่การต่อสู้ของร่างกายที่ไม่ค่อยเป็นอันหนึ่งเดียวกันนัก เมื่อการต่อสู้สิ้นสุดลง ร่างจิตวิญญาณของนางถูกใช้กำลังเกินควร ท้ายที่สุดนางก็สลบไป 

 

 

เจียงหลียิ้มออก แม้ว่าขณะนี้นางจะเป็นเพียงดวงไฟ มองไม่เห็นรอยยิ้มของนาง ทว่าก้นบึ้งหัวใจของนางกำลังยิ้มอยู่ เป็นการยิ้มเยาะเสียด้วย เห็นได้ชัดว่าดวงไฟทางขวามือฉวยโอกาสขณะที่นางกำลังอ่อนแอดูดกลืนนางแล้วครอบครองร่างนี้ 

 

 

ทันใดนั้นนางรู้สึกว่าดวงไฟทางขวาหยุดการดูดกลืน และเริ่มการโจมตีอีกครั้ง แต่ครานี้ เป้าหมายในการโจมตีไม่ใช่นางอีกต่อไป แต่เป็นดวงไฟทางซ้ายมือต่างหาก  

 

 

เจ้าอยากดูดกลืนวิญญาณของเจ้าของเดิมเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ตัวเอง แล้วค่อยมาประลองกันกับข้าว่าใครอยู่เหนือกว่ากันหรือไม่ เจียงหลีเข้าใจแผนการของดวงไฟทางขวามือทันที 

 

 

เป็นที่ประจักษ์ว่าดวงไฟทางขวามือนั้นรู้ดีว่าตัวมันเองด้อยกว่านางนัก สำหรับเรื่องนี้ เจียงหลีมีความมั่นใจมาก แม้ว่าพลังวิญญาณของนางจะอ่อนแอลงมากจากครั้งที่นางทำลายโลกธาตุ แต่นางก็ทำนุบำรุงร่างมาเป็นเวลานาน จะอย่างไรนางก็ยังแข็งแกร่งกว่าดวงวิญญาณอื่นๆ มากนัก ตัวเลือกของดวงไฟทางด้านขวาเป็นตัวยืนยันถึงข้อนี้อย่างไม่ต้องสงสัย 

 

 

ในเมื่อเป็นเช่นนี้… 

 

 

ดวงไฟของเจียงหลีกระโดดพรวดขึ้นปรากฏตัวต่อหน้าดวงไฟสลัว ยืนกั้นดวงไฟทางขวามือไว้ นางแปลงร่างเป็นเงาคนที่สวยงามตนหนึ่ง เป็นภาพมายาที่สูงส่งงดงามยิ่ง ในมายานี้ ดวงตาคู่งามที่ไม่มีใครเหมือนบังเกิดความเย็นชาขึ้น 

 

 

เจียงหลียิ้มอย่างดูถูกเหยียดหยาม ในรอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยอัตตาประหนึ่งทั่วใต้ฟ้าโลกหล้านี้มีนางสูงส่งแต่เพียงผู้เดียว  

 

 

ทันใดนั้นนางพลิกมือขึ้นคว้า ดวงไฟสลัวดวงนั้นถูกดูดกลืนเข้าสู่ฝ่ามือของนางในพริบตา ดวงวิญญาณที่รวยรินถูกนางดูดกลืนในครู่เดียว ร่างวิญญาณของนางดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าเดิมเล็กน้อย  

 

 

ในอวกาศอันมืดมิดนี้เหลือเพียงนางและดวงไฟทางขวามือเท่านั้น 

 

 

“ยอมให้ข้าดูดกลืนแต่โดยดีเถิด เจ้าไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว” เจียงหลียิ้มอย่างภาคภูมิ แล้วพุ่งตัวไปยังดวงไฟที่เหลืออยู่ 

 

 

…… 

 

 

เจียงหลีฟื้นขึ้น 

 

 

ครานี้นางฟื้นขึ้นแล้วจริงๆ  

 

 

หลังจากที่กลืนกินวิญญาณไปสองดวงติด เจียงหลีก็เรอออกมาอย่างไม่สงวนท่าทีนัก  

 

 

“ที่นี่ที่ไหน” เจียงหลีพึมพำ เสียงของเด็กสาวอายุสิบสองสิบสามปีนี้ไม่ได้ทำให้นางตกใจ เพราะนางย่อยความทรงจำของดวงไฟสลัวทางซ้ายไปหมดแล้ว ส่วนดวงไฟทางขวามือนั้น… 

 

 

สายตาของเจียงหลีจ้องไปยังคานของตัวบ้าน ดวงตามีความเยือกเย็นปรากฏขึ้น ดูเหมือนจะมีพลังปกป้องวิญญาณดวงนั้นไว้ แม้นางจะกลืนมันเข้าไปแล้ว แต่ความทรงจำของดวงไฟนั้นถูกปิดผนึกไว้ในส่วนลึกที่สุดทำให้นางไม่สามารถแตะต้องได้ 

 

 

“นี่เป็นอันตรายที่ซ่อนอยู่ เรารีบต้องหาทางแก้ ป้องกันไม่ให้มันฟื้นคืนมาได้” น้ำเสียงของเจียงหลีเผยให้เห็นความสง่างามที่ไม่สอดคล้องกับเด็กสาววัยสิบสองสิบสามปีมากนัก กระนั้น นางต้องวางเรื่องนี้ไว้ เจียงหลีต้องแก้ไขสถานการณ์ต่อหน้าของนางก่อน 

 

 

หลังจากที่สลบไปในสนามประลอง ก็ถูกคนเอาตัวไปเลยหรือ หากเป็นเช่นนั้น ที่นี่คือที่ใด แล้วจุดประสงค์ของคนที่เอาตัวนางมาคืออะไรกันแน่ 

 

 

เมื่อสำรวจบริเวณโดยรอบ ห้องนี้ธรรมดายิ่งนัก ดูไม่เหมือนว่าจะเป็นห้องรับแขก และตัวนางในขณะนี้ กำลังนอนอยู่บนกองหญ้าแห้งอย่างอนาถ ชามน้ำสักชามข้างตัวนางก็ไม่มี เห็นได้ชัดว่าจงใจปล่อยนางให้เป็นไปตามยถากรรม 

 

 

เจียงหลียกมือขึ้น แขนที่นางเพิ่งจะยกขึ้นหล่นลงอย่างอ่อนแรง นางอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่น “อ่อนแอ… อ่อนแอเหลือเกิน” นางรู้สึกขมขื่นเล็กน้อย 

 

 

พลังจิตวิญญาณหายไปหมด ลมปราณดูเหมือนจะหลับสนิทไม่เคลื่อนไหว เวลานี้ แม้นเพียงพลังอันน้อยนิดนางก็ไม่สามารถนำออกมาใช้ได้ ประหนึ่งตกอยู่ในสภาพของลูกแกะที่รอการเชือด 

 

 

ยังจะหล่นอีก! 

 

 

นางเป็นถึงราชินีแคว้นกู่วูของโลกแห่งยุคกลางผู้สง่างาม จะอ่อนแอปานนี้ได้อย่างไร!  

 

 

เจียงหลีกัดฟัน พยายามพลิกตัว  

 

 

ในที่สุดนางก็สามารถพลิกร่างที่เหมือนฝังอยู่ในใต้ศิลาภูเขาได้ เพียงพลิกท่าธรรมดาๆ เท่านี้แต่กลับทำให้นางเหนื่อยหอบจนเหงื่อท่วมตัวได้  

 

 

เป็นเพียงบุตรสาวของข้าราชการที่ต้องโทษ ซ้ำยังถูกจับให้เป็นทาส ชีวิตเช่นนี้บนโลกใบนี้คงไร้ค่าเหมือนดอกหญ้าก็มิปาน ผู้ใดกันที่จะขังนางไว้ที่นี่ เจียงหลีคิดในใจ 

 

 

ทันใดนั้นประตูที่ปิดสนิทถูกกระแทกอย่างรุนแรงจนเปิดออก เจียงหลีที่นอนอยู่บนกองหญ้าเงยหน้าขึ้นมอง ด้วยดวงตาคู่สดใสที่อยู่ภายใต้ผมม้าที่ยุ่งเหยิงมองสำรวจคนที่เพิ่งเข้ามา  

 

 

“หึ ในที่สุดก็ฟื้นจนได้ ดวงแข็งเสียจริง” ผู้ที่ปรากฏตรงหน้าเป็นชายร่างสูงและทระนง สวมเสื้อคลุมของนักรบและยังสวมชุดเกราะอ่อนป้องกันอีกด้วย 

 

 

เขาเดินไปทางเจียงหลี พลังจิตที่แข็งแกร่งก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา เจียงหลีหายใจเข้าลึกๆ เป็นเพราะเพิ่งกลืนกินดวงวิญญาณไป นางจึงไวต่อพลังจิตและพลังวิญญาณซึ่งเป็นตัวแทนของชีวิตเป็นอย่างมาก  

 

 

“ในเมื่อฟื้นขึ้นมาแล้ว ก็ตามข้าไปพบนายน้อย” ชายคนนั้นยืนต่อหน้าเจียงหลี กล่าวอย่างไม่ใยดี 

 

 

นายน้อยอย่างนั้นหรือหรือ 

 

 

เจียงหลีถูกปกคลุมด้วยเงาของเขา นางเงยหน้าขึ้นมองได้สูงขึ้น 

 

 

… 

 

 

เจียงหลีถูกพาตัวไป ไม่สามารถต้านทานได้ 

 

 

นางถูกชายผู้นั้นพาเข้าไปยังอีกห้องที่ใหญ่โตโอ่อ่าผิดปกติ และในห้องนี้มีสระอาบน้ำขนาดใหญ่อยู่ 

 

 

ตู้ม! 

 

 

เสียงน้ำกระจาย เจียงหลีถูกโยนลงไปในสระน้ำอย่างไร้ความปราณี น้ำท่วมหัวทำให้นางสำลักและไอไปหลายที 

 

 

“ล้างตัวให้สะอาดอย่าทำให้สายตาของนายน้อยต้องแปดเปื้อน” น้ำเสียงที่ไม่ใยดีแฝงด้วยความดูถูก 

 

 

ดวงตาของเจียงหลีฉายแววเย็นชาและอาฆาต นางไม่เคยได้รับการปฏิบัติเช่นนี้มาก่อน 

 

 

อย่างไรก็ตามตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาสะสางเรื่องราว 

 

 

น้ำพุอุ่นๆ ไหลเวียนผ่านแขนขาของนาง ร่างกายที่อ่อนแอเป็นไก่ต้มเริ่มกลับมามีเรี่ยวแรงอย่างช้าๆ อย่างน้อยตอนนี้นางก็ยกมือขึ้นได้ เจียงหลีรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย นางไม่เคยคิดมาก่อนว่าการอาบน้ำจะส่งผลวิเศษเช่นนี้ได้! ขณะนั้นเอง นางรับรู้ได้ถึงสายตาคู่หนึ่งที่กำลังจ้องนางอยู่ นางเหลียวหลังกลับ มองไปที่ด้านหลังของนาง เห็นเงาของหญิงงามผ่านม่านหมอก นางงามจนสามารถสะกดลมหายใจผู้คนเอาไว้ได้ 

 

 

งดงามยิ่งนัก!