เล่ม 1 ตอนที่ 3 จะฆ่าข้าอย่างนั้นหรือ

ราชินีพลิกสวรรค์

ช่างเป็นคนที่งดงามเหลือเกิน! เจียงหลีคิดในใจอย่างตะลึง 

 

 

หยดน้ำที่ไหลผ่านตามเส้นผมเข้าไปในดวงตา แต่นางก็ไม่อยากกะพริบตาเลยสักนิด  

 

 

เดิมทีเป็นสถานที่คิดว่าไม่มีคน แต่กลับมีคนมาก่อนหน้าแถมนั่งดูอย่างเงียบๆ…ไม่สิ นี่มันแอบดูนางอาบน้ำต่างหาก  

 

 

ทั้งๆ ที่เจียงหลีควรจะรู้สึกโกรธ แต่นางกลับถูกดวงตาคู่นั้นต้องมนต์สะกดไว้ ความรู้สึกโกรธหายไปในชั่วพริบตาเดียว  

 

 

ทำไมมีที่คนงดงามได้ถึงเพียงนี้ เจียงหลีอดถอนหายใจไม่ได้  

 

 

ใบหน้าที่สร้างด้วยฝีมือเหนือธรรมชาตินั้น สมบูรณ์แบบจนหาจุดบกพร่องไม่ได้เลย ทุกคำอธิบายที่กล่าวถึงความสวยงาม ล้วนไม่สามารถอธิบายออกถึงความสวยงามของใบหน้านี้ 

 

 

“บังอาจ!” เสียงตะโกนที่ดังออกมา ทำให้เจียงหลีตื่นจากภวังค์ 

 

 

ผู้ออกเสียงคือบุรุษที่นำนางมาแล้วก็จับนางโยนลงในสระ อาจเป็นเพราะว่าสายตาของนางที่ตรงไปตรงมาจนเกินไปจึงทำให้เขารู้สึกโกรธ 

 

 

“เจียงหลีคือธิดาของอดีตหัวหน้าผู้ตรวจการแผ่นดินเจียงหลินเฟิง มีพี่ชายแท้ๆ นามว่าเจียงเฮ่า มารดาไม่ทราบสถานะที่แท้จริง แต่นางกลับสามารถปกป้องสตรีทั้งตระกูลเจียงรอดพ้นจากการโดนประหาร ข้าแปลกใจยิ่งนักว่าแม่เจ้าทำได้อย่างไร” เสียงที่กล่าวออกมาจากเบื้องหลังผ้าขาวบาง คล้ายเสียงน้ำที่หยดใส่หิน ช่างเสนาะหูอย่างยิ่ง มิหนำซ้ำยังชวนให้น่าหลงใหลอีกต่างหาก 

 

 

ทันที่ได้ยินเสียงนี้ เจียงหลีได้จมอยู่เสียยากที่จะถอนตัวขึ้นได้ ราวกับว่าคนที่ได้ยินเสียงนี้ ต้องทำตามเจ้าของเสียงทุกอย่าง ไม่อาจต่อต้านได้ แต่โชคดี ที่พลังวิญญาณของนางแข็งแกร่งพอ หลังจากสูญเสียสติไปวูบนึง เจียงหลีตั้งสติทันที ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความหวาดระแวง แต่สิ่งที่นางไม่ได้สังเกตเห็น คือใบหน้าเบื้องหลังผ้าขางบาง มุมริมฝีปากยกขึ้นเล็กน้อยแสดงออกมาถึงความสนใจในตัวนาง 

 

 

ไม่นึกเลย เป็นเพียงแค่ทาสแต่กลับสลัดหลุดออกจากพลังจิตของข้าได้ แม้ว่าพลังจิตที่ใช้เป็นตามอารมณ์ แต่หากใช่พลังจิตสาวน้อยตัวน้อยจะหลุดพ้นไปได้ สายตาที่ลู่เจี้ยมองไปยังร่างบางที่ยืนอยู่ตรงสระ เป็นสายตาที่ไม่มีใครคาดเดาได้ 

 

 

“เหตุใดข้าต้องตอบเจ้าด้วย” เจียงหลีตอบกลับ  

 

 

คำพูดของชายหนุ่มได้ดึงความทรงจำที่เกี่ยวกับมารดา  

 

 

ร่างกายของนางร่างนี้ มารดาของร่างนี้ช่างลึกลับยิ่งนัก แต่ก่อนที่ตระกูลเจียงจะเกิดเรื่องนางไม่ต่างจากสตรีท่านอื่น  

 

 

แต่หลังจากที่เจียงหลินเฟิงโดนใส่ร้ายกล่าวหาว่า ’ฆ่าตัวตายหนีความผิด’ ทำให้ฝ่าบาทแห่งราชวงศ์โฮ่วจิ้นโกรธกริ้วได้สั่งประหารเก้าชั่วโคตร  

 

 

มารดาที่อ่อนโยนนุ่มนวลมาตลอด กลับแสดงความแข็งแกร่งขึ้นทันที 

 

 

เจียงหลีตอบคำถามของชายหนุ่มไม่ได้จริงๆ แต่ตามร่องรอยเบาะแสในความทรงจำที่นางจำได้ มารดาของของนางเหมือนได้ไปพบใครบางคน หลังจากนั้น คำสั่งที่สั่งประหารทั้งตระกูลก็ได้มีการเปลี่ยนไป  

 

 

ถึงผู้ชายตระกูลเจียงหนีไม่พ้นการโดนประหาร ทว่าสตรีตระกูลเจียงกลับรอดพ้นจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เพียงแค่โดนปลดออกจากสถานะทางราชาการและถูกลดเป็นสามัญชน  

 

 

มารดาของนางได้นำพาสตรีตระกูลเจียงเดินทาวไปยังทิศใต้ เพื่อเข้าเมืองซูหนาน เพียงเพราะว่าตระกูลคู่หมั้นของ ’ร่างนี้’ อยู่ที่ซูหนาน 

 

 

แต่ว่า…… 

 

 

“ไม่ทราบอย่างนั้นหรือ เจียงหลินเฟิงตายไปแล้ว แม่เจ้าก็เสียไปเมื่อเดือนที่แล้ว พี่เจ้าที่หนีรอดจากการถูกไล่จับ แม้กะทั่งตอนนี้ยังหาตัวไม่เจอ ส่วนเจ้าเป็นถึงบุตรสาวของข้าราชการชั้นสูง กลับกลายเป็นทาส ดูท่าทางแล้ว ตระกูลเจียงของพวกเจ้าซ่อนความลับไว้ไม่ใช่น้อย”  

 

 

คำพูดของชายหนุ่มขัดจังหวะการคิดของเจียงหลี 

 

 

นางซึมซับความทรงจำทั้งหมดของร่างนี้แล้ว แต่ยังไม่ทันได้เรียบเรียงอย่างละเอียด  

 

 

คำพูดของชายหนุ่มทำให้สมองนางมีภาพซ้อนกันหลายอย่าง แต่หนึ่งในนั้นคือภาพของผู้หญิงแสนสวย ก่อนที่นางได้จากไป คล้ายกับนางได้พูดกับนางว่า นางต้องไปต่อให้ได้ เพื่อตามหาเจียงเฮ่า  

 

 

ส่วนที่นางกลายเป็นทาสได้อย่างไร…ดวงตาของเจียงหลีหรี่ลง สายตาเย็นชาลง  

 

 

เจียงหลีที่ยืนอยู่ในสระเปียกชื้นไปทั้งตัว เสื้อผ้าแนบติดกับร่าง เส้นผมที่โดนไอน้ำ ก็มีน้ำหยดลงมาอย่างต่อเนื่อง 

 

 

ทันใดนั้น เจียงหลีเงยหน้าขึ้น ยิ้มให้กับผู้ที่อยู่หลังผ้าขาวบาง รอยยิ้มนั้นแฝงเสน่ห์ไม่เข้ากับนาง ณ ตอนนี้ “เจ้าอยากรู้เรื่องราวของตระกูลเจียงหรือ” 

 

 

“ความอยากรู้อยากเห็น ใครๆ ก็มี” ลู่เจี้ยตอบนิ่งๆ 

 

 

“ได้ ข้าจะบอกเจ้า แต่ข้าจะบอกเจ้าเพียงผู้เดียว” เจียงหลีพูดพร้อมยกมือกอดอก 

 

 

ดวงตาลู่เจี้ยสั่นระริกมองไปยังคนที่ยืนอยู่ในสระ ราวกับว่าไม่เหมือนตรงตามข้อมูลที่ตนได้รับ ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ไม่เหมือนคนเดิม 

 

 

“พวกเจ้าถอยออกไปได้” ลู่เจี้ยชักจะรู้สึกว่านางน่าสนใจ อีกอย่างงก็อยากรู้แผนต่อไปของสาวน้อยด้วยว่าจะทำอย่างไรต่อ 

 

 

“นายน้อย”  

 

 

ข้ารับใช้กล่าวออกอย่างไม่ไว้ใจ 

 

 

ลู่เจี้ยยิ้มน้อยๆ “พวกเจ้ากลัวข้าจะโดนนางกินหรือไง” 

 

 

เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาเงียบกริบ พวกเขาไม่กล้าฝ่าฝืนคำพูดของลู่เจี้ย ได้แต่น้อมรับคำสั่งแล้วถอยลงไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ก็ในห้องใหญ่นี้ก็เหลือแต่เจียงหลีที่ยังยืนอยู่ในสระ กับลู่เจี้ยที่อยู่หลังผ้าขาวบาง 

 

 

“ตอนนี้ก็มีแต่เจ้ากับข้าสองคน อยากรู้ความลับของตระกูลข้า ทำไมยังต้องทำตัวลึกลับอีก ทำไมไม่ออกมาคุยกันให้รู้เรื่อง” เจียงหลีพูดขณะที่สายตาจ้องไปคนที่อยู่หลังผ้าขาวบางนั้น  

 

 

ลู่เจี้ยได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้ม  

 

 

เขารู้ในใจสาวน้อยคิดอะไรอยู่แต่ก็ยังเข้าใกล้ช้าๆ  

 

 

เขารู้ธิดาตระกูลเจียงได้ตกเป็นทาสอย่างไร แต่สิ่งที่ลู่เจี้ยไม่รู้ นายหญิงตระกูลเจียงได้ตกลงเงื่อนไขอะไรกับฮ่องเต้ ถึงทำให้แก้คำสั่ง แล้วยังมีข่าวลือว่า เจียงเฮ่าโดนจอมยุทธ์พาตัวไป จอมยุทธ์ผู้แข็งแกร่งนั้นคือใคร และอำนาจที่หนุนอยู่เบื้องหลังนั้นมาจากไหน  

 

 

จะว่าไปแล้ว ความลับของตระกูลเจียงขึ้นอยู่กับแม่ของนาง แต่บัดนี้แม่ของนางได้เสียไปอย่างกะทันหัน เบาะแสที่สามารถตามหาได้มีเพียงตัวเจียงหลี  

 

 

แล้วตอนนี้ดูเหมือนว่าตัวเจียงหลีเองก็มีความลับซ่อนไว้  

 

 

เรื่องมันชักจะสนุกขึ้นแล้วสิ  

 

 

เดิมที่คิดว่าเป็นทาสที่คุ้มกับการฝึกปรือ แต่ใครจะไปคิดว่าจากตรวจสอบแล้วจะค้นพบความลับมากมายเยี่ยงนี้ 

 

 

เมื่อลู่เจี้ยเดินมาปรากฏตัวให้เห็น เจียงหลีถึงกับตกตะลึงในความงามนี้ จนทำตัวไม่ถูก  

 

 

ชายหนุ่มคลุมเสื้อสีม่วงอ่อน ใบหน้างดงามกับดวงตาใสดั่งดวงจันทร์ ราวกับได้นำเอาความสวยงามทุกอย่างบนโลกใบนี้ไว้ที่เดียวกัน ริมฝีปากสีชาดชวนเย้ายวน  

 

 

เจียงหลีไม่รู้เลยว่าคนตรงหน้าจะงดงามได้ถึงเพียงนี้ได้  

 

 

เมื่อเขาได้มายืนอยู่ตรงหน้านาง เห็นว่าชายหนุ่มสูงพอสมควร 

 

 

เป็นผู้ชายที่ราวฟ้าดินประทานพรให้ เสมือนปีศาจ เจียงหลีนึกในใจ 

 

 

“งดงามหรือไม่” ลู่เจี้ยหรี่ตาลงเล็กน้อย พลางมองไปสาวน้อยที่ยืนอยู่ในสระ เพราะสายตาที่เจียงหลีมองมา มันละเมิดจนเกินไป 

 

 

“งดงาม” เจียงหลีตอบอย่างไม่ลังเล 

 

 

ลู่เจี้ยได้ยินเช่นนั้นแล้ว สายตากลับหรี่ลงมากขึ้น ยากจะคาดเดาความหมายได้ เจียงหลีค่อยๆ ขยับเข้ามาใกล้ขอบสระ เหงยหน้ามองชายหนุ่ม แต่มือนางเร็วปานสายฟ้า นางคว้าข้อเท้าของชายหนุ่มไว้ ใช้แรงดึงลงสระน้ำทันที 

 

 

ตูม! 

 

 

เสียงตกน้ำดังขึ้นข้างหู เจียงหลีแปลกใจยิ่งหนัก ชายผู้นี้อ่อนแอขนาดนี้เชียวหรือ อย่าบอกนะว่ามีดีแค่ใบหน้า 

 

 

ลู่เจี้ยที่โดนดึงลงน้ำก็ประหลาดใจเช่นกัน ทาสคนนี้จะกล้าเกินไปแล้ว 

 

 

“อย่าขยับ” เจียงหลีปรากฏตัวข้างหลังลู่เจี้ย พลันยื่นมือออกบีบคอไว้ แถมยังจับลูกกระเดือกเขาไว้ด้วย ไม่ได้ลงแรงอะไรมาก “ถ้าขยับ อย่าหาว่าข้าไม่เตือน ข้าไม่อยากทำลายดอกไม้งามแบบเจ้า” 

 

 

ดอกไม้งาม! 

 

 

ลู่เจี้ยไม่ขยับตัว แต่การกระทำของเจียงหลีทำให้เขาตัวสั่นเล็กน้อย รัศมีอันตรายแผ่ออกมาจากตัวเขา ดูเหมือนว่าเมื่อกี้เขาโดนเด็กอายุแค่สิบสองปีลวนลามเสียแล้ว 

 

 

ทันใดนั้น มือที่บีบคอลู่เจี้ยอยู่ปล่อยโดยที่นางไม่สามารถควบคุมได้ ดวงตาของนางเบิกกว้างด้วยความตกใจ 

 

 

ปัง! 

 

 

ชั่วพริบตาเดียว ร่างของเจียงหลีปลิวกระแทกเข้าผนังสระน้ำอย่างรุนแรง 

 

 

พรวด แรงกระแทกทำให้เจียงหลีเลือดพุ่งออกจากปาก 

 

 

แต่ลู่เจี้ย… 

 

 

ยังคงหันหลังให้นาง ถึงแม้ว่าจะเปียกโชกไปทั้งตัว แต่ความสง่างามก็ยังไร้ที่ติ เขาเดินออกจากสระน้ำอย่างช้าๆ ไม่แม้แต่จะเหลียวมองนาง เสียงที่แผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยินเอ่ยขึ้นว่า “ฆ่าทิ้งเสีย”