ตอนที่ 5 ลูกคือความภาคภูมิใจของเธอ
“เด็กที่ไหนเนี่ยน่ารักจังเลย อยากจะเข้าไปกอดจริง ๆ”
“ลูกใครกันนะ ช่างโชคดีเสียจริง ๆ”
หญิงสาวที่แต่งตัวดูสง่างามก้าวไปข้างหน้า ก่อนจะยิ้มและเอ่ยถามออกไปว่า “เด็ก ๆ ป้าขอถ่ายรูปด้วยหน่อยได้ไหมจ๊ะ?”
เด็กหญิงตัวน้อยหัวเราะคิกคัก เสียงของเธอนั้นดังราวกับระฆังสีเงินที่ก้องกังวาน “คุณป้าขา หนูต้องถามแม่ของหนูก่อน” ทันทีที่พูดจบ เธอก็หันตัวมองไปข้างหน้า ก่อนจะยกมือขึ้น “แม่ขา พี่ชายกับหนูอยู่นี่ค่า!”
ทุกคนหันมองตามสายตาของเด็กหญิงตัวน้อย ก็เห็นผู้หญิงสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินที่กำลังเดินมาทางนี้
ผู้หญิงคนนั้นมวยผมรวบขึ้นแบบผู้หญิงสมัยเก่า เผยให้เห็นแว่นตาขอบทองที่ดูเก่าแก่ เน้นไปที่ใบหน้าของเธอที่ซีดเหลือง
หลายคนต่างรู้สึกผิดหวังกับสิ่งที่เห็น และก็เริ่มรู้สึกขยะแขยงขึ้นมาในทันที “ไม่จริงหรอก นั่นแม่ของเด็กพวกนี้อย่างนั้นเหรอ เป็นไปได้ยังไงกัน ทำไมถึงให้กำเนิดลูกหน้าตาดีแบบนี้ได้?”
“ไม่แน่ว่าอาจจะได้ยีนเด่นของพ่อมาก็ได้ หญิงขี้เหร่ได้กับชายที่หน้าตาดี”
เมื่อเด็กน้อยได้ยินที่ทุกคนเอ่ยถึงแม่ของตนก็ได้ระเบิดอารมณ์โกรธออกมาพร้อมตะโกนออกไปว่า “แม่ของหนูเป็นคนที่สวยที่สุดในโลกนะ! พวกคุณเป็นคนไม่ดี ไม่ถ่ายรูปกับพวกคุณแล้ว!”
อันโหรวที่ค่อย ๆ เข้ามาใกล้ลูกตัวน้อย ก็พลันได้ยินเสียงของลูกสาวตัวเล็กที่กำลังบ่นอุบอิบไปมาอย่างไม่เต็มใจ “หยางหยาง หน่วนหน่วน”
อันหน่วนค่อย ๆ คลี่ยิ้มออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปที่อ้อมกอดของแม่ ในขณะที่อันหยางที่กำลังยืนอยู่ ดวงตาของเขาซุกซ่อนอยู่ในแว่นกันแดดสีดำเล็ก ๆ ที่ขยับเล็กน้อยท่าทีที่เย็นชาก็ปรากฏขึ้น
อันโหรวสัมผัสไปที่ใบหน้าของอันหน่วน “อยู่ข้างนอกแบบนี้ ไม่ควรพูดคุยกับคนแปลกหน้านะ รู้ไหม?”
“หน่วนหน่วนเข้าใจแล้วค่ะคุณแม่ จุ๊บจุ๊บที” พูดจบอันหน่วนก็ยืนเขย่งเท้าและใช้มือกอดเธอไว้แน่น พร้อมกับทำท่าขอจุ๊บเธอ ก่อนจะทำทีเมินเฉยใส่ผู้คนที่อยู่รอบ ๆ
ในตอนนี้จู่ ๆ ก็มีเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมา “โหรวโหรว เจ้าคนไร้ยางอาย ในที่สุดก็รู้ว่าต้องกลับมาแล้วสินะ!”
อันหยางเงยหน้ามองไปที่ผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงที่สวมเสื้อสีแดงเพลิง มีผมหยักศกยาวไปจนถึงช่วงขอบเอว
ผู้หญิงคนนั้นวิ่งเข้าหาแม่ของพวกเขาด้วยท่าทีที่รีบร้อน อันหยางจึงได้อ้าขาของตนและทำท่าทางจะห้ามผู้หญิงคนนั้นไม่ให้เข้ามาใกล้แม่ พร้อมกับคิ้วขมวดก่อนจะเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “คุณพูดว่าใครไร้ยางอาย?”
หลินจือเซี๋ยวรู้ตัวจึงหยุดเดินและมองไปที่เด็กหนุ่มหล่อตัวน้อยที่ผมยังไม่ทันยาวที่ปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้า ทั้งยังมองไปที่สาวน้อยผมสีบลอนด์ที่กำลังกอดอันโหรวอยู่
ไม่สนใจก็คงจะไม่ได้ ในเมื่อยามนี้เธอค่อนข้างรู้สึกสับสนขึ้นมาบ้างแล้ว
เด็กน่ารักทั้งสองคนนี้เป็นลูกของอันโหรว? ลูกครึ่งอย่างนั้นเหรอ โหรวโหรวหาสามีฝรั่งเจอแล้วเหรอ?
“หยางหยาง มีมารยาทด้วย นี่คือคุณน้าจือเซี๋ยว” อันโหรวเอื้อมมือไปคว้าตัวอันหน่วน พร้อมเอามือตบไปที่ไหล่ของอันหยางหนึ่งที ก่อนจะยิ้มออกมา
หลินจือเซี๋ยวพลันเบิกตากว้างตกใจ! ลูกของอันโหรวจริง ๆ ด้วย ตัวเองยังไม่ทันมีความรักสักครั้ง แต่อันโหรวกลับมีลูกสองคนที่โตขนาดนี้แล้ว!
เธอมองไปที่อันโหรวอีกครั้งหนึ่ง ผู้หญิงที่ปรากฏตัวในวัยสามสิบปีแบบนี้ ดาวประจำโรงเรียนที่ดูงดงามบริสุทธิ์คนนั้นไปอยู่ที่ไหนแล้ว?!
อันหน่วนเมื่อได้ยินว่าคนนี้คือน้าจือเซี๋ยวก็พลันยิ้มกว้างทันที “คุณน้าจือเซี๋ยว หนูได้ยินชื่อของน้าจากแม่มาสักพักแล้ว หนูชื่อหน่วนหน่วนค่ะ”
เมื่อพูดจบเธอก็ยิ้มหวานใส่หนึ่งที หลินจือเซี๋ยวรู้สึกว่าเธอนั้นถูกศรรักปักเข้าให้จนได้ เธอไม่สนใจที่จะถามอันโหรวเลยแม้แต่น้อย รีบพุ่งไปกอดเด็กน้อยในทันที
อันหยางมองไปที่แม่ของตนเอง หลังจากนั้นก็ถอดแว่นกันแดดออกเพื่อกล่าวทักทายอย่างสุภาพ “น้าจือเซี๋ยว สวัสดีครับ”
หลินจือเซี๋ยวตกใจ ก่อนจะแอบอิจฉาอยู่ลึก ๆ “โหรวโหรว เธอนี่มันร้ายกาจจริง ๆ นะ มีลูกสองคนที่หน้าตาดีแบบนี้ ทำเอาหัวใจของฉันตกหลุมรักได้เลย”
“ก็แน่นอน ดูก็รู้แล้วว่าลูกของใคร” อันโหรวพูดพร้อมยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย เด็ก ๆ พวกนี้เป็นความภาคภูมิใจของเธอเชียวนะ