มองเขา ‘เล่นละคร’ 4

เชียนหลิงอวี่และเชียนหลิงเทียนนั่งอยู่ใจกลางค่ายกล

เชียนหลิงเทียนหน้าถอดสี มาถึงยามนี้เขาก็ทราบว่าไม่ดีแล้ว!

เขาไม่แยแสอะไรทั้งสิ้นกระเด้งตัวขึ้นมา “พวกเจ้าจะ…” เขายังไม่ทันเอ่ยวาจาตอนท้ายออกมา พลันเกิดเสียงดังตึงเขาล้มลงไปกองที่เดิมอีกครั้ง

การล้มไม่ถือว่าน่าหวาดหวั่น ที่น่าหวาดหวั่นคือหลังจากล้มลงเขาพบว่าร่างกายตนอ่อนนิ่มดั่งเส้นก๋วยเตี๋ยว ราวกับถูกดึงกระดูกออกไป

“พวกเจ้า…พวกเจ้าทำอะไรข้า?” เขาตะโกน คอแหบแห้งเหมือนกลืนทรายเข้าไป

“วางยาพิษเจ้า ให้เจ้าว่าง่ายๆ ไม่นับว่าเป็นพิษร้ายแรง” กู้ซีจิ่วยิ้มบางๆ

เชียนหลิงเทียนเบิกตากว้าง กัดฟันเอ่ย “เจ้าวางยาพิษตอนไหน?” เขามองฝูงชนที่อยู่รอบข้าง ท่าทางไม่เหมือนถูกพิษ

ดูเหมือนคนที่ถูกพิษก็คือตัวเขา…

“พิษนี้ของข้าคือกลิ่นหอมชนิดหนึ่ง คนทั่วไปสูดดมจะไม่เป็นไร ถึงขั้นมีสรรพคุณบำรุงร่างกายด้วยซ้ำ ดังนั้นปกติแล้วมันไม่ใช่พิษ แต่เป็นธูปหอมอย่างหนึ่ง” กู้ซีจิ่วอธิบายให้เขาฟังอย่างมีน้ำใจ

ธูปหอม?

สายตาเชียนหลิงเทียนตกลงบนกระถางธูปทองแดงใบหนึ่งตรงมุมห้องโถงที่มีพืชหอมเผาไหม้อยู่ ตรงนั้นยังคงมีควันสีขาวลอยอ้อยอิ่งขึ้นมา

การใช้ธูปหอมในห้องโถงเป็นเรื่องปกติยิ่ง แถมในห้องโถงก็มีผู้คนมากมายขนาดนี้ เขาย่อมนึกไม่ถึงที่นี่จะมีแผนร้ายซ่อนอยู่!

“แต่กลิ่นหอมนี้ไม่อาจผสมกับสมุนไพรชนิดหนึ่งได้ เมื่อผสมกันจะเกิดปฏิกิริยาขึ้น มันจะกลายเป็นพิษชนิดหนึ่ง แต่ว่า เจ้าวางใจได้ พิษนี้ไม่ถึงชีวิตเจ้า แค่ทำให้เจ้าว่าง่ายขึ้นหน่อยเท่านั้น” กู้ซีจิ่วกล่าวต่อ

ความจริงแล้วพิษนี้ยังมีลักษณะพิเศษอีกอย่างคือ ต้องให้คนพูดไม่หยุด ยิ่งพูดมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสูดพิษเข้าไปมากเท่านั้น และจะกำเริบขึ้นมา

ดังนั้นก่อนหน้านี้พวกกู่ฉานโม่ถึงยอมให้เขาวิเคราะห์โน่นวิเคราะห์นี่อยู่ตรงนั้น และไม่ขัดจังหวะเขา บางครั้งถึงขั้นส่งสายตาให้กำลังใจเขาอยู่หลายแวบ ให้เขาคุยฟุ้งต่อไป

ในที่สุดเชียนหลิงเทียนก็ทราบว่าตนติดกับแล้ว แทบจะกัดฟันพูด “สมุนไพรอะไร? แล้วเจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้าใช้สมุนไพรนั้น?”

กู้ซีจิ่วเลิกคิ้ว เอ่ยว่า “ง่ายมาก ในโอสถระดับสี่ที่เจ้าให้ข้าหลอมเมื่อคืนมีสมุนไพรนั้นอยู่”

เชียนหลิงเทียนตะลึง “…ที่แท้เจ้าก็วางกับดักข้าตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว!”

“ไม่งั้นเจ้าคิดว่าอย่างไรเล่า?”

จู่ๆ เชียนหลิงเทียนก็ยิ้มออกมา ร้อยยิ้มค่อนข้างประหลาด “กู้ซีจิ่ว เจ้าฉลาดมาก รู้มากเหลือเกิน เพียงแต่เจ้าคิดว่าทำให้ข้าอยู่เฉยๆ ก็สามารถเอากู่นั้นออกมาได้แล้วหรือ? เช่นนั้นเจ้าคิดผิดแล้ว! ขอเพียงข้าไม่ให้ความร่วมมือ ไม่ว่าเจ้าจะทำอย่างไรก็นำกู่นั้นออกมาไม่ได้! เจ้าทุกข์ใจตายไปซะเถอะ!”

กู้ซีจิ่วมองดูเขาครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็ถอนหายใจออกมาพลางเอ่ยว่า “ดูๆ แล้วเจ้าก็นับว่าฉลาด เหตุใดยามนี้จู่ๆ โง่งมขึ้นมาเสียเล่า? เจ้าไม่คิดหน่อยหรือ หากข้าไม่มีความมั่นใจเต็มที่ จะเปิดโปงเจ้าในยามนี้ได้อย่างไร? เจ้าอยากพูดใช่หรือไม่ ว่าต่อให้ข้ามียาถอนพิษก็ไม่มีประโยชน์ ขอเพียงเจ้าไม่ยอมโคจรถ่ายโอนให้ ยาแก้พิษนั้นก็ไม่เป็นผลใช่ไหม?”

เชียนหลิงเทียนใจหายแวบ ดูเหมือนจะนึกอะไรได้ “โอสถระดับสี่เม็ดนั้น! ยาแก้พิษผสมอยู่ในโอสถระดับสี่เม็ดนั้น!”

“ในที่สุดก็คิดออกแล้ว!” กู้ซีจิ่วยิ้มบางๆ

เชียนหลิงเทียนปานถูกฟ้าผ่ากลางกบาล เขาถ่ายโอนโอสถเม็ดนั้นสำเร็จแล้ว ไม่มีผู้ใดบังคับเขา เขาใช้ยาถอนพิษอย่างว่าง่ายเอง…

ที่น่าโมโหกว่านั้นคือ เขาจ่ายเงินโอสถเม็ดนั้นด้วยราคามหาศาล!

เขากำมือแน่นแล้วแน่นอีก รู้ว่าหมดหวังแล้ว แผนร้ายของเขาถูกเปิดโปงหมดสิ้นแล้ว เขาปิดบังต่อไปไม่ได้แล้ว…

ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะฮ่าๆ ขึ้นมา “กู้ซีจิ่ว นับว่าเจ้ามีความสามารถ! แต่คิดจะช่วยเขานั้น อย่าได้ฝันเลย!”

เขากัดฟันกรามทันที ยาพิษที่ซุกซ่อนอยู่ในฟันกรามเขาไหลลงคอในชั่วพริบตา…