บทที่ 4 ไข่นั้นไม่ใช่ไข่ธรรมดา และข้าวนั้นก็ไม่ใช่ข้าวธรรมดาเช่นกัน

ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD

เซียวเสี่ยวหลงตื่นเต้นเป็นอันมาก ใบหน้าขาวใสของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำเหมือนใบหน้าของสาวงาม ทำให้ตัวเขาดูน่าหลงใหลยิ่งนัก จนไม่ว่าใครเห็นก็ต้องอยากกลืนกินชายหนุ่มเข้าไปทั้งตัว

แม้แต่ตัวปู้ฟางเองยังรู้สึกเช่นเดียวกัน ความคิดแล่นเข้ามาในจิตใจของชายหนุ่ม “ไอ้บ้าเอ๊ย! ข้าอุตริคิดอะไรเช่นนั้นเข้าไปได้อย่างไรกัน!”

ปู้ฟางส่ายศีรษะอย่างแรงเพื่อกำจัดความคิดน่าขนพองสยองเกล้าออกไปจากสมอง “ไอ้นี่มันเป็นผู้ชายหน้าสวย ไม่ใช่ผู้หญิง!”

“ข้าต้องสงบจิตใจไว้ ข้าต้องชอบสตรีต่อไป!”

ด้วยเหตุนี้ปู้ฟางจึงนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ดังเดิม เขามองเซียวเสี่ยวหลงที่กำลังตื่นตกใจแต่ดูแล้วชวนหลงใหลตรงหน้าด้วยสายตาไม่รู้สึกรู้สา

“บอกข้ามาเสีย! นี่มันไม่ใช่ข้าวผัดไข่ปกติอย่างแน่นอน! ข้ารู้สึกได้ว่าพลังปราณเที่ยงแท้ภายในกายข้าเขยิบขึ้นจนใกล้จะบรรลุแล้ว!” ปากของเซียวเสี่ยวหลงสั่นระริก ดวงตาสว่างโชติช่วง

ในฐานะอัจฉริยะแห่งนครหลวงและบุตรชายของแม่ทัพใหญ่ เซียวเสี่ยวหลงเก่งกล้าสามารถทั้งด้านอักษรศาสตร์และการยุทธ์ พลังปราณของเขาอยู่ในขั้นสูงสุดของระดับสอง ที่ชื่อว่าขั้นเจ้ายุทธการ เรียกได้ว่าชายหนุ่มจัดอยู่ในกลุ่มผู้แข็งแกร่งในหมู่บุตรธิดาของขุนนางในนครหลวงด้วยกันเอง

ทว่าหลังจากที่เซียวเสี่ยวหลงกินข้าวผัดไข่เข้าไปนั้น เขาก็รู้สึกได้ว่าพลังปราณเที่ยงแท้ในร่างกายตนพุ่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด หนึ่งเดือนที่ผ่านมาระดับพลังปราณของเขานิ่งอยู่กับที่ เพิ่งจะมากระเตื้องก็เมื่อครู่นี้เอง สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นสัญญาณว่าพลังปราณของเขากำลังจะก้าวเข้าสู่ระดับสาม ซึ่งมีชื่อว่าขั้นคลั่งยุทธการแล้ว!

พละกำลังถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้ฝึกตน หากข้าวผัดไข่หนึ่งชามสามารถช่วยให้พวกเขาบรรลุขั้นปราณได้ ข้าวผัดไข่ชามนั้นก็เทียบเคียงได้กับโอสถทิพย์เลยทีเดียว…

ไม่สิ อาจมีค่ามากกว่าเสียด้วยซ้ำ เนื่องจากโอสถทิพย์ไม่มีรสชาติ แต่ข้าวผัดไข่ที่ปู้ฟางปรุงขึ้นมานั้น… อร่อยระดับอาหารรสเลิศเลยทีเดียว

การที่อาหารรายการนี้ทั้งอร่อยและช่วยให้บรรลุขั้นปราณได้ ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับผู้ฝึกตนทุกหนแห่ง!

ราคาหนึ่งผลึกนั้นเรียกว่าถูกไปเสียด้วยซ้ำ!

“ขออภัย ข้าตื่นเต้นเกินไปนิด แต่ก็ยังอยากจะรู้นักว่าเจ้าใส่สิ่งใดลงไปในข้าวผัดไข่ หากข้าเดาไม่ผิดแล้วละก็ ไข่นั้นไม่ใช่ไข่ธรรมดา ดูจากรสชาติและเนื้อสัมผัสแล้ว จะต้องเป็นไข่ของอสูรระดับสาม พิราบพายุอัสนีใช่หรือไม่”

เซียวเสี่ยวหลงมีพื้นเพสูงส่ง ทั้งยังเป็นชายผู้มีความอดทนอดกลั้นสูงเป็นอย่างยิ่ง เขาจึงสามารถสงบสติอารมณ์ลงแล้วเริ่มพูดคุยกับปู้ฟางได้

ปู้ฟางพลันเหม่อลอยทันที เขาไม่เคยสนใจอยากรู้เรื่องวัตถุดิบที่ตนเองใช้เลย และคิดว่ามันเป็นไข่ไก่ธรรมดามาตลอด

“ระบบ ไข่ที่ข้าใช้เป็นไข่นกพิราบเหมือนที่ไอ้หน้าสาวนี่บอกใช่หรือไม่” ปู้ฟางถามระบบนักชิม

ระบบเงียบอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนที่น้ำเสียงจริงจังจะตอบกลับมา

“สูตรอาหารข้าวผัดไข่ธรรมดา: ไข่ที่เลือกใช้นั้นเป็นไข่ฟองแรกที่อสูรเวทแม่นกพิราบพายุอัสนีวางหลังตั้งท้อง ไข่นี้มีพลังปราณสะสมอยู่จำนวนมาก หากผู้ฝึกตนได้กินเข้าไปจะช่วยเพิ่มขั้นปราณได้ และมีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะช่วยให้ผู้ฝึกตนก้าวผ่านขีดจำกัดในการฝึกพลังปราณ ข้าวที่เลือกใช้คือข้าวไข่มุกจากดินแดนรกร้างปักษ์ใต้แห่งจักรวรรดิวายุแผ่ว ข้าวนั้นมีพลังปราณสะสมอยู่มากและเก็บเกี่ยวได้เพียงปีละครั้งเท่านั้น ถือเป็นวัตถุดิบที่ทรงคุณค่าแก่ผู้ฝึกตนเป็นอย่างยิ่ง และเป็นเครื่องบรรณาการหลวงของราชอาณาจักร น้ำมันที่เลือกใช้ทำมาจากไขมันของหมูป่าชางซานที่ทั้งไม่มันและไม่ข้น ส่วนเกลือที่เลือกใช้คือเกลือสมุทรบดละเอียดจากดินแดนรกร้างปักษ์ใต้”

ปู้ฟางมีสีหน้าไร้อารมณ์หลังได้ฟังคำอธิบายจากระบบ แต่ชายหนุ่มกลับรู้สึกเหมือนถูกลูกศรพุ่งเข้าปักอกก็ไม่ปาน “โอ๊ย เจ็บเหลือทน!”

“ระบบ เราตั้งราคาข้าวผัดไข่ใหม่ได้หรือไม่ ข้ารู้สึกว่าตอนนี้การขายผลึกเดียวทำให้เราขาดทุนอยู่ เหตุใดเราจึงไม่เพิ่มราคาขึ้นเป็นสิบผลึกเล่า”

“ราคาที่ระบบตั้งไว้นั้นบริสุทธิ์ยุติธรรมเป็นอย่างยิ่งแล้ว เนื่องจากคำนวณมาจากราคาของวัตถุดิบ ในตอนนี้ระดับขั้นของนายท่านยังต่ำเกินไป ทำให้ยังปรับราคาขึ้นไม่ได้”

ปู้ฟางกัดฟันกรอดด้วยความหงุดหงิด!

ไข่นั้นเป็นไข่จากอสูรเวทระดับสาม ข้าวก็เป็นเครื่องบรรณาการหลวง น้ำมันทำมาจากไขมันของอสูรเวทระดับสอง ท้ายที่สุดแม้แต่เกลือหน้าตาแสนธรรมดาก็ยังยอดเยี่ยมเกินบรรยาย

“การขายข้าวผัดไข่นี่ในราคาผลึกเดียวทำให้ข้าขาดทุน!

“ยังดีที่วัตถุดิบทั้งหมดระบบเป็นคนมอบให้ มิเช่นนั้นข้าคงนอนร้องไห้น้ำตาตกในเสียแล้วคืนนี้”

“เจ้าของร้าน การคาดเดาของข้าต้องถูกเป็นแน่! ไข่ที่เจ้าใช้นั้นเป็นไข่ของนกพิราบพายุอัสนีอย่างแน่นอน ข้ารู้สึกได้ถึงรสสัมผัสที่แหลมและชาไปพร้อมๆ กันตอนที่ลิ้มรสมัน ต้องเป็นไข่นกพิราบอย่างแน่นอน! ไม่มีทางที่ข้าจะคาดการณ์ผิดไปได้!” เซียวเสี่ยวหลงตื่นเต้นขึ้นอีกครั้ง

ปู้ฟางกำลังหัวเสีย เขามองไปที่เซียวเสี่ยวหลงซึ่งกำลังเนื้อเต้นแล้วพูดชี้แจง

“สูตรอาหารข้าวผัดไข่ของร้านเรา: ไข่ที่เลือกใช้นั้นเป็นไข่ฟองแรกที่อสูรเวทแม่นกพิราบพายุอัสนีวางหลังตั้งท้อง ไข่นี้มีพลังปราณสะสมอยู่จำนวนมาก…”

ปู้ฟางพูดทวนสิ่งที่ระบบบอกเขาตั้งแต่ต้นจนจบให้เซียวเสี่ยวหลงฟัง

เซียวเสี่ยวหลงนิ่งอึ้งทันที ดวงตาโตของเขาเบิกกว้างขึ้นอีก “ให้ตายเถิด ใครจะไปรู้ว่าข้าวผัดไข่ชามนี้มีความลับซ่อนอยู่มากมาย! ไข่นั้นไม่ใช่ไข่ธรรมดาอย่างที่คิดไว้จริงๆ เสียด้วย! ข้าวเองก็วิเศษอย่างคาดไม่ถึง! พับผ่าสิ แม้แต่น้ำมันที่ใช้ยังไม่ธรรมดา!

“แล้วเกลือก็…” เซียวเสี่ยวหลงรู้สึกเหมือนตนเองเพิ่งกลืนทองทั้งชามเข้าไป!

“เอาล่ะ เจ้ายังคิดว่าข้าวผัดไข่ชามนี้ราคาไม่เหมาะจะจ่ายหนึ่งผลึกอีกหรือไม่” ปู้ฟางพ่นลมเยาะเย้ยด้วยความหงุดหงิดแล้วพูดออกมา

“ไม่ ไม่ ไม่เลย! เจ้าของร้าน ข้าอยากสั่งข้าวผัดไข่อีกชาม!” เซียวเสี่ยวหลงส่ายหน้าพร้อมฉีกยิ้มจนแทบถึงใบหู การกินข้าวผัดไข่ของร้านนี้จะทำให้พลังปราณของเขาพัฒนาขึ้น! ต่อให้ราคาสูงถึงห้าผลึกชายหนุ่มก็ยังคิดว่าสมเหตุสมผลเป็นที่สุด!

“ขออภัย ร้านของเรามีกฎว่าลูกค้าสามารถสั่งได้รายการละชามเท่านั้น” ปู้ฟางพูดอย่างยโสขณะที่ยังนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเดิม

เซียวเสี่ยวหลงพลันมีสีหน้าเหม่อลอย เขาล้วงมือเข้าไปในหน้าอก ก่อนจะหยิบถุงเล็กๆ ที่มีดอกไม้ปักอยู่ออกมา มุมปากของปู้ฟางยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเมื่อเห็นถุงดอกไม้นั้น หากไม่ใช่เพราะลูกกระเดือกและหน้าอกที่แบนเรียบของเซียวเสี่ยวหลงแล้วละก็ เขาต้องคิดว่าไอ้หมอนี่เป็นผู้หญิงปลอมตัวมาแน่!

“อะ! เจ้าของร้าน ข้ามีผลึกอยู่ห้าชิ้น ขอกินอีกชามเถิด!” เซียวเสี่ยวหลงวางผลึกที่ส่องประกายวาววับทั้งหมดลงบนโต๊ะด้วยท่าทางตื่นเต้น ก่อนส่งเสียงงอแงขอร้องปู้ฟาง

ปู้ฟางไม่สนใจเซียวเสี่ยวหลงแม้แต่น้อย เขาเลือกผลึกที่คุณภาพดีสุดออกมาจากกอง แล้วพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “หากลูกค้าชายยังทำตัวกระเง้ากระงอดเหมือนลูกค้าหญิงใส่เจ้าของร้านอีกละก็ ชื่อของลูกค้าชายจะถูกเพิ่มเข้าไปในบัญชีหนังหมาของร้านเราทันที และจะไม่ได้รับการต้อนรับที่ร้านแห่งนี้อีก”

เซียวเสี่ยวหลงรู้ทันทีว่าตนคงไม่ได้กินข้าวผัดไข่ชามที่สองอีกแล้วในวันนี้ เขาจึงลุกขึ้นแล้วเดินจากไป

ขณะที่ชายหนุ่มหน้าสวยกำลังเดินออกจากร้านไปนั้น เขาก็หยุดมองชามว่างเปล่าเบื้องหน้าสุนัขสีดำตัวใหญ่ รู้สึกราวกับว่าหัวใจถูกปักด้วยลูกศรที่มองไม่เห็น

“อุตริเอาข้าวผัดไข่ที่ล้ำค่าเช่นนี้มาให้หมากิน! เสียของเป็นบ้า! ฮึ่ม!”

เจ้าสุนัขสีดำตัวใหญ่ทำตัวขี้เกียจยิ่งกว่าเดิมหลังจากที่กินข้าวหมด มันเลียอุ้งเท้าของตนเองและนอนนิ่งอยู่บนพื้น เมื่อเซียวเสี่ยวหลงเดินผ่านมัน เจ้าสุนัขก็เหลือบตามองชายหนุ่มและไม่สนใจใยดีอีก

ชายหนุ่มหน้าสวยตัดสินใจเพิกเฉยแล้วจากร้านอาหารเล็กๆ แสนพิเศษในตรอกไร้ผู้คนไป

ปู้ฟางลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปเก็บชามเบื้องหน้าเจ้าดำ เขาปิดทางเข้าร้านเพื่อปิดร้านสำหรับวันนี้

หลังจากที่ชายหนุ่มวางชามลงไปในเครื่องล้างจานที่ระบบมอบให้เรียบร้อยแล้ว เขาก็จัดการทุกอย่างเสร็จสิ้น ปู้ฟางเดินกลับไปที่ห้องของตนเองด้วยความคาดหวัง

“นายท่าน ขอแสดงความยินดีที่ท่านทำภารกิจแรกของระบบเสร็จสิ้น จนได้รับรางวัลตอบแทนในที่สุด นายท่าน ขอแสดงความยินดีที่ท่านมีลูกค้าคนแรก และได้ก้าวเท้าก้าวแรกไปบนเส้นทางการเป็นพ่อครัวเทพ”

ปู้ฟางนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องนอนด้วยความตื่นเต้น เสียงเรียบเฉยดังขึ้นในศีรษะของเขา

“ฮี่ๆ ! มาเสียที! จะได้รางวัลอะไรกันนะ ตื่นเต้นเป็นบ้า!”

ดวงตาของชายหนุ่มทอแสงอ่อน เขาลูบฝ่ามือเข้าด้วยกันด้วยความตื่นเต้น ภาพลักษณ์ภายนอกที่แสนสงบนิ่งซึ่งแสดงให้เห็นก่อนหน้านี้พลันมลายหายไปอย่างสิ้นเชิง

………………………….