ตอนที่ 8 รางวัล
ใช้เวลาไม่นานผู้ตรวจสอบก็มาถึง
“คุณแปดเทพ นี่คือปรมาจารย์เย่เหยียน เขาคือผู้ใช้อสูรขั้น 5 และเป็นผู้เชี่ยวชาญของตลาดมืด เขามาเพื่อตรวจสอบการวิวัฒนาการของวัวเขาเงิน” พนักงานแนะนำ
หวังเย่าพยักหน้าแต่ในใจเขากลับแปลกใจ เขาไม่คิดเลยว่าคนตรวจสอบจะอยู่ถึงขั้น 5
ทำไมถึงได้มีระดับที่สูงแบบนี้ ?
“นี่เป็นแค่ภารกิจวิวัฒนาการสัตว์อสูรระดับทองแดง ถึงจะเป็นแค่เงินรางวัลเล็กน้อย แต่ก็คงต้องรบกวนปรมาจารย์เย่เหยียนตรวจสอบด้วย” หวังเย่าพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
ปรมาจารย์เย่เหยียนแสดงสีหน้าภูมิใจออกมาและมองไปที่หวังเย่าด้วยสีหน้าพอใจ ภารกิจระดับต่ำเช่นนี้ไม่อาจจะทำให้เขาสนใจได้ แต่เมื่อได้ยินรายงาน เขาก็นึกแปลกใจจนสงสัยและอดไม่ได้ที่จะมาที่นี่ด้วยตัวเอง เขาอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกัน
แน่นอนเขาหวังว่าพนักงานจะเข้าใจผิด
ยังไงซะความสามารถที่หวังเย่าแสดงออกมานั้นแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่อาจจะทำได้ หากมันเป็นความจริงแล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ไหน ?
สุดท้ายเขาก็มองไปที่วัวเขาเงิน ขนาดของมันที่ตอนแรกสูงแค่ 3 เมตร แต่ตอนนี้กลับสูงถึง 5 เมตร ร่างกายของมันแผ่พลังของอสูรระดับเงินออกมา
“ใช่ มันวิวัฒนาการแล้วจริง ๆ ” เย่เหยียนพึมพำออกมา ก่อนจะมองไปที่หวังเย่าด้วยสีหน้าไม่พอใจ และก็สนใจเขามากขึ้นไปด้วย
“แปดเทพ เห็นได้ชัดว่านายมาตลาดมืดเป็นครั้งแรก ฉันอยากถามนายจริง ๆ นายทำแบบนี้ได้ยังไง ? ” เย่เหยียนถามขึ้นมา
สีหน้าของหวังเย่าเปลี่ยนไป เขารับรู้ได้ถึงความโกรธที่แฝงมากับคำถามนี้ “สิ่งที่คุณถาม ผมคงบอกไม่ได้ มันเป็นความลับและไม่สะดวกที่จะบอกให้ใครรู้”
คิดว่าเขาเป็นเด็กน้อยที่ยอมให้คนอื่นรังแกรึไง ?
ถึงหวังเย่าจะดูเหมือนเด็กน้อย แต่เขาก็ไม่ยอมให้ใครมารังแกง่าย ๆ
สายตาของเย่เหยียนสั่นไหว แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ใช้อสูรระดับสูง แต่การที่จะเค้นคำตอบจากคนอื่นก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องดี เขาส่ายหน้าและพูดขึ้น “ต้องขออภัย ฉันแค่สงสัย อย่าถือสาอะไรกันเลย ”
หวังเย่ายังไม่ทันได้ตอบกลับ เย่เหยียนก็หันหลังกลับแล้วเดินออกไปทันที
“คุณแปดเทพ อย่าถือสาปรมาจารย์เย่เหยียนเลย เขาไม่ใช่คนนิสัยแย่อะไรหรอก” พนักงานรีบอธิบายออกมาทันที
“ฉันเข้าใจว่าคนที่แข็งแกร่งน่ะมักจะมีนิสัยแปลก ๆ ” หวังเย่ายิ้มและพูดขึ้นมา “แล้วคุณชื่ออะไรงั้นหรือ ? ”
พนักงานได้สติกลับมา เธอหัวเราะและพูดขึ้น “ฉันมีชื่อว่าเสี่ยวเว่ย คุณแปดเทพเรียกฉันว่าเสี่ยวเว่ยก็ได้”
“ได้ เสี่ยวเว่ย ฉันขอรับรางวัลเลยได้ไหม ? ” หวังเย่าลูบจมูกแล้วพูดขึ้น
“แน่นอน เชิญทางนี้” เสี่ยวเว่ยยิ้มออกมา ก่อนจะพาหวังเย่ากลับไปที่ห้องภารกิจอีกครั้ง จากนั้นเธอก็ได้กระซิบบอกกับพนักงานที่ชื่อว่าลู่เจี๋ยภายในห้องว่า “คุณแปดเทพทำภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว เขามารับรางวัล ”
พนักงานที่ชื่อลู่เจี๋ยได้ตรวจสอบภารกิจ หลังจากที่ยืนยันทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เขาก็โอนเงินรางวัลไปที่สายรัดข้อมือของหวังเย่ากว่า 15,100 เครดิต ซึ่งรวมกับค่ามัดจำด้วย
“ลู่เจี๋ย ฉันได้ยินว่าวัวของฉันวิวัฒนาการแล้วงั้นหรือ ? ” ตอนนั้นเองก็มีชายวัยกลางคนที่สวมหน้ากากหมาป่า ซึ่งมีชื่อ ‘สปริง’ สลักไว้บนหน้ากากได้เดินเข้ามาหา พร้อมกับหัวเราะ
หวังเย่าชะงัก ก่อนจะหันกลับไปมอง ปรากฏว่านี่คือเจ้าของวัวเขาเงินนั่น
สปริงหรือ ? นี่เขาไม่กลัวว่าคนอื่นจะหัวเราะรึไงที่ใช้ชื่อแบบนี้
พนักงานที่ชื่อลู่เจี๋ยได้ชี้ไปที่หวังเย่าและพูดขึ้น “สปริง นายมาเร็วจริง ๆ พอดีเลย นี่คือคนที่ทำให้สัตว์อสูรของนายวิวัฒนาการ เขาชื่อแปดเทพ”
สปริงเหมือนจะไม่คิดว่าจะมีใครรับภารกิจของเขา เขารีบเดินเข้าไปหาและแนะนำตัวทันที “คุณแปดเทพ ขอบคุณจริง ๆ ปกติครอบครัวของฉันชอบกินนมวัว แต่ไม่นานมานี้มันให้นมที่คุณภาพต่ำออกมา มันทำให้ลูกของฉันไม่ค่อยกินนม”
“จริงสิ ลูกสาวของฉันเพิ่งเกิด ยังไงซะเขาก็บอกกันว่าเด็ก ๆ ต้องได้รับสารอาหารดี ๆ ฉันเลยอยากให้วัวนี่วิวัฒนาการ เพื่อที่จะได้นมที่ดีขึ้น แต่มันก็ผ่านมาเกือบสิบวันแล้ว ผู้ใช้อสูรที่รับภารกิจนี้ไปต่างก็ทำภารกิจไม่สำเร็จ โชคดีที่คุณมาพอดี ไม่งั้นแล้วลูกของฉันคงร้องไห้ไม่หยุด”
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายพูดมาก หวังเย่าก็ขนลุกและคิดที่จะหนีไปจากที่นั่น
แต่ตามหลักการแล้ว เมื่อรับเงินเขามาก็ไม่อาจจะมองข้ามได้
หวังเย่าจับมือกับอีกฝ่าย ก่อนจะรีบอธิบายออกมาว่า “อันที่จริงการที่นมมันแย่ลงก็เพราะว่าวัวโดนแสงจันทร์นานเกินไปจนทำให้มันตัวเย็น อีกอย่างมันก็ไม่ได้ออกกำลังกาย หญ้าที่กินก็ไม่ดีนัก ร่างกายของมันจึงขาดสารอาหารดี ๆ ดังนั้นนมที่ให้มาจึงมีสารอาหารไม่เพียงพอ”
“อย่างนี้นี่เอง” สปริงตระหนักได้ในทันที เขารีบแสดงท่าทีเคารพออกมา “ขอบคุณที่เตือน ฉันดูแลมันมาหลายปีแต่กลับไม่รู้อะไรเลย โชคดีที่คุณบอกฉัน นี่เงิน 10,000 เครดิตเป็นค่าตอบแทน”
สปริงจับมือของหวังเย่าและคิดจะยัดเยียดเครดิตให้ “ทักษะของนายนี่ดีจริง ๆ ”
หวังเย่าอยากจะหนีออกไปจากที่นี่ เขาได้พูดขึ้น “ผู้ใช้อสูรสปริง หากไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวก่อน”
สปริงดึงมือกลับพร้อมตาที่เป็นประกาย ลู่เจี๋ยเองก็แสดงสีหน้าแปลกใจออกมาเช่นกัน
ลู่เจี๋ยอดไม่ได้ที่จะชมออกมา “ถึงจะไม่รู้เหตุผล แต่ทักษะหมอนี่มันดีจริง ๆ ”
เขารับหน้าที่ในการลงทะเบียนและดูแลภารกิจสำหรับผู้ใช้อสูรรวมถึงให้ความรู้ต่าง ๆ การที่เขาชมหวังเย่าแบบนี้ถือว่าไม่ปกติ
สปริงมองตามแผ่นหลังของหวังเย่าก่อนจะพยักหน้าตอบรับ
จากนั้นหวังเย่าก็ยังมองหาภารกิจในหมวด C อันใหม่
แม้ว่าเขาจะมีเครดิตกว่า 25,000 เครดิตแล้ว แต่หากต้องการให้การ์ฟีลด์วิวัฒนาการไปถึงระดับทองได้นั้นก็ต้องใช้น้ำยาวิวัฒนาการขั้นสูง
ราคาของน้ำยาวิวัฒนาการนั้นแพงกว่าน้ำยาพลังเป็นสิบเท่า น้ำยาพลังขั้นสูงราคา 10,000 เครดิต ส่วนน้ำยาวิวัฒนาการขั้นสูงนั้นราคาสูงถึง 100,000 เครดิต
ถึงจะมีน้ำยาวิวัฒนาการแต่ก็ใช่ว่าจะทำการวิวัฒนาการสัตว์อสูรได้สำเร็จ
อันที่จริงแล้วโอกาสในการวิวัฒนาการของสัตว์อสูรที่กินน้ำยาวิวัฒนาการเข้าไปนั้นจะเพิ่มโอกาสสำเร็จแค่ 20-30% ดังนั้นถึงจะมีน้ำยาวิวัฒนาการหลายสิบขวด แต่ก็ใช่ว่าจะวิวัฒนาการสัตว์อสูรได้สำเร็จ
แน่นอนว่าหวังเย่าไม่ต้องคิดมากเรื่องนั้น เขามีระบบวิวัฒนาการสัตว์เลี้ยงอยู่ เขาไม่ต้องสนใจอุปสรรคต่าง ๆ
ตราบใดที่สัตว์อสูรนั้นผ่านเงื่อนไขในการวิวัฒนาการ งั้นมันก็ง่ายที่จะทำให้สัตว์อสูรวิวัฒนาการขึ้นมาได้