เวลาหนึ่งเค่อ (1 เค่อ เท่ากับ 15 นาที) ผ่านไป เจ้าหน้าที่สองคนนำของเข้ามาวางเรียงไว้ในห้องโถง

ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ทั้งสามกวาดตามองสิ่งของ จากนั้นก็หันไปมองสวี่ชีอัน

ข้าหลวงเฉินพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ของที่เจ้าต้องการล้วนอยู่ที่นี่แล้ว เจ้าต้องให้คำตอบที่น่าพึงพอใจแก่ข้า”

ทัศนคติของเขาเปลี่ยนไป

ภายในเวลาหนึ่งเค่อนี้ ข้าราชการระดับสี่ชั้นเอกผู้นี้ขูดรีดสมองคิดเป็นเวลานาน และต้องยอมรับว่าการอนุมานของสวี่ชีอันสมเหตุสมผลมาก แต่ยังคงมีข้อสงสัยมากมายที่ไม่ได้รับการแก้ไข ตัวอย่างเช่นความจริงที่ว่าเงินภาษีตกลงไปในแม่น้ำ ซึ่งในนั้นมีความลับอะไรเขาเองก็ไม่เข้าใจ

“หากข้าน้อยช่วยท่านใต้เท้าคลี่คลายคดีนี้ได้ ท่านจะช่วยเขียนจดหมายถึงท่านนักปราชญ์ให้ลบล้างความผิดของบ้านสกุลสวี่ของข้าได้หรือไม่”

ต้าฟ่งให้ความสำคัญกับมรดกของพ่อที่จะถูกส่งต่อแก่ลูกชายมาก และลูกชายสามารถรับบาปสร้างผลงานแทนพ่อได้

“แน่นอน” ข้าหลวงเฉินพยักหน้า

สวี่ชีอันพยักหน้าและย่อตัวลง สิ่งของที่อยู่ตรงหน้าเขาแบ่งออกเป็นเทียน เกลือ ถ้วยลายครามและลวดเหล็ก

สิ่งที่เขาต้องทำนั้นง่ายมาก เป็นความรู้วิชาเคมีระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ‘การแยกโลหะโซเดียม’

ในสมัยโบราณเป็นไปไม่ได้ที่สกัดของพวกนี้ออกมาเพราะติดปัญหาสองประการคือ ไฟฟ้าและจุดหลอมเหลวของโซเดียมคลอไรด์

แต่ในโลกนี้สวี่ชีอันรู้ว่ามีอาชีพหนึ่งที่สามารถทำเรื่องนี้ได้

โหรระดับหกของสำนักโหราจารย์ ‘นักเล่นแร่แปรธาตุ!’

นักเล่นแร่แปรธาตุเป็นอาชีพที่รู้จักกันดีในต้าฟ่ง สิ่งประดิษฐ์กับงานรังสรรค์แต่ละอย่างของพวกเขารวมอยู่ในชีวิตของคนทั่วไปมาช้านาน

สวี่ชีอันไม่แน่ใจว่าเงินภาษีที่ระเบิดจะเป็นโลหะโซเดียม แต่เรื่องนี้ไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือการเปิดเผยแนวคิดเพื่ออธิบายปรากฏการณ์เงินภาษีระเบิด

ในกระบวนการตัดสินคดี การตั้งสมมติฐานที่ชัดเจนและการอนุมานที่แม่นยำเป็นสิ่งจำเป็นในช่วงแรก สุดท้ายถึงจะเป็นการตรวจสอบและรวบรวมหลักฐาน

ชาติที่แล้วเขาเคยเจอคดีฆาตกรรมที่ทำให้เขาจำได้ขึ้นใจ พวกตำรวจอาชญากรรมต้องระดมสมองตลอดทั้งคืนโดยอ้างอิงจากเบาะแสและคาดเดารูปคดีมากมาย ก่อนจะใช้สิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐานในการรวบรวมหลักฐาน จากนั้นก็ล้มล้างทุกอย่างและอนุมานใหม่อีกครั้ง

อาจเป็นไปได้ว่าเงินภาษีที่หายไปจะไม่ใช่โลหะโซเดียม แต่ถ้าหากนักเล่นแร่แปรธาตุสามารถทำเรื่องนี้ให้เกิดขึ้นได้ เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

การหาทิศทางที่ถูกต้องให้ขุนนางชั้นผู้ใหญ่สามคนนั้นคือสิ่งที่เขาต้องทำ

หากทิศทางนั้นถูกต้อง จะสามารถติดตามเบาะแสเพื่อตรวจสอบต่อไปได้ และไม่ยากเลยที่จะค้นหาว่าใครอยู่เบื้องหลัง

หากยังดิ้นรนอยู่ในความคิดที่ว่าปีศาจก่อกบฏ คดีก็จะไม่คลี่คลายไปตลอดกาล แม้ว่าคดีอาจจะคลี่คลายได้ในอนาคต เขาก็คงโดนศาลตัดสินไปแล้วเช่นกัน ‘ขับไล่มันออกไป ห่างไกลนับพันลี้’

เขาใช้น้ำละลายเกลือหยาบ หลังจากที่คนให้เข้ากันเขาก็คลุมเสวียนดิบที่ปากถ้วยและเทน้ำเกลือลงไปช้าๆ

หลังจากที่กรองแล้ว วางถ้วยลายครามอังบนเทียนและใช้ไม้ไผ่คนอย่างต่อเนื่อง

จากนั้นไม่นานน้ำเกลือในถ้วยจะระเหยจนแห้งและผลึกที่ตกตะกอนอยู่ในนั้นก็คือโซเดียมคลอไรด์

จุดสำคัญคือการทำให้เกลือบริสุทธิ์ขึ้น

ข้าหลวงเฉิน ชายวัยกลางคนและหญิงสาวในชุดกระโปรงเหลืองที่มีรูปลักษณ์งดงามยืนอยู่ข้างๆ และมองดูอย่างตั้งใจ

สวี่ชีอันเงยหน้าขึ้น ยิ้มมุมปากให้หญิงสาวในชุดกระโปรงเหลือง “ท่านเป็นศิษย์ของสำนักโหราจารย์สินะ”

เขาสังเกตเห็นแผ่นฮวงจุ้ยที่เอวของนาง ของชิ้นนี้นอกจากศิษย์ของสำนักโหราจารย์แล้วไม่มีใครใช้

หญิงสาวในชุดกระโปรงเหลืองส่งเสียง ‘อืม’ ออกมาและพูดด้วยรอยยิ้ม “อาจารย์ของข้าคือท่านโหราจารย์แห่งสำนักโหราจารย์”

ใบหน้ารูปไข่ที่ละเอียดลออและสดใสราวกับไข่ที่ปอกเปลือก ช่างขาวใสไร้ที่ติ

ศิษย์ของท่านโหราจารย์…ไม่สำคัญแล้วว่าหน้าอกจะเป็นอย่างไร…สวี่ชีอันพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “รบกวนแม่นางละลายผลึกเหล่านี้ให้ข้าที”

จุดหลอมเหลวของโซเดียมคลอไรด์อยู่ที่ประมาณแปดร้อยองศาเซลเซียส

หญิงสาวในชุดสีกระโปรงสีเหลืองเบ้ปาก “การควบคุมไฟเป็นความสามารถของนักเล่นแร่แปรธาตุ ข้าเป็นเพียงปรมาจารย์ฮวงจุ้ย”

“แต่อาจารย์ของข้ามอบอาวุธเวทมนตร์ไว้ให้ข้า” นางเปลี่ยนคำพูดและหยิบแผ่นฮวงจุ้ยที่เอวขึ้นมา นิ้วที่เรียบเนียนดุจหยกขยับสองสามครั้ง นางส่งพลังปราณเข้าไปและคำว่า ‘ไฟ’ ก็สว่างขึ้น

“ถอยไปก่อน”

สวี่ชีอันถอยหลังไปทันที วินาทีต่อมาเปลวไฟที่สว่างแสบตาก็พุ่งออกมาท่วมถ้วยลายคราม

“หยุด!” สวี่ชีอันตะโกนออกมาทันที จากนั้นก็สอดลวดเหล็กสองเส้นเข้าไปในถ้วยลายครามอย่างรวดเร็วและถามว่า“จ่ายไฟ…ไม่สิ ใช้วิธีเรียกอัสนีสวรรค์[1] ให้ความสนใจกับการควบคุมแรงดันไฟฟ้า…อืม ขั้นตอนนี้ยากมาก อาจจะล้มเหลวหลายครั้ง”

นางหมุนแผ่นฮวงจุ้ย นิ้วที่เรียบเนียนดุจหยกจุดคำว่า ‘สายฟ้า’ ประกายไฟฟ้าแลบผ่านท้องฟ้าอันว่างเปล่าไปสัมผัสกับลวดเหล็ก

‘ซี่ๆ…’ โซเดียมคลอไรด์ที่หลอมเหลวเกิดปฏิกิริยาเคมีอย่างรุนแรง

“หยุด!”

สวี่ชีอันกลั้นหายใจ เขาเอนตัวไปดูที่ปากถ้วย ก้อนโลหะสีเงินก่อตัวขึ้นโดยมีผลึกและสิ่งสกปรกบางส่วนที่ขอบที่ยังไม่ได้เปลี่ยนรูป

ไม่คาดคิดว่าเพียงครั้งเดียวก็ประสบความสำเร็จและแรงดันไฟฟ้ากำลังพอดี…สวี่ชีอันรู้สึกประหลาดใจ

กระบวนการอิเล็กโทรลิซิสที่จะผลิตโลหะโซเดียม แรงดันไฟฟ้าอยู่ที่ประมาณ 6-15 โวลต์ เขาเตรียมใจที่ล้มเหลวซ้ำๆ แล้ว

คิดไม่ถึงว่าจะโชคดีทำสำเร็จได้ในครั้งเดียว

ข้าหลวงเฉินกับชายวัยกลางคนชะโงกหน้ามาดูอย่างร้อนใจ ในถ้วยมีก้อนมีโลหะสีเงินก้อนหนึ่ง มองแวบแรกดูค่อนข้างคล้ายกับแร่เงิน

รูม่านตาของข้าหลวงเฉินหดตัว ภายในใจตกตะลึงอย่างมาก

หลี่อวี้ชุนกำหมัดแน่น จ้องมองก้อนโลหะสีเงินอย่างว่างเปล่าราวกับมีสายฟ้าฟาดในใจเขาแยกหมอกหนาทึบทั้งหมดออก

“ท่านใต้เท้าทั้งสามโปรดดู” สวี่ชีอันเทโลหะโซเดียมออกมา ใช้เสวียนดิบห่อไว้และประเมินน้ำหนักของที่อยู่ในมือเขา

“สิ่งนี้เบากว่าตำลึงเงินมาก แต่ลักษณะภายนอกกลับคล้ายคลึงกันมาก หากมีคนใช้สิ่งนี้หลอกว่าเป็นตำลึงเงินถือว่าเป็นการปลอมแปลงได้หรือไม่ ท่านใต้เท้าทั้งสามลองชั่งน้ำหนักดูได้”

เขามอบโลหะโซเดียมให้ข้าหลวงเฉิน เวลานี้สีของโลหะโซเดียมค่อยๆ จางลงเกือบจะเหมือนกับตำลึงเงินทุกประการ

ชายวัยกลางคนรับไปชั่งน้ำหนักดู ดวงตาของเขาเปล่งประกายและพูดต่อ “เบามากจริงๆ หากสิ่งที่ถูกขนย้ายคือสิ่งนี้ มันก็สมเหตุสมผล แม่นางไฉ่เวย เจ้าลองดู”

หญิงสาวในชุดกระโปรงเหลืองรับไปและชั่งน้ำหนักดู จากนั้นก็เพ่งมองสวี่ชีอันด้วยสายตาแปลกๆ “เจ้า เจ้าเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุหรือ”

ไม่ ข้าไม่ใช่ ข้าเป็นเพียงพนักงานขนส่งสารเคมี

ความคิดของนักปราชญ์กระตือรือร้นขึ้นมา หลังจากข้าหลวงเฉินประหลาดใจก็ส่ายหน้าทันทีและพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ไม่ นี่ไม่ถูกต้อง แม้ว่าตำลึงเงินจะถูกสับเปลี่ยน แต่การระเบิดนั่นเกิดขึ้นได้อย่างไรหากไม่ใช่เพราะมีปีศาจซ่อนอยู่ในแม่น้ำ ตำลึงเงินปลอมตกลงไปในน้ำแล้วจะระเบิดได้อย่างไร”

สวี่ชีอันไม่ตอบ เขาเอื้อมมือไปหยิบโลหะโซเดียม เดินไปที่โต๊ะและโยนมันลงไปในอ่างล้างพู่กัน

เปลวไฟที่ร้อนแรงลุกขึ้น ควันหนาทึบพลุ่งพล่าน

‘ตู้ม!’

โลหะโซเดียมทำปฏิกิริยารุนแรงในน้ำ อ่างล้างพู่กันแตกละเอียด

“นี่ นี่มัน…” ข้าหลวงเฉินตกตะลึง

“เมื่อตำลึงเงินปลอมเจอกับน้ำจะเกิดการระเบิด ทีนี้ก็อธิบายได้แล้วว่าทำไมหลังจากตำลึงเงินตกลงไปในน้ำถึงเกิดการระเบิดที่รุนแรงเช่นนั้นขึ้น” สวี่ชีอันอธิบาย

ชายวัยกลางคนพึมพำ “พวกเราถูกทำให้เข้าใจผิดตั้งแต่แรก คนที่อยู่เบื้องหลังทำให้พวกเราคิดว่าการระเบิดและลมปีศาจเกิดจากปีศาจก่อปัญหาเพื่อให้การสืบสวนมุ่งเน้นไปที่การติดตามและจับกุม”

“ไม่น่าแปลกใจเลยที่วิชามองปราณของสำนักโหราจารย์ไม่สามารถตรวจจับปีศาจได้”

สวี่ชีอันกล่าวเสริม “หลังจากที่เงินภาษีตกลงไปในน้ำ ทหารกู้ตำลึงเงินคืนได้หนึ่งพันกว่าตำลึงเงิน หากข้าเดาไม่ผิด ตำลึงเงินเหล่านั้นล้วนกระจายอยู่ชั้นบนสุดเพื่อหลอกตาผู้คน”

ไร้ช่องโหว่ ความผิดปกติทั้งหมดสอดคล้องกัน

“สวี่ชีอัน” สายตาของชายวัยกลางคนเต็มไปด้วยความชื่นชม “ดี เจ้าทำดีมาก”

ปกเสื้อที่เอียงของสวี่ชีอันทำคิ้วขมวดมุ่นทันที หลี่อวี้ชุนตบไหล่เขาและช่วยเขาจัดปกเสื้อให้เรียบร้อย

สวี่ชีอันรู้สึกปลื้มปีติที่ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ท่านนี้ชื่นชมเขาเช่นนี้

ข้าหลวงเฉินขมวดคิ้ว “ในเมื่อตำลึงเงินเป็นของปลอม เช่นนั้นตำลึงเงินของจริงอยู่ที่ไหน”

หญิงสาวในชุดกระโปรงเหลืองได้ยินคำพูดนี้ก็แสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมา “เงินภาษีออกจากคลังเข้าเมืองจิงจ้าว โดยส่งต่อกันเป็นทอดๆ หากจะตัดสินโทษเจ้าหน้าที่จำนวนมากจะต้องเข้าคุก อีกทั้งความยากลำบากในการเรียกเงินภาษีกลับคืนมาก็เหมือนกับการงมเข็มในมหาสมุทร แต่เรื่องนี้อยู่เหนือขอบเขตอำนาจของพวกเรา ต้องรายงานองค์จักรพรรดิ”

ข้าหลวงเฉินพยักหน้า เขาก็คิดเช่นเดียวกัน

ชายวัยกลางคนมีความคิดที่ต่างออกไป เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “เงินภาษีถูกคุ้มกันไปยังเมืองจิงจ้าวตลอดทาง และส่งต่อกันเป็นทอดๆ หากเป็นของปลอมน่าจะถูกค้นพบนานแล้ว ความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวคือถูกขโมยไปเมื่อเร็วๆ นี้”

ข้าหลวงเฉินตาเป็นประกาย ขอบเขตการสอบสวนลดลงมาก

“มานี่สิ เตรียมเสลี่ยง เตรียมเสลี่ยงเร็ว ข้าต้องไปเดี๋ยวนี้” ข้าหลวงเฉินรีบออกจากโถงด้านในอย่างกระตือรือร้น

ชายวัยกลางคนเดินตามไปติดๆ

สวี่ชีอันรีบตะโกน “ท่านข้าหลวง อย่าลืมที่สัญญากับข้าน้อยนะขอรับ”

…………………………………………………………

[1] อัสนีสวรรค์ คือ การใช้พลีงเรียกสายฟ้า