ตอนที่ 8 ผมเลือกที่จะจีบคุณเอง

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย

“คุณ…มาได้ไง” 

 

 

เสื้อสูทของป๋อจิ่งชวนพาดอยู่ตรงไหล่ เชิ้ตยี่ห้อแพงสีขาวสะอาดตา คัฟลิงค์สีเงินคู่สวยฝังอยู่ที่ชายแขนเสื้อทั้งสองข้าง เขาดูสุภาพเรียบร้อยโดดเด่นเป็นสง่าตั้งแต่หัวจรดเท้า 

 

 

ดวงตาสีดำขลับมองใบหน้าที่หลบออกไปอย่างรวดเร็ว นัยน์ตาที่เปล่งประกายแฝงไปด้วยความสงสัย 

 

 

นานสองนานกว่าเสียงทุ้มต่ำชวนฟังจะเอ่ยขึ้นในลำคอ 

 

 

“ปกติในเวลาแบบนี้ผู้หญิงต้องร้องไห้สิ” 

 

 

เฉินฝานซิงรู้สึกแปลกใจนิดหน่อย หลังจากนั้นความกระจ่างก็ปรากฏขึ้นในดวงตาใส 

 

 

เขาคงจะตามเธอมาตั้งแต่เมื่อกี้ คงได้ยินทั้งหมด คนฉลาดๆ อย่างเขาไม่มีทางไม่เข้าใจ 

 

 

“โทษทีนะ ปกติผมไม่ได้มีนิสัยชอบแอบฟังคนอื่นหรอก” 

 

 

เฉินฝานซิงไม่ใส่ใจ 

 

 

“เสียน้ำตาให้คนแบบนั้นไปก็ไม่มีความหมาย อีกอย่างน้ำตาฉันไม่มีค่าอะไร” 

 

 

คิ้วเข้มขยับเล็กน้อย “จริงอย่างที่คุณว่า น้ำตาตกเพราะผู้ชายไร้ค่าเพียงคนเดียวเปลืองความรู้สึกเปล่าๆ แต่ว่าประโยคสุดท้ายของคุณ ผมขอเสริมนิดนึง” 

 

 

เฉินฝานซิงแหงนหน้ามองเขาด้วยแววตาน่าสงสัย 

 

 

นัยน์ตาสีนิลจ้องมองอีกฝ่ายแล้วเอ่ยขึ้นเสียงเบา 

 

 

“น้ำตาจะมีค่าหรือไม่มีค่า ต้องดูว่าคุณร้องไห้ต่อหน้าใคร บางคนอาจมองว่ามันไม่มีค่า แต่สำหรับบางคนกลับมองว่ามันประเมินค่าไม่ได้” 

 

 

คำพูดที่แสดงออกถึงความอบอุ่นอย่างชัดเจน ทว่ากลับเคลือบแฝงไปด้วยตรงไปตรงมาและความลึกซึ้งจนทำให้หัวใจของเธอกระตุกวูบ ก่อนที่เธอจะหลบสายตาออกมาอย่างลุกลี้ลุกลน 

 

 

ป๋อจิ่งชวนค่อยๆ เก็บผ้าเช็ดหน้าลงกระเป๋าไป “ตอนนี้ผมกำลังตอบคำถามแรกของคุณอยู่นะ” 

 

 

เขานิ่งไปสักพัก แล้วลู่ตาลงมอง 

 

 

“คุณเป็นผู้หญิงฉลาด คงเดาได้ไม่ยากว่าคุณย่าอยากให้ผมจีบคุณ” 

 

 

นัยน์ตาเธอเบิกขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่ความอึดอัดจะปรากฏบนใบหน้าเกลี้ยงเกลา 

 

 

“ฉันเดาว่า…คุณคงปล่อยให้ท่านรอนานแล้วและฉันคิดท่านน่าจะอยากได้หลานน่ารักๆ สักคน” 

 

 

“คุณนี่ฉลาดจริงๆ” 

 

 

เสียงหัวเราะของป๋อจิ่งชวนทำให้เฉินฝานซิงผ่อนคลายลงไปบ้าง 

 

 

“แต่ผมเลือกที่จะจีบคุณเอง เพราะคนที่จะมีลูกให้กับผมไม่ใช่ว่าผู้หญิงคนไหนก็เป็นได้” 

 

 

ป๋อจิ่งชวนพูดขึ้นอีก น้ำเสียงนุ่มนวลแต่แฝงความแข็งแกร่งและเย่อหยิ่งทำให้เฉินฝานซิงทนเงียบต่อไปไม่ไหว 

 

 

แต่เธอไม่เคยคิดว่า ผู้ชายที่โดดเด่นเป็นสุภาพบุรุษอ่อนน้อมถ่อมตนอย่างเขา จู่ๆ ก็พูดจาไม่ยั้งปากได้แบบนี้ 

 

 

“ปกติเวลาคุณป๋อจีบสาวจะพูดจาตรงๆ แบบนี้เสมอเหรอคะ?” 

 

 

“ผมเคยจีบคุณแค่เดียว” 

 

 

เฉินฝานซิงปวดหัวขึ้นมาบ้างแล้ว เป็นครั้งแรกที่เธอคิดว่ารับมือกับคนคนหนึ่งมันยากขนาดนี้ 

 

 

“เราเจอกันอย่างมากสุดไม่เกินหนึ่งชั่วโมงในหนึ่งวัน เจอหน้ากันแค่สองครั้ง คุณป๋อคุณไม่คิดว่ามันเร็วเกินไปหน่อยเหรอ” 

 

 

“ผมเชื่อสายตาตัวเอง” 

 

 

ในที่สุดสีหน้าไร้อารมณ์อารมณ์ของเธอก็ปริออกจนเห็นรอยร้าวอย่างชัดเจน 

 

 

เนิ่นนานที่เธอยิ้มออกมาอย่างขมขื่น 

 

 

“เมื่อกี้คุณคงได้ยินฉันคุยผู้ชายคนนั้นแล้วใช่ไหม ฉันรู้จักเขามาแปดปีแต่กลับได้มาเพียงความเชื่อใจที่เปราะบาง ฉันก็แค่คนที่ผ่านมาโดยบังเอิญ อะไรทำให้คุณมั่นใจในตัวฉันนัก” 

 

 

ป๋อจิ่งชวนเลิกคิ้ว “นี่คุณเอาผมไปเทียบกับคนสับปะรังเค?”