ตอนที่ 10 : เรื่องนี้เป็นตลกแบบนี้ได้ยังไง [รีไรท์]

อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด

ตอนที่ 10 : เรื่องนี้เป็นเรื่องตลกแบบนี้ได้ยังไง?

มันสมควรต้องไล่แผนกบุคคลออกแล้วหรือเปล่า?

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เขาก็รีบโทรศัพท์ไปทันที

“ผู้ที่สมัครตำแหน่งโฆษกผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทจิ่งเป็นผู้หญิงขี้เหร่อย่างนั้นเหรอ? เสียงแบบนี้ยังยากที่จะฟังอีกนะ”

“อะ ไม่เห็นมีอะไรเลย ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงสวยหมดเลยนะ แถมยังมีเซ็กซี่สุด ๆ อีก คนที่ชื่อว่าลูซี่ได้ เร็ว ๆ นี้เห็นว่ามีความสัมพันธ์ที่ร้อนแรงกับประธานจิ่งอีกด้วย  ผู้จัดการฉีเห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องตลกแบบนี้ได้ยังไง?”

“แล้วทำไมฉันถึงได้เห็นผู้หญิงขี้เหร่ขึ้นไปที่ชั้นสิบห้า?” ฉีเซิ่งเทียนรู้สึกแปลกใจมากยิ่งขึ้น

“วันนี้บริษัทมีสอบสัมภาษณ์สองรอบ หนึ่งคนสมัครแผนกวางแผน อีกคนที่สมัครมาเป็นแผนกวางแผน หน้าตาก็ไม่ได้แย่ ยกเว้นแต่…”

“ใคร?” ฉีเซิ่งเทียนทุบไปที่เหล็กกดปุ่มชั้นหลังจากได้รับคำตอบ เมื่อครู่นี้ผู้หญิงคนนั้นทำตัวหยิ่งผยองใส่จิ่งเป่ยเฉินด้วย

“ถูกแนะนำโดยเลขาหลินจือเซี๋ยว อันอีหานเหรอ? กลับมาจากต่างประเทศ สมัครตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่าย TE”

ประโยคเดียวที่ทำให้ฉีเซิ่งเทียนพูดไม่ออก จริง ๆ แล้วเธอซุกซ่อนตัวเองในการเป็นผู้อำนวยการฝ่าย TE แต่ทว่าเมื่อปีนั้นเพราะการวางแผนของเธอที่ทำให้บริษัทจิ่งสูญเสียคำสั่งซื้อครั้งใหญ่ไป

ถ้าผู้หญิงคนนี้ใช้ความสามารถเข้ามาจริง ๆ ทั้งยังได้รับการคัดเลือกอีกละก็ ย่อมส่งผลดีต่อบริษัทจิ่งอย่างแน่นอน นี่นับว่าเป็นเรื่องที่ดี

ลืมมันไปเถอะ น่าเกลียดก็น่าเกลียด ใช้งานได้ก็พอ

ตรงหัวมุมชั้นที่สิบห้า

เมื่ออันโหรวออกมาจากลิฟต์ก็เห็นสาวสวยคนหนึ่งที่แต่งชุดแตกต่างจากเธอ เธอคนนั้นกำลังยืนอยู่ตรงทางเดิน ขาอันยาวสวยและการแต่งตัวที่ดูเซ็กซี่ รูปร่างผอม สัดส่วนน่ามอง และนอกจากผู้หญิงคนนี้แล้วก็ยังมีผู้หญิงอีกคนที่กำลังแต่งหน้าอยู่ที่โถงทางเดินอย่างไม่สนใจสายตาใด ๆ เธอนั้นเปิดขอบเสื้อกว้าง ๆ จนเห็นร่องหน้าอก

การสัมภาษณ์ของแผนกวางแผนจำเป็นต้องใช้สมอง แต่ผู้หญิงเหล่านี้กลับใช้ส่วนอื่นทำงานแทน…

“บริษัทจิ่งเป็นอะไรไปแล้ว ถึงได้มีของแบบนี้อยู่ด้วย” ผู้หญิงคนหนึ่งที่ถือตลับแป้งอยู่ในมือเอ่ยขึ้น ใบหน้าเผยให้เห็นถึงสีหน้าที่ดูรังเกียจ

อันโหรวถูกผู้หญิงพวกนั้นจ้องมองไปทั่วใบหน้า มีผู้หญิงคนหนึ่งที่สวมชุดซีทรู ก้อนเนื้อสองก้อนบนหน้าอกของเธอนั้นรัดแน่นเสียยิ่งกว่าอะไร

“ผู้หญิงคนนี้แต่งหน้าแต่งตัวยังไงให้ดูน่าเกลียดขนาดนี้ เข้ามาสัมภาษณ์แบบนี้ไม่อายตัวเองเลยหรือไง?” ผู้หญิงที่สวมชุดซีทรูบ่นพึมพำ

“หมายเลขสามถึงห้าเชิญเข้ามาที่ห้องได้”

เมื่อผู้หญิงคนนั้นได้ยิน ใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นคลี่ยิ้ม ผงกศีรษะหนึ่งครั้ง หน้าอกถึงกับสั่นไปทั่ว เธอเดินเข้าไปพร้อมกับขาที่เรียวยาว

อันโหรวขมวดคิ้วแน่น เธอค่อนข้างสับสนกับสถานการณ์ปัจจุบันมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่หลินจือเซี๋ยวน่าจะเอ่ยสถานที่สอบสัมภาษณ์ไม่ผิดหรอกใช่ไหม?

“ฟังนะ ประธานจิ่งจะเข้ามาที่นี่ด้วยตัวเอง”

“จริงเหรอ? การแต่งหน้าของฉันเป็นยังไง แต่งตัวซะนานเลยนะกว่าจะเป็นแบบนี้ได้”

“แต่งตัวสวยอะไรเล่า เมื่อครู่นี้เห็นผู้หญิงเซ็กซี่คนหนึ่งด้วย ลือกันว่าเป็นแฟนสาวของประธานจิ่งด้วยนะ”

อันโหรวยืนฟังอย่างเงียบ ๆ หัวข้อสนทนาของผู้หญิงมักจะวนเวียนไปมาระหว่างจิ่งเป่ยเฉิน

ห้าปีที่ผ่านมานี้ ดูเหมือนว่าเขานั้นจะเป็นที่สะดุดตาของสาว ๆ ไม่น้อยเลยจริง ๆ

ถ้าหากเขาพบว่าหยางหยางกับหน่วนหน่วนเป็นลูกของเขาละก็ ต่อให้ไม่ชอบยังไง เขาก็คงจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อแย่งชิงลูก ๆ ของเธอไปแน่ ๆ

เมื่อคิดถึงจุดนี้ ในใจเธอก็รู้สึกตึงเครียดขึ้นมาทันที หน่วนหน่วนนั้นไม่เหมือนเขา แต่หยางหยางกับเขานั้นเหมือนกันราวกับแกะ เพียงแต่เป็นรุ่นที่เล็กลงมาหน่อยเท่านั้นเอง

“หมายเลขหกถึงแปดเข้ามาที่ห้องได้ ส่วนคนสุดท้ายจะได้รับการจับสลาก”

อันโหรวที่จมอยู่กับความคิดตัวเอง เธอจึงไม่ได้สังเกตเลยว่ามีบางคนเรียกเธอ จนเขาต้องเรียกซ้ำสองอีกครั้ง “นี่ยัยคนแก่ เธอมาที่นี่เพื่อจับสลากอย่างนั้นเหรอ?”

อันโหรวมองคนพวกนั้น สุดท้ายจึงเดินไปอีกทาง เธอดึงหมายเลขออกมา ก็พบว่าเป็นหมายเลขสิบ ทันทีที่เธอวางหมายเลขลง เธอก็ได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูงดังขึ้น กระทั่งเสียงนั้นมาหยุดที่ตรงหน้าเธอ

เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง เธอก็เห็นผู้หญิงผมหยักศกยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ริมฝีปากสีแดงเพลิง ที่หางตาเขียนด้วยอายไลเนอร์สีดำตวัดอย่างสวยงาม ทั้งลงอายแชโดว์สีเข้มอีกด้วย

บนตัวสวมชุดลูกไม้สีม่วงยาว รองเท้าส้นสูงสีดำใส่แล้วดูเซ็กซี่หรูหราไม่น้อย