เหลิ่งรั่วปิงไม่สนใจคำดูถูกของหนานกงเยี่ย ในเมื่อเธอหนีไม่พ้นชีวิตที่จะต้องถูกเขาเลี้ยงดู ถ้าอย่างนั้นทำไมเธอถึงไม่ฉวยโอกาสนี้กอบโกยเงินมาสักหน่อย เธอไม่ต้องการที่จะแสร้งทำตัวบริสุทธิ์ไร้เดียงสา เธอและเขาไม่ได้อยู่ด้วยกันเพราะความรักสักหน่อย
เงินคือสิ่งที่ดี ถ้าตอนนั้นเธอมีเงินที่มากพอ ก็คงไม่ถึงขั้นตกอยู่ในน้ำมือของปีศาจนั่น สำหรับเธอแล้วไม่เคยรังเกียจที่จะมีเงินมากขึ้นไปอีก ขอเพียงเธอเก็บสะสมเงินได้มากพอ ในอนาคตข้างหน้าตอนที่เธอต้องการจะหนีไปใช้ชีวิตอิสระนั้น ถึงจะมีเครื่องรับประกันได้
“ได้ยินมาว่าคุณหนานกงใจกว้างกับผู้หญิง ฉันไม่เป็นกังวลหรอกค่ะ” เหลิ่งรั่วปิงกล่าวพูดเสียงหวาน เธอยังคงดูมีสง่าและน่าหลงใหลไม่เปลี่ยน
หนานกงเยี่ยปรายตามองไปที่เธอด้วยความดูถูก จากนั้นหันหลังเดินออกจากห้องไป ขณะที่เดินอยู่ตรงทางเดินของโรงแรมนั้นเขาก็รับเสื้อโค้ทมาจากก่วนอวี้ จากนั้นพูดออกคำสั่ง “ให้เธอไปอยู่ที่วิลล่าหย่าเก๋อ”
“?” ก่วนอวี้มองดูหนางกงเยี่ยอย่างไม่น่าเชื่อ คุณชายเยี่ยไม่ได้มีผู้หญิงมานานสองปีแล้ว ดังนั้นวิลล่าหย่าเก๋อจึงไม่มีผู้หญิงมาพักถึงสองปีแล้ว วันเวลาที่ผ่านมานานทำให้เขาคิดว่าคุณชายเยี่ยจะไม่เปิดใจให้ใครแล้วเสียอีก คิดไม่ถึงว่าวันนี้อยู่ดีๆ เขาคิดจะเอาผู้หญิงที่วางแผนล่อลวงเขา หรือว่าคุณเหลิ่งคนนี้จะมีเสน่ห์พิเศษที่สามารถดึงดูดคุณชายเยี่ยได้ จนทำให้คุณชายเยี่ยแหกกฎของตัวเอง? ต้องรู้ก่อนว่า เมื่อก่อนไม่ว่าผู้หญิงคนไหนคิดจะมาเล่นงานคุณชายเยี่ย ล้วนมีจุดจบที่ไม่สวย
แน่นอนหนานกงเยี่ยรู้ดีว่าก่วนอวี้กำลังคิดอะไร จึงปรายตามองเขาด้วยสายตาเย็นชา
เพียงแต่สายตาที่มองมานั้นก็ทำให้ก่วนอวี้ถึงกับหนาวสั่น รีบโค้งตัวลง “ครับ คุณชายเยี่ย ผมจะรีบไปจัดการ”
หนางกงเยี่ยดึงสายตาของตัวเองกลับมา จากนั้นเดินสาวเท้าใหญ่ๆ ไปที่ลิฟท์ แล้วพูดบอกกับก่วนอวี้ที่อยู่ด้านหลังของตน “เตรียมทุกอย่างให้เรียบร้อย อย่าทำให้เธอต้องลำบาก”
“ครับ” ก่วนอวี้มองส่งหนางกงเยี่ยจนเขาเดินเข้าไปในลิฟท์ จู่ๆ ภายในใจของเขาก็มีหลุมดำที่ลึกจนไม่เห็นก้นบึ้ง เมื่อก่อนคุณชายเยี่ยก็เคยมีผู้หญิงมาก่อน แต่คุณชายเยี่ยก็ไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ ดูท่าแล้วคุณเหลิ่งคนนี้คงจะพิเศษกว่าคนอื่นๆ
ตอนที่ก่วนอวี้ส่งเหลิ่งรั่วปิงไปที่วิลล่าหย่าเก๋อนั้น ในที่สุดเขาก็รู้ว่าเหลิ่งรั่วปิงมีความพิเศษยังไง เธอเป็นผู้หญิงที่ฉลาดและเรียบง่ายบริสุทธิ์
สัมภาระของเหลิ่งรั่วปิงนั้นน้อยมาก มีแค่กระเป๋าเดินทางหนึ่งใบเท่านั้น และของที่อยู่ด้านในก็ไม่ใช่พวกเครื่องสำอางหรือน้ำหอม และก็ไม่ใช่พวกเครื่องประดับหรือกระเป๋า แต่เป็นหนังสือ หนังสือเกี่ยวกับการออกแบบต่างๆ ตัวเหลิ่งหรัวเปิงก็เป็นคนที่เรียบง่ายมากๆ เธอไม่ได้ปัดบลัชออน ไม่ได้แต่งแต้มเครื่องสำอางค์ลงบนใบหน้าใด
ก่วนอวี้มองดูอย่างพิจารณาแล้วนั้น คุณชายเชี่ยของเขาไม่เคยมีผู้หญิงแบบนี้มาก่อน ผู้หญิงคนก่อนๆ นั้น ไม่มากก็น้อยที่จะกลิ่นกายจะมีกลิ่นของเครื่องสำอาง ทว่ายังหลีกหนีจากความเป็นคนธรรมดาไม่ได้ แต่คุณเหลิ่งกลับเหมือนแขกที่มาจากต่างโลก เธอใช้ชีวิตอยู่บนโลกมนุษย์ แต่กลับเหมือนคนที่เกิดในดินแดนอื่น เธอดูบริสุทธิ์เหมือนนางฟ้า
เหตุเพราะหนานกงเยี่ยได้สั่งและกำชับแล้ว ก่วนอวี้จึงไม่กล้าที่จะให้การต้อนรับที่ไม่ดี เขาได้เตรียมข้าวของเครื่องใช้ทีดีที่สุดให้กับเหลิ่งรั่วปิง เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งห้องต่างๆ ก็เปลี่ยนใหม่ทั้งหมด เมื่อก่อนไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนได้รับการดูแลแบบนี้มาก่อน
เหลิ่งรั่วปิงเฉยชากับของพวกนี้มาก สิ่งที่เธอสนใจนั้นไม่ใช่ของพวกนี้
เธอยืนอยู่ตรงหน้าต่างขนาดใหญ่ มองดูระเบียงที่อยู่ด้านนอกหน้าต่าง ดอกไม้และต้นไม้ต่างๆ ให้ความรู้สึกเหมือนถูกกังขัง ทั้งๆ ที่พึ่งเข้ามาอยู่ แต่เธอกลับตั้งตารอวันที่จะได้ออกไป
แสงอาทิตย์ในตอนเที่ยงตรง สาดส่องบนตัวเธอผ่านหน้าต่าง ทำให้เธอดูสวยและบริสุทธิ์ ก่วนอวี้และพวกสาวใช้มองจนตาค้าง คุณชายเยี่ยไม่เคยมีผู้หญิงที่สวยมากๆ แบบนี้มาก่อน
แต่ทว่ามีเพียงแค่ตัวของเหลิ่งรั่วปิงที่รู้ดี ภายในใจของเธอมีซาตานสิงสถิตอยู่ เธอไม่ได้บริสุทธิ์แม้แต่น้อย สองมือของเธอเปื้อนไปด้วยเลือด การที่เธอมาที่นี่ก็เพื่อฆ่าคน
ก่วนอวี้และพวกสาวรับใช้ต่างก็รู้สึกว่าเธอนั้นโชคดีมาก ที่ได้รับความเอ็นดูจากคุณชายอันดับหนึ่งของเมืองหลง นี่เป็นสิ่งที่ผู้หญิงมากมายใฝ่ฝันแต่กลับไม่มีวันได้มา แต่ก็มีเพียงตัวของเธอเท่านั้นที่รู้ เธอไม่ได้รู้สึกยี่หระแม้แต่น้อย การที่เธอเข้ามาอยู่ที่นี่นั้นเป็นเพียงแค่การมาอยู่ชั่วคราวเพื่อให้ตนได้ในสิ่งที่ต้องการก็เท่านั้น
สำหรับความรักใคร่เอ็นดูที่จะได้รับในอนาคตอันใกล้นี้ เธอรู้สึกว่ามันคือความอัปยศของชีวิต…