ตอนที่ 10 เซ็นสัญญา

เดิมพันเสน่หา

“คุณเหลิ่งครับ นี่คือสัญญาข้อตกลงระหว่างคุณและคุณชายเยี่ยครับ รบกวนช่วยอ่านรายละเอียดด้วยนะครับ ถ้าไม่มีปัญหาอะไรเชิญเซ็นชื่อได้เลยครับ” ก่วนอวี้นำสัญญาเลี้ยงดู มายื่นตรงหน้าเหลิ่งรั่วปิงด้วยความเคารพ 

 

 

หนังสือสัญญาข้อตกลง? เหลิ่งรั่วปิงกระตุกยิ้มมุมปาก สมแล้วที่เป็นเลขาของหนานกงเยี่ย เขาพูดจาได้ฉลาดมาก ข้อแลกเปลี่ยนที่แสนจะสกปรกแบบนี้เขาพูดได้ดูเป็นเรื่องธรรมดามาก 

 

 

เธอหยิบสัญญามาดู ในที่สุดเหลิ่งรั่วปิงก็เข้าใจแล้ว สิ่งที่หนานกงเยี่ยบอกว่าจะทำให้เธอพอใจนั้นหมายความว่าอะไร ในสัญญานั้นค่าเลี้ยงดูเป็นช่องเปล่าที่เว้นไว้ ซึ่งความหมายของเขาก็คือให้เธอเขียนเติมลงไปเอง ไม่ว่าเธอจะคิดเท่าไหร่เขาก็ยินดีจ่าย 

 

 

คนรวยนิใจปล้ำจริงๆ ! เหลิ่งรั่วปิงกระตุกยิ้มมุมปากแล้วหัวเราะด้วยความเย้ยหยันอีกครั้ง 

 

 

“เลขาก่วนคะ เมื่อก่อนคุณชายเยี่ยของพวกคุณเวลาทำสัญญากับผู้หญิงของเขานั้นคิดราคาเท่าไหร่คะ” เหลิ่งรั่วปิงยังคงดูมีสง่า ดูไม่เหมือนว่ากำลังพูดถึงเรื่องลับๆ ที่ไม่สามารถเปิดเผยแม้แต่น้อย คนที่ไม่รู้คงนึกว่าพวกเขากำลังพูดคุยข้อตกลงสำคัญในการทำงานร่วมกัน 

 

 

แน่นอนว่าเธอจะไม่อ้อมค้อม ไม่แสร้งทำเป็นหยิ่งทระนง เธอจะขอเอาราคาที่ดี เพียงแต่ฝ่ายนั้นคือหนางกงเยี่ย เธอไม่สามารถที่จะขอเกินกว่าเหตุได้ ดังนั้นเธอก็เลยต้องถามถึงคนก่อนๆ ว่าได้เท่าไหร่เพื่อนำมาพิจารณา 

 

 

เลขาก่วนเลิกคิ้วขึ้นขมวด เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็ตกใจกับท่าทีสง่างามและนิ่งสงบของเหลิ่งรั่วปิง แต่ว่าใช้เวลาเพียงไม่นานเขาก็ปรับอารมณ์ของตัวเองได้ จากนั้นก็พูดบอกกับเธอด้วยความจริงจัง 

 

 

“โดยปกตินั้น จะทำสัญญาร่วมกันสองเดือนครับ ภายในสองเดือนนี้คุณชายเยี่ยสามารถจบสัญญาได้ทุกเมื่อ โดยเงินค่าใช้จ่ายขั้นต่ำของสัญญาจะอยู่ที่สิบล้านหยวนครับ ซึ่งทั่วไปนั้นค่าใช้จ่ายของสัญญาจะคิดตามจำนวนครั้ง จากเดิมที่ผ่านมานั้นจะได้ครั้งละหนึ่งล้านหยวนครับ” 

 

 

เหลิ่งรั่วปิงเข้าใจแล้ว การเลี้ยงดูจะไม่เกินสองเดือน คนที่ถูกเลี้ยงดูจะได้ค่าเลี้ยงดูอยู่ที่ประมาณสิบล้านหยวน และทุกครั้งที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันนั้นจะได้เพิ่มตามจำนวนครั้ง 

 

 

เธอแสยะยิ้มอีกครั้ง จากนั้นเขียนลงในช่องค่าใช้จ่ายขั้นต่ำของสัญญายี่สิบล้านหยวน สำหรับจำนวนครั้งที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันนั้นเธอกรอกครั้งละสองล้านหยวน สุดท้ายตรงชื่อผู้รับเงินเธอก็เซ็นชื่อของตัวเอง 

 

 

เธอรู้สึกว่าเวลาไม่ถึงสองเดือนหนานกงเยี่ยก็คงจะเบื่อเธอแล้ว ดังนั้นเธอจึงต้องเขียนค่าใช้จ่ายขั้นต่ำของสัญญาให้สูงขึ้น 

 

 

ก่วนอวี้หยิบสัญญากลับมาดู จากนั้นกระตุกมุมปากเล็กน้อย ราคานี้ถือเป็นราคาทำลายสถิติ คุณเหลิ่งคนนี้มองดูสง่าและสูงส่ง คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าจะเฉียบขาดแบบนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นการเซ็นสัญญาแบบนี้ เธอก็ยังคงดูนิ่งเฉย 

 

 

ก่วนอวี้เก็บสัญญาเข้ากระเป๋า จากนั้นลุกขึ้นแล้วคลายยิ้มเล็กน้อย “คุณเหลิ่งครับ ผมขอตัวกลับไปนะครับ คุณพักผ่อนให้มากๆ “ 

 

 

เหลิ่งรั่วปิงคลายยิ้มบางๆ จากนั้นพยักหน้า แล้วใช้สายตาส่งก่วนอวี้เดินออกไป 

 

 

หลังจากที่กินมื้อค่ำแล้วนั้น เหลิ่งรั่วปิงอยู่ภายใต้การดูแลของสาวรับใช้ จนเธออาบน้ำเสร็จ ก็กลับไปที่ห้องของตนอย่างเงียบๆ เพื่อรอการมาของหนานกงเยี่ย 

 

 

ห้องนอนของเธอกว้างมาก เป็นห้องหันหน้าเข้าหาพระอาทิตย์ โดยสามารถมองเห็นวิวในตอนกลางคืนได้แบบพาโนรามา ผ่านหน้าต่างทรงครึ่งวงกลมที่ยาวจรดพื้น 

 

 

เธอยืนอยู่ตรงหน้าต่างจรดพื้น แววตาของเหลิ่งรั่วปิงเป็นประกาย เธอเงยหน้าขึ้นมองพระจันทร์ที่เหมือนหยกน้ำดี แล้วเอ่ยถามเสียงเบา “พ่อคะ พ่ออยู่บนฟ้าสบายดีไหมคะ” 

 

 

เมื่อหนานกงเยี่ยกลับมาถึงวิลล่าหย่าเก๋อ เขาก็ได้เอ่ยถามสาวใช้ว่าเป็นยังไงบ้าง จากนั้นก็ตรงดิ่งไปยังห้องน้ำของอีกห้องหนึ่ง หลังจากที่อาบน้ำเสร็จแล้วเปลี่ยนเป็นชุดนอนแล้วนั้น เขาก็ผลักเปิดไปยังห้องนอนของเหลิ่งรั่วปิง 

 

 

วินาทีที่ปิดประตูแล้วเงยหน้าขึ้นนั้น ก็เห็นภาพวาดที่งดงาม 

 

 

หญิงสาวคนหนึ่ง ยืนอยู่ตรงหน้าต่างเงียบๆ เท้าของเธอเปลือยเปล่า ผมดำขลับยาวสลวยทิ้งตัวลงด้านหลัง ชุดนอนผ้าฝ้ายสีชมพูอ่อนนั้นเผยให้เห็นเรือนร่างอรชรของเธอ มือทั้งสองข้างประสานกันเอาไว้ คล้ายว่ามีพลังงานบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้ว่ากำลังเคลื่อนไหว แสงของพระจันทร์ส่องสะท้อนมายังแขนทั้งสองข้างของเธอ ทำให้เธอดูแวววาวเหมือนดั่งหยก 

 

 

ผู้หญิงแบบนี้ ทำให้ผู้ชายทั้งโลกใบนี้หัวใจเต้นแรง..